Details

Category: พลังงาน

Published: Friday, 21 November 2014 18:59

Hits: 2403

ราคาน้ำมันดิบขึ้นจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งและข่าวลือการลดกำลังการผลิตของโอเปก

  +ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสท์เท็กซัสปรับตัวขึ้นหลังจากปรับตัวลงต่อเนื่อง 3 วันติดต่อกัน ซึ่งเป็นผลมาจากการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในขณะนี้กำลังอยู่ในภาวะแข็งแกร่ง  โดยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคไม่รวมตัวเลขจากอาหารและพลังงานของสหรัฐฯ ซึ่งประกาศโดยกระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.2 เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน นอกจากนี้ในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ ก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นเดียวกัน หลังจาก ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.5 ไปอยู่ที่ระดับ 5.26 ล้านหลัง สูงสุดตั้งแต่เดือนกันยายนของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  + ราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นยังได้รับแรงสนับสนุนจากความต้องการใช้น้ำมันเพื่อทำความร้อน หลังจากปีนี้อากาศหนาวของสหรัฐฯ มาเร็วกว่าปกติ สะท้อนได้จากการประกาศตัวเลขปริมาณน้ำมันสำรองดีเซลซึ่งไว้ใช้ทำความร้อนได้ลดลงไป 2 ล้านบาร์เรล โดยนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่าปริมาณสำรองน้ำมันที่ใช้ทำความร้อนในสหรัฐฯ อาจจะไม่เพียงพอต่อการต้องการใช้ในหน้าหนาวนี้ หากโรงกลั่นในสหรัฐฯ ไม่ปรับเพิ่มกำลังการผลิตขึ้น

  + นอกจากนี้ ข่าวลือเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หลังจาก สมาชิกของกลุ่มโอเปกอย่าง อิหร่าน เวเนซูเอล่า และลิเบีย ได้เรียกร้องให้กลุ่มโอเปกปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มลงในการประชุมกลุ่มในวันที่ 27 พ.ย. ที่จะถึงนี้ โดยนักวิเคราะห์จาก JCB Energy ของออสเตรียได้คาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดกำลังการผลิตอย่างน้อย 1 ล้านบาร์เรลต่อวันจากการประชุมกลุ่มโอเปกในครั้งนี้

  + ธนาคารกลางฟิลาเดลเฟียได้ประกาศตัวเลขดัชนีภาคอุตสาหกรรมพบว่า อยู่ที่ระดับ 40.8 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าตัวจากเดือนที่แล้วที่ระดับเพียง 20.7 เท่านั้น โดยเป็นตัวเลขดัชนีภาคอุตสาหกรรมของธนาคารกลางฟิลาเดลเฟียที่สูงที่สุดในรอบเกือบ 21 ปี

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องมาจากตลาดในเอเชียที่อ่อนแอจากอุปสงค์ในอินโดนีเซียซึ่งเป็นตลาดสำคัญในภูมิภาคปรับตัวลดลง จากการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินบางกลุ่มของรัฐบาลอินโดนีเซีย

  ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจาก ปริมาณน้ำมันคงคลังสำรองดีเซลในญี่ปุ่นพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.4 และ อุปสงค์น้ำมันดีเซลที่ลดลงในตลาดสำคัญอย่างอินโดนีเซีย หลังจากรัฐบาลอินโดนีเซียปรับราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น

ทิศทางราคาน้ำมันดิบ

  ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 73-78 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 77-83 เหรียญฯ

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

   จับตาผลการประชุมโอเปกที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 พ.ย. ว่าจะมีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงหรือไม่ โดยกลุ่มโอเปกยังขาดความเป็นเอกภาพ ทั้งนี้ประเทศสมาชิกโอเปกที่มีต้นทุนการผลิตสูง ได้แก่ เวเนซุเอลา และแอลจีเรีย ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการลดกำลังการผลิตลงเพื่อหนุนราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ซาอุดิอาระเบีย  ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ยังคงยืนยันว่าราคาน้ำมันดิบควรเป็นไปตามกลไกตลาดเท่านั้น  ซึ่งล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันของลิเบีย แสดงความเห็นว่า สมาชิกกลุ่มโอเปกควรลดกำลังการผลิตมาอยู่ที่ระดับ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมที่จะมาถึงสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร เยอรมณี จีน รัสเซียและฝรั่งเศส ได้ยื่นกำหนดเส้นตายแก่อิหร่าน สำหรับข้อสรุปของการเจรจาเกี่ยวกับแผนโครงการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ ภายในวันที่ 24 พ.ย. นี้ อย่างไรก็ตาม อิหร่านต้องการให้ชาติตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งขณะนี้ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเสียหายมาก หากการเจรจาบรรลุล่วงและไม่มีการคว่ำบาตรการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่าน จะส่งผลให้น้ำมันดิบจากอิหร่านเข้ามาในตลาดมากขึ้นราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันราคาน้ำมันให้ลดลง