Details

Category: พลังงาน

Published: Wednesday, 26 November 2014 11:41

Hits: 2020

ราคาน้ำมันดิบปรับลดต่อเนื่อง จากแนวโน้มอุปทานน้ำมันที่ยังคงสูงอยู่ของกลุ่ม OPEC

  - ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังการประชุมพิเศษของซาอุดิอาระเบีย รัสเซีย เวเนซุเอลา และแม็กซิโก ในวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อหารือข้อตกลงกันก่อนจะมีการการประชุมโอเปกที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 พ.ย. อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ว่าจะลดกำลังการผลิตลงหรือไม่ โดยซาอุดิอาระเบียยังคงยืนยันจะไม่ลดกำลังการผลิตลงเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดของตนเองไว้
  - สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) ประกาศตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯ ว่ามีปริมาณเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 2.8 ล้านบาร์เรลมาอยู่ที่ระดับ 379.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 470,000 บาร์เรล โดยที่จุดส่งมอบน้ำมันคุชชิ่ง โอกลาโฮมา มีสต็อกน้ามันดิบเพิ่มขึ้นโดยประมาณ 2.1 ล้านบาร์เรล นอกจากนั้นแล้วสต๊อกน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้น 43,000 บาร์เรล และดีเซลคงคลังปรับลดลงถึง 1.3 ล้านบาร์เรล ตามลำดับ
  +/- อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ทางด้านน้ำมัน จากสถาบันต่างๆ คาดหวังให้ทางโอเปกลดกำลังการผลิตลง รวมถึงทางสมาชิกบางประเทศในโอเปกเองก็อยากจะลดกำลังการผลิตลงไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อจะควบคุมราคาน้ำมันให้ไม่ลดระดับไปมากกว่านี้ และน่าจะคงกำลังการผลิตที่ระดับต่ำเพื่อให้ราคากลับขึ้นมาสูงอีกครั้ง
  - ดัชนีความเชื่อมันผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือน ก.ย.ปรับลดลงจากเดือน ส.ค. ที่ 94.5 จุด มาอยู่ที่ระดับเติบโต 88.7 จุด สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 96.5 จุด

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมัน Formosa petrochemical ในไต้หวันหยุดซ่อมบำรุงกระทันหันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาจากการขัดข้องทางอุปกรณ์ ทำให้มีความกังวลว่าอุปทานจะขาดหายไป
  ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ท่ามกลางอุปสงค์ที่ยังคงอ่อนตัวในภูมิภาค ประกอบกับอุปทานในเอเชียที่ยังเหลือในตลาดจำนวณมาก อย่างไรก็ตาม ยังมีอุปสงค์จากออสเตรเลียช่วยหนุนตลาดในภูมิภาคอยู่

ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
  ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 73-78 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 77-83 เหรียญฯ

ปัจจัยที่น่าจับตามอง
   จับตาผลการประชุมโอเปกที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 พ.ย. ว่าจะมีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงหรือไม่ โดยกลุ่มโอเปกยังขาดความเป็นเอกภาพ ทั้งนี้ประเทศสมาชิกโอเปกที่มีต้นทุนการผลิตสูง ได้แก่ เวเนซุเอลา และแอลจีเรีย ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการลดกำลังการผลิตลงเพื่อหนุนราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ซาอุดิอาระเบีย ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ยังคงยืนยันว่าราคาน้ำมันดิบควรเป็นไปตามกลไกตลาดเท่านั้น ซึ่งล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันของลิเบีย แสดงความเห็นว่า สมาชิกกลุ่มโอเปกมีแนวโน้มที่จะลดกำลังการผลิตแตะระดับ 30 ล้านบาเรลล์ต่อวัน ในการประชุมที่จะมาถึง