WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

'ประจิน'ตรึงราคาดีเซล 29.85 บาท ควบงดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ

     แนวหน้า : พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ในฐานะรองหัวหน้า คสช. หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)ที่กระทรวงพลังงาน ว่าที่ประชุมมีวาระการประชุม 2 เรื่อง คือ การพิจารณาการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนในส่วนของดีเซล หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น จากปัญหาการสู้รบภายในประเทศอิรัก ส่งผลให้ค่าการตลาดของน้ำมันต่ำลงมาก โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบยกเว้นการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในส่วนของดีเซลเพื่อชดเชยค่าการตลาดแทนการปรับขึ้นราคาขายปลีกหน้าสถานีบริการน้ำมัน จากเดิมที่เรียกเก็บ 81 สตางค์ต่อลิตร เป็น 0.00 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลของ ปตท. และบางจากจะอยู่ที่ 29 บาท 85 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งมาตรการดังกล่าวส่งผลให้ผู้ค้าน้ำมัน มีค่าการตลาดเพิ่มขึ้นอยู่ระดับที่พอรับได้ 1.27 บาทต่อลิตร และทำให้ราคาหน้าปั๊มไม่เปลี่ยนแปลง

   “ส่วนผู้ค้ารายอื่น อาทิ เชลล์ คาลเท็กซ์ และพีที ที่ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเกินกว่า 29 บาท 85 สตางค์ต่อลิตรแล้ว ทางเราจะส่งตัวแทนจากกระทรวงพลังงานเข้าไปเจรจากับผู้ค้าเพื่อปรับลดราคาลงมา เพื่อต้องการลดค่าครองชีพของประชาชน และภาคขนส่งที่ใช้น้ำมันดีเซลในชีวิตประจำวันพล.อ.อ.ประจิน กล่าว

    นอกจากนี้ ที่ประชุมมีการพิจารณาการปรับลดจำนวนคณะอนุกรรมการด้านพลังงานจาก 29 คณะเหลือ 13-15 คณะ เพื่อต้องการให้เกิดการบูรณาการในการทำงานร่วมกัน ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและลดขั้นตอนในการดำเนินการ ซึ่งได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ไปสรุปและปรับลดให้เหมาะสม และกลับมานำเสนอในที่ประชุม กบง.ครั้งต่อไป

     สำหรับ ราคาน้ำมันดูไบในตลาดโลกที่ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 110 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนที่อยู่เพียง 106-109 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจากความไม่สงบในประเทศอิรัก ซึ่งแนวโน้มราคาน้ำมันอาจปรับขึ้นไปได้อีกถึง 115 เหรียญสหรัฐฯ ในอนาคต โดยการที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นดังกล่าวส่งผลให้ค่ายน้ำมันต่างๆ ปรับขึ้นราคาน้ำมันทั้งดีเซล เบนซิน แก๊สโซฮอล์ ขณะที่ค่ายน้ำมัน ปตท.และบางจากยังตรึงราคาต่ำกว่าค่ายอื่นนั้น ในช่วงนี้จะขอให้ชะลอการปรับขึ้นราคาไปก่อน เพื่อรอให้โครงสร้างราคาน้ำมันที่ คสช.กำลังปฏิรูปพลังงานเสร็จเรียบร้อยก่อน

     ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้หารือเรื่องการปฏิรูปพลังงานไปแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งมีการหารือถึงเรื่องราคาน้ำมันเบนซินบ้างแล้ว และกำลังทำการวิเคราะห์เพื่อนำเสนอต่อหัวหน้า คสช. ซึ่งคาดว่า จะไม่เกิน 10 วันจากนี้จะได้ข้อสรุปต่อไป

     แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า สำหรับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบันมีสถานะติดลบอยู่ 7,700 ล้านบาท และขณะนี้ยังไม่มีการกู้เงินเพื่อมาใช้ดูแลราคาพลังงาน และชำระหนี้ ปตท.ในการชดเชยราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) แต่อย่างใด สำหรับราคาน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ ของค่าย เชลล์ และคาลเท็กซ์ มีราคาสูงกว่าค่ายอื่นประมาณ 50 สตางค์ต่อลิตร ขณะที่ดีเซลสูงกว่าค่ายอื่น 64 สตางค์ต่อลิตร

กบง.งดเก็บเงินดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันฯ ตรึงราคาขายหน้าปั๊ม 29.85 บ./ลิตร

    ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน(กบง.) วันนี้มีมติให้ยกเว้นการเรียกเก็บเงินจากดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จากเดิมที่จัดเก็บในอัตรา 0.81 บาท/ลิตร เพื่อตรึงราคาขายปลีกดีเซล ณ สถานีบริการน้ำมันไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร โดยจำหน่ายอยู่ที่ราคา 29.85 บาท/ลิตร

    พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยภายหลังการประชุมกบง.ว่า ที่ประชุมวันนี้มีมติยกเว้นการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากน้ำมันดีเซล จากเดิมจัดเก็บในอัตรา 81 สต./ลิตร เป็น 0.00 บาท/ลิตร ส่งผลให้ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1.27 บาท/ลิตร ทำให้ราคาหน้าสถานีบริการยังคงเดิมที่ 29.85 บาท/ลิตร

    นอกจากนี้ กบง.เตรียมเสนอการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันไปยังหัวหน้า คสช. เร็วๆ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 10 วัน เมื่อค่าการตลาดของน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์อยู่ในระดับต่ำ จึงขอให้ทางผู้ค้าน้ำมันชะลอการปรับขึ้นราคาขายปลีกก่อน โดยเชื่อว่าทาง บมจ.ปตท. (PTT)และบมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) จะรอความชัดเจนของนโยบายดังกล่าวก่อน ส่วนผู้ค้าน้ำมันเอกชนรายอื่นที่มีการปรับขึ้นราคาแล้วจะมีตัวแทนจากกระทรวงพลังงานไปเจรจาเพื่อชะลอการปรับขึ้นราคาเช่นกัน

    พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีมติจัดระเบียบคณะกรรมการด้านพลังงานใหม่ จากปัจจุบันมีจำนวน 29 คณะ ให้เหลือเพียง 13-15 คณะเท่านั้นเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการดำเนินงาน ล่าสุดอยู่ระหว่างการทำโครงสร้างใหม่คาดว่าจะเสร็จเร็วๆ นี้

              อินโฟเควสท์ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!