Details

Category: พลังงาน

Published: Saturday, 09 August 2014 11:26

Hits: 2606

รับก๊าซ'ซอติก้า'เสริมระบบ จี้ปตท.ทบทวนแผนลงทุนน้ำมันปาล์ม

     ไทยโพสต์ : วิภาวดีรังสิต * ปตท.เผย 5 ส.ค.57 เริ่มรับก๊าซธรรมชาติจากแหล่งซอติก้าของเมียนมาร์แล้ว  240 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ชี้ช่วยเสริมความมั่นคงพลังงาน ด้านกระทรวงพลังงานสั่ง ปตท.ทบทวนแผนลงทุนบีเอชดีและปาล์มน้ำมันก่อนเสนอสภาพัฒน์ ระบุต้องคุ้มค่าการลงทุนที่สุด

    นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท. เปิดเผยว่า แหล่งก๊าซธรรมชาติซอติก้า ตั้งอยู่ในอ่าวเมาะตะมะ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียน มาร์ ได้เริ่มกระบวนการส่งก๊าชเข้าสู่ระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติของ ปตท.แล้ว ตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.2557 ส่งผลให้มีปริมาณการส่งก๊าซเข้าระบบเพิ่มขึ้นที่ระดับ 240 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และเสริมศักยภาพด้านพลังงานของไทยรองรับการใช้ งานภายในประเทศ รวมทั้งบรร เทาสถานการณ์ขาดแคลนพลัง งานในกรณีการหยุดซ่อมบำรุงของแหล่งก๊าซฝั่งตะวันตกได้

      ทั้งนี้ โครงการซอติก้าดำเนินการโดย บริษัท PTTEP International Company Limi- ted (PTTEPI) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) โดยถือหุ้นในสัดส่วน 80% และมีผู้ร่วมทุนคือ Myanma Oil and Gas Enterprise (MOGE) ถือสัดส่วน 20% นับเป็นโครงการผลิตก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดที่ ปตท.สผ. ดำเนินการเองในต่างประเทศ มีอายุสัญญารวม 30 ปี โดยก๊าซธรรมชาติที่ได้จากโครงการซอติก้าสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในทุกภาคส่วน ทั้งภาคผลิตไฟฟ้า ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่งทางฝั่งตะวันตก รองรับความต้องการใช้พลังงานได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

    "การแสวงหาแหล่งพลัง งานใหม่ และการบริหารจัดการพลังงานของกลุ่ม ปตท. ดำเนินไปภายใต้การเป็นบริษัทพลัง งานแห่งชาติ เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานในระยะยาว โดยจากทิศทางการใช้พลัง งานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต ปตท.จึงจำเป็นต้องจัด หาแหล่งพลังงานสำรองให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ เพื่อเสริมศักยภาพความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและเป็นความรับผิดชอบที่ ปตท.ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าคนไทยจะมีพลังงานใช้อย่างทั่วถึงและเพียงพอ" นายณัฐชาติกล่าว

    นายคุรุจิต นาครทรรพ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า กระทรวงพลังงานเป็นห่วงแผนการลงทุนของ บมจ.ปตท. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่ต้องจัดทำแผนการลงทุนประจำปี สำหรับเสนอขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) โดยกระทรวงพลัง งานขอให้ ปตท.ทบทวนงบประ มาณ และปรับแผนงานในส่วน ของพลังงานทดแทน โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลชีวภาพสังเคราะห์ (บีเอชดี) และธุรกิจปาล์มน้ำมันที่ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุดในการลงทุนในอนาคต ก่อนที่จะเสนอต่อไปยังสภาพัฒน์พิจารณาต่อไปสำหรับการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 นั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน ซึ่งยืนยันเรื่องสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 จะไม่สามารถเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน ในวันที่ 15 ส.ค.2557 ได้ทัน เนื่องจากจะต้องเร่งทำความเข้า ใจกับประชาชนก่อน.