Details

Category: พลังงาน

Published: Thursday, 21 August 2014 22:48

Hits: 2632

ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น หลังสต็อกน้ำมันดิบปรับตัวลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

  + ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดสัญญา ปรับเพิ่มขึ้น 1.59 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 96.07 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล  ส่วนสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ต.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 0.59 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 93.45 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

  + สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 ส.ค. 57 ลดลง 4.5 ล้านบาร์เรล ปรับลดมากกว่าที่นักวิเคราะห์และสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) คาดการณ์ว่าจะปรับลดลงที่ 1.2 ล้านบาร์เรล และ 1.4 ล้านบาร์เรล ตามลำดับมาอยู่ที่ 359.1 ล้านบาร์เรล  อย่างไรก็ตามปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบ คุชชิ่ง โอคลาโฮมา ปรับเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 20.2 ล้านบาร์เรล สำหรับปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 585,000 บาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล ส่วนปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเพียง 550,000 บาร์เรล

  -  อย่างไรก็ตามตลาดกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบที่จะปรับเพิ่มในตลาด หลังรัฐบาลลิเบียมีการเปิดเผยว่า  ลิเบียสามารถเปิดดำเนินการเพื่อขนส่งน้ำมันดิบ ณ ท่าเรือ Es Sider ได้อีกครั้งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากท่าเรือดังกล่าวถูกปิดดำเดินการไปกว่า 1 ปี จากสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศ ซึ่งทำให้กลุ่มโอเปคอาจต้องพิจารนาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีความต้องการน้ำมันเบนซินเพิ่มเติมเพื่อสำรองไว้ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังทางโรงกลั่นที่ไต้หวันจะมีแผนปิดซ่อมบำรุงเหน่วยผลิตน้ำมันเบนซินเดือน ก.ย. เป็นเวลา 2 สัปดาห์

  ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานในตลาดปรับตัวดีขึ้น

โดยเกาหลีใต้ก็มีการส่งออกน้ำมันดีเซลลดลง ประกอบกับทางฝั่งตะวันออกกลางได้เริ่มมีการซ่อมบำรุงโรงกลั่น ซึ่งส่งผลให้มีการส่งออกในตลาดลงลงอีกด้วย

ทิศทางราคาน้ำมันดิบ

  ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 95-100 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 100 - 105 เหรียญฯ

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  ราคาน้ำมันดิบยังคงถูกกดดันจากภาวะอุปทานน้ำมันดิบที่ตึงตัวในแถบทะเลเหนือและทวีปแอฟริกา เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันดิบจากโรงกลั่นในยุโรปและเอเชียปรับลดลง แต่อย่างไรก็ดี แผนการปิดซ่อมบำรุงหลุมน้ำมัน Buzzard ที่ทะเลเหนือในเดือน ส.ค. อาจช่วยให้ภาวะอุปทานส่วนเกินที่ทะเลเหนือไม่ปรับเพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้

   เหตุการณ์ความตึงเครียดทางตอนเหนือและตะวันออกของอิรัก ยังคงไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันดิบของประเทศ หลังกองทัพสหรัฐฯ ได้ส่งเครื่องบินเร่งลำเลียงน้ำและอาหารช่วยเหลือผู้อพยพชาวยาซีดี โดยเฉพาะในเขตเมืองซินจาร์ของอิรัก และส่งเครื่องบินรบไปทิ้งระเบิดโจมตีกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (IS) เป็นรอบที่ 4 เพื่อเปิดทางให้กลุ่มนักรบชาวเคิร์ด สามารถตีโต้การรุกคืบของกลุ่มรัฐอิสลาม รวมทั้งป้องกันการไล่ล่าสังหารกลุ่มผู้อพยพยาซีดีอีกด้วย

สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนมีแนวโน้มตึงเครียดขึ้น อันเป็นผลจากความกังวลทางภูมิรัฐศาสตร์ หลังยูเครนเผยได้ยิงทำลายส่วนหนึ่งในคาราวานสิ่งของบรรเทาทุกข์รัสเซียที่รุกล้ำดินแดน

   ติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นของยุโรปและจีนในเดือน ส.ค. ซึ่งจะประกาศในสัปดาห์หน้า สำหรับทางยุโรปอาจจะมีการปรับตัวลง เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียโดยนานาประเทศ แต่อย่างไรก็ดี PMI ของจีนน่าจะปรับตัวสูงขึ้น หลังจากเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 27 เดือน ในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา