WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

OIL30ราคาน้ำมันดิบ มีแนวโน้มทรงตัวระดับต่ำ หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ พุ่ง แม้หลายประเทศเริ่มคลายล็อกดาวน์

บทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ โดย บมจ.ไทยออยล์: ฉบับวันที่ 5 เมษายน 2563

                     

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 16-21 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 23-28 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

                                                                  

แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (4 – 8 พ.ค. 63)

      ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มทรงตัวในระดับต่ำ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันยังถูกกดดันจากการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 ประกอบกับ ปริมาณน้ำมันดิบยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ปรับตัวสูงขึ้นคิดเป็นร้อยละ 86 ของถังเก็บสำรองทั้งหมด ทำให้ตลาดกังวลว่าปริมาณน้ำมันคงคลังของสหรัฐฯ จะเต็มความจุในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ ตลาดคาดการณ์ว่าข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันที่ระดับ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน พ.ค. 63 ของกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรจะยังไม่สามารถชดเชยผลกระทบของอุปสงค์น้ำมันที่ลดลงอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลหลายประเทศเริ่มเตรียมการผ่อนปรนมาตรการปิดเมือง เช่น สหรัฐฯ และสเปน ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นบ้าง 

ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ :

           ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มถูกกดดันจากความต้องการใช้น้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชากรทั่วโลก โดยความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกคาดการณ์ว่าจะปรับลดลงกว่าร้อยละ 30 ในเดือน เม.ย. 63

           ตลาดยังคงกังวลต่อปริมาณน้ำมันดิบส่วนเกิน โดยมองว่าการที่กลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันที่ระดับ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน พ.ค. 63 จะยังไม่สามารถชดเชยผลกระทบของอุปสงค์น้ำมันที่ลดลงอย่างหนัก

           ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นใกล้เต็มปริมาณความจุ โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 เม.ย. 63 ปรับตัวสู่ระดับ 65 ล้านบาร์เรล ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 86 ของถังเก็บสำรองทั้งหมด ทำให้ตลาดกังวลว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ จะเต็มความจุในเร็วๆ นี้

           อย่างไรก็ตาม รัฐบาลหลายประเทศเริ่มเตรียมการผ่อนปรนมาตรการปิดเมือง โดยสหรัฐฯ เตรียมจะเปิดดำเนินการธุรกิจต่างๆ ในอย่างน้อย 16 รัฐ และรัฐบาลสเปนได้ตั้งเป้าที่จะใช้เวลา 8 สัปดาห์ในการผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง หลังจากที่แนวโน้มของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ในประเทศสเปนได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง

           หน่วยงานด้านโรคติดต่อในสหรัฐฯ เผยว่า พบหลักฐานชัดเจนในการทดลองยาเรมเดซิเวียร์ว่าสามารถช่วยผู้ป่วยฟื้นตัวจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้จริง ซึ่งส่งผลให้ตลาดมีความหวังต่อความต้องการใช้น้ำมันที่จะฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

           รัสเซียประกาศพร้อมลดกำลังการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบลงตามข้อตกลงที่จะเริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นเดือน พ.ค. 63 ตามข้อตกลงรัสเซียจะลดกำลังการผลิตจาก 11.24 ล้านบาร์เรลต่อวันสู่ระดับ 8.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้รัสเซียวางแผนที่จะลดการส่งออกน้ำมันดิบลง จากปริมาณส่งออก 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน เม.ย. 63 สู่ระดับ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวันใน เดือน พ.ค. 63

           Rystad Energy คาดการณ์ว่าสหรัฐฯ จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบราว 300,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน พ.ค. – มิ.ย. 63 โดยคณะกรรมการกำกับกิจการด้านพลังงานของรัฐเท็กซัสจะมีการประชุมเพื่อลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบในวันที่ 5 พ.ค. 63 หลังการผลิตน้ำมันไม่คุ้มทุนต่อราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ โดยหนึ่งในคณะกรรมการเสนอให้มีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือร้อยละ 20 ของกำลังการผลิตทั้งหมดของรัฐเท็กซัส

           เศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิต PMI จีนเดือน เม.ย. 63 ตัวเลขดุลการค้าจีนเดือน เม.ย. 63 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ อัตราการว่างงานสหรัฐฯ เดือนเม.ย. 63

 LNG 20

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (27 เม.ย. – 1 พ.ค. 63)

      ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น 2.84 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 19.78 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เช่นเดียวกับ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 5.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 26.44 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 20.85 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยราคาน้ำมันดิบยังคงถูกกดดันจากความต้องการใช้น้ำมันที่ปรับตัวลดลง และสภาพเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอจากการใช้มาตรการปิดเมืองในหลายประเทศทั่วโลกเพื่อชะลอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

      นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันส่วนเกินในตลาดยังคงอยู่ในระดับสูง โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 24 เม.ย. 63 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9 ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเวลา 14 สัปดาห์ ไปแตะที่ระดับ 527.6 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการที่นอร์เวย์ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของยุโรปตะวันตกเตรียมจะปรับลดการผลิตน้ำมันลงในเดือน มิ.ย.  - ธ.ค. 63 ซึ่งจะเป็นการปรับลดการผลิตเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!