WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

5174 CP

ซีอีโอ เครือซีพีชี้โลกและไทยเผชิญความท้าทายใหม่ เสนอ 8 Big Move

นำไทยสู่ยุค 5.0 พร้อมเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของภูมิภาค (Tech Hub)

          เมื่อ 5 .. 2565 ที่ผ่านมา สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ภายใต้การนำของ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจัดสัมมนาใหญ่ Enhance the Dots โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิล์ด โดยมีบุคคลสำคัญทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพและการดำเนินธุรกิจของประชาชน และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ เพื่อเชื่อมโยงการทำงานระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปด้วยกันอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีผู้บริหารองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้บริหารจากสภาหอการค้าฯ ประมาณ 500 คนเข้าร่วมรับฟัง ทั้งนี้ซีอีโอเครือซีพีได้แสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ Digital Transformation หรือการเปลี่ยนด้วยเทคโนโลยี นำเสนอให้เห็นโลกปัจจุบันของเรากำลังเผชิญกับความท้าทายที่เปลี่ยนไปจากเดิม มุมมองความมั่งคั่งของในแต่ละยุคสมัยเปลี่ยนไปจากยุคที่ทองคำมีค่ามากที่สุดขับเคลื่อนเปลี่ยนมาสู่ยุคของพลังงานที่น้ำมันมีค่ามากที่สุด จนถึงปัจจุบันอยู่ในยุคแห่งเทคโนโลยีซึ่งเทคโนโลยีและทรัพย์สินดิจิทัล/AI มีค่ามากที่สุด พร้อมกันนี้ซีอีโอเครือซีพีเสนอแนวทางในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของภูมิภาคอีกด้วย

 

5174 CP Supachai

 

          ความท้าทายใหม่ของโลก

          ซีอีโอ เครือซีพี กล่าวว่า โลกปัจจุบันกำลังเผชิญความท้าทายยิ่งใหญ่ 6 ประการ 1.สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แม้จะเข้าสู่ New Normal แต่ยังต้องปรับตัวอีกพอสมควร 2.อัตราเงินเฟ้อขั้นรุนแรง หรือ Hyper Inflation ที่เกิดจากนโยบายการอัดฉีดเศรษฐกิจของทั่วโลกส่งผลให้เกิดอุปสงค์ด้านการบริโภคสูงขึ้นด้วย ขณะที่ภาวะตึงเครียดของ Geopolitical นำมาสู่ความท้ายทายข้อที่ 3 คือเศรษฐกิจโลกที่แบ่งเป็น 2 ขั้วมากขึ้น 4.ภาวะโลกร้อน หรือ Climate Change ซึ่งส่งผลต่อทั้งโลกต้องหันกลับมาแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้ได้ โดยที่ประชุมระดับรัฐมนตรีของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (G7) และผู้นำ G 20 ต้องหันกลับมาแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ โดยการตั้งเป้าหมาย Net Zero ขึ้นมา 5.การเปลี่ยนผ่านด้านเทคโนโลยีดิจิทัล หรือ Digital Transformations ซึ่งถูกตั้งเป็นความหวังว่าการเปลี่ยนผ่านนี้จะเข้ามาช่วยบรรเทาและตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นข้างต้นได้ ยกเว้นปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitic) และความท้าทายข้อสุดท้าย คือ เรื่องการลดความเหลื่อมล้ำ โดยใช้ Inclusive Capital สร้างผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจที่สามารถลดความเหลื่อมล้ำได้ด้วย ความท้าทายทั้ง 6 ข้อนี้เป็นสิ่งที่กำลังขับเคลื่อนโลกอยู่ในปัจจุบัน

 

          ความมั่งคั่งในแต่ละยุคสมัย

          เศรษฐกิจ หรือ ความมั่งคั่งในแต่ละยุคสมัยเปลี่ยนไป ในอดีตทองคำจะถูกอ้างอิงเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ยุคต่อมาเป็นยุคของพลังงาน สิ่งที่มีค่ามากที่สุดคือพลังงานและน้ำมัน หรือ อาจจะเรียกว่า Black Gold ปัจจุบันอยู่ในยุคแห่งเทคโนโลยี หรือ เรียกได้ว่า New Gold สิ่งที่มีค่ามากที่สุดคือ เทคโนโลยี และ ทรัพย์สินดิจิทัล / AI

          “ปัจจุบันภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไป โลกจะใช้สินทรัพย์ใดมาอ้างอิงความมั่งคั่งแม้กระทั่งดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เคยผูกติดกับน้ำมันซึ่งเป็นพื้นฐานทางเศรษฐกิจของทั้งโลกเริ่มสั่นคลอน จากการลดใช้น้ำมัน ซึ่งอาจจะเลิกใช้ในอีก 30 ปีข้างหน้า โดยหันไปใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานน้ำ เปลี่ยนมาเข้าสู่ยุคของความมั่นคงใหม่ หรือ ยุค 5.0 คือ เทคโนโลยี เช่น ปัญญาประดิษฐ์ ดังนั้นเทคโลยีจึงเป็นจุดของการเติบโตของเศรษฐกิจใหม่ (New Growth) และการแข่งขันใหม่ ดังนั้นยุคจากนี้ไปการต่อสู้และการแข่งขันด้านเทคโนโลยีจะเป็นตัวชี้วัดว่าประเทศใดจะได้ขึ้นเป็นผู้นำโลก

 

BANPU 720x100

 

          Thailand Big Move ก้าวต่อไปประเทศไทยสู่ยุค 5.0

          ประธานคณะผู้บริหาร เครือซีพี การนำหรือขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุค 5.0 สิ่งสำคัญคือเรื่องการสร้างระบบนิเวศ หรือ Ecosystem ซึ่งเป็นประเด็นเชิงนโยบายเพื่อจะต้องเสริมศักยภาพทางด้านการแข่งขันทางด้านเทคโนโลยีและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมั่งคั่ง เพราะไม่สามารถหนีการแข่งขันด้านนี้ไปได้ ทั้งนี้ซีอีโอเครือซีพีได้เสนอให้ประเทศไทยก้าวสู่ยุค 5.0 ด้วย 8 การขับเคลื่อนสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่

          Big Move แรก คือ การวางตำแหน่งประเทศไทย เป็นศูนย์กลางแห่งเทคโนโลยี หรือ Tech Hub ในระดับภูมิภาค โดยหนึ่งในนโยบายที่จะสนับสนุนไทยในด้านนี้คือ การเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมรถยนต์ไปสู่ EV เป็นต้น เพราะไม่ได้มาแค่เรื่องของรถยนต์ แต่มาพร้อมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ เทคโนโลยีพลังทดแทน รวมทั้งระบบโครงสร้างพื้นฐานหรือคลาวด์เทคโนโลยี เพื่อต่อยอดไปสู่เทคโนโลยีอื่นๆ ทั้ง AI และ IoT มีความจำเป็นต่อระบบการดำเนินธุรกิจหรือแม้กระทั่งที่อยู่อาศัยในอนาคต ดังนั้นการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่เทคโนโลยีนี้ได้เร็วที่สุด

          Big Move ที่ 2 คือการ พัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งและการเงินของภูมิภาค หรือ Logistic & Financial Hubs กุญแจสำคัญคือ รถไฟไทย-จีน ถ้าสำเร็จจะเชื่อมโยงให้ EEC สำเร็จตามไปด้วย ประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางการขนส่ง ซึ่งสิ่งที่จะตามมาคือการเป็น Trade Hub ที่เชื่อมตลาดไทย จีน และอาเซียน เข้าด้วยกัน และอาจเชื่อมต่อไปถึงอินเดีย เกิดเป็น Thailand Link ที่จะส่งผลให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการเงินและเศรษฐกิจขนาดใหญ่

 

QIC 720x100

 

          Big Move ที่ 3 คือการทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางความมั่นคงทางอาหาร หรือ Food Security Hub โดยการส่งเสริมและพัฒนาภาคเกษตรดั้งเดิมให้ก้าวสู่การเป็น Agro Smart Industry ก็จะสามารถยกระดับภาคเกษตรในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีความสำเร็จเฉพาะปศุสัตว์ ภาคพืชผลที่สำเร็จยังมีน้อย มีเพียงอ้อยที่พัฒนาเป็นเกษตรอุตสาหกรรมได้สำเร็จ จุดนี้ต้องแก้ไขปรับปรุง รวมถึงการทำชลประทาน เพื่อไม่ให้ไทยสูญเสียโอกาสการเป็นฮับในด้านความมั่นคงทางอาหารของโลก

          Big Move ที่ 4 คือ การเตรียมพร้อมเรื่องคน หรือ People Readiness ในการก้าวสู่ยุค 5.0 ที่เป็นยุคแห่งเทคโนโลยี คนคือหัวใจสำคัญ การเตรียมความพร้อมแรกของเรื่องนี้คือการสร้างแรงงานในอนาคต (Future Workforce) ให้มีทักษะด้านดิจิทัลในระดับ 4 จำนวน 3.5 ล้านคน (ทักษะด้านดิจิทัลมี 4 ระดับ ได้แก่ ระดับ 0 ไม่มีทักษะด้านดิจิทัล คือ แรงงานที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล ระดับที่ 1 ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับชีวิตประจำวัน ระดับที่ 2 ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับการทำงานได้ สามารถใช้ดิจิทัลเพื่อการทำงานได้ อาทิ การใช้ โปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ (เช่น Microsoft Offices) การใช้อินเทอร์เน็ตเป็นตัวกลางในการทำงาน เช่น การส่งอีเมล์หรือ การประชุมออนไลน์ หรือการทำธุรกิจหรือร้านค้าออนไลน์ เป็นต้น) ระดับที่ 3 ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลทักษะระดับสูงสามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูงได้ อาทิ การเขียนโปรแกรม และการบริหารจัดการระบบความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต) ขณะที่คนไทยมีทักษะด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลยังมีอยู่ในจำนวนน้อย โดยประเทศไทยเรามีต่ำกว่า 1% ของแรงงานทั้งหมด ขณะที่เกาหลีใต้หรือสิงคโปร์อยู่ที่ประมาณ 7-8% ของแรงงานทั้งหมด ส่วนมาเลเซียมีเป้าหมายภายใน 3 ปีข้างหน้าจะต้องมีแรงงานที่มี digital skill ระดับ 4 เป็นจำนวนถึง 10% 

 

5174 CP Supachai2

 

          การเตรียมเรื่องคนที่สำคัญอีกเรื่องของประเทศไทย คือ การสนับสนุนและส่งเสริมสตาร์ทอัพไทย โดยตั้งเป้าหมายให้ไทยมีสตาร์ทอัพจำนวน 20,000 คนภายใน 5 ปี จะส่งเสริมผลักดันให้เกิดนวัตกร วิศวกร ผู้ที่มีความคิดเป็นเจ้าของกิจการ ฯลฯ เป็นจำนวนถึง 1,000,000 คน (สตาร์ทอัพ 1 รายจะสามารถจ้างงานได้ 50 คนซึ่งจะกลายเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสร้างการเปลี่ยนแปลงสู่ยุค 5.0 ทั้งนี้ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ไฟเขียวยกเว้นภาษี Capital Gain Tax 0% เพื่อช่วยดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติ (VC) เข้ามาลงทุนในสตาร์ทอัพไทยเพื่อพลิกโฉมประเทศเป็นเทคฮับของภูมิภาค

          ข้อเสนออีกประการในเรื่องการเตรียมพร้อมเรื่องคน คือการการปฏิรูปการศึกษา ทั้งนี้เพราะโจทย์ที่สำคัญคือการสร้างคนที่มีทักษะดิจิทัล 3.5 ล้านคน การปฏิรูปการศึกษาจึงสำคัญ แนวทางหนึ่งที่น่าสนใจคือการสร้างเด็กไทยให้มีทักษะด้านดิจิทัลตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งจะผลักดันให้ครูเปลี่ยนบทบาทจาก Instructor หรือ Center Knowledge มาสู่ participator นำไปสู่การปฏิรูปได้

          Big Move ที่ 5 คือ การพัฒนา Smart City, Smart Town และ Smart Village เป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ที่สร้างให้เกิดเศรษฐกิจใหม่หรือการสร้างเศรษฐกิจให้มีมูลค่าสูงขึ้น และ Productivity ที่สูงขึ้น คือการสร้างตลาดที่สามารถสร้างอีก 10-20 อุตสาหกรรมให้เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน

          “ทำไมเราได้ยินข่าวว่าประเทศนั้นจะย้ายเมืองใหม่ จะสร้างเมืองใหม่ ล่าสุดได้ยินว่า ซาอุดิอาระเบียจะสร้างเมืองใหม่แข่งกับดูไบ ในเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของเมืองใหม่ แต่คือการลงทุนในเศรษฐกิจใหม่ โครงสร้างพื้นฐานใหม่ smart town, smart village ที่สามารถจะสร้างสรรค์ ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ความปลอดภัย สุขภาพที่ดี ความเป็นอยู่ที่ดี การเข้าถึงงาน การท่องเที่ยว ถ้ามีนโยบายเรื่องนี้อย่างชัดเจน และมีการลงทุนก็เท่ากับเราได้เปลี่ยนแปลง หรือ transform ประเทศของเราให้ก้าวหน้านายศุภชัย กล่าว

 

aia 720 x100

 

          Big Move ที่ 6 คือ World Political Neutrality ภาวะการเมืองที่เศรษฐกิจพยายามแบ่งเป็น 2 ขั้ว ไทยต้องยืนอยู่ตรงกลาง ทำหน้าที่ประสานประโยชน์ให้ทุกฝ่ายได้ ไทยและภูมิภาคก็จะได้ประโยชน์ ซึ่งขณะนี้ไทยดำเนินการได้ดีแล้ว

          Big Move ที่ 7 คือ เรื่องของ State Transformation ข้าราชการระดับบริหารต้องมีรายได้สูงกว่าเอกชน เพื่อดึงดูดคนเก่งเข้าสู่ระบบราชการ นอกจากนี้ข้าราชการจะต้องมีทักษะทางด้านเทคโนโลยี เพื่อช่วย Empower ให้แก่เอกชนและประชาชน และสร้างความโปร่งใส่ ดังนั้นเมื่อ 2 เรื่องนี้เกิดขึ้นควบคู่กันจะเห็นเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัลโดยธรรมชาติ

          Big Move ที่ 8 คือ Thailand Sustainable Dream หรือ ความยั่งยืน ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยสู่ยุค 5.0 สิ่งสำคัญคือต้องผสมผสานกับความยั่งยืน โดยจะต้องก้าวให้ถึงเป้าหมายในการเป็น Net-Zero, Zero-Waste, Zero- poverty, Zero-Crime และ Zero Unemployment พูดง่ายๆ คือ 100% Security 

          สิ่งเหล่านี้ถ้าเราตั้งเป้าหมายร่วมกัน ก็จะสร้างความฝันร่วมกันที่มองว่าประเทศไทยเราจะไปในจุดไหน

 

A5174

 Click Donate Support Web 

EXIM One 720x90 C J

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

GC 720x100TU720x100sme 720x100

ais 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!