- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Thursday, 12 January 2023 18:18
- Hits: 2417
สภาธุรกิจไทย-จีน จัดงาน 2023 Thailand-China Get Together and Networking กลุ่ม AMATA มีนิคมฯในประเทศไทย เวียดนาม พม่า ลาว พร้อมรับนักลงทุน
สภาธุรกิจไทย-จีน ได้จัดงาน 2023 Thailand-China Get Together and Networking เพื่อพบปะสังสรรค์และสร้างเครือข่ายกับนักธุรกิจจีนในไทย โดยมีลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจมากกว่า 200 รายเข้าร่วมงานเลี้ยง โดยทางสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน ได้ไปเข้าร่วมสวัสดีปีใหม่ คุณวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานสภาธุรกิจไทย-จีน และประธานมูลนิธิอมตะ ในงานนี้จัดขึ้นในวันพุธที่ 11 มกราคม 2566 เวลา 17.00-21.00 น. ชั้น 6 ตึกกรมดิษฐ์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
คุณวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานสภาธุรกิจไทย-จีน Thailand-China Get Together and Networking กล่าวเปิดงาน และฉายภาพการเปิดประเทศของจีน ส่งผลต่อธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกมีการปรับตัวและรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยทางกนอ.มองว่า มีหลายปัจจัยบวกที่เข้ามาส่งเสริมการลงทุนในที่ดินนิคมอุตสาหกรรม อาทิ โครงสร้างพื้นฐานหลักในพื้นที่อีอีซี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ดึงดูดนักลงทุน
โดยในปี 2566 นี้ คาดว่าจะสามารถขายที่ดินได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 1,770 ไร่ นอกจากนี้ ทางด้านการส่งเสริมการลงทุนในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน พบว่ามีการขอรับบัตรส่งเสริมการลงทุนแล้วกว่า 1,247 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 8.5 ขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ มีมูลค่ารวม 275,624 ล้านบาท โดยประเทศที่มีการลงทุนมากที่สุดสามประเทศแรกคือ จีน 45,024 ล้านบาท ไต้หวัน 39,256 ล้านบาท และญี่ปุ่น 37,591 ล้านบาท
โดยการลงทุนส่วนใหญ่จากจีน และไต้หวันอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดว่าการลงทุนในสองสาขานี้ จะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และสำหรับพื้นที่อีอีซี มีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนแล้วจำนวน 376 โครงการ มีเงินลงทุนรวม 246,655 ล้านบาท โดยการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดชลบุรีและระยอง
สำหรับ บริษัทอมตะ คอร์ปเรชัน จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2532 เป็นผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมเอกชนชั้นน าของโลก หรือที่เราเรียกกันว่า 'เมืองอุตสาหกรรม' มีความเชี่ยวชาญในการวางแผน พัฒนา บริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรม และธุรกิจเกี่ยวเนื่องอย่างครบวงจร
นอกจากนี้ บริษัทฯยังยึดมั่นในการปกป้องสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด และมุ่งมั่นที่จะสร้าง 'เมืองที่สมบูรณ์แบบ'เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงานที่ท างานในนิคมอุตสาหกรรม และคนในชุมชนโดยรอบ เพื่อให้ทุกคนสามารถทำงาน และใช้ชีวิตในเมืองอมตะได้อย่างมีความสุข
ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 บริษัทฯมีการพัฒนานิคมอุตสาหรรมใน 4 ประเทศ คือ ประเทศไทย เวียดนาม พม่า และลาว มีพื้นที่ทั้งสิ้นประมาณ 88,663 ไร่ ในไทยมีที่ดินในมือที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและพร้อมขาย ปัจจุบันอยู่ที่ 12,598 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ใน จ.ชลบุรี 10,052 ไร่ จ.ระยอง 2,546 ไร่
โดยยอดขายปี 65 มาจากเวียดนาม 400-500 ไร่ ซึ่งมีที่ดินพร้อมขายแล้ว และยอดขายที่ดินจังหวัดชลบุรีไม่ต่ำกว่า 200 ไร่ ระยอง 500 ไร่ และยังมีการขายที่ดินของบริษัทร่วมทุนไทย-จีน ซึ่งในอดีตขายได้ปีละ 300 ไร่
ด้านคุณตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย วิทยากรรับเชิญ กล่าวว่า ปีนี้นับเป็นก้าวสำคัญของยูโอบีที่ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาแล้ว 24 ปี และกำลังขยายธุรกิจให้เติบโตผ่านการลงทุนต่างๆ ซึ่งรวมถึงการเข้าซื้อกิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ปในประเทศไทยที่เสร็จสมบูรณ์แล้วตามกฎหมาย
“ในขณะที่เรากำลังวางรากฐานทางธุรกิจใหม่ พร้อมๆไปกับการเสริมความแข็งแกร่งของฐานธุรกิจในประเทศไทย ยูโอบี ตอกย้ำจุดยืนในฐานะธนาคารชั้นนำในประเทศไทยที่พร้อมนำเสนอโซลูชันทางการเงินที่เหมาะกับความต้องการของลูกค้า และด้านความยั่งยืน เพื่อสนับสนุนลูกค้าชาวจีนที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีดิจิทัลและการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงความเชี่ยวชาญและเครือข่ายที่แข็งแกร่งของธนาคาร เพื่อช่วยลูกค้าเชื่อมต่อและขยายโอกาสทางธุรกิจทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน” ตัน กล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เป็นธนาคารจากสิงคโปร์ที่ดำเนินการด้านการธนาคารเต็มรูปแบบในประเทศไทย นอกเหนือไปจากนั้น นับตั้งแต่ปี 2542 ธนาคารยังได้จัดกิจกรรมเพื่อคืนสู่สังคมมากมาย รวมถึงงานประกวดจิตรกรรมยูโอบี หรือ UOB Painting of the Year เพื่อส่งเสริมศิลปินไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับภูมิภาคมาต่อเนื่องทุกปี ซึ่งในปีนี้ศิลปินจากประเทศไทยได้รับรางวัลชนะเลิศ ในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในปี พ.ศ. 2564 ธนาคารยูโอบีมีลำดับชั้นสินทรัพย์รวมของธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ถัดมาจากอันดับที่6 คือ ธนาคารทหารไทยธนชาต โดย มีสินทรัพย์รวม 725,407 ล้านบาท และธนาคารมีสาขาทั่วประเทศไทย 150 สาขา
ก้าวเข้าสู่เดือนแรกของเดือนมกราคม ปี 2566 รัฐบาลไทยได้เตรียมความพร้อมรองรับผู้เดินทางจากประเทศจีน ธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการเดินทางและการท่องเที่ยวดูจะเป็นกลุ่มที่ได้อานิสงค์ไปเต็มๆ จากมาตรการเปิดเมืองของจีนในครั้งนี้ ส่วนการค้าการลงทุนสำหรับนักลงทุนคนจีนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ธนาคารยูโอบีสามารถให้คำปรึกษา และสนับสนุนสินเชื่อโครงการในทุกการลงทุน
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ วิทยากรรับเชิญ อีกท่านหนึ่ง กล่าวในมุมมองเศรษฐกิจว่า จีนเปิดประเทศ จากตัวเลขการประมาณการนักท่องเที่ยวจีนในไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม 2566) มีประมาณ 3 แสนคน คิดเป็น 5% ของนักท่องเที่ยวทุกชาติรวมกัน คาดว่ามกราคม จะเข้ามา 60,000 คน กุมภาพันธ์ 90,000 คน และมีนาคม 150,000 คน
โดยจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากปัจจุบันยังมีเที่ยวบินจำกัด มีระยะเวลาในการขอทำหนังสือเดินทางและการขอวีซ่า และรัฐบาลจีนยังไม่อนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวนำกลุ่มทัวร์ออกนอกประเทศ ผู้เดินทางจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเองและเป็นกลุ่มนักเดินทางระดับบนที่มีกำลังซื้อ
ภาคการท่องเที่ยว คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในไทยมากกว่าที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ในปี 2566 ที่ 20 ล้านคน โดยน่าจะเริ่มเห็นคนจีนเข้ามาในไทยได้เร็วขึ้นจากเดิมคาดไว้ช่วงกลางปี 66 โดยในภาวะปกตินักท่องเที่ยวชาวจีนเคยมาไทย มีสัดส่วนสูงถึง 30% หรือราว 11 ล้านคน ของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย
การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนมาไทยอยู่ในรูปแบบเดียวกัน ไทยจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่ได้รับอานิสงค์จากการเปิดประเทศของจีนมากที่สุด เช่นเดียวกับฮ่องกง และสิงคโปร์ โดยคาดว่า จะสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศมากถึง 5.42 แสนล้านบาท
ปัจจัยมาจากการส่งออกและยอดท่องเที่ยวจีนที่มามากขึ้น ธุรกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการเดินทาง รวมถึงการส่งออก คือ กลุ่มที่จะได้ประโยชน์สูงสุดจากการเปิดประเทศของจีน ผลเสียที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจโลกคือ ราคาน้ำมันโลกจะแพงขึ้น โดยอาจทำให้ราคาน้ำมันเกินกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ไตรมาสแรกของปี 66 เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มสดใส จากการผ่อนคลายนโยบาย แต่ยังต้องจับตาประเด็นของตลาดโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรปที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย และกระทบเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง
ส่วนการค้าการลงทุนสำหรับนักลงทุนคนจีนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ธนาคารกรุงเทพสามารถให้คำปรึกษา และสนับสนุนสินเชื่อโครงการในทุกการลงทุน