- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Thursday, 19 January 2023 16:54
- Hits: 1862
ดีพร้อม แถลงผลสำเร็จโครงการ DIPROM Fruit Creation ยกระดับ SMEs รุกตลาดผลไม้แปรรูป สร้างมูลค่าเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 17.5 ล้านบาท
ดีพร้อม (DIPROM) โดยกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม แถลงผลสำเร็จ โครงการสร้างมูลค่าเศรษฐกิจการผลิตผลไม้ไทยด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ปีงบประมาณ พ.ศ.2565 หรือ DIPROM Fruit Creation พร้อมจัดเสวนาใหญ่ “โอกาสการสร้างมูลค่าเพิ่มผลไม้ From Loss to High Value” เผยบรรลุเป้าหมาย ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมแปรรูปให้กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และSMEs จากพื้นที่ 14 จังหวัดทั่วประเทศราว 740 คน สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลผลิตมะม่วง ฝรั่ง อะโวคาโดที่ตกเกรดและลดความสูญเสียในช่วงล้นตลาด ทั้งยกระดับสินค้าเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรมอย่างมีมาตรฐานสากล ควบคุมวัตถุดิบให้มีคุณภาพสม่ำเสมอ รสชาติคงที่ เกิดผลิตภัณฑ์ จำนวน 16 ผลิตภัณฑ์ ปลื้มการเจรจาจับคู่ธุรกิจได้ผลดีเกินคาดมากกว่า 90 คู่เจราจา มีธุรกิจบริการอาหาร ธุรกิจค้าปลีก และผู้แปรรูปหลายรายเข้าร่วม คาดสร้างยอดขายปีแรกไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ชี้ผลสำเร็จในภาพรวมช่วยเพิ่มผลิตภาพไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมไม่น้อยกว่า 17.5 ล้านบาทต่อปี
นางสาวอริยาพร อำนรรฆสรเดช ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) กล่าวว่า การดำเนินงานโครงการนี้เป็นการยกระดับสินค้าเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรมแปรรูปครบวงจร เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) วิสาหกิจชุมชน OTOP ที่เกี่ยวข้องกับผลไม้ และเพื่อส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดความสูญเสียอาหาร (Food loss & Food waste) มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐานสากล โดยมีเกษตรกรและผู้ประกอบการ SMEs จำนวนมากได้รับประโยชน์ ทั้งได้รับองค์ความรู้และทักษะการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยเทคโนโลยีและนวัตกรรมแปรรูปจนถึงการจับคู่ธุรกิจกับธุรกิจบริการอาหารที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันผลิตภัณฑ์สู่ตลาดทั้งในประเทศไทยเอง และตลาดส่งออกผลไม้แปรรูปซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูง โดยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค.-พ.ย.) เฉพาะผลิตภัณฑ์ผลไม้กระป๋องและแปรรูป มีมูลค่าส่งออกราว 63,202 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นางสาวอริยาพร กล่าวต่อว่า โครงการฯ เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค .2565 และสิ้นสุดโครงการภายในเดือนม.ค.นี้ โดยในปีนี้ได้ดำเนินการพัฒนาผลไม้ 3 ชนิด ได้แก่ มะม่วง ฝรั่ง และอะโวคาโด ให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ในพื้นที่รวม 14 จังหวัดทั่วประเทศ มีผู้เข้าร่วมอบรมไม่น้อยกว่า 740 คน แบ่งเป็นกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะกระบวนการแปรูปผลไม้ 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตร เพิ่มศักยภาพการแข่งขันผู้ประกอบการเป้าหมายด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มผลไม้ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์วัตถุดิบแปรรูปเบื้องต้น ให้มีอายุเก็บรักษานานขึ้น สามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ธุรกิจบริการอาหารและเครื่องดื่มได้ เช่น การทำเป็นผง การทำเป็นเนื้อผลไม้เข้มข้น และการแช่แข็ง อาทิ มะม่วงพิวเร อะโวคาโดแช่แข็ง และฝรั่งผงอบแห้ง เป็นต้น มีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 407 คน จัดอบรมที่ จ.ตาก เชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบุรี ขอนแก่น ราชบุรี และนครปฐม
สำหรับหลักสูตรที่ 2 กิจกรรมเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ ด้วยเมนูผลไม้เพื่อสุขภาพ เน้นการนำวัตถุดิบแปรรูปเบื้องต้น จากหลักสูตรที่ 1 มาประยุกต์เป็นเมนูอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อเชื่อมโยงให้เกิดการต่อยอดจากสินค้าที่โรงงานแปรรูปผลิตเข้าสู่ธุรกิจบริการอาหาร อาทิ เมนู สเปรดอะโวคาโดไขมันต่ำ น้ำสลัดอะโวคาโดสูตรคีโต แยมมะม่วงสูตรหวานน้อย โยเกิร์ตมะม่วงสูตรคีโต แยมฝรั่งอเนกประสงค์ และน้ำสลัดฝรั่งสูตรคีโต เป็นต้น มีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 341 คน จัดอบรมที่ จ.กรุงเทพมหานคร ชลบุรี สมุทรสงคราม เพชรบูรณ์ และภูเก็ต
“ทั้งนี้ได้มีการคัดเลือกผู้เข้าอบรมจำนวน 15 กิจการ จาก จ.เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา ลำพูน กาฬสินธุ์ มหาสารคาม กาญจนบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาศักยภาพการแข่งขันเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้ให้คำแนะนำกระบวนการแปรรูป การควบคุมคุณภาพสินค้า รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดต้นทุน การจัดทำฉลากพร้อมบรรจุภัณฑ์ต้นแบบ นำสินค้าส่งตรวจวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยอาหาร การเตรียมความพร้อมเพื่อยื่นขออนุญาตเลข อย. ผลิตภัณฑ์ รวมถึงการจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจที่มีธุรกิจบริการอาหาร ธุรกิจโรงแรมที่พัก ธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจจัดหน่ายออนไลน์ รวม 18 กิจการ ให้ความสนใจเข้าร่วม มีการเจรจาธุรกิจระหว่างกันมากกว่า 90 คู่เจรจา สร้างยอดขายปีแรกได้ไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ในขณะที่ภาพรวมผลสำเร็จของการดำเนินโครงการฯ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพิ่มผลิตภาพไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 คิดเป็นมูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 17.5 ล้านบาทต่อปี หรือประเมินได้ว่าสามารถนำผลผลิตผลไม้ (มะม่วง อะโวคาโด ฝรั่ง) เข้าสู่กระบวนการแปรรูปเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 300 ตัน ในปีที่ 1 ซึ่งเป็นการส่งเสริมการแปรรูปภายใต้แนวคิดลดการสูญเสียของอาหาร (Food Loss & Food waste)”
อนึ่ง กิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจจัดให้มีขึ้น 2 ครั้งที่ จ.เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ เป็นการนำสินค้าแปรรูปขั้นกลางเพื่อนำไปผลิตเป็นสินค้าอื่นๆ ต่อ มานำเสนอ เช่น อะโวคาโดผงอบแห้ง อะโวคาโดพิวเร่แช่แข็ง/เต๋าแช่แข็ง มะม่วงผงอบแห้ง มะม่วงพิวเร่ ฝรั่งอบแห้ง และผลไม้แปรรูปอื่นๆ โดย จ.เชียงใหม่ มีธุรกิจ 6 กิจการเข้าร่วม ได้แก่ บริษัท ตันตราภัณฑ์ซุปเปอร์มาร์เก็ต (1994) จำกัด (ริมปิง ซูเปอร์มาร์เก็ต) บริษัท หยกอินเตอร์ เทรด (เชียงใหม่) จำกัด โรงแรมเมอเวนพิค สุริวงศ์ เชียงใหม่ โรงแรมครอสทู เชียงใหม่ ริเวอร์ไซด์ สวนสวรรค์ รีสอร์ท เชียงใหม่ และร้าน เชฟ เทเบิ้ล บาย ออล อะเบ้าท์ บีฟ ที่ จ.กรุงเทพ มีธุรกิจ 12 กิจการเข้าร่วม ดังนี้ บริษัทในเครือบุญรอดบริวเวอรี่ 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท บุญรอด เทรดกดิ้ง จำกัด บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด และบริษัท เทรด แฟคเตอร์ จำกัด บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคต จำกัด (มหาชน) บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท คุณเก๋ ขนมหวาน จำกัด บริษัท เพอร์เฟค คอมพาเนียน กรุ๊ป จำกัด บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทย โกลเด้น ซันชายน์ จำกัด และบริษัท แคสปี้ จำกัด
A1405