- Details
- Category: SME
- Published: Saturday, 30 November 2024 00:00
- Hits: 1897
สสว. พาผู้ประกอบการในพื้นที่ EEC และพื้นที่ต่อเนื่อง ลัดฟ้าเปิดตลาดพร้อมจับคู่คู่ธุรกิจที่ไต้หวัน หวังหนุนเศรษฐกิจไทย
สสว. ยังคงเดินหน้ายกศักยภาพผู้ประกอบการ EEC และพื้นที่ต่อเนื่อง จัดกิจกรรมสนับสนุนและส่งเสริมทางการตลาดต่างประเทศ ภายใต้ กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาการเริ่มต้นเป็นผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในพื้นที่ EEC และพื้นที่ต่อเนื่อง ปีงบประมาณ 2567 พา 24 ผู้ประกอบการบินไปจับคู่ธุรกิจ และจัดแสดงสินค้า ณ โรงแรม Grand Halai และศูนย์แสดงสินค้าหนานกัง Taipei Nangang Exhibition Center ไต้หวัน หวังเพิ่มโอกาสทางการค้าตลาดต่างประเทศ คาดสร้างมูลค่าทางการตลาดไม่น้อยกว่า 33 ล้านบาท
เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้บริหาร สสว. นำโดย นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และนายวชิระ แก้วกอ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) นำผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในพื้นที่ EEC และพื้นที่ต่อเนื่องรวม 45 ราย บินสู่ประเทศไต้หวัน
นางสาวปณิตา เผยว่า ปีนี้ สสว.ได้จัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาการเริ่มต้นเป็นผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในพื้นที่ EEC และพื้นที่ต่อเนื่อง ประกอบด้วย ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และจันทบุรี เป็นการส่งเสริมและเพิ่มขีดความสามารถ เพื่อยกระดับนวัตกรรมในอุตสาหกรรมเป้าหมายให้เกิดการลงทุนหรือสามารถก่อตั้งธุรกิจได้ โดยได้มีการจัดกิจกรรมการพัฒนาผู้ประกอบการในพื้นที่ที่สมัครเข้าร่วมโครงการมาตั้งแต่เดือนกันยายน
รักษาการ ผอ.สสว. เผยว่า สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ จัดเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมด้านทางการตลาด เปิดโอกาสขยายตลาดในต่างประเทศที่ไต้หวันให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย Business Matching กลุ่มท่องเที่ยว กิจกรรมแสดงสินค้าในงาน Taiwan Int’l Food Industry รวมทั้งเยี่ยมชมสถานประกอบการเอสเอ็มอีประเภทอาหารและของที่ระลึกชื่อดังของไต้หวัน”
นางสาวปณิตา กล่าวต่อไปว่า การเดินทางมาไต้หวันในครั้งนี้ ถือเป็นการส่งเสริมและต่อยอดทางการค้าที่ไต้หวันให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นตลาดในกลุ่มดังกล่าวมีทัศนคติที่ดีกับประเทศไทย และชื่นชอบ หลายสินค้าของไทย เช่น ผลิตภัณฑ์ปรุงรสหรือน้ำจิ้มต่างๆ ได้ส่งออกมาไต้หวันติดอันดับ Top 3 รวมถึงสินค้าประเภทเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีแนวโน้มโอกาสทางตลาดที่ดี โดยผู้ประกอบการที่มาร่วมงานในครั้งนี้ เป็นผู้ประกอบการใหม่ที่ได้รับการพัฒนาและมีความพร้อมที่จะออกสู่ตลาดสากล สามารถนำเสนอสินค้าดีมีคุณภาพ บรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่น่าสนใจในดีไซน์ที่ทันสมัย ตอบโจทย์ทั้งด้านการใช้งานและถนอมอาหาร สามารถนำนวัตกรรมมาใช้ในการเพิ่มคุณค่าของผลิตภัณฑ์ได้ตอบโจทย์ตลาด สสว.คาดหวังว่ากิจกรรมนี้ จะช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการ และสร้างมูลค่าทางการตลาด นำเม็ดเงินเข้าประเทศไม่น้อยกว่า 33 ล้านบาท
กิจกรรมครั้งนี้ ประกอบด้วยจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) กลุ่มท่องเที่ยว จัดขึ้น ณ ห้อง Universe Room โรงแรม Grand Halai มีผู้ประกอบการเข้าร่วม จำนวน 4 ราย ได้แก่ 1.บ้านเล็กวิลล่า จ.จันทบุรี 2.วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรผลิตไม้กฤษณา จ.ระยอง 3.วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรบ้านตม จ.ชลบุรี และ 4.มวยไทยวิลเลจ จ.ชลบุรี และนำผู้ประกอบการ จำนวน 20 ราย จัดแสดงสินค้าในงาน Taiwan Int’l Food Industry ณ ศูนย์แสดงสินค้าหนานกัง Taipei Nangang Exhibition Center ไต้หวัน
นอกจากนี้ ยังนำคณะไปเยี่ยมชมสถานประกอบการเอสเอ็มอีประเภทอาหารและของที่ระลึกชื่อดังของไต้หวัน ผู้ผลิตพายสับปะรด แบรนด์ Vigor (เหว่ยเก๋อ) ซึ่งเป็นพายสับปะรด ของฝากยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อศึกษาที่พัฒนาการและแนวทางในการดำเนินธุรกิจ จากร้านขนมเล็กๆ ไปสู่กิจการที่มีผลิตภัณฑ์ระดับประเทศที่ได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้าภายในและนักท่องเที่ยวทุกมุมโลก
โอกาสนี้ ผู้ประกอบการกลุ่มท่องเที่ยวที่เข้าร่วมกิจกรรม ได้เผยถึงความรู้สึก ความประทับใจ และความคาดหวัง จากการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย
นางพิกุล กิตติพล ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรผลิตไม้กฤษณา จังหวัดระยองกล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่ได้มาไต้หวัน เพื่อนำเสนอเกี่ยวกับการท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง ชลบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา โดย สสว. นำเรามาเปิดตลาดการท่องเที่ยวกับทางไต้หวัน เพราะทราบว่าที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจากไต้หวัน เดินทางไปเที่ยวในประเทศไทยถึง 80%
“ขอบคุณ สสว. ที่ได้พาเรามานำเสนอการท่องเที่ยวหลายแห่งของไทย โดยเฉพาะวิสาหกิจชุมชนไม้กฤษณาเอง ก็ได้มานำเสนอธุรกิจ และได้จับคู่ธุรกิจ เพื่อเชิญชวนชาวไต้หวันไปเยือนประเทศไทย และสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยต่อไป” ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรผลิตไม้กฤษณา จังหวัดระยองกล่าว
ด้านนางกาญจนา เทพจันดา จากกลุ่มบ้านครูเล็กจันทบุรี เผยว่า ครั้งนี้ถือว่าเราได้รับโอกาสดีเป็นอย่างมาก สิ่งพิเศษที่สุดคือ เราได้พบกับผู้ประกอบการหลายภาคส่วนที่เข้ามาให้ความสำคัญกับเส้นทางการท่องเที่ยวของเรา ทำให้เราได้รับประสบการณ์ทางด้านการประชาสัมพันธ์ ประสบการณ์ทางด้านการทำงานเกี่ยวกับเรื่องเส้นทางการท่องเที่ยว และทำให้เราได้ทราบว่ามีอะไรบ้างที่เราจะกลับไปเติมเต็มให้กับชุมชนของเรา ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ขอบคุณ สสว. ที่ให้กลุ่มบ้านครูเล็กได้รับโอกาสดีๆ แบบนี้”
นางสาวนงรักษ์ แทบทาม จากกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร บ้านตม จังหวัดชลบุรี เล่าว่า ขอบคุณ สสว. ที่ให้โอกาสกลุ่มแม่บ้านเล็กๆ กลุ่มหนึ่งในจังหวัดชลบุรีได้มาร่วมงาน ทำให้ได้ลูกค้าที่สนใจสินค้าของเรา ซึ่งเป็นแชมพูเปลี่ยนสีผมสะกัดจากธรรมชาติ ที่สามารถต่อยอดทางการตลาดได้ และเชิญชวนไปท่องเที่ยวชุมชนของเรา เพื่อจะได้ชมตั้งแต่การปลูก จนนำมาแปรรูป พร้อมจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวด้วย
นับเป็นกิจกรรมที่ช่วยยกศักยภาพธุรกิจ พร้อมเพิ่มโอกาสทางการค้าในต่างประเทศ เพื่อนำเม็ดเงินกลับมาหนุนเสริมเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตต่อไป
11808