Details

Category: การตลาด

Published: Wednesday, 11 March 2015 23:03

Hits: 1576

โมเดิร์นฟอร์ม เจาะตลาดเพื่อนบ้าน

      บ้านเมือง : นายทักษะ บุษยโภคะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โมเดิร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ระดับกลาง-บน เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อในไทยขณะนี้ยังไม่ดีมาก ทำให้ตลาดค้าปลีกค่อนข้างซึมๆ โดยเฉพาะในช่วง 2 เดือนแรกของปีบริษัทยอมรับว่ายอดขายยังต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย แต่ยังดีที่บริษัทมียอดสั่งซื้อจากลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์แล้วประมาณ 3 พันล้านเศษ และเบื้องต้นยังกังวลเล็กน้อยว่ายอดขายในปีนี้จะได้ไม่ตามเป้าที่ 5 พันล้านบาท หรือเติบโต 15% จากปี 2557 ที่มีรายได้ 4.3 พันล้านบาท

   ทั้งนี้ นอกจากจะรุกตลาดในประเทศ พร้อมกับงบลงทุนปรับปรุงเครื่องจักรและระบบขนส่งโลจิสติกส์ 150 ล้านบาทแล้ว บริษัทยังหาตลาดใหม่ เช่นประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศพม่า โดยเฉพาะล่าสุดบริษัทได้ข้อสรุปการร่วมทุนกับตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นของพม่าโดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 70% สำหรับลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ ที่เขตส่งเสริมการลงทุน บริเวณชานเมืองกรุงย่างกุ้ง เนื้อที่ 20 ไร่ ซึ่งจะใช้งบลงทุนรวม 100-150 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ในปี 2559 โดยในเบื้องต้นบริษัทจะเจาะตลาดลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์เช่นเดียวกับที่ทำตลาดในประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันมีโครงการอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะอาคารสำนักงานที่ยังอยู่ในพิมพ์เขียวที่เตรียมรอการอนุมัติก่อสร้างจากรัฐบาลพม่าจำนวนค่อนข้างมาก แต่ในเบื้องต้นบริษัทได้เริ่มเข้าไปทำตลาดโดยผ่านช่องทางชายแดนไทย-พม่า บริเวณแม่สอดและเกาะสอง เพื่อเปิดตลาดในกรุงเนปิดอร์ เมืองหลวงของพม่า โดยยอดขายยังไม่มาก ขณะเดียวกันตัวแทนจำหน่ายยังเตรียมขยายโชว์รูมจำหน่ายเป็นแห่งที่ 2 ในกรุงย่างกุ้ง โดยปัจจุบันยังเริ่มจากเฟอร์นิเจอร์สำนักงานเป็นหลัก

    นอกจากนี้ ในส่วนความคืบหน้าแผนร่วมทุนกับ บริษัท อิโตกิ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ติด 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น เพื่อจัดตั้งบริษัท อิโตคิ โมเดิร์นฟอร์ม จำกัด ในสัดส่วนถือหุ้นเท่ากัน 50:50 เพื่อขยายการทำตลาดเฟอร์นิเจอร์โมเดิร์นฟอร์มและอิโตคิทั้งในไทยและญี่ปุ่น ซึ่งเบื้องต้นจะเป็นการนำเข้าส่งออกเพื่อจำหน่ายในทั้ง 2 ประเทศร่วมกัน หลังจากนั้นจะร่วมกันขยายตลาดในประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม รวมถึงพม่าในอนาคตด้วย แต่อย่างไรก็ดีรายได้หลักของบริษัทในปัจจุบันยังพึ่งพิงรายได้ในประเทศ 95% และกว่า 80% เป็นลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์