WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

อาเซียนบิวตี้ ดันไทยสู่ฮับผลิตภัณฑ์ความงามอาเซียน

     บ้านเมือง : สมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางแห่งประเทศไทย จับมือยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จัดงานอาเซียนบิวตี้ 2015 งานแสดงศักยภาพอุตสาหกรรมความงามในไทยและอาเซียน ผลักดันสู่ศูนย์กลางผลิตภัณฑ์ความงามโลก มั่นใจผู้ประกอบการกว่า 8,000 รายตบเท้าร่วมงาน ภาพรวมธุรกิจยังเติบโต 8-10% ต่อปี

     นางเกศมณี เลิศกิจจา นายกสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย เปิดเผยว่า จากแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องในประเทศไทย สมาคมฯ ได้ร่วมมือกับบริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อจัดงานแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ด้านความงามภายใต้ชื่ออาเซียนบิวตี้ 2015 (ASEANbeauty 2015)

   โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 8-10 เมษายน 2558 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการไบเทค บางนา ซึ่งภายในงาน ผู้ผลิตจะนำแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำมาจัดแสดงกว่า 200 แบรนด์ จาก 15 ประเทศ และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 8,000 ราย ซึ่งผู้เข้าชมงานจะได้พบกับผู้แสดงสินค้าที่หลากหลายและงานสัมมนาเพื่อเพิ่มพูนความรู้ในการดำเนินธุรกิจ โดยสมาคมฯ พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการจัดงานแสดงสินค้าในครั้งนี้อย่างเต็มที่

    "สำหรับ งานอาเซียนบิวตี้ 2015 ทางสมาคมฯ มีความยินดีที่ได้เป็นผู้จัดงานร่วมกับยูบีเอ็ม เนื่องจากประเทศไทยพร้อมแล้วที่จะเป็นตัวแทนในการจัดงานแสดงสินค้าและสัมมนาด้านความงามที่มีความยิ่งใหญ่และสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะเป็นโอกาสในการที่จะได้พบผู้ผลิตและผู้ซื้อที่มีศักยภาพอย่างครบวงจร และยังจะมีการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับภาพรวมของอุตสาหกรรมความงามอีกด้วย"

     ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในผู้นำด้านอุตสาหกรรมความงามที่สำคัญระดับโลก โดยที่ตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทยมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน มูลค่ารวมของตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทยจะอยู่ที่ประมาณ 2.5 แสนล้านบาทต่อปี แบ่งเป็นในประเทศประมาณ 1.5 แสนล้านบาทและตลาดส่งออกประมาณ 1 แสนล้านบาท โดยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละ 8-10%

    "ในอดีตที่ผ่านมา ธุรกิจเครื่องสำอางเคยเติบโตถึงปีละ 25-30% ในช่วงที่ไม่มีผลกระทบทางด้านต่างๆ ทำให้เราเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมนี้ยังขยายตัวได้ โดยที่ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ เราเป็นผู้ผลิตเครื่องสำอางที่มีตลาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน และหากแยกเป็นรายสินค้า จะพบว่าเราส่งออกผลิตภัณฑ์ดูแลผมเป็นอันดับ 1 ของโลก และส่งออกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเป็นอันดับที่ 12 ของโลก นอกจากนี้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าให้กับผู้ผลิตแบรนด์ดังทั่วโลกมาแล้วมากกว่า 40 ปีเลยทีเดียว"

   นายกสมาคมฯ กล่าวต่อว่า หากพิจารณาในเรื่องของศักยภาพในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง จะพบว่าประเทศไทยมีความพร้อมอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของสมุนไพรที่สามารถนำมาพัฒนาเป็นวัตถุดิบได้มากกว่า 2 แสนชนิด จึงอยากเห็นการสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมจากทางภาครัฐ และการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับสากลก็จะช่วยยกระดับให้ผู้ประกอบการไทยได้เช่นเดียวกันเนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็น SME ที่ต้องการความช่วยเหลือหลายด้าน จึงมีการพัฒนา ผู้ประกอบการไปพร้อมๆ กับการอบรมการสกัดสมุนไพร ซึ่งช่วยในเรื่องการสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยมีผู้ประกอบการที่เป็น SME ในประเทศไทยถึง 99% และในอาเซียนมีมากถึง 96%

   เทรนด์ที่มาแรงมาขณะนี้คือลดเลือนริ้วรอยเนื่องจากมีประชากรที่เป็นผู้สูงอายุมากขึ้น สำหรับเทรนด์หน้าขาวก็ยังคงได้รับความนิยมในหมู่ที่อายุน้อยลงมาสัดส่วนตลาดหน้าขาว ลดริ้วรอย 30% ผม 15% สีผม 10% ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับริมฝีปาก ชำระร่างกาย 10% สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมส่งออกมากที่สุดถึง 40% คู่แข่งที่น่ากลัวขณะนี้คืออินโดนีเซีย เนื่องจากประชากรที่มากถึง 200 ล้านคนทำให้นายทุนอยากเข้าไปลงทุน เพราะจำนวนคนซื้อจะเยอะตามแต่ก็มีปัญหาเรื่องกฎหมายที่ผลิตที่ขายทั้งหมดต้องเป็นฮาลาล มากกว่า 90% ของประชากรเป็นมุสลิม ประเทศที่มีการส่งออกในประเทศอาเซียนมากถึง 27% อันดับ 1 ได้แก่ประเทศไทย รองลงมาคืออินโดนีเซีย ประเทศไทยส่งออกไปยังอาเซียน 27% ญี่ปุ่น 25% ยุโรป 7.7% ออสเตรเลีย 5% ภาพรวมเติบโตขึ้น

   ด้านนายเอ็ม กานดิ กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจอาเซียน บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า งานอาเซียนบิวตี้ 2015 เป็นงานแสดงสินค้าและสัมมนาด้านความงามสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย หน่วยงานภาครัฐ รวมไปถึงองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมด้านความงาม

   จากข้อมูลล่าสุด พบว่าประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกที่สำคัญในหลายประเทศ โดยตลาดหลักที่เป็นตลาดส่งออกได้แก่ประเทศญี่ปุ่น คิดเป็นสัดส่วน 21% อินโดนีเซีย 9% ฟิลิปปินส์และมาเลเซียเท่ากันที่ 8% ออสเตรเลีย 6% กัมพูชา 5% จีน-อังกฤษ-เวียดนาม-เมียนมาร์ เท่ากันที่ 4% และประเทศนอกเอเชีย อาทิ สหรัฐอเมริกาและยุโรป มีสัดส่วนรวมกัน 26%

   สำหรับ การจัดงานอาเซียนบิวตี้ 2015 ที่ยูบีเอ็มนำมาจัดในประเทศไทยเป็นครั้งแรก บริษัทจะใช้งบประมาณในการจัดงานกว่า 15 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ประกอบการตอบรับเข้าร่วมงานแล้วกว่า 95% ในปัจจุบัน และมั่นใจว่าการจัดงานดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการในประเทศไทยสามารถเดินหน้าขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องไปในอนาคต

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!