Details

Category: การตลาด

Published: Sunday, 15 March 2015 16:24

Hits: 2393

รายงานพิเศษ: โค้ชธุรกิจจิตอาสารวมพลังบ่มเพาะผู้ประกอบการรุ่นใหม่

    ไทยโพสต์ : บ่มเพาะประสบการณ์ด้านการขายผลิตภัณฑ์เวชสำอางมานานกว่า 20 ปี จนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เวชสำอางทั้งในประเทศและภูมิภาคเอเชีย กระทั่งวันนี้ ดร.แสงสุข พิทยานุกุล คลิกไอเดียสร้าง โรงเรียนบ่มเพาะธุรกิจ :  The Business Incubation School ในรูปแบบองค์กรไม่แสวงหากำไร ตอบโจทย์ธุรกิจขนาดกลางและย่อม

    โดยมีโค้ชธุรกิจขั้นเทพของเมืองไทย ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ, ดร.ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์,ชมพรรณ กุลนิเทศ,ดนัย จันทร์เจ้าฉาย และอาจารย์ธันยวัชร์ ไชยตระกูล อาสามาปั้นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้กลายเป็นนักธุรกิจร้อยล้านในอนาคต

    ล่าสุด เปิดรับสมัครนักศึกษาหลักสูตร 1 ปี และ 2 ปี ทั้งหลักสูตรไม่มีปริญญาและหลักสูตรมีปริญญา

    ดร.แสงสุข บอกว่า "ผมมีฝัน 2 อย่างในชีวิต คือ ผมอยากมีแบรนด์ที่เป็นโกลบอล และสร้างมหาวิทยาลัยที่โคลนนิงตัวผมเอง แล้วมีคนก๊อบปี้โมเดลนี้ไปใช้ เป็นโมเดลที่ว่า...ถึงคุณไม่ต้องรวยมาก่อนก็ทำธุรกิจให้อยู่สบายได้ จึงเกิดแรงบันดาลใจที่จะสร้างแบบ (Model) การศึกษาใหม่ The Business Incubation School หรือ โรงเรียนบ่มเพาะธุรกิจ เปิดเป็นการศึกษาทั้งแบบมีปริญญาและไม่มีปริญญา (Certificate Degree) โดยมีนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตัวจริง ทำหน้าที่เป็นครูและที่ปรึกษา ดำเนินการในรูปแบบขององค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ไม่มีค่าใช้จ่ายในระหว่างปีการศึกษา เพื่อทำให้ผู้ประกอบการทั้งขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME ที่หลายคนรู้จักมีความสามารถในการแข่งขันเชิงธุรกิจ"

   สำหรับ โค้ชธุรกิจที่มาทำหน้าที่เป็นครูและที่ปรึกษานั้น  ล้วนแล้วแต่ประสบความสำเร็จ ซึ่งตอบโจทย์สำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่อยากสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง หรืออยากเพิ่มศักยภาพในการบริหารธุรกิจของตนเอง

   สำหรับ โค้ชธุรกิจตัวจริงที่จะเข้ามาปั้นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ อย่าง ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเซีย พลัส บอกว่า "ในฐานะที่ผมมีประสบการณ์ทางด้านการเงินมากว่า 30 ปี มีโอกาสได้เป็นโค้ชนักธุรกิจมากมาย แต่ปัญหาที่พบคือ ผู้ประกอบการไทยเวลาทำงานมักไม่มีระบบ การเข้ามาเรียนในหลักสูตรนี้จะช่วยให้การประกอบธุรกิจมีระบบมากขึ้น เพราะทุกคนมีไอเดียในการทำธุรกิจที่ดีอยู่แล้ว ถ้าเราใส่เงินเข้าไป ใส่ระบบเข้าไป นักธุรกิจเหล่านี้จะสามารถระดมเงินทุนทำให้ธุรกิจเติบโตไปได้"

   ด้าน คุณชมพรรณ กุลนิเทศ ผู้บริหารไมเนอร์ มองหลักสูตรนี้ว่า "เป็นโปรเจกต์ที่ดีมาก เพราะการเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือการเรียนรู้จากของจริง หลักสูตรนี้สามารถทำให้นักเรียนที่เข้ามาเรียนสามารถทำธุรกิจจริงไปด้วย ได้เรียนรู้ไปด้วย ใช้งานได้ทันที บางครั้งไม่ใช่การเรียนในห้องเรียน แต่เป็นการที่เราได้แรงบันดาลใจจากนักธุรกิจใหญ่ๆ หลายคนที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนได้ การที่ได้ทุกอย่างไปพร้อมกัน น่าจะเป็นแรงผลักดันให้เขาประสบความสำเร็จในธุรกิจได้ดี"

   ด้าน ดร.ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ ผู้อำนวยการบริหาร ด้านพัฒนาธุรกิจเชิงกลยุทธ์ และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่/ประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น บอกว่า"นึกย้อนกลับไปสมัยวัยเด็ก ที่ตอนเรียนหนังสือเราก็อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง หลายคนพยายามเปิดบริษัทเพื่อเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะกับเด็กรุ่นใหม่ที่อยู่ในเจเนอเรชันวาย (Gen Y) คนรุ่นนี้จะเข้าสู่ยุคอี-คอมเมิร์ซจำนวนมาก จึงอยากให้เด็กรุ่นใหม่นำสิ่งดีๆ ไปสร้าง ผมเชื่อว่าถ้าได้มาโค้ชธุรกิจให้กับน้องๆ ที่เข้ามาเรียน จะสามารถทำให้เขาเป็นนักธุรกิจมืออาชีพที่ประสบความสำเร็จได้หากเขามีความมุ่งมั่นและตั้งใจ และจะได้ช่วยพัฒนาประเทศชาติด้วย"

    คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์  จำกัด มองว่า ในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการของ สกอ. เราเป็นสังคมที่อุดมปริญญา แต่เรากลายเป็นสังคมด้อยปัญญา สิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับตลาดแรงงานคือ เมื่อผลิตบัณฑิตแล้วไม่สามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้ทันที เพราะระบบการศึกษาของเราเน้นการท่องจำ เน้นทฤษฎีซะส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นทฤษฎีตะวันตกที่ไม่สามารถประยุกต์ใช้ได้ เด็กบางคนเรียนก็ไม่เข้าใจ ยกตัวอย่างขึ้นมาเขาไม่เห็นภาพ  การเรียนบริบทของต่างประเทศมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับสังคมวัฒนธรรมไทย สกอ.เองก็ต้องมีการปฏิรูปอย่างรวดเร็วที่สุด

   ความคิดที่จะมีสถาบันการศึกษาแบบนี้ ถ้าประสบความสำเร็จจะเป็นรูปแบบที่ดีต่อสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งเราต้องยอมรับว่า ปัจจุบันมหาวิทยาลัยไม่ได้เป็นสถาบันวิชาการอย่างเดียว แต่เป็นองค์กรธุรกิจด้วย คณะไหนมีความนิยมมากก็ตั้งคณะขึ้นมา จ้างอาจารย์เข้ามาสอน แต่ถามว่าตัวผู้สอนเองมีความรู้เพียงพอหรือไม่ ประเทศไทยเราต้องขับเคลื่อน ปลายปีนี้จะเข้าสู่ AEC แล้วด้วย สถาบันการศึกษาที่ดีประเทศที่เจริญต้องเน้น 3 ฐาน คือ ฐานกาย ฐานจิต และฐานความคิด แต่เราเน้นให้ความคิดอย่างเดียว เด็กต้องลองทำธุรกิจจริงๆ แล้วมาเรียนรู้กับนักธุรกิจตัวจริง ทำให้เด็กๆ รู้จริง เมื่อรู้จริงก็จะก้าวเข้ามาสู่การรู้จำและรู้แจ้ง

   ปิดท้ายด้วยนักการตลาดฝีปากกล้า ธันยวัชร์ ไชยตระกูลบอกว่า "ผมสอนทั้งมาร์เก็ตติง แบรนดิง แต่ตอนนี้ไม่อยากสอนเพราะเด็กไม่อยากเรียน เราก็ไม่รู้จะสอนไปเพื่ออะไร เด็กที่มาเรียนก็ไม่รู้จะเรียนไปเพื่ออะไร เพราะบางคนก็ไม่ได้อยากมีธุรกิจ บางคนมาเรียนเพื่อรับปริญญา เราเลยรู้สึกว่าอยากสอนให้กับเด็กที่จบไปแล้วเป็นผลผลิต จบไปเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือทำให้ประเทศก้าวหน้า

    ผมชอบที่สถาบันนี้ไม่จบปริญญาก็เรียนได้ มีปริญญาก็เรียนได้ เด็กรุ่นนี้ ต้องการประสบความสำเร็จ รวยเร็ว มั่งคั่ง ทุกคนคิดแบบนี้หมด แต่ไม่ใช่ว่ามาเรียนที่นี่แล้วจะสบาย มีโค้ชนักธุรกิจตัวจริงแล้วไม่ต้องทำอะไร ที่นี่มีหมดแล้ว ทั้ง ดิน น้ำ ลม แดด ปุ๋ย แค่คุณหว่านเมล็ดผลผลิตก็งอกเงยทันที  ผมคิดว่าคนที่มาเรียนที่นี่จะประสบความสำเร็จทางธุรกิจแน่นอน" .