WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

OKMDOKMD แนะผู้ประกอบการโอท็อปเร่งพัฒนา สินค้าของใช้-ตกแต่งบุกตลาดญี่ปุ่น

     แนวหน้า : นายศิริชัย เลิศศิริมิตร ประธานที่ปรึกษาสมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทย และของตกแต่งบ้าน และผู้เชี่ยวชาญสำหรับงานวิจัยแนวโน้มความต้องการผลิตภัณฑ์ OTOP ของตลาดในประเทศและต่างประเทศ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาพรวมการส่งออกในกลุ่มของใช้ ของตกแต่ง และของที่ระลึก ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอย่างหนัก ส่งผลให้ยอดการสั่งซื้อในปัจจุบันหดตัวลงอย่างมาก

   โดยข้อมูลจากสำนักพัฒนาการค้าและธุรกิจไลฟ์สไตล์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.) กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ในปี 2557 ที่ผ่านมา สินค้าและผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน กลุ่มเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและในครัว กลุ่มของขวัญ ของชำร่วยและของตกแต่งบ้าน และกลุ่มของเล่น มีมูลค่าการส่งออกทั่วโลกรวมกัน 2,572.57 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 80,000 ล้านบาท ลดลงจากยอดส่งออกในปี 2556 ประมาณ 20,000 ล้านบาท ที่ผ่านมาทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงไม่อาจนิ่งเฉยได้ โดยพยายามดำเนินการทุกวิถีทาง เพื่อพลิกฟื้นสถานการณ์การส่งออกให้ดีขึ้น ลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ให้ได้มากที่สุด

   ทั้งนี้ แม้การเพิ่มยอดส่งออกถือเป็นเรื่องท้าท้ายที่ต้องเร่งดำเนินการ และจากผลการศึกษาแนวโน้มความต้องการผลิตภัณฑ์ OTOP ของตลาดในประเทศและต่างประเทศโดย OKMD ชี้ให้เห็นว่าผู้ประกอบการไทยยังคงมีโอกาสในการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ส่งออกไปขายยังตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น หากสามารถพัฒนาปรับปรุงคุณภาพและดีไซน์ได้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะตลาดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงสุด เนื่องจากผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นให้การยอมรับสินค้าจากประเทศไทยค่อนข้างมาก เพราะชื่นชอบดีไซน์และเชื่อมั่นคุณภาพของสินค้า เมื่อเทียบกับคู่แข่งสำคัญอย่างประเทศจีน แม้ราคาจะถูกกว่า 3-5 เท่า และประเทศไทยยังได้รับการยอมรับในแง่ของการเป็นแหล่งต้นกำเนิดสินค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆในท้องตลาด จากผู้บริโภคในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

   นายศิริชัย กล่าวว่า ในปี 2557 พบว่าสินค้าและผลิตภัณฑ์กลุ่มเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน กลุ่มเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและในครัว กลุ่มของขวัญ ของชำร่วยและของตกแต่งบ้าน และกลุ่มของเล่น มีมูลค่าการส่งออกไปขายยังประเทศญี่ปุ่นรวมกันสูงถึง 384.03 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 12,000 ล้านบาท แม้จะเป็นยอดส่งออกที่ลดลงตามปัจจัยของภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศญี่ปุ่นในภาพรวม แต่ตลาดญี่ปุ่นก็ยังคงเป็นจุดมุ่งหมายสำคัญที่หากผู้ประกอบการกลุ่มสินค้าและผลิตภัณฑ์ดังกล่าวที่มีอยู่ทั่วประเทศไทยประมาณ 5,565 ราย ซึ่งส่วนใหญ่กว่า 95% หรือประมาณ 5,200 ราย เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม สามารถพัฒนาสินค้าได้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคในประเทศญี่ปุ่น ก็จะนำมาซึ่งยอดการส่งออกและรายได้ที่เพิ่มขึ้นในภาพรวม เนื่องจากผู้บริโภคในตลาดญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุประมาณ 30% ของประชากร มีกำลังซื้อสูงมาก

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!