Details

Category: การตลาด

Published: Thursday, 02 July 2015 23:34

Hits: 3874

ร้านนายอินทร์ เปิดเกมรุกผู้นำธุรกิจค้าปลีกหนังสือทุ่มงบกว่า 30 ล้านปรับโฉมครั้งใหญ่ สร้างไลฟ์สไตล์เพลส

    บ้านเมือง : ร้านนายอินทร์เปิดกลยุทธ์เชิงรุก ฉลอง 22 ปี ทุ่มงบ 30 ล้านบาท ปรับโฉมร้านรูปแบบไลฟ์สไตล์เพลสให้ครบ 100 สาขา ภายในปี 2559 คาดจะสามารถดึงลูกค้าทุกกลุ่มให้เพิ่มขึ้นได้กว่า 30% เพิ่มบริการใหม่บรรณารักษ์ส่วนตัว ที่ร้านนายอินทร์ตั้งใจนำเสนอเป็นที่แรกและที่เดียว ซึ่งนับเป็นการปฏิวัติวงการธุรกิจค้าปลีกหนังสือคือ บุ๊คส์เมท (Book Mate) เพื่อนรักนักอ่าน

    นายระพี อุทกะพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานค้าปลีก บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า การฉลองครบรอบ 22 ปีร้านนายอินทร์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ร้านนายอินทร์ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ามาโดยตลอด และเพื่อก้าวสู่อนาคตด้วยการเป็นผู้นำของตลาดค้าปลีกหนังสือ ร้านนายอินทร์จึงสร้างประสบการณ์ใหม่เพื่อมอบแก่ลูกค้าด้วยการทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาทแปลงโฉมร้านหนังสือนายอินทร์ ให้เป็นแหล่งแฮงเอาท์แห่งใหม่ของคนรุ่นใหม่ในรูปแบบของไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'ใครๆ ก็อ่านหนังสือ ที่ร้านนายอินทร์' ที่พรั่งพร้อมด้วยสินค้าและบริการที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร

    เนื่องจากปัจจุบันการใช้ชีวิตคนในเมืองมีความเปลี่ยนแปลง ผู้คนโหยหา'สังคมใหม่' ของตนเอง สังคมสะท้อนความเป็นตัวตน นอกเหนือจากบ้าน โรงเรียน หรือที่ทำงานเท่านั้น แต่ยังมีอีกแห่งที่เป็นบ้านหลังที่ 3 หรือ 'third place' ที่มีความหมายถึง แหล่งพักพิงระหว่างวัน ระหว่างบ้าน โรงเรียน หรือที่ทำงาน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เชื่อมโยงกับกระแส third place อย่างชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ จากผลการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในแง่การใช้ชีวิตนอกบ้านแล้วพบว่าผู้บริโภคยุคใหม่ใช้เวลาอยู่นอกบ้านมากขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันถือว่ามากกว่า 13 ชั่วโมงต่อวัน (ข้อมูลจากบริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย)

   ด้วยเพราะเหตุนี้ ร้านนายอินทร์จึงมุ่งสร้างความเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้าเพื่อให้ทุกคนนึกถึงร้านนายอินทร์เป็นที่แรกของ การใช้เวลานอกเหนือจากบ้าน โรงเรียนหรือที่ทำงาน โดยเริ่มกลยุทธ์เชิงรุกตั้งแต่การให้บริการใหม่ที่ร้านนายอินทร์ตั้งใจนำเสนอเป็นที่แรกและที่เดียว ซึ่งนับเป็นการปฏิวัติวงการธุรกิจค้าปลีกหนังสือคือ บุ๊คส์เมท (Book Mate) เพื่อนรักนักอ่าน ทำหน้าที่คล้ายบรรณารักษ์ส่วนตัว ที่จะเป็นผู้ให้คำแนะนำ-ปรึกษาเกี่ยวกับหนังสือประเภทต่างๆ อย่างละเอียด รวมถึงค้นหาหนังสือที่ต้องการ มีความเอาใจใส่ในลักษณะนิสัยของนักอ่าน ว่าชอบอ่านหนังสือประเภทใดจากประวัติการซื้อ เพื่อที่จะสามารถเป็นคู่คิดเกี่ยวกับหนังสือได้อย่างรู้ใจนักอ่าน สามารถอธิบายข้อดีของแต่ละเล่ม วิเคราะห์ความเหมาะสมของหนังสือให้สอดคล้องกับนักอ่านมากที่สุด

   นับเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากพนักงานประจำร้านหนังสือทั่วไปที่เพียงแค่ค้นหาหนังสือว่าอยู่ตำแหน่งใดเพียงเท่านั้น ซึ่งบุ๊คส์เมทภายในร้านนายอินทร์ ได้รับการคัดเลือกจากอุปนิสัยพื้นฐานที่มีใจรักการอ่านเป็นนิตย์ และใฝ่หาความรู้รอบตัวด้วยการอ่านอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งยินดีที่เปิดกว้างรับเรื่องราวใหม่ๆไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ที่สำคัญ บุ๊คส์เมททุกคนของร้านนายอินทร์ ได้รับการฝึกอบรบหลักสูตร "ความรู้พื้นฐานและการใช้หนังสือภาพสำหรับเด็ก" จากสาขาวิชาวรรณกรรมสำหรับเด็ก ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

    นอกจากนี้ ยังรังสรรค์โซนพิเศษภายในร้าน โดยแบ่งออกเป็น 3 โซนดังนี้ มุมเด็ก (Kids Station) คือโซนแห่งการเสริมสร้างพัฒนาการเด็กในช่วงอายุ 0-6 ปี เป็นพื้นที่ซึ่งเน้นการเสริมสร้างทักษะการอ่านซึ่งประกาศศาลล้มละลายกลางเป็นพื้นฐานสำคัญในการเรียนรู้ โดยจัดหนังสือสำหรับเด็ก พร้อมของเล่นและสิ่งประดิษฐ์เสริมการเรียนรู้ (Education Toys) ที่จะช่วยเสริมทักษะการเรียนรู้และพัฒนาการของเด็กได้

    ทั้งยังมีพนักงาน Book Mate ที่ได้รับการอบรมจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาวิชาวรรณกรรมสำหรับเด็ก ซึ่งสามารถให้คำแนะนำกับพ่อแม่มือใหม่ ในเรื่องการเลือกซื้อหนังสือ หรือของเล่นที่เหมาะสมกับเด็กในแต่ละช่วงปี ที่ช่วยให้เกิดความเข้าใจในเรื่องราวที่อ่านได้อย่างชัดเจน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในวงการร้านหนังสือเมืองไทย

  โดยผู้ปกครองสามารถมีส่วนร่วมกับน้องๆ ในการอ่าน เกิดเป็นความรักความผูกพันกับคนในครอบครัวได้อีกด้วย โดยมุมเด็กจะมีทั้งสิ้น 60 สาขาทั่วประเทศ และขยายเป็น 100 สาขาในปลายปีนี้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับอัตราการเกิดของเด็กไทยในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งมียอดรวมกว่า 400,000 คนต่อปี (ข้อมูลจากสถาบันวิจัยประชากรและสังคม (นางพรทิพย์ วัชรชัยโสภณสิริ)มหาวิทยาลัยมหิดล) โดยร้านนายอินทร์ตั้งเป้ายอดหนังสือเด็กและของเล่นเสริมการเรียนรู้ ปี 2558 โตกว่า 40 ล้านบาทจากยอดขายทั้งหมด

    มุมติวเตอร์ (Tutor Zone) โซนแห่งการแบ่งปันความรู้ ที่ทางร้านนายอินทร์เปิดโอกาสให้น้องๆ ได้ใช้พื้นที่พร้อมอุปกรณ์ในการอ่านหนังสือเป็นการติวเข้มในวันหยุด และเวลาว่างระหว่างเพื่อน หรือครูและลูกศิษย์ เป็นต้น สร้างพื้นที่ของร้านนายอินทร์ให้เป็นแหล่งนัดพบสำหรับน้องๆ ทุกระดับชั้นเรียนที่ต้องการหาพื้นที่ในการติวการเรียนการสอนที่สะดวกสบาย ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งจะประเดิมที่สาขาซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ เป็นต้นแบบแห่งแรก ก่อนกระจายไปยังสาขาอื่นๆ ในอนาคต โดยมีทิศทางในการขยายสาขาในหัวเมืองใหญ่ที่ตั้งของแหล่งสถาบันกวดวิชา และศูนย์การเรียนรู้ เพื่อสร้างความสะดวกสบาย ตั้งเป้ายอดหนังสือคู่มือแบบเรียนโตกว่า 10 ล้านบาทภายในปี 2558

    มุม How To Corner ศูนย์รวมหนังสือเชิงจิตวิทยา หนังสือที่เป็นแนวคิด หรือกลยุทธ์เชิงการทำธุรกิจ ตลาด หรือหุ้น เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถเรียนรู้เทคนิค ขั้นตอน และวิธีการในการปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและประสบความสำเร็จในเป้าหมายที่ตนคาดหวังไว้ ทางร้านนายอินทร์ มุ่งเป็นผู้นำศูนย์รวมหนังสือด้านนี้ เพราะปัจจุบันกลุ่มลูกค้า GEN-Y และ GEN-Z รวมกันมีจำนวนเกือบ 50% ของประชากรไทย หรือมากกว่า 30 ล้านคนทั่วประเทศ ซึ่งธรรมชาติของคน 2 กลุ่มนี้ ให้ความสนใจในการเรียนรู้การทำธุรกิจต่างๆ ด้วยตนเองมากขึ้น

    ร้านนายอินทร์มั่นใจยอดขายหนังสือประเภทนี้โตขึ้นมากกว่า 15% หรือเพิ่มขึ้นกว่า 20 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2558 โดยร้านนายอินทร์ตั้งเป้าปรับโฉมสาขาในรูปแบบไลฟ์สไตล์เพลสให้ครบ 100 สาขาภายในปี 2559 คาดจะสามารถดึงลูกค้าทุกกลุ่มให้เพิ่มขึ้นได้กว่า 30%

    นอกจากการปรับภาพลักษณ์หน้าร้าน เพื่อดึงลูกค้าทุกกลุ่มให้เพิ่มขึ้น ร้านนายอินทร์ยังเพิ่มกลยุทธ์เชิงรุก ด้วยโปรเจกต์ 'ร้านนายอินทร์สัญจร' คอนเซ็ปต์ของโปรเจกต์นี้ คือการจัดมหกรรมการขายหนังสือ กระจายตัวไปพื้นที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองตามจังหวัดใหญ่ๆ เป็นการเข้าหากลุ่มลูกค้าทุกประเภทมากขึ้น แทนที่เราจะนั่งรอลูกค้าเข้าร้าน เราพลิกเกมเดินหน้ารุกเข้าหาลูกค้ากลุ่มต่างๆ แทน และหนังสือและสินค้าที่นำไปขายแต่ละสถานที่ ก็จะมีการปรับเพื่อเข้ากับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มที่เราไป ซึ่งทำให้หนังสือที่เรานำไปเป็นที่น่าสนใจและเพิ่มยอดขายให้กับกิจกรรมประเภทนี้ของเราอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปีถึง 100 ล้านบาท ปัจจุบันได้มาเกือบ 50% แล้วจากเป้า

     นอกจากนี้ร้านนายอินทร์ ยังสร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกในการผสานโลกยุคดิจิตอลเข้ากับโลกแห่งหนังสือด้วย'นายอินทร์ ดิจิทัช' (Naiin DigiTouch) บริการด้านออนไลน์ด้วยตัวคุณเองผ่านเครื่องอัตโนมัติแบบ Touch Screen ที่ติดตั้งภายในร้าน ด้วยการบริการค้นหาข้อมูล และพรีวิวหนังสือก่อนการตัดสินใจได้เป็นอย่างดี โดยนักอ่านสามารถทำการสั่งซื้อหนังสือได้ด้วยตัวเองทันที โดยไม่ต้องรอคิว นอกจากนี้ยังพ่วงบริการจัดส่งถึงบ้าน ถือเป็นการบริการที่เน้นความสะดวกรวดเร็ว สำหรับคนที่มีเวลาจำกัด ไม่เพียงเท่านั้นเพื่อทันกับยุคแห่งดิจิตอล

     ร้านนายอินทร์ยังได้สร้างสรรค์ แอพพลิเคชั่น'Naiin Pann' (นายอินทร์ ปัณณ์) โลกแห่งหนังสือออนไลน์ ในรูปแบบ e-Book และ e-Magazine ที่มีมากกว่า 15,000 เล่ม จากกว่า 400 สำนักพิมพ์ชื่อดัง ให้เลือกอ่านได้อย่างจุใจ โดยสามารถดาวน์โหลดฟรีได้ทั้งในระบบ Android, iOS และ PC รวมถึงการพัฒนาเว็บไซต์ Naiin.com ให้มีความทันสมัย สามารถอ่านหนังสือออนไลน์ และเลือกซื้อหนังสือได้อีกด้วย เป็นการนำเสนอทุกบริการให้เข้าใกล้ชีวิตกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่มากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถรุกตลาดเพิ่มขึ้นได้อีกกว่า 20% จากยอดขายปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันเรามีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ 10% เป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 20,000 ล้านบาท ครองตำแหน่งอันดับ 2 ของตลาดค้าปลีกหนังสือ คาดว่า จะมีส่วนในการดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้เวลากับร้านนายอินทร์มากขึ้น

     และสะท้อนความเป็นตัวตนของคนรุ่นใหม่ ที่ร้านนายอินทร์ตั้งใจสร้างไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์นี้แก่ลูกค้า และก่อให้เกิดรายได้เพื่อส่วนแบ่งตลาด และการก้าวสู่ความเป็นหนึ่งของธุรกิจค้าปลีกหนังสือของร้านนายอินทร์ได้ในอนาคต รวมถึงการเปิดตัว Line Official 'ร้านนายอินทร์' ให้ผู้สนใจได้ดาวน์โหลดฟรี เพื่อตอกย้ำว่าเราจะเป็นเพื่อนนักอ่านในทุกที่ทุกเวลา และเตรียมพบกับ Line Sticker 'น้องอินทร์' ที่จะสร้างความตื่นเต้นให้กับทุกคนได้เร็วๆ นี้ คาดจะเป็นอีกช่องทางในการสื่อสารการตลาดที่เข้าถึงใจลูกค้าทุกคนเป็นอย่างดี และสร้างความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งระหว่างร้านนายอินทร์กับนักอ่านได้อย่างมากในอนาคต มั่นใจมียอดดาวน์โหลด Line Sticker 'น้องอินทร์' มากกว่า 1 ล้านคน หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการ คาดว่าจากการปรับกลยุทธ์ดังกล่าวจะสามารถสร้างยอดขายกว่า 300 ล้านบาทจากร้านนายอินทร์ 200 สาขาทั่วประเทศ