- Details
- Category: ทางบก-ทางน้ำ
- Published: Monday, 22 January 2024 12:41
- Hits: 10035
ชมหุบเขาดอกนางพญาเสือโคร่ง ปีละครั้งเท่านั้น! กรมทางหลวงชวนสัมผัสโลกสีชมพู ณ ภูลมโล จ.พิษณุโลก
กรมทางหลวง โดยแขวงทางหลวงพิษณุโลกที่ 2 (วังทอง) เปิดเผยว่าปัจจุบัน ภูลมโล ซึ่งเป็นหุบเขาในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 3 จังหวัดด้วยกัน ประกอบด้วย จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดเลย
ซึ่งที่ยอดภูลมโลจะสามารถมองเห็นได้ทั้ง 3 จังหวัด และมีสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ ภูลมโล ได้แก่ จุดชมดอกนางพญาเสือโคร่ง (หรือซากุระเมืองไทย) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีต้นนางพญาเสือโคร่งขึ้นเต็มทั่วหุบเขา บนพื้นที่มากกว่า 1,200 ไร่ ปัจจุบันได้เริ่มออกดอกบานสะพรั่งแล้วทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาชมเป็นจำนวนมาก ในปีนี้ดอกนางพญาเสือโคร่งจะบานประมาณกลางเดือนมกราคมเป็นต้นไป (ดอกจะบานเต็มที่ประมาณ 1 สัปดาห์) นอกจากนี้ยังมีต้นเมเปิ้ลซึ่งใบจะเปลี่ยนเป็นสีแดงให้นักท่องเที่ยวได้ชมอีกด้วย
แขวงทางหลวงพิษณุโลกที่ 2 (วังทอง) จึงได้เตรียมพร้อมในการอำนวยความสะดวกและปลอดภัยแก่ผู้เดินทางไปท่องเที่ยว โดยได้ดูแลเส้นทางให้พร้อมใช้งาน ดำเนินการติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำต่างๆ และปรับปรุงภูมิทัศน์สองข้างทางเพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกรวดเร็วและปลอดภัย พร้อมให้บริการแนะนำเส้นทางแก่นักท่องเที่ยวด้วย
สำหรับ เส้นทางที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ภูลมโลนั้น สามารถใช้เส้นทางได้ดังนี้ (1) จากจังหวัดพิษณุโลก ใช้ทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่สามแยกบ้านแยง เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2013 ไปอำเภอนครไทย ก่อนถึง อ.นครไทย ให้เลี้ยวขวาไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ระยะทางจนถึงที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 125 กิโลเมตร
จอดรถที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและที่อุทยานมีรถบริการสำหรับการเข้าชม ระยะทางเข้าไปชมหุบเขาดอกนางพญาเสือโคร่งประมาณ 14 กม. หรือ (2) จากจังหวัดเพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 มุ่งหน้า อ.หล่มสัก จากนั้นเบี่ยงซ้ายเข้าถนนเลี่ยงเมืองก่อนถึงสี่แยกหล่มสัก จะเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 12 จากนั้นถึงสามแยกให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2372
ขับตรงไปจนถึงทางแยกซ้ายมือขึ้นภูทับเบิกเป็นทางหลวงหมายเลข 2331 เป็นทางลาดชันและทางโค้งราว 18 กิโลเมตร จนถึงด่านเก็บเงินค่าเข้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จากนั้นเดินทางต่อไป ยังบ้านร่องกล้า ที่อยู่ภายในอุทยานฯ อีก 21 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งสิ้น 96 กิโลเมตร
ทั้งนี้ กรมทางหลวงขอความร่วมมือผู้ใช้ทางโปรดขับรถด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามป้ายเตือนและป้ายแนะนำ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง และใส่ใจสิ่งแวดล้อม หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)