WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

'ประจิน'ขู่แท็กซี่ไม่ปรับปรุงบริการ หมดสิทธิขึ้นค่าโดยสาร 13%

    แนวหน้า : 'ประจิน'ขู่แท็กซี่ไม่ปรับปรุงบริการ หมดสิทธิขึ้นค่าโดยสาร 13% แฉปั้มโกง'แอลพีจี-เอ็นจีวี'

    พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ประเด็นของการปรับขึ้นราคาอัตราค่าโดยสารของแท็กซี่นั้น จะต้องมีการปรับราคาขึ้นอย่างแน่นอน แต่ได้มีการตั้งเงื่อนไขในการขอขึ้นอัตราค่าโดยสาร โดยเงื่อนไขคือให้รถแท็กซี่มีการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ ปรับปรุงมาตรฐานของสภาพรถ มารยาทในการขับขี่ และบรรกาศทั่วไปของเรื่องรถให้ดีก่อน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาการปรับขึ้นค่าโดยว่าจะปรับเกณฑ์ต่ำสุดให้ได้เท่าไหร่ โดยให้อยู่ในเกณฑ์ที่ผู้ประกอบการแท็กซี่สามารถใช้ครองชีพต่อไปได้ว่าจะอยู่ประมาณเท่าไหร่

     ในส่วนของการเริ่มมิเตอร์ยังคงไว้เท่าเดิมไว้ที่ 35 บาท  แต่จะขึ้นในช่วงของ 10 กม.อีกเล็กน้อยประมาณ 8-13% ส่วนในช่วงรถติดและจอดนิ่งเพิ่มขึ้นอีกนาทีละ 0.50 บาท จากนาทีละ 1.50 บาท เป็นนาทีละ 2 บาท ให้อัตราค่าโดยสารสะท้อนต้นทุนเป็นจริงมากขึ้น

     “หากผู้ประกอบแท็กซี่ไม่ได้ทำการปรับปรุงพัฒนาการให้บริการก็จะไม่ได้รับการพิจารณา แต่หากได้ทำการปรับปรุงจนอยู่ในเกณฑ์ดีแล้วก็จะมีการพูดคุยและได้รับการดูแลเพื่อที่จะให้ผู้ประกอบการอยู่ได้แต่ไม่กระทบกับผู้ใช้บริการ ซึ่งตามกติกาที่ให้ไว้คือ 45 วัน และผ่านมาแล้ว 15 วัน จะต้องมีการปรับมาตรฐานครั้งที่ 1 จากนั้นทางกระทรวงจึงจะสามารถยินยอมให้มีการขึ้นราคาได้ในช่วงแรกที่ประมาณ 8% และเมื่อผ่านอีก 6 เดือนแล้วจากที่ได้รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนผู้ใช้บริการว่ามีความพึงพอใจก็จะขยับปรับให้อีกไม่เกิน 13%”

   ก่อนหน้านี้ กระทรวงคมนาคม คาดว่าจะมีการปรับขึ้นประมาณเดือนธ.ค.2557

    ด้าน นายจรินทร์ สุทธนารักษ์ ผู้อำนวยการสำนักชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ทางสำนักชั่งตวงวัดจึงได้เพิ่มความถี่ในการออกตรวจความเที่ยงตรงของหัวจ่ายก๊าซบ่อยครั้งขึ้น หลังจากที่ทางรัฐบาลมีนโยบายในการปรับโครงสร้างพลังงาน ทั้งราคาก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวี ประกอบกับที่ผ่านๆ มา ในช่วง 4-5 เดือนก่อน มักได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก ว่ามีการเติมก๊าซแล้วได้ไม่เต็มมูลค่า ซึ่งส่วนใหญ่จะพบมากในแถบปริมณฑล โดยหลังตรวจสอบก็พบว่าส่วนใหญ่เป็นการทุจริตของลูกจ้างในสถานีบริการหรือปั๊มก๊าซ ซึ่งทางปั๊มได้ลงโทษ คือ การไล่ออก เมื่อถูกตรวจสอบพบแล้ว

     “หลังจากเราออกตรวจสอบเข้มข้นขึ้น และบ่อยครั้งขึ้น ทำให้สถานการณ์เริ่มเข้าสู่ปกติ แตาการตามจับเรื่องเหล่านี้ค่อนข้างยาก จึงอยากแนะนำให้ประชาชนตรวจสอบที่มิเตอร์ก่อนเติมก๊าซทุกครั้ง ให้ดูตัวเลขก่อนเติมให้เป็น 0 บาทก่อน และหากสงสัยสามารถสอบถาม และแจ้งมายังสายด่วนของกรมได้ที่ 1569”

     ทั้งนี้ กรมการค้าภายในยังได้มีโครงการน้ำมันเต็มลิตร ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองมาตรฐานให้แก่ปั๊มน้ำมัน ทั้งมาตรฐานด้านการเติมน้ำมันเต็มลิตร ความสะอาดของห้องน้ำ เพื่อเป็นการส่งเสริมปั๊มน้ำมันด้านบริการที่ดีแก่ประชาชน

    "เมื่อปั๊มเหล่านี้ได้รับตราสัญลักษณ์ของกรมในโครงการดังกล่าว ประชาชนก็สามารถเชื่อมั่นได้ว่ามีมาตรฐานที่ดี" นายจรินทร์ กล่าว

กรมการขนส่งทางบก ติวเข้มผู้ประกอบการรถแท็กซี่ก่อนปรับค่าโดยสารธ.ค.นี้

    นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมผู้ประกอบการรถแท็กซี่ และตัวแทนคนขับรถแท็กซี่ส่วนบุคคล เพื่อให้ผู้ประกอบการรับทราบแนวทางการพัฒนาคุณภาพบริการรถแท็กซี่มิเตอร์ทั้งด้านตัวรถและคนขับ ก่อนการปรับอัตราค่าโดยสาร

    ในส่วนของอัตราค่าโดยสารใหม่นั้น เป็นการปรับเพื่อให้สอดคล้องและสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยให้ความเป็นธรรมทั้งกับผู้ใช้บริการ ผู้ประกอบการรถแท็กซี่และคนขับรถแท็กซี่ส่วนบุคคล โดยได้มีการวิเคราะห์จากปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทุกด้าน เช่น ค่าแรงคนขับ, ค่าตัวรถ/ค่าเช่า, ค่าเชื้อเพลิง CNG, ค่าซ่อมบำรุงรักษารถและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งคาดว่าอัตราค่าโดยสารใหม่นี้จะสร้างความเป็นธรรมและช่วยให้กลไกทางการตลาดสามารถพัฒนาการให้บริการรถแท็กซี่ต่อไปอย่างยั่งยืน

     ทั้งนี้ จะแบ่งการปรับอัตราค่าโดยสารเป็น 2 ระยะ โดยในระยะที่ 1 รถแท็กซี่ทุกคันต้องผ่านการตรวจสอบและประเมินคุณภาพตัวรถในเบื้องต้นก่อน และจะมีการประเมินผลความพึงพอใจของประชาชนในการใช้บริการรถแท็กซี่ เพื่อประกอบการพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารระยะที่ 2 ต่อไป

   "กรมขนส่งฯ ได้สรุปโครงสร้างอัตราค่าโดยสารใหม่ให้พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคมแล้ว เพื่อลงนามกฎกระทรวงประกาศอัตราใหม่ จากนั้นจะลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาก่อนจึงจะมีผลบังคับใช้ คาดว่าจะใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ประมาณเดือนธันวาคม แต่ยังไม่สามารถระบุวันที่ได้"

    ในระหว่างนี้ กรมขนส่งฯ จะทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการในเรื่องการปรับคุณภาพการบริการและการการปรับจูนมิเตอร์ใหม่ โดยรมว.คมนาคมได้มอบหม่ยให้กรมขนส่งฯศึกษารายละเอียดและจำนวนแท็กซี่ที่เหมาะสมกับการให้บริการอีกครั้ง เนื่องจากปัจจุบันแท็กซี่ในระบบมีกว่า 1 แสนคัน แต่ยังพบว่าในบางจุดประชาชนต้อรอนานบางจุดมีรถวิ่งมากเกินไป ซึ่งจะได้ข้อสรุปต้นปี 2558

    สำหรับ โครงสร้างใหม่จะปรับค่าโดยสารขึ้นประมาณ 13% จากปัจจุบัน โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง ในช่วงแรกปรับขึ้น 7-8 % โดยอัตราเริ่มต้นแรกเข้า กม.0-2 ที่ 35 บาทเท่าเดิม และปรับลดระยะทางจากเดิม กม.2-12 คิดค่าโดยสารที่ กม.ละ 5 บาท เป็น กม.ที่ 2-10 คิดค่าโดยสารที่กม.ละ 6 บาท หรือปรับขึ้น 1 บาท (โดยระยะที่ 1 หรือในช่วง 6 เดือนแรก จะปรับขึ้นเป็น กม. ละ 5.50 บาทก่อน) ส่วนช่วงรถติดหยุดนิ่งหรือเคลื่อนตัวต่ำกว่า 6 กม./ชม.จะปรับขึ้นค่าโดยสารจากเดิม 1.50 บาท/กม. เป็น 2 บาท/ กม.

   ด้านการตรวจมาตรฐานคุณภาพบริการรถแท็กซี่มิเตอร์นั้น จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.นี้ ในระยะที่ 1 จะเริ่มต้นจากการตรวจมาตรฐานคุณภาพตัวรถที่ใช้ในการให้บริการ อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยต้องมีสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน แอร์ต้องเย็นทั่วถึง ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกตำแหน่งที่นั่งและพร้อมใช้งาน เบาะที่นั่ง ไม่ชำรุด ติดบัตรประจำตัวทั้งด้านหน้ารถและเบาะหลังรถ ไฟหน้า ไฟท้าย ยางรถต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ สภาพภายในและภายนอกต้องสะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็นอับ หลังจากการตรวจสอบแล้วกรมการขนส่งทางบกจะออกเอกสารผ่านมาตรฐาน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการนำรถเข้าสู่กระบวนการปรับมาตรค่าโดยสารต่อไป แต่หากไม่ผ่านก็ต้องนำตัวรถไปแก้ไขให้สมบูรณ์ภายใน 15 วัน และนำกลับมาตรวจสอบอีกครั้ง

   ทั้งนี้ รถที่ผ่านมาตรฐานจะดำเนินการ ปรับมาตรค่าโดยสารและต้องนำรถเข้ารับการตรวจสอบเพื่อซีลตะกั่วที่มาตรค่าโดยสารจากกรมการขนส่งทางบก ก่อนออกสติ๊กเกอร์รับรองคุณภาพ เพื่อแสดงถึงการผ่านการตรวจมาตรฐานคุณภาพบริการรถแท็กซี่และใช้อัตรา ค่าโดยสารใหม่ในระยะที่ 1

   สำหรับ ในระยะที่ 2 กรมการขนส่งทางบกจะตรวจประเมินการให้บริการของแท็กซี่ ผู้ขับรถแท็กซี่ต้องมีใบอนุญาตขับรถสาธารณะทุกคน แต่งกายสุภาพ สะอาด ไม่ปฏิเสธผู้โดยสารและต้องใช้มาตรค่าโดยสารทุกครั้ง ในส่วนของผู้ประกอบการ จะต้องจัดส่งประวัติผู้ประจำรถทันทีและทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง ต้องไม่ให้ผู้ไม่มีใบอนุญาตขับรถแท็กซี่มาขับรถ และที่สำคัญต้องดูแลสภาพรถให้พร้อมใช้งาน มีอุปกรณ์ ส่วนควบถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด

  อย่างไรก็ตาม กรมการขนส่งทางบกจะตรวจสอบประเมินคุณภาพบริการรถแท็กซี่มิเตอร์อย่างต่อเนื่องและจริงจังด้วยการจัดชุดปฏิบัติการลงพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า ย่านชุมชนที่มีการจราจรหนาแน่นชานเมือง และสถานีขนส่งผู้โดยสาร รวมทั้งเปิดรับข้อคิดเห็นผ่าน 1584 และช่องทางต่าง ๆ เพื่อนำข้อมูลมาประเมินผลประกอบการพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารระยะที่ 2 ต่อไป

                อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!