WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

'ประภัสร์'โต้ย้ายสถานีเอื้อเอสซีฯ แค่ปรับหลบสิ่งกีดขวาง-ท่อแก๊ส

     แนวหน้า : 4 มิ.ย. 57 นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) แถลงถึงกรณีการย้ายสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงสถานีหลักสี่ ซึ่งจากเดิมจะก่อสร้างบริเวณถนนกำแพงเพชร 6 ใกล้สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ไปสร้างบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์ และกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า การย้ายสถานีครั้งนี้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับโครงการหมู่บ้านหรู ของบริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด

     นายประภัสร์ ยืนยันว่าไม่มีการย้ายจุดก่อสร้างสถานี เพียงแต่มีความจำเป็นต้องปรับฐานตอม่อในจุดที่มีการก่อสร้าง ให้พ้นสิ่งกีดขวาง รวมถึงท่อแก๊สที่วางขวางตลอดแนวถนนแจ้งวัฒนะเท่านั้น และยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจของใครอย่างแน่นอน

    "ถ้าจะมีการย้ายจุดก่อสร้างสถานีจริงต้องมีการรายงานแจ้งให้ผมทราบ และกระบวนการขั้นตอนในการที่จะทำการย้ายสถานที่ก่อสร้างของสถานีต้องมีกระบวนการหลายอย่าง ผ่านหลายขั้นตอนจึงจะทำได้ จะย้ายปุปปับไม่ได้ และจากข้อเท็จจริงเป็นเพียงการปรับฐานตอม่อในจุดที่มีการก่อสร้างให้พ้นสิ่งกีดขวางเท่านั้น"นายประภัสร์กล่าว

ย้ายสถานีรถไฟฟ้าหลักสี่ หึ่ง!เอื้อบ.เอสซีฯ

ย้ายสถานีรถไฟฟ้าหลักสี่ หึ่ง!เอื้อบ.เอสซีฯ อยู่ฝั่งตรงข้ามหมู่บ้านหรูวิศวกรอ้างติดแนวท่อแก๊ส เลยต้องเปลี่ยนจุดก่อสร้าง

     เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เกี่ยวกับข่าวการย้ายสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) ช่วงสถานีหลักสี่ที่จากเดิมมีแผนจะก่อสร้างสถานีที่บริเวณถนนกำแพงเพชร 6 ซึ่งใกล้ๆ กับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ย้ายไปสร้างที่จุดใหม่คือบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์แทน ซึ่งประชาชนมองว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกิจการของ บริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่มีโครงการหมู่บ้านสุดหรูตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์หรือไม่

    โดยผู้ที่ทราบข่าวนี้ตั้งประเด็นข้อสงสัยว่า การย้ายสถานีรถไฟฟ้าดังกล่าวมีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ ใครเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ ซึ่งที่ผ่านมาก่อนที่จะมีการก่อสร้างก็ต้องทำการศึกษาพื้นที่ ความเหมาะสม และผลกระทบให้ชัดเจนเสียก่อน และได้มีการประกาศจุดที่จะก่อสร้างชัดเจนไปแล้ว แต่อยู่ๆ ก็กลับมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ก่อสร้างอย่างง่ายดาย

     เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก น่าจะมีเหตุผลที่ซ่อนเร้นอยู่ เพราะมีผลกระทบตามมาหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องราคาที่ดินในบริเวณใกล้เคียงกับสถานีรถไฟฟ้าที่จะถีบตัวสูงขึ้น และบริเวณดังกล่าวยังจะกลายเป็นแหล่งทำเลทองที่จะดึงดูดผู้คนได้ ดังนั้นการย้ายสถานีรถไฟฟ้าครั้งนี้น่าสงสัยว่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนอย่างบริษัทเอสซีฯ อย่างชัดเจนหรือไม่ประชาชนรายหนึ่งตั้งข้อสังเกตุ

     บริเวณถนนพระราม 6 ใกล้สถานวิจัยจุฬาภรณ์ สถานที่ตั้งเดิม ก่อนย้ายสถานีหลักสี่ ไปหน้าห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์

    จากการลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าวพบว่า บริษัท ทีมกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) รับผิดชอบดูแลช่วงสถานีหลักสี่ โดยวิศวรกรรายหนึ่งในบริษัททีมกรุ๊ปให้ข้อมูลถึงการย้ายสถานีหลักสี่ว่า จากการลงพื้นที่สำรวจจุดก่อสร้างในแผนเดิม คือบริเวณถนนกำแพงเพชร 6 พบว่าใต้พื้นถนนบริเวณแยกหลักสี่ มีท่อแก๊สวางขวางตลอดแนวถนนแจ้งวัฒนะ จึงตัดสินใจย้ายสถานี ไปสร้างบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์แทน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า สำหรับสถานีอื่นๆ นั้น จะไม่มีการย้ายการก่อสร้างอย่างแน่นอน

    สถานที่ก่อสร้างสถานีหลักสี่ บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์ ฝั่งตรงข้ามโครงการหมู่บ้านหรู ของบริษัทเอสซีฯ

   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 5-6 ปี ที่ผ่านมา เคยมีเหตุการณ์ทุบสะพานลอยบริเวณหน้าวัดหลักสี่ก่อนที่จะมีการก่อสร้างโครงการหมู่บ้านสุดหรูของบริษัทเอสซีฯฝั่งตรงข้ามวัดหลักสี่ ซึ่งในครั้งนั้นมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากเนื่องจากสะพานลอยดังกล่าวถูกสร้างมานาน และมีขนาดกว้างขวางสามารถนำรถจักรยานขับขี่ข้ามไปมาได้อย่างสะดวก ซึ่งสาเหตุการทุบสะพานลอยดังกล่าว ถูกมองว่าเนื่องจากทางขึ้นลงสะพานมีขนาดใหญ่บดบังภูมิทัศน์ของหมู่บ้าน

   ต่อมาได้มีสร้างสะพานลอยใหม่ห่างจากจุดเดิม 20 เมตร แต่เล็กกว่าเดิม และบริเวณทางขึ้นลงไม่บดบังความสวยงามของหมู่บ้าน ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวเคยถูก นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เคยไปอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฏรมาแล้ว และเมื่อมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้หนักเข้า ปรากฎว่า ได้มีการนำสติ๊กเกอร์ไปติดไว้ที่บริเวณสะพานลอยระบุว่า บริษัทเอสซีแอสเสทเป็นผู้ออกเงินค่าก่อสร้างสะพานลอยให้ทั้งหมด และการก่อสร้างสะพานลอยขึ้นใหม่นี้ ได้รับความเห็นชอบจากกรมทางหลวงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    บริเวณที่ทีมวิศกร บริษัท ทีมกรุ๊ป ระบุว่ามีท่อแก๊สฝังอยู่ใต้พื้นถนน

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!