Details

Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ

Published: Sunday, 27 March 2016 12:27

Hits: 2293

PF มั่นใจยอดขาย-ยอดโอน Q1/59 เข้าเป้า,เชื่อครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งแรกรับเปิดตัว 16 โครงการใหม่

    นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มธุรกิจ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจยอดขายพรีเซลและยอดโอนในไตรมาส 1/59 จะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนและเป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะยอดโอนที่ตั้งเป้าไว้ 3.5 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 30% หลังขณะนี้ยอดขายทะลุ 3 พันล้านบาทไปแล้ว เนื่องจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในเรื่องการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนองเป็นปัจจัยหนุนให้มีลูกค้าเข้ามาซื้อมากขึ้น

    ขณะที่ไตรมาส 2/59 บริษัทตั้งเป้ายอดขายพรีเซลที่ 3.5-4 พันล้านบาท โดยจะแคมเปญกระตุ้นยอดขายเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมาตรการภาครัฐจะสิ้นสุดในวันที่ 28 เม.ย.59 ซึ่งในช่วงหลังจากนั้นภาพรวมยอดขายของทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์ในเดือน พ.ค.-มิ.ย.จะลดลงราว 10-20% เพราะกำลังซื้อจะถูกดูดไปมากในช่วงเดือนเม.ย.และหลังจากนั้นจะเห็นการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์อีกพักหนึ่ง

     อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมั่นใจว่ายอดขายพรีเซลทั้งปีนี้จะยังเป็นไปตามเป้าหมายที่ 1.6 หมื่นล้านบาท เพราะยอดขายส่วนใหญ่จะเข้ามามากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากบริษัทมีแผนเปิดโครงการอีก 16  โครงการ มูลค่ารวม 2.2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.68 หมื่นล้านบาท และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5.2 พันล้านบาท หลังจากช่วงที่ผ่านมาเปิดตัวไปแล้ว 1 โครงการ มูลค่า 2 พันล้านบาท คือ โครงการ i condo campus ศาลายา

    ในด้านรายได้ในปีนี้บริษัทยังมั่นใจทำได้ตามเป้าไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท โดยจะมีการทยอยรับรู้รายได้เข้ามาจากการโอนโครงการในปีนี้ 4.2 พันล้านบาท แบ่งเป็นยอดโอนของโครงการแนวราบ 1 พันล้านบาท และยอดโอนจากโครงการคอนโดมิเนียม 3.2 พันล้านบาท จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นกุมภาพันธ์ 59 ที่ 6 พันล้านบาท

     นอกจากนั้น คาดว่าจะมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียมที่บริษัทเตรียมจะนำเข้าโครงการบ้านประชารัฐ คือ โครงการ i condo งามวงศ์วาน จำนวน 40 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 1.4 ล้านบาท/ยูนิต รวมมูลค่าโครงการประมาณ 56-60 ล้านบาทที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนรายได้ รวมทั้งการเปิดโครงการแนวราบที่สามารถรับรู้รายได้เข้ามาบางส่วนในครึ่งปีหลัง

    “ยอดโอนในไตรมาสแรกเราก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีจำนวนโครงการที่โอนเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 30 โครงการ แต่ถ้าเทียบกันทั้งครึ่งปีแรกนั้น เราคาดว่าครึ่งปีหลังก็จะดีกว่าทั้งยอดโอนและยอดขาย เพราะการเปิดโครงการในครึ่งปีหลังมีมากกว่าครึ่งปีแรก และมีโครงการรอโอนมากกว่าครึ่งปีแรกอีกด้วย"นายวงศกรณ์ กล่าว

     ด้านภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในปี 59 คาดว่าจะยังคงเติบโตได้อย่างน้อย 5-10% จากมาตรการการตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ส่วนการลงทุนของภาครัฐที่เป็นความหวังจะเติมเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจ คาดว่าจะยังไม่เห็นการลงทุนในปีนี้ เนื่องจากหลายโครงการอยู่ในขั้นตอนการออกแบบ การเปิดประมูล การจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ต้องใช้ระยะเวลานาน ส่วนกำลังซื้อนั้นภาพรวมยังไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มระดับกลาง-ล่างสะท้อนจากยอดการปฎิเสธสินเชื่อของสถานบันการเงินสูงขึ้นเป็น 50% ในส่วนของบริษัทยอดปฏิเสธสินเชื่อยังอยู่ระดับเดิมที่ 20-25%

    นายวงศกรณ์ กล่าวว่า บริษัทยังมีการเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ความคืบหน้าโครงการ "เบลล่า คอสต้า หัวหิน" ตั้งอยู่บนพื้นที่ 11 ไร่ เป็นนคอนโดมิเนียมสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน สูง 4ชั้น จำนวน 4 อาคาร และ สูง 7 ชั้น 2 อาคาร ขนาด 45-90 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 3.99-8.90 ล้านบาท จำนวน 323 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 1,799 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 35% ขณะที่บริษัทเตรียมแผนทำโปรโมชั่นในช่วงไฮซีซั่นคือจากช่วงนี้ถึงเดือน มิ.ย.และจะจัดหนักอีกครั้งในช่วงปลายปี โดยในช่วง 6 เดือนแรกตั้งเป้ายอดขายที่ 300 ล้านบาท และทั้งปี 500 ล้านบาท

     "ยอดขายค่อนข้างช้ากว่าการขายคอนโดฯในกทม.แต่ก็ถือว่าเป็นเรียลดีมานด์ แต่ที่หัวหินซื้อเพื่อต้องการพักผ่อน และซื้อจริง อัตราการทิ้งห้องชุดต่ำมาก หรือประกาศขายต่อแต่อย่างใด โดยเริ่มโอนกรรมสิทธิ์เมื่อกลางเดือนมีนาคม 59 ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าคนไทย และมีต่างชาติเพียง 10% เท่านั้น คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ทั้งหมดในปลายปี 60"นายวงศ์กรณ์ กล่าว

    ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในย่านหัวหิน ช่วงที่ผ่านมาเป็นทำเลอันดับต้นๆที่อยู่ในความนิยมของความต้องการคอนโดฯตากอากาศริมทะเล โดยเฉพาะในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว มีการพัฒนาโครงการทั้งฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกของถนนเพชรเกษม จนทำให้พื้นที่ในเมืองหัวหินเริ่มหนาแน่นมากขึ้นส่งผลให้ในช่วงนี้ไม่มีโครงการใหม่ๆ ติดทะเลเพราะหาที่ดินไม่ได้ ผู้ประกอบการจึงหันไปพัฒนาโครงการในโซนชะอำและเขาเต่าแทน แต่เนื่องจากกฎหมายผังเมืองใหม่ที่เป็นสีเขียวทะแยงประกาศให้เขาเต่าเป็นเขตอนุรักษ์ห้ามพัฒนาคอนโดมิเนียม ทำให้เน้นการพัฒนาเป็นบ้านจัดสรร

      อินโฟเควสท์

PF เปิดคอนโดฯทำเลหัวหินมูลค่า 1.78 พันลบ.หวังสร้างยอดขายรับท่องเที่ยวฤดูร้อน

    นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต ปรานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF)กล่าวว่าในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่การท่องเที่ยวฤดูร้อน ที่จะสามารถสร้างยอดขายคอนโดตากอากาศริมทะเลได้มากกว่าช่วงอื่นๆ ของปี โครงการ เบลล่า คอสต้า หัวหิน ตั้งอยู่ริมชายหาดส่วนตัว ติดวนอุทยานปราณบุรีที่เงียบสงบและมีธรรมชาติที่สวยที่สุดบนหาดหัวหิน มีเนื้อที่ 11 ไร่  เป็นคอนโดมิเนียมหรูในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียล จำนวน 323 ยูนิต มีทั้งหมด 6 อาคาร เป็นอาคารสูง 4 ชั้น จำนวน 4 อาคาร และ อาคารสูง 7 ชั้น จำนวน 2 อาคาร สำหรับห้องพัก มีให้เลือกทั้งแบบ  1ห้องนอน ขนาด 45–55 ตารางเมตร (ตร.ม.)ราคา 3.99–6.00 ล้านบาท ,แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 60–67 ตร.ม. ราคา 5.82–7.5 ล้านบาท ,แบบ 3 ห้องนอน ขนาด 78–96 ตร.ม. ราคา 11.5–14.5 ล้านบาท และ แบบ MOFFdesign ขนาด 64–90ตร.ม. ราคา 6.44–8.90 ล้านบาท

    “ที่ผ่านมา หัวหินเป็นทำเลอันดับต้นที่อยู่ในความนิยมของที่ต้องการคอนโดตากอากาศริมทะเล โดย 5-6 ปีมานี้ อสังหาริมทรัพย์หัวหินเติบโตรวดเร็ว มีการพัฒนาโครงการทั้งฝั่งตะวันตก (ฝั่งภูเขา) และตะวันออก(ฝั่งทะเล) ของถนนเพชรเกษม จนทำให้พื้นที่ในเมืองหัวหินเริ่มหนาแน่นมากขึ้น ปัจจุบัน ทำเลเขาเต่า จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับ ความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 1-2 ปีที่ผ่านมา ยังมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเกิดขึ้นในย่านเขาเต่า ทั้ง สวนน้ำวานานาวา, อุทยานราชภักดิ์ รวมทั้งยังจะมี  Bluport  ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ของกลุ่มเดอะมอลล์ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากย่านเขาเต่า ทั้งหมดเป็นปัจจัยหนุนที่สร้างความโดดเด่นให้กับพื้นที่"นายวงศกรณ์ กล่าว

     นายวงศกรณ์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการคอนโดมิเนียมตากอากาศที่ยังคงความงดงามของธรรมชาติ  ขณะเดียวกัน สามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของเมืองหัวหินได้อย่างสะดวก

     นอกจากนี้ทางโครงการยังได้แต่ตั้ง JLL ให้เป็นผู้บริหารนิติบุคคล รวมถึงการดูแลและบริการลูกค้าหลังการขายด้านต่างๆ ทั้งบริการดูแลและรับฝากเช่าให้แก่ลูกค้าที่ต้องการปล่อยเช่า บริการจัดซื้ออาหารจากร้านอาหารชื่อดังในหัวหิน ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ บริการแม่บ้านทำความสะอาดห้องพักอาศัยก่อนเข้าอยู่อาศัย บริการรับฝากชำระค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น

     สำหรับ กลยุทธ์ทางการตลาดนั้น บริษัทได้จัดให้มีสิทธิพิเศษในช่วงเปิดโครงการภายในเดือนเมษายนนี้ ด้วย ราคาพิเศษ เริ่มต้น 3.59 – 7.50 ล้านบาท พร้อมมอบ 'Move in Package'ฟรี! เงินทำสัญญา สูงสุด 600,000 บาท ฟรี!ค่าใช้จ่ายวันโอนฯ ทั้ง ค่าธรรมเนียมการโอน+ค่ากองทุน+ค่าส่วนกลาง 1 ปี มูลค่าสูงสุด 200,000 บาท พิเศษสำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนออนไลน์ รับส่วนลดเพิ่มอีก 30,000 บาท

      อินโฟเควสท์