WORLD7

BANPU2024

powertime 950x100pxsmed MTI 720x100

 

1738246346514

 

สมาร์ทฟินน์ ผู้นำแพลตฟอร์มจับคู่ขายฝากอสังหาฯ จับมือ SME D Bank ยกระดับองค์กรเตรียมความพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์

 

สมาร์ทฟินน์ ผู้นำแมชชิ่งแพลตฟอร์มจับคู่ขายฝากอสังหาฯ ย้ำความน่าเชื่อถือองค์กร ผนึก ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank โดยกองทุนร่วมลงทุนในกิจการ SMEs (กองทุนย่อยกองที่ 1) ประสานพลัง “ร่วมทุน” ดันธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน หวังช่วยผู้ประกอบการ SMEs และบุคคลทั่วไป เข้าถึงแหล่งทุน ผ่านแพลตฟอร์มจับคู่ขายฝากอสังหาริมทรัพย์ โดยมีโฉนดบ้าน ที่ดิน และคอนโดเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ชูจุดแข็ง

1738246347814

 

แพลตฟอร์มขายฝากที่ได้มาตรฐาน สร้างความเป็นธรรมระหว่างผู้รับซื้อฝากและผู้ขายฝากที่ต้องการเงินทุน พร้อมดำเนินธุรกิจถือหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรงไปตรงมาและตรวจสอบได้ ดร.ปริสุทธิ์ รัตนมหาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมาร์ทฟินน์ โซลูชั่นส์ จำกัด กล่าวว่า สมาร์ทฟินน์ ขึ้นแท่น Matching Platform อันดับ 1 ที่ได้มาตรฐานรายแรกของประเทศไทย โดยเน้นการจับคู่ระหว่างผู้รับซื้อฝากใจดีจากทั่วประเทศแบบถูกต้องตามกฎหมาย กับกลุ่มผู้ที่ต้องการเงินทุนหรือผู้ขาย

1738246348048

 

ฝาก โดยมีโฉนด น.ส.4 หรือ หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด (อ.ช.2) เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการทำสัญญาขายฝาก พร้อมรับเงินทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ 9% ต่อปี และมีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาในการทำธุรกรรม เพื่อให้ผู้ขายฝากได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุดภายใต้มาตรฐานที่เป็นธรรม ถูกต้องตามกฎหมายและปลอดภัย สมาร์ทฟินน์เป็นมากกว่าช่องทางในการเข้าถึง

 

แหล่งทุน แต่เราคือสะพานเชื่อมระหว่างโอกาสและความสำเร็จด้วยบริการที่เน้นธรรมาภิบาลและความโปร่งใส ดร.ปริสุทธิ์ กล่าว ในภาวะที่เศรษฐกิจทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทาย ธุรกิจ SMEs จำนวนมากต้องดิ้นรนในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อนำมาเสริมสภาพคล่องหรือต่อยอดการพัฒนาธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้า แต่ด้วยเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อของธนาคาร และข้อจำกัดใน

1738246348259

กระบวนการอนุมัติสินเชื่อ ส่งผลให้ผู้ประกอบการ SMEs จำนวนหนึ่งที่ไม่ได้รับการพิจารณาสินเชื่อ และต้องหันไปพึ่งเงินกู้นอกระบบที่มีดอกเบี้ยสูงถึง 24-36% ต่อปี ในขณะที่อัตรากำไรเฉลี่ยของธุรกิจ SMEs อยู่ในระดับ 10-15% เท่านั้น สมาร์ทฟินน์มองเห็นถึงปัญหาและมุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ SMEs ด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มการจับคู่ขายฝากอสังหาริมทรัพย์ ที่เปิดโอกาสให้ผู้มีโฉนดที่ดิน หรือ กรรมสิทธิ์ห้องชุดสามารถใช้ทรัพย์สินของตนเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุน แพลตฟอร์มของสมาร์ทฟินน์ ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่าง “ผู้รับซื้อ

 

ฝากใจดี” และ “ผู้ขายฝาก” โดยใช้โฉนดที่ดินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน มีการประเมินราคากับบริษัทเอกชนที่อยู่ในการกำกับของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เพื่อกำหนดวงเงินที่เหมาะสมกับคุณภาพของสินทรัพย์ สร้างความเป็นธรรม และช่วยป้องกันการถูกกดราคา โดยผู้ขายฝากสามารถทำธุรกรรมได้สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเตรียมเอกสารเยอะเพราะไม่เช็กเครดิตบูโร และประวัติการเดินบัญชี โดยตลอดอายุ

1738246348462

 

สัญญาผู้ขายฝากสามารถทำประโยชน์บนทรัพย์ขายฝากได้ตามปกติ เช่น พักอาศัย ปล่อยเช่า ทำธุรกิจ ทำการเกษตร เป็นต้น และสามารถแจ้งไถ่ถอนสินทรัพย์ได้ตลอดเวลา โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคอยให้การดูแลและอำนวยความสะดวกในทุกขั้นตอน ด้านผู้รับซื้อฝากใจดี ก็สามารถเข้าถึงการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพและรับผลตอบแทนที่คุ้มค่า ทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากทั้งผู้รับซื้อฝากและกลุ่มบรรดาเจ้าของธุรกิจเป็นอย่างดีมาตลอดระยะเวลามากกว่า 8 ปี สามารถปิดดีลมูลค่าทรัพย์ขายฝากไปแล้วกว่า 10,800 ล้านบาท

 

ดร.ปฏิมากร ใจอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวเสริมว่า ในปี 2568 เป็นอีกก้าวสำคัญของสมาร์ทฟินน์ ที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ด้วยการร่วมลงทุนกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank โดยกองทุนร่วมลงทุนในกิจการ SMEs (กองทุนย่อยกองที่ 1) ความร่วมมือนี้ไม่ได้เป็นเพียงการสนับสนุนด้านเงินทุน แต่ยังรวมถึงเสริมศักยภาพของสมาร์ทฟินน์ในหลายมิติ ทั้ง

 

1738246348662

แนวทางกำกับดูแลกิจการที่ดี และการยกระดับมาตรฐานองค์กร เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมเดินหน้าสู่การเติบโตอย่างมั่นคง เป้าหมายของการร่วมทุนระหว่างสมาร์ทฟินน์ กับ SME D Bank ครั้งนี้ เพื่อช่วยขยายการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงแหล่งทุนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเงินทุนจากการร่วมลงทุนนี้ จะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจตามแผนงานที่วางไว้ อาทิ การขยายพื้นที่ให้บริการรับขายฝาก

 

อสังหาริมทรัพย์จากเดิมครอบคลุมอยู่ในพื้นที่ กรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ๆ ใน 46 จังหวัด ตั้งเป้าขยายพื้นที่รับขายฝากอสังหาริมทรัพย์ให้ครอบคลุมต่างจังหวัดมากขึ้น รวมถึงขยายผลสัมฤทธิ์ด้านทีมงาน การตลาด และการเชื่อมต่อเทคโนโลยีการเงิน สร้างประโยชน์สนับสนุนให้ธุรกิจ SMEs และบุคคลทั่วไป ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนถูกกฎหมายอย่างสะดวก และรวดเร็ว พร้อมขับเคลื่อนและผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตต่อไป และในระยะยาวกองทุน SMES (กองทุนย่อยที่ 1) จะช่วยขยายตลาดของสมาร์ทฟินน์และสร้างรากฐานที่มั่นคง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการนำ

 

บริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต การร่วมมือกับ SME D Bank ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ช่วยให้สมาร์ทฟินน์สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง พร้อมผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน” ดร.ปฏิมากร กล่าวสรุป สำหรับธุรกิจ SMEs และบุคคลทั่วไป ที่ต้องการเงินทุนเพื่อเปิดธุรกิจใหม่ หรือต่อยอดเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!