WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

77จว.สวมเสอฟา


วันประวัติศาสตร์ 'พระบรม'ทรงนำปั่นเพื่อแม่ '
พระองค์ภา'ทรงร่วมขบวน เริ่มสตาร์ต-บ่าย 3 โมงตรง พสกนิกร 77 จว.สวมเสื้อฟ้า

    สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีพระราชานุญาตให้นำจักรยานพระที่นั่งส่วนพระองค์มาจัดแสดงในนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติไบค์ ฟอร์ มัมปั่นเพื่อแม่ ทุกจังหวัดสุดคึกคัก พร้อมใจร่วมกิจกรรมไบค์ ฟอร์ มัม ปั่นเพื่อแม่ เฉลิมพระเกียร ติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รัฐบาลอัญเชิญพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจักรยาน เป็นภาพปกจดหมายข่าวรัฐบาลฉบับพิเศษ มอบให้ผู้เฝ้าฯ รับเสด็จ ส่วนต่างจังหวัดขอรับได้ที่ประชาสัมพันธ์จังหวัดตั้งแต่ 17 ส.ค. เป็นต้นไป จ.ตราดฮือฮา 8 นักปั่นชาวกัมพูชาปั่นจากกรุงพนมเปญข้ามแดนมาร่วมด้วย เผยรำลึกพระมหากรุณาธิคุณเคยได้รับความช่วยเหลือช่วงหนีภัยสงครามเมื่อ 38 ปีก่อน ส่วนที่ พิษณุโลกทึ่งลุงประดิษฐ์จักรยานล้อรถยนต์ร่วมปั่น รวมถึงหนูน้อยไร้แขน'น้องทาม'ที่มุ่งมั่นร่วมโครงการด้วยแม้ไร้แขนทั้งสองข้าง

 

วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9027 ข่าวสดรายวัน

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระราชา ฃนุญาตให้นำจักรยานพระที่นั่งส่วนพระองค์ มาจัดแสดงในนิทรรศการปั่นเพื่อแม่ ที่บริเวณสนามเสือป่า ระหว่างวันที่ 16-22 ส.ค.

 

 

พสกนิกรพร้อมใจปั่นเพื่อแม่

       พสกนิกรทั่วประเทศพร้อมใจสวมใส่เสื้อฟ้าเข้าร่วมกิจกรรมไบค์ ฟอร์ มัม ปั่นเพื่อแม่โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจักรยานนำขบวนเอ เริ่มจากพระลานพระราชวังดุสิต ในเวลา 15.00 น. ผู้เข้าร่วมขบวนจำนวน 400 คน ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี คณะผู้บริหารรัฐบาล ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานศาลฎีกา ข้าราชการระดับปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพ มหานคร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งภาคเอกชนและประชาชน ขบวนบี ผู้ร่วมขบวนจำนวน 400 คน โดยมีพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงจักรยานนำขบวน ในขบวนประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการระดับอธิบดีหรือเทียบเท่า หัวหน้าหน่วยงานระดับผู้บัญชาการกองพล ข้าราชการ ตำรวจระดับพันตรีขึ้นไป รวมทั้งภาคเอกชนและประชาชน ขบวนซี ผู้ร่วมขบวนประมาณ 20,000 คน เป็นประชาชนทั่วไป

 

เผยเส้นทางจักรยานในกทม.

       สำหรับเส้นทางการปั่นจักรยาน ระยะทางรวม 43 กิโลเมตร แบ่งเป็น 4 ช่วง ดังนี้ ช่วงที่ 1 จากจุดเริ่มต้น บริเวณพระลานพระราชวังดุสิตถึงกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ระยะทาง 7 กิโลเมตร ช่วงที่ 2 จากจุดพักขบวนที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ถึงจุดพักขบวนที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ระยะทาง 16 กิโลเมตร ช่วงที่ 3 จากจุดพักขบวนที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กรักษาพระองค์ถึงจุดพักขบวนที่ 3 กรมทหารราบที่ 1 มหาด เล็กรักษาพระองค์ โดยจะเป็นการย้อนกลับตามเส้นทางเดิมระยะทาง 13 กิโลเมตร ช่วงที่ 4 จากจุดพักขบวนที่ 3 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ถึงบริเวณพระลานพระราชวังดุสิต ระยะทาง 7 กิโลเมตร 

 

จัดคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติ

     ทั้งนี้ ในส่วนของจุดเริ่มต้นของประชาชน (ขบวนซี) ประกอบด้วยบริเวณพระลานพระ ราชวังดุสิต 20,000 คน สนามกีฬากองทัพบก 4,500 คน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 6,500 คน กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กรักษาพระองค์ 7,000 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังกิจกรรม "ไบค์ ฟอร์ มัม ปั่นเพื่อแม่" เวลา 19.00 น. มีการจัดแสดงคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติ (คอนเสิร์ตบทเพลงเพื่อแม่) โดยวงออร์เคสตรา 3 เหล่าทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมศิลปากร ณ บริเวณสนามด้านหน้าสำนักพระราชวัง พร้อมจัดแสดงนิทรรศการพระราชกรณียกิจ และนิทรรศการเกี่ยวกับจักรยานและภาพรวมการจัดกิจกรรมไบค์ ฟอร์ มัม จากทั่วประเทศ โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้าชม พร้อมร่วมรับฟังการแสดงดนตรีและการขับร้องเพลงโดยนักร้องและศิลปินรับเชิญ

 

โฆษกตร.ย้ำรักษาความปลอดภัย

      เวลา 15.30 น. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่ที่ใช้ในการจัดกิจกรรมไบค์ ฟอร์ มัม ปั่นเพื่อแม่ โดยเริ่มทำการตรวจจุดแรกที่ลานสนามเสือป่า ซึ่งเป็นพื้นที่ใช้จัดกิจกรรมในช่วงเย็น ก่อนจะเคลื่อนขบวน รถออกตรวจตามจุดอื่นๆ

         ต่อมาเวลา 17.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เป็นการตรวจสอบ ความพร้อมของสถานที่จัดกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ รวมถึงจุดให้บริการประชาชน จุดบริการทาง การแพทย์ และจุดให้บริการต่างๆ จำนวน 21 จุด ตลอดเส้นทางระยะทาง 43 ก.ม. ที่ขบวนจักรยานวิ่งผ่าน โดยจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหาร ตำรวจ และกรุงเทพมหานคร ประจำจุดดูแลความเรียบ ร้อย ตลอดเส้นทางจำนวน 8,000 นาย ส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์รวมถึงเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากเกิดอุบัติเหตุ เป็นที่น่าพอใจเช่นกัน เนื่องจากได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสังกัดต่างๆ สนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์

      โฆษกตร.กล่าวว่า ในส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยได้เพิ่มเจ้าหน้าที่จากหน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรืออีโอดี เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เนื่องจากเป็นจุดสำคัญอีกหนึ่งจุดซึ่งได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเจ้าหน้าที่หน่วยอีโอดีจะเริ่มเข้าเคลียร์พื้นที่โดยรอบจำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรกจะเริ่มในเวลา 09.00 น. และ อีกครั้งในเวลา 13.00 น. ก่อนปิดการจราจรและเริ่มเคลียร์รถในพื้นที่ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ซึ่งภาพรวมความพร้อมในขณะนี้ค่อนข้างเป็นที่พอใจไม่มีอะไรน่ากังวลห่วงเพียงแต่เรื่องดินฟ้าอากาศเท่านั้น

 

รบ.มอบจดหมายข่าวฉบับพิเศษ

     วันที่ 15 ส.ค. พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าวันอาทิตย์ที่ 16 ส.ค. รัฐบาลได้นำหนังสือพิมพ์ จดหมายข่าวรัฐบาลเพื่อประชาชน ซึ่งถือเป็นฉบับพิเศษ โดยเชิญพระฉายาลักษณ์พระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจักรยานขึ้นเป็นหน้าปก จำนวน 10,000 ฉบับ มอบให้แก่ประชาชนที่มาร่วมเฝ้าฯรับเสด็จ และชื่นชมพระบารมีตลอดเส้นทางทรงปั่นในกิจกรรมไบค์ ฟอร์ มัม รัฐบาลเชื่อว่าพี่น้องประชาชนอีกเป็นจำนวนมากต้องการมีส่วนร่วมและแสดงความจงรักภักดี แต่ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมไม่ทัน จดหมายข่าวรัฐบาลฉบับนี้จึงเสมือนเป็นสิ่งที่จะมอบให้พี่น้องประชาชน เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมประวัติศาสตร์

     พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า บริเวณที่จะมอบจดหมายข่าวรัฐบาลเพื่อประชาชนให้ผู้มารับเสด็จ ประกอบด้วยจุดใหญ่ ได้แก่ ลานพระบรม รูปทรงม้าถึงหน้าวัดเบญจมบพิตร แยกพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ถ.วิภาวดีฯ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ บางเขน และสนามเสือป่าที่จะจัดคอนเสิร์ตในช่วง เย็น สำหรับประชาชนในต่างจังหวัดขอรับได้ที่สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 17 ส.ค.เป็นต้นไป 

 


ปั่นเพื่อแม่- ด.ช.วรรธนะ คำอินทร์ หรือน้องทาม อายุ 11 ปี พิการไม่มีแขนทั้ง สองข้าง ชาว อ.บางระกำ เตรียมร่วมปั่นจักรยานไบค์ ฟอร์ มัม ปั่นเพื่อแม่ ที่จ.พิษณุโลก ในวันที่ 15 ส.ค.

 

      ทั้งนี้ จดหมายข่าวรัฐบาลเพื่อประชาชนเป็นสิ่งพิมพ์ซึ่งดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบจัดทำโดยกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อนำเสนอข่าวสาร ผลการทำงานของรัฐบาลและนโยบาย รวมทั้งบริการของรัฐที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน เพื่อเผยแพร่ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ โดยกระจาย ไว้ตามจุดที่ประชาชนจะสามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก อาทิ ศาลากลางจังหวัด โรงพยาบาล สถานีตำรวจ ห้องสมุด มหาวิทยาลัย ท่าอากาศ ยานสุวรรณภูมิ เป็นต้น

 

8 นักปั่นกัมพูชาร่วมปั่นด้วย

      เวลา 08.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด พ.ท.ไพ สุพร หัวหน้าหน่วยประสานงานชายแดนกัมพูชา-ไทยด้านจ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา พร้อมร.อ.สมบูรณ์ ศิริธร รองหัวหน้าหน่วยประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชาด้านจ.ตราด เดินทางมาพร้อมกับนายดนัย คมคาย อายุ 40 ปี ชาวกัมพูชา พร้อมเพื่อนนักปั่นอีกรวม 8 คน ผู้ติดตาม 20 คน เดินทางถึงจ.ตราด ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก โดยหลังจากผ่านพิธีการเดินทางเข้าเมืองแล้ว นายดนัยกล่าวว่า การเดินทางมาปั่นเพื่อแม่ครั้งนี้ เพราะรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่เคยช่วยเหลือหลังจากหนีภัยสงครามในกัมพูชาในปี 2522 ซึ่งตอนนั้นอายุ 2 ขวบและป่วย โดยพระองค์ได้มอบของเล่นให้ด้วย ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณมากที่ทำให้สามารถเติบโต มาได้ถึงวันนี้ที่มีอายุ 40 ปีแล้ว

      นายดนัย กล่าวอีกว่า ไม่มีอะไรจะช่วยพระองค์ท่านได้ เมื่อรู้ว่ามีการปั่นเพื่อแม่ขึ้น จึงได้ชักชวนเพื่อน 20 กว่าคนร่วมปั่นจักรยาน มาจ.ตราด เริ่มจากกรุงพนมเปญ ระยะทางประมาณ 300 ก.ม. มีชาวกัมพูชาให้การสนับสนุนและช่วยเหลือมาตลอดเส้นทาง ทุกคนอวยพรให้พระราชินีของคนไทย หวังว่า การปั่นครั้งนี้จะทำให้คนไทยและชาวกัมพูชามีความสัมพันธ์ดีขึ้น สำหรับตนสิ่งที่จะทดแทน พระองค์ได้ก็คือการไหว้พระองค์ท่านและการปั่นจักรยาน ส่วนเพื่อนที่ปั่นมาด้วยกันตอนนี้เหลือเพียง 8 คน เนื่องจากหลายคนมีปัญหาสุขภาพ โดยเดินทางจากพนมเปญตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. มาถึงจ.ตราดเช้าวันนี้ และเดินทาง มาที่จ.ตราดในเวลา 15.00 น. แล้วจะร่วมปั่น เพื่อแม่กับจ.ตราด จากนั้นวันที่ 17 ส.ค. จะปั่นจากจ.ตราดสู่กรุงเทพฯ ถึงวันที่ 21 ส.ค. จะไปร่วมลงนามถวายพระพร

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นคณะนักปั่นจักรยานจากกัมพูชาร่วมปั่นจากจุดผ่านแดนถาวรหาดเล็ก แวะพักที่ปั๊มน้ำมันปตท.คลอง ใหญ่ แล้วเดินทางต่อมาที่ต.ไม้รูด ผ่านหาดบานชื่น แวะทำกิจกรรมที่ศูนย์ราชการุณย์ เขาล้าน และกราบหลวงพ่อแดง ชมพิพิธภัณฑ์ภายในศูนย์ ที่นายดนัยเคยพักอาศัยและหลบภัยสงคราม รับประทานอาหารกลางวันและเดินทาง ต่อไปยังจ.ตราดเพื่อร่วมปั่นกับชาวตราดต่อไป

 

นาวิกฯจัดกิจกรรมค่ายสัตหีบ

     วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการหน่วยบัญชาการ นาวิกโยธิน กองทัพเรือ อ่าวเตยงาม ค่ายกรมหลวงชุมพร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พล.ร.ท.ธนะกาญจน์ ใคร่ครวญ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการ นาวิกโยธิน เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะ พร้อมนำนายทหาร ข้าราชการ กำลังพลในสังกัด และประชาชนจำนวนกว่าพันคน สวมเสื้อสีฟ้าปั่นจักรยานระยะทาง 8 ก.ม. พร้อมร่วมกันแปรอักษรคำว่า Bike For Mom และถ่ายภาพทางอากาศเพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนร่วมแสดงความจงรักภักดี

พล.ร.ท.ธนะกาญจน์กล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้เป็นกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องใน โอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา ภายใต้ชื่อ รวมพลังนาวิกโยธิน ไบค์ ฟอร์ มัม เพื่อถวายเป็นพระราชสดุดี สนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมโอรสา ธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ต้องการให้พสกนิกรแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีและความจงรักภักดีถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ รวมถึงแสดงความสามัคคีของประชาชนทุกหมู่เหล่าในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและเตรียมร่างกายเพื่อร่วมกิจกรรมไบค์ ฟอร์ มัม ณ พื้นที่ส่วนกลางและศาลากลางจังหวัดต่างๆ

 

กาญจนบุรีเปิดตัวรอบจามจุรียักษ์

      เวลา 07.30 น. นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี พร้อมชาวบ้านพื้นที่หมู่ 5 ต.เกาะสำโรง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และกลุ่มหนุ่มสาวและเด็กๆ ที่จะเข้าร่วมขบวนปั่นจักรยานโดยให้แม่ซ้อนท้าย ได้ร่วมกันวัดรอบลำต้นจามจุรียักษ์ สัญลักษณ์ของพื้นที่ดังกล่าว พบว่าลำต้นมีขนาด 10 คนโอบ โดยชาวบ้านในพื้นที่ต่างบอกว่าเกิดมาก็เห็นต้นจามจุรีนี้แล้ว

นายศรัทธากล่าวว่า เชื่อว่าวันที่ 16 ส.ค.จะมีประชาชนเดินทางไปร่วมปั่นจักรยานเป็นจำนวนมาก ถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ของจังหวัดกาญจนบุรีและประเทศไทยเลยก็ว่าได้ และการมาครั้งนี้ได้นำดอกมะลิมามอบให้กับแม่ดีเด่นของชาวตำบลเกาะสำโรงรวม 3 คน ทั้งนี้ ทุกคนที่มาร่วมกิจกรรมพร้อมใจทำดีเพื่อแม่ และขอให้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จงทรงพระเจริญ

 

โคราชนำจักรยานติดบาร์โค้ด

     เวลา 09.00 น. นายบุญยืน คำหงส์ รอง ผวจ.นครราชสีมา พร้อมด้วยประชาชนจำนวน กว่า 500 คน ร่วมฝึกซ้อมปั่นจักรยานโดยใช้เส้นทางเริ่มต้นจากบริเวณสนามหน้าศาลากลาง จังหวัดนครราชสีมา ผ่านหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีไปตามถนนมิตรภาพ เข้าสู่ถนนสาย 304 ราชสีมา-ปักธงชัย ก่อนเลี้ยวเข้าสู่กองบิน 1 และกลับเข้าไปยังสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา รวมระยะทาง 29 ก.ม. โดยนักปั่นที่เข้าร่วมกิจกรรมได้นำรถจักรยานมาติดบาร์โค้ดเพื่อทำลายสถิติโลก ทั้งนี้ กิจกรรมไบค์ ฟอร์ มัม ปั่นเพื่อแม่ ของ จ.นครราชสีมา มีประชาชนสมัครเข้าร่วมปั่นรวมจำนวนทั้งสิ้น 7,168 คน

 

ขอนแก่นนัดพร้อมบ่ายโมง

     วันเดียวกัน เวลา 11.00 ผู้สื่อข่าวรายงานการจัดเตรียมสถานที่และการซ้อมพิธีการ จัดกิจกรรมที่หน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ว่า กำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต่างเร่งจัดเตรียมสถานที่ทั้งในจุดจัดกิจกรรมปั่นเพื่อแม่บริเวณเวทีกลาง และสถานที่จัดพิธีถวายพระพรชัยมงคลบริเวณศาลาผูกเสี่ยว รวมถึงการติดตั้งป้ายบอกเส้นทางตลอดทั้ง 25 ก.ม.ในการปั่นจักรยาน และป้ายบอกเส้นทางการจอดรถยนต์และรถจักรยานยนต์สำหรับผู้ที่มาร่วมกิจกรรม ซึ่งกำหนดจุดจอดรถรวม 12 จุดรอบศาลากลางจังหวัด เพื่อจัดระเบียบและจัดระบบ การจราจรในภาพรวมทั้งหมดหลังมีผู้ยื่นความจำนงลงทะเบียนร่วมปั่นจักรยานรวม 3,940 คน


ภาพบนคึกคัก- นักปั่นจากชมรมต่างๆ กว่า 40 องค์กร และประชาชนชาว จ.นครราชสีมาประมาณ 2 พันคน ร่วมซ้อมใหญ่ในโครงการไบค์ ฟอร์ มัม ปั่นเพื่อแม่ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.

ภาพล่างร่วมปั่น- นายดนัย คมคาย (คนที่ 3 จากขวา) ชาวกัมพูชา พร้อมเพื่อนนักปั่นเดินทางถึงจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก จ.ตราด เพื่อร่วมโครงการไบค์ ฟอร์ มัม ปั่นเพื่อแม่ เฉลิมพระเกียรติฯ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.

 

เผยเส้นทางปั่นเมืองขอนแก่น

    ด้าน พ.ต.อ.สุภากร คำสิงห์นอก รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า จัดวางกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกและ จัดระบบจราจรตลอดทั้งเส้นทาง 25 ก.ม. รวม 800 นาย ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุดให้กับนักปั่นจักรยาน สำหรับเส้นทางปั่นจักรยาน เริ่มจากจุดเริ่มต้นสนามหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เลี้ยวขวา ไปตามถนนกลางเมือง ผ่านสถานีตำรวจ ภูธรจังหวัดขอนแก่น ตลาดบางลำพู และ ห้างสรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า เลี้ยวซ้ายสี่แยก ไฟแดงเข้าสู่บึงแก่นนคร ผ่านสำนักประชา สัมพันธ์ เขต 1 ขอนแก่น ไปจุดพักที่ 1 วัดหนองแวงพระอารามหลวง จากนั้นปั่นรอบบึงแก่นนคร 1 รอบ เลี้ยวขวาไฟแดงสำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ไปทางวัดศรีนวล ไปถึง ถนนศรีจันทร์เลี้ยวขวาไปผ่านมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ผ่านบ้านหนองใหญ่ เลี้ยวซ้ายสามแยกไฟแดงบ้านหนองใหญ่ เลี้ยวไฟแดงกลับมาที่ถนนประชาสโมสรผ่านวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย ผ่านโรงแรมเซ็นทารา เข้าสู่บึงทุ่งสร้าง

      รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า ปั่นรอบบึงทุ่งสร้าง 2 รอบและร่วมกิจกรรมปลูก ต้นคูน ร่วมเต้นแอโรบิกครอบครัว จากนั้นปั่นออกจากบึงทุ่งสร้างผ่านจวนผู้ว่าราชการจังหวัด เลี้ยวซ้ายสามแยกถนนกสิกรทุ่งสร้าง ผ่านพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น เลี้ยวขวาบริเวณบ้านพักผู้บัญชาการตำรวจภาค 4 ผ่านตำรวจภาค 4 กลับสู่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ใช้เวลาในการปั่นจักรยานทั้งหมดรวมกว่า 4 ชั่วโมง ขณะเดียวกันเมื่อนักปั่นเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดการปั่นแล้วจะร่วมประกอบพิธีถวายพระพรชัยมงคลต่อหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ถือเป็นการสิ้นสุดกิจกรรม การปั่นเพื่อแม่ คาดว่าจะเปิดการจราจรใน เส้นทางต่างๆ ได้ตามปกติหลังสิ้นสุดการจัดกิจกรรมในเวลาไม่เกิน 20.00 น.

 

ลุงพิษณุโลกประดิษฐ์รถพิเศษ

      ที่ จ.พิษณุโลก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนชมน่านเฉลิมพระเกียรติ อ.เมือง สถานที่ เดิน วิ่ง ปั่นจักรยานออกกำลังกายของชาวเมืองพิษณุโลก มีรถจักรยานสีสันฉูดฉาดและสะดุดตาผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก เป็นจักรยานของนายณี หรือนายวิธี นุชท่าโพธิ์ อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 765/12 ถ.บรมไตรโลกนารถ 2 ซอย 21 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งประดิษฐ์เองและดัดแปลงล้อหลังจากเดิมล้อรถของรถสามล้อแดง เป็นล้อรถยนต์ขนาดขอบกว้าง 14 นิ้ว โดยนำมาทดลองปั่นออกกำลังกายเป็นวันแรก ก่อนร่วมปั่นจักรยานไบค์ ฟอร์ มัม

     ลุงณี เปิดเผยว่า จักรยานคันนี้ประดิษฐ์ เมื่อปี 2557 เป็นคันที่ 3 เดิมล้อหลังใช้ล้อรถสามล้อแดง ที่ว่าเป็นล้อขนาดใหญ่แล้ว แต่สำหรับงานปั่นเพื่อแม่ได้ดัดแปลงล้อหลังให้แยกชิ้นส่วนได้ โดยประดิษฐ์ล้อชุดรถยนต์ 1 ชุด ใช้ยางรถยนต์กระบะคันเก่ามาใส่ และนำคันเบ็ดเก่ามาติดท้ายรถเพื่อติดธงชาติและ ธงฟ้าสัญลักษณ์ขององค์ราชินี จากการทดลอง ขี่รู้สึกว่าหน่วงขาดี จะได้ออกกำลังกายอย่างเต็มที่ และหากจะกลับไปใช้ล้อขนาดเดิม ก็เพียงแค่ขันนอตยึด 2 ตัวออกก็เปลี่ยนชุดล้อหลังได้ ตนประดิษฐ์รถจักรยานขึ้นมาเอง วัตถุ ประสงค์เพื่อใช้ขี่ออกกำลังกาย ต้องการได้รถที่หนัก หน่วงขา ได้ปั่นออกแรงอย่างเต็มที่ เพราะรถจักรยานทั่วไปน้ำหนักเบา ไม่ได้ออกแรงขาเต็มที่

    ลุงณีกล่าวว่า ตนเคยเป็นช่างเครื่องอยู่ที่กรุงเทพฯ ย้ายกลับภูมิลำเนาพิษณุโลก ประกอบ อาชีพขายของทั่วไป ล่าสุด ขายไก่ป๊อป ด้วยความรู้ด้านการเชื่อม อ๊อกเหล็ก และต้องการออกกำลังกาย จึงประกอบรถจักรยานขึ้นเอง โดยหาซื้ออุปกรณ์เก่าๆ จากร้านขายของเก่ามาประกอบ ทั้งเหล็ก ล้อรถสามล้อแดงและโซ่จากรถสามล้อแดงซึ่งใหญ่กว่าล้อจักรยานทั่วไปมาก อานรถสามล้อแดง สายคลัตช์รถยนต์ ตะเกียบรถสามล้อแดง โช้กรถจักรยานยนต์ จานเบรกรถสามล้อ ค่อยๆ อ๊อกเชื่อม ต่อเป็นรูปร่างรถจักรยานขึ้นมา ทาสีสะท้อนแสงให้ฉูดฉาดแลดูสวยงาม โดยมีอุปกรณ์ของจักรยาน โดยเฉพาะไม่กี่อย่าง อาทิ บันไดพักเท้าสำหรับ ปั่น จานโซ่ ส่วนใหญ่ที่นำมาประกอบเป็นวัสดุจากรถชนิดอื่น

     ลุงณีกล่าวอีกว่า ทุกวัน เมื่อว่างจากการทำงาน จะขี่รถออกกำลังกายจากบ้านพักในบริเวณใกล้เคียงโรงเรียนวัดจันทน์ตะวันออก มาสวนชมน่านเป็นประจำ ใครเห็นก็มักจะขอถ่ายรูปด้วย ที่ผ่านมาได้ประดิษฐ์มาแล้ว 2 คัน คันแรกใช้ล้อรถช็อปเปอร์ คนมาเห็นก็ขอซื้อไปหมื่นกว่าบาท คันที่สองหลานขอไปใช้ คันนี้เป็นคันที่สามที่ใช้ปั่นออกกำลังกายทุกวัน

 

ตร.บุรีรัมย์อำนวยความสะดวก

      วันเดียวกัน พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า ภารกิจหน้าที่ของตำรวจนอกจาก จะร่วมในขบวนปั่นจักรยานเพื่อเทิดพระเกียรติ แล้ว ยังมีบทบาทสำคัญในการดูแลความเรียบ ร้อยและอำนวยความสะดวก เพื่อให้กิจกรรมสำคัญในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและราบรื่น โดยกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ได้จัดกำลังตำรวจกว่า 200 นาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) รวมทั้งสิ้นกว่า 500 นาย เพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยจะจัดแบ่งกำลังดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรตลอดเส้นทาง 25.3 ก.ม. พร้อมกันนี้ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งให้ประชาชน ได้รับทราบว่าจะปิดเส้นทางการจราจรบางช่วง แต่จะไม่ให้ส่งผลกระทบกับผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างแน่นอน โดยคาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 3,000 คน

 

หนูน้อยไร้แขนร่วมปั่นเพื่อแม่

      วันเดียวกัน นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จังหวัดพิษณุโลก นายชัชวาล ชนาวิรัตน์ ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองบางระกำ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปยี่ยม ด.ช. วรรธนะ คำอินทร์ หรือน้องทาม อายุ 11 ขวบ พิการไม่มีแขนทั้งสองข้างมาตั้งแต่กำเนิด ที่บ้านเลขที่ 200/5 หมู่ที่ 3 ต.หนองกุลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก หลังทราบข่าวว่าน้องทามมีความตั้งใจร่วมปั่นจักรยาน โครงการไบค์ ฟอร์ มัม ปั่นเพื่อแม่ โดยจากการสอบถามน้องทาม ทราบว่า เรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนวัดหนองนาดงกวาง (วัดดงกวาง) ต.หนองกุลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก มีความประสงค์อยากมีส่วนร่วมปั่นเพื่อแม่ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พม. ได้กล่าวชื่นชมว่า เป็นเด็กไทยหัวใจแกร่ง ต่อสู้ ชีวิตอย่างไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคทางร่างกาย เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชนที่สู้ชีวิต

      ด้านนางดอกรัก คำอินทร์ อายุ 44 ปี มารดา เปิดเผยว่า น้องทามเห็นการประชา สัมพันธ์กิจกรรมไบค์ ฟอร์ มัม สนใจอยากมีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้ เพราะตนเองรักแม่ น้องทามเป็นเด็กร่าเริง มีความสามารถในการวาดรูปเขียนภาพด้วยเท้า สำหรับการขับขี่จักรยานน้องทามใช้วิธีก้มคอและช่วงไหล่บังคับการเลี้ยวของจักรยาน และเบรกด้วยการใช้เท้าค่อยๆ แตะพื้นหยุดได้อย่างปลอดภัย

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลทะเบียนประวัติของน้องทาม พบว่าสำนักงาน พม. พิษณุโลก ดูแลมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2552 รวมทั้งการส่งตัวไปตรวจสภาพร่างกายที่ ร.พ. ศิริราช เป็นประจำทุกปี สำหรับการเข้าร่วมปั่นเพื่อแม่ นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผวจ.พิษณุโลก มอบหมายให้สำนักงานพม.พิษณุ โลก ร่วมกับนิคมสร้างตนเองบางระกำ อำนวย ความสะดวกให้กับครอบครัวของน้องทาม ในการเดินทางมาร่วมกิจกรรม

 

ชวนร่วมกิจกรรมปั่นเมืองตรัง

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผวจ.ตรัง พร้อมนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการหลายหน่วยงาน นำประชาชนชาว จ.ตรัง จำนวนกว่า 1,000 คน ที่พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีฟ้าร่วมซ้อมปั่นจักรยาน เหมือนวันจริง รวมระยะทาง 26 ก.ม. โดยการซ้อมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสวยงาม

 

สงขลาคึกคักแบ่ง3กลุ่มนักปั่น

     ที่ จ.สงขลา ผู้สื่อข่าวรายงานเส้นทางปั่นจักรยานรวม 32 ก.ม. จุดเริ่มต้นที่บริเวณศาลากลางจังหวัด ไปทางถนนชลาทัศน์ ถึงแยกเก้าเส้ง ผ่านโรงพยาบาลจิตเวชราชนครินทร์ เลี้ยวซ้ายผ่านแยกสำโรงไปทางหน้ามหาวิทยาลัย สงขลา ถึงห้าแยกน้ำกระจาย เลี้ยวขวา มุ่งตรงถึงหน้าสวนประวัติศาสตร์ แวะจุดพักเพื่อปลูกต้นไม้ จากนั้นเลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานติณ สูลานนท์ สะพาน 1 ไปถึงหน้าวัดแหลมพ้อ ถึงจุดกลับรถ วนกลับ เลี้ยวซ้ายทางแยกศาลปกครอง ผ่านไปตามถนนเลียบทะเลสาบสงขลา ถึงสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เลี้ยวขวาผ่านหน้าโรงแรมกรีนเวิลด์ เลี้ยวซ้ายไปตามถนนไทรบุรี ผ่านหน้าวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี มุ่งตรงเลี้ยวขวาแยกโรงเรียนอนุบาลสงขลา เข้าสู่เส้นชัยที่ซุ้มประตูถนนราชดำเนินหน้าศาลากลางจังหวัด

นายธำรงค์ เจริญกุล ผวจ.สงขลา เปิดเผยว่า มีข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ประชาชนชาวสงขลาร่วมกิจกรรมประมาณ 7,000 คน โดยแบ่งกลุ่มนักปั่นจักรยานเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 นักปั่นที่ลงทะเบียนเข้าร่วมบันทึกสถิติ กินเนสส์บุ๊ก 2,000 คน กลุ่มที่ 2 ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ภาครัฐ 1,000 คน และกลุ่มที่ 3 ประชาชนทั่วไป 5,000 คน

 

นิทรรศการยิ่งใหญ่เทิดพระเกียรติ

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นิทรรศการเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ บริเวณพื้นที่สนามเสือป่า สร้างขึ้นภายใต้แนวคิดแห่งการรวมพลังของทุกภาคส่วน และประชาชนชาวไทยทั้ง 78 จังหวัด ก่อเกิดขึ้นเป็นเส้นทางที่ล้วนแล้วแต่มีเป้าหมาย ร่วมในการเป็น "เส้นทางแห่งประวัติศาสตร์ ปั่นเพื่อแม่ของแผ่นดิน" โดยเรียงร้อยถ่ายทอดลำดับเรื่องราวผ่านนิทรรศการ 8 เรื่อง ได้แก่ นิทรรศการที่ 1 เส้นทางแห่งความรัก และความผูกพัน นำเสนอพระฉายาลักษณ์ที่แสดงถึงความรัก ความผูกพัน ความห่วงใย ของสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีต่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งเป็นพระฉายาลักษณ์พระราชทาน หาชมได้ยาก 

      นิทรรศการที่ 2 เส้นทางแห่งคำสอน ก่อเกิด พระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรไทยทุกคน นำเสนอพระราโชวาทที่เปรียบเสมือนคำสอนของพระองค์ที่ตรัสต่อผู้มาเข้าร่วมงานในวาระต่างๆ รวมถึงคำขวัญพระราชทานเนื่องในวันแม่ แห่งชาติในแต่ละปี ผ่านซุ้มเส้นทางเดินที่มากล้นไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณ นิทรรศการที่ 3 เส้นทางแห่งสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ถ่ายทอดเรื่องราวและพระฉายาลักษณ์การเสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงประกอบพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ อาทิ โครงการศิลปาชีพ โครงการด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม โครงการที่เกี่ยวกับการศึกษา การทำนุบำรุงศาสนา เป็นต้น ผ่านบอร์ดนิทรรศ การรูปทรงโคมดอกไม้สัญลักษณ์ของการถวายพระพร ถวายเป็นพระราชสดุดีแม่ของแผ่นดิน

     นิทรรศการที่ 4 เส้นทางร้อยรวมใจแห่งความภักดี เป็นเส้นทางจุดศูนย์รวมของประชาชนทุกหมู่เหล่าให้ได้สัมผัสกับตราสัญลักษณ์ไบค์ ฟอร์ มัม ในรูปแบบ 360 องศาที่โดดเด่น แสดงถึงสัญลักษณ์แห่งการรวมใจที่คนไทยมีต่อแม่ของแผ่นดิน นิทรรศการที่ 5 เส้นทางประวัติศาสตร์ บันทึกไว้ในความทรงจำ เป็นเส้นทางที่จะได้สัมผัสภาพ แสง สี เสียง ผ่านเรื่องราวอันเป็นจุดเริ่มต้นของกิจกรรม ไบค์ ฟอร์ มัม จนถึงการแสดงพลังการขับขี่จักรยานจากทั่วทุกสารทิศในการปั่นเพื่อแม่ รวมแล้วระยะทางกว่า 2,000 กิโลเมตร ถูกบันทึกและถ่ายทอดผ่านจอแอลอีดีขนาดใหญ่ เป็นเส้นทางประวัติศาสตร์ที่จะต้องจารึกไว้ตลอดไป นิทรรศการที่ 6 เส้นทางจักรยาน สู่กิจกรรมปั่นเพื่อแม่ ซึ่งสมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเป็นผู้นำในการทรงจักรยานถวายเป็นพระราชสดุดี ในครั้งนี้ โดยนิทรรศการถูกถ่ายทอดรูปทรงจักรยาน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และด้วยพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานจักรยานส่วนพระองค์ให้ประชาชนได้ชมอย่างใกล้ชิด

     นิทรรศการที่ 7 เส้นทางจักรยาน เส้นทางแห่งความสำเร็จ นำเสนอเรื่องราวความสำเร็จของกีฬาจักรยานในมิติต่างๆ อาทิ นักกีฬาไทยในการแข่งขันระดับนานาชาติ กิจกรรมความสำเร็จในการจัดการแข่งขันกีฬาจักรยานในประเทศไทย รวมถึงภาพแผนที่ 77 จังหวัดของประเทศไทยในการรวมพลังความสำเร็จเป็นกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ในครั้งนี้ด้วย นิทรรศการ ที่ 8 เส้นทางรักและห่วงใย สู่จุดหมายอย่างปลอดภัย นำเสนอเรื่องราวความรู้เทคนิค และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการขี่จักรยานให้ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด ผ่านนิทรรศการแบบ อินโฟ กราฟิกและวีดิทัศน์ต่างๆ

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!