WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

จี้ธรรมกายคืนเงินสหกรณ์'วิษณุ'ทวง เห็นใจคนเป็นหมื่นร่ำร้อง คสช.ห่วงปชช.เข้าใจผิด เร่งสปช.แจงปฏิรูปสงฆ์ ธรรมกายโพสต์'อดทน''พระไพศาล'วิพากษ์มส. ชี้โครงสร้างรวมอำนาจ

       วัดพระธรรมกายโพสต์'เอาชนะคนพาล ด้วยความอดทน' วิษณุระบุพูดมากเกิดสงครามศาสนจักร รอ มส.รับรองผลประชุมครั้งหน้า คสช.ขอแจงประชาชนปฏิรูปศาสนา

@ รอ'มส.'รายงานผลประชุมนัดหน้า

       จากกรณีความขัดแย้งหลังได้มีการรายงานที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ว่า พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ไม่อาบัติปาราชิกพ้นจากความเป็นสมณะ เนื่องจากไม่ได้ฝืนพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ปี 2542 และได้ปฏิบัติตามพระลิขิต ไม่มีเจตนาฉ้อโกงทรัพย์สินวัดพระธรรมกาย ต่อมาได้ทยอยคืนทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่วัดแล้ว จนก่อให้เกิดกระแสความไม่เห็นด้วยจากบุคคลหลายฝ่าย เนื่องจากเห็นว่ามติ มส.ขัดต่อพระลิขิต และได้มีแนวคิดให้มีการตรวจสอบการดำเนินการของ มส.ด้วย

        เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีจะสามารถนำเรื่องพระธัมมชโยที่ มส.เคยมีมติว่าคดีจบไปแล้วกลับมาพิจารณาใหม่ได้หรือไม่ว่า ขอเวลาพิจารณาก่อน แต่ตอนนี้ตนได้มีคำถามที่ถามไปยังเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อให้ค้นข้อมูลให้ หากเสร็จแล้วทาง พศ.จะมาพบอีกครั้ง และยังมีหน่วยงานอื่นๆ ที่จะเชิญมาหารืออยู่แล้ว ส่วนการประชุม มส.ครั้งต่อไปจะมีการรับรองรายงานการประชุม มส.วันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ฉะนั้นจึงอยู่ที่รายงานการประชุมที่รับรองว่าเป็นอย่างไร ซึ่งจะให้ช่วยเผยแพร่ให้สาธารณะทราบด้วยว่ามติของ มส.ที่ผ่านมาคืออะไร หากเป็นไปตามนั้นก็ไม่มีอะไร ส่วนที่ว่าไม่มีการโหวตก็เป็นเรื่องปกติที่บางครั้งจะมีมติโดยไม่มีการโหวตเหมือนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ไม่เคยมีการโหวต ส่วนที่ข่าวการแถลงมติ มส.ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ คงต้องถามผู้แถลงว่าเอาจากที่ไหนมาแล้วมติจริง ๆ เป็นอย่างไร 

        "ในการประชุม มส.ข้อแรก มีรับทราบสิ่งที่ พศ.รายงาน มส.ว่า ได้ไปให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธานคณะกรรมการว่าเป็นอย่างไร และข้อที่ 2 เพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องนี้ได้มีการขอให้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมีหน้าที่ตรวจสอบสรุปรวบรวมข้อมูลทั้งหมด มีคณะกรรมการ 6 คนและรูป เป็นพระธรรมยุต 2 รูป พระมหานิกาย 2 รูป และฆราวาส 2 คน มติ มส.ก็มีเท่านี้ ส่วนที่พิจารณาพระธัมมชโยปาราชิกหรือไม่ ทางตัวแทน พศ.บอกว่าไม่มีในส่วนนี้ เราคงต้องรอดูว่า มส.รับรองมตินี้หรือไม่ในการประชุมครั้งหน้า" นายวิษณุกล่าว

@ ชี้"พูดมาก"เป็นสงครามศาสนจักร

      เมื่อถามว่า กรณีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด โอนเงินให้วัดพระธรรมกาย ประมาณ 700 กว่าล้านบาทจะมีแนวทางอย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังทำอยู่ ต้องเรียนให้ทราบว่าหน้าที่ไม่ใช่การลงมาสอบสวนหรือชี้ถูกชี้ผิด เพราะมีเจ้าหน้าที่ พศ. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตำรวจ และกรมการศาสนาดูแลอยู่ ซึ่งตนจะมาดูแลกระบวนการตรงนี้ทั้งหมดแล้วสรุปเสนอรัฐบาลเท่านั้นไม่ได้ไปสอบสวนเอง ซึ่งในส่วนที่รับผิดชอบพอทราบเรื่องบ้างแล้วคงใช้เวลาไม่มาก แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่อาจต้องใช้เวลาเนื่องจากกระบวนการยาว จนกว่าจะเลิกกันไปข้างหนึ่ง และคงตอบไม่ได้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่จึงจะได้ข้อยุติ อย่างไรก็ตาม กรณีสหกรณ์เครดิตฯ ต้องเอาเงินคืนให้ได้ก่อน และจะพูดมากไม่ได้เพราะเดี๋ยวเสียรูปคดี อีกทั้งมีความละเอียดอ่อนเกินกว่าที่สังคมรู้ ซึ่งรัฐบาลต้องทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยและทำด้วยความระมัดระวังอย่างมาก ซึ่งจะอย่างไรให้คืนเงินมาให้คนเป็นหมื่นที่ร้องร่ำคร่ำครวญกันอยู่ 

      "สหกรณ์เครดิตฯจะเกี่ยวข้องหรือไม่ ผมไม่ทราบ แต่ว่าวันนี้มีการกล่าวอ้างว่าเกี่ยว และมีข่าวออกมาว่าประธานสหกรณ์ฯคนก่อนจ่ายเช็คให้พระ เท็จจริงไม่ทราบ ตรงนี้คือสิ่งที่ผู้เกี่ยวข้องต้องลงไปสอบให้ได้ว่าเงินของสหกรณ์ฯที่หายไปสู่เส้นทางไหนบ้าง เพื่อเอาเงินคืนมา โดยต้องเอาเรื่องสหกรณ์ฯเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่เอาวัดพระธรรมกายเป็นตัวตั้ง ขอย้ำว่าเอาสหกรณ์เป็นตัวตั้งแล้วสาวไปสู่ปลายทางของเงินไม่ใช่วัดพระธรรมกาย" นายวิษณุกล่าว

เมื่อถามว่าจะกลายเป็นสงครามศาสนจักรหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า หากพูดมากๆ มันก็จะเป็น

@ "วิษณุ"แจงไม่อยากยุ่งแต่มีหน้าที่ 

     เมื่อกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าไม่อยากเข้าไปยุ่ง กลัวว่าลูกศิษย์ของแต่ละฝ่ายจะลุกขึ้นมาขัดแย้งกันเอง รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มีใครอยากยุ่งหรอก "ผมก็ไม่อยากยุ่ง แต่ว่ายุ่งในที่นี้หมายถึง ยุ่งในความหมายว่า ไปสอดแทรก ไปวิ่งเต้น ไปกลบเกลื่อน ถือหาง แต่ถ้าหากคำว่ายุ่งในความหมายว่า เป็นหน้าที่ที่ต้องทำให้เกิดความชัดเจน เกิดความโปร่งใส เกิดความถูกต้องแก่ศาสนา เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เกี่ยวข้อง ยิ่งมีเรื่องสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เรื่องการคืนเงินก็เป็นส่วนหนึ่งของคำว่าเป็นธรรมนะ ก็เป็นเรื่องที่คนที่มีหน้าที่ตรงนี้จำเป็นต้องเข้ามายุ่ง ผมมีหน้าที่ก็เลยต้องยุ่ง" นายวิษณุกล่าว

@ รอศาลแพ่งไกล่เกลี่ย"ธัมมชโย"

     รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยถึงปัญหาความขัดแย้งทางศาสนาอันเนื่องมาจากกรณีของพระธัมมชโยว่า เรื่องนี้ต้องแยกคดีเกี่ยวกับการบริจาคเงินและกรณีของปาราชิกออกจากกัน ซึ่งในทางคดีนั้นวันที่ 16 มีนาคมนี้ ทางศาลแพ่งจะนัดไกล่เกลี่ยกัน จะต้องรอผลการไกล่เกลี่ยของศาลก่อน ทั้งนี้หากพบหลักฐานชัดเจนว่ามีการโอนเงินในการบริจาคให้กับพระธัมมชโย ก็จะส่งผลทำให้เรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของ มส. แต่ก็ต้องมีผู้ร้องด้วย อย่างไรก็ดี ตามขั้นตอนแล้วผู้ที่จะมีอำนาจในการดำเนินการ คือ พระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ที่ผ่านมาหลายคนมองข้ามไปและมุ่งไปที่ มส. แต่แท้จริงอำนาจไม่ได้อยู่ที่ มส. แต่อยู่ที่เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี 

@ "คสช."ขอสปช.แจงปฏิรูปศาสนา

      เวลา 14.20 น. ที่รัฐสภา นายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) แถลงภายหลังการประชุมวิป สปช.ว่า ก่อนประชุมตัวแทนฝ่ายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้หารือเบื้องต้นเห็นว่า สปช.เป็นสภาที่ปรึกษาด้านข้อมูลให้รัฐบาลและ คสช.การดำเนินการของ สปช.นั้น คสช.และรัฐบาล จะนำไปพิจารณาเป็นพิเศษเพราะถือว่าเป็นบุคคลที่ คสช.ตั้งขึ้นเพื่อเป็นคลังสมอง จึงพร้อมรับไปดำเนินการให้ หากมีเหตุขัดข้องในการดำเนินการใดๆ ของ สปช. ทาง ครม.และ คสช.พร้อมประสานงานเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุขัดข้องหรือความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ขอให้ทุกภาคส่วนประสานงานกันก่อนที่จะสื่อสารออกไปสู่สาธารณะ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของ สปช. เพราะที่ปรากฏออกไปโดยเฉพาะกรณีเกี่ยวกับการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาอาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อน

@ "วันชัย"ปัดจ้องเล่นงานคณะสงฆ์

     นายวันชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้วัตถุประสงค์ของ สปช.ในการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนาเพื่อต้องการสนับสนุน ปกป้อง คุ้มครองกิจการพระพุทธศาสนา ไม่ได้มีเจตนาเล่นงานพระสงฆ์หรือรื้อโครงสร้าง เพียงแต่ต้องการศึกษา ตรวจสอบ ปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนาใน 4 เรื่อง คือ 1.วัตรปฏิบัติของพระภิกษุสงฆ์หรือนักบวชบางพวก ที่ปฏิบัติตัวไม่เหมาะสม 2.ศาสนสมบัติของพระศาสนาหรือวัด ปรากฏว่ามีคนบางกลุ่มหากินกับของที่ประชาชนบริจาค 3.คำสอนของพระพุทธเจ้า ปรากฏว่ามีเจ้าลัทธิ พระสงฆ์บางพวก นำคำสอนไปทำผิดวิปริตผิดจากคำสอนที่แท้จริง และ 4.กำลังพิจารณาว่าฝ่ายบ้านเมืองน่าจะเข้าไปมีบทบาทสนับสนุนการดำเนินงานของพระพุทธศาสนา ด้วยวิธีการแก้กฎหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่คณะกรรมการดำเนินการอยู่ ส่วนกรณีของวัดพระธรรมกาย ถือเป็นกรณีศึกษาเท่านั้น คณะกรรมการฯไม่ได้มีเจตนาไปเล่นงานแต่อย่างใด

@ นัดดีเอสไอแจงสหกรณ์ฯ 2 มี.ค.

      นายไพบูลย์กล่าวว่า คณะกรรมการปฏิรูปฯจะเดินหน้าทำงานต่อไปตามกระบวนการที่วางไว้เหมือนเดิม โดยจะทำการศึกษาวิเคราะห์สรุปแนวทางการปฏิรูปศาสนาพุทธในภาพรวมต่อไป ส่วนการศึกษาเฉพาะกรณีของธัมมชโยนั้น ก็จะดำเนินการตรวจสอบขอข้อมูลจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่นัดให้มาชี้แจงในวันที่ 2 มีนาคม ในคดีที่มีความเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินสหกรณ์คลองจั่นเพียงเท่านี้ เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปศึกษาวิเคราะห์ให้ตอบโจทย์ที่คณะกรรมการชุดนี้วางไว้คือ พระและวัดมีความจำเป็นต้องเปิดเผยบัญชีถือครองทรัพย์สินแก่สาธารณชน เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและพระธรรมวินัย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ ส่วนการติดตามพระลิขิตและมติ มส. เมื่อปี 2542 จะไม่เกี่ยวกับคณะกรรมการชุดนี้ แต่ในความเห็นส่วนตัวมองว่าจำเป็นจะต้องมีการติดตามจึงขอเรียกร้องให้กรรมการ มส.ชุดนี้ ชี้ชัดออกเป็นมติมาเลยว่า ธัมมชโยไม่ต้องปาราชิกและให้เปิดเผยมติของเมื่อปี 2549 ที่ระบุว่า เมื่อคืนที่ดินวัดแล้วจึงไม่ปาราชิกออกมาให้สังคมได้ร่วมรับรู้ติดตามตรวจสอบและอาจนำไปสู่การต่อสู้ทางกฎหมาย 

       เมื่อถามว่า กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้แยกอาณาจักรออกจากศาสนจักร ไม่ให้เข้าไปยุ่งกับพระ นายไพบูลย์กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีพูดถูกต้อง จากที่ดำเนินการมาก็เป็นไปตามที่นายกฯกล่าวทุกอย่างคือ ดำเนินการไปตามโครงสร้างของฝ่ายศาสนา เรียกร้องให้ มส.ชุดปัจจุบันดำเนินการตามมติ มส.และพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชที่ถือว่าเป็นประมุขฝ่ายสงฆ์เมื่อปี 2542 ให้ถูกต้องตามกฎหมาย

@ มปปท.ร้องผู้ตรวจการสอบมส.

       วันเดียวกัน เวลา 15.00 น. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กลุ่มเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปปท.) นำโดยนางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานกรรมการ มปปท. พร้อมด้วยตัวแทนเครือข่าย มปปท.ยื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ตรวจสอบกรรมการ มส.กรณีมีมติไม่เอาผิดพระธัมมชโย

     นางวิรังรอง กล่าวว่า ตามที่ มส.มีมติไม่เอาผิดพระธัมมชโยถือว่าขัดต่อพระธรรมวินัยและกฎหมายบ้านเมือง เนื่องจากตามพระธรรมวินัย ภิกษุไม่สามารถรับที่ดิน ไร่นามาเป็นของตนได้ ปรากฏตามพระสุตตันตปิฎก ดังนั้น จึงขอให้ทางผู้ตรวจการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่า มส.และผู้ที่เกี่ยวข้องทำไม่ถูกต้องตามพระธรรมวินัยและกฎหมาย

       ขณะที่นายรักษเกชากล่าวว่า ทางผู้ตรวจการต้องมีการพิจารณาก่อนว่าเรื่องดังกล่าว อยู่ในอำนาจหน้าที่หรือไม่ หากอยู่ในอำนาจก็จะดำเนินการตามกระบวนการ แต่หากไม่อยู่ในอำนาจก็จะส่งเรื่องไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

@ โต้คสช.มีอำนาจยุบกก.ปฏิรูป

       พระเมธีธรรมาจารย์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ประธานสงฆ์สังฆสามัคคี และผู้นำเครือข่ายองค์กรชาวพุทธแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากที่เครือข่ายได้ยื่นหนังสือถึงนายกฯให้มีการยุบคณะกรรมการปฏิรูปศาสนาฯสปช.แล้ว และมีการบอกว่ารัฐบาลไม่มีอำนาจในการสั่งยกเลิก ใครก็รู้ว่ารัฐบาลนี้มีอำนาจขนาดไหน อย่างประธาน คสช.มีอำนาจเต็มที่ และสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นปัญหาความปรองดองของคนในชาติ จึงขอให้ยกเลิกคณะกรรมการปฏิรูปฯชุดนี้ แล้วกลับมาหารือกันใหม่ว่าจะปฏิรูปวงการสงฆ์อย่างไร เนื่องจากคณะกรรมการชุดนี้มีสมมุติฐานเรื่องพระพุทธศาสนาในทางที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น คสช.น่าจะยับยั้งเรื่องนี้ได้เพื่อความร่มเย็นสงบสุขของพระ และคนในชาติ 

       "จากวันนี้ไปอีก 14 วัน ถ้าหนังสือที่ไปยื่นไม่เป็นผล ยังไม่มีการยุบคณะกรรมการปฏิรูปฯ ชุดนี้ อาตมาจะนำพระสงฆ์จำนวนมากออกมาร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ แต่เป็นที่ไหนต้องรอดูอีกที" พระเมธีธรรมาจารย์กล่าว

@ พระดังชี้หนีกฎแห่งกรรมไม่ได้

       พระโสภณรัตนาภรณ์ (ไพศาล กิตฺติภทฺโท) เจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้า จ.นนทบุรี กล่าวว่า ถามว่าคณะกรรมการปฏิรูปฯชุดนี้ตั้งมาเพื่ออะไร เพราะคณะสงฆ์กำลังไปได้ดี หรือเพราะจิตว่าง ไม่มีงานทำ โดยปกติพระสงฆ์ปกครองกันดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องปฏิรูปก็ได้ เรื่องพระธัมมชโยประชาชนส่วนมากเข้าใจผิดกันไปเอง วัดเป็นพุทธสถานที่มีเจ้าอาวาสเป็นผู้ดูแล ในขณะที่เจ้าอาวาสดำรงตำแหน่งอยู่ เมื่อมีโยมมาถวายปัจจัย หรือที่ดิน โดยระบุเป็นชื่อพระ เมื่อสึก หรือมรณภาพ ทรัพย์ส่วนตัวในขณะที่เป็นพระ ต้องตกเป็นของวัด อยากให้ทุกฝ่ายหันมาสร้างสัมมาทิฐิมากกว่าทะเลาะกัน 

      "บางอย่างอย่าเป่าเพราะมันจะฟุ้ง คนทำผิดหนีกฎหมายโลกได้ แต่หนีกฎแห่งกรรมไม่ได้ เรื่องนี้จบมานานแล้วจะขุดขึ้นมาเพื่ออะไร เมืองไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก อย่าเอาปัญหาจุดเล็กๆ มาทำลายเลย" พระโสภณรัตนาภรณ์กล่าว

@ "ผช.วัดธรรมกาย"โพสต์ให้อดทน

      พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวในช่วงเวลา 22.00 น. ของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ว่า "จงเอาชนะคนพาล ด้วยความอดทน" ซึ่งมีผู้มาแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

       ขณะที่พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก"หลวงปู่พุทธะอิสระ" เรื่อง เรือกำลังล่ม ใครจะโง่อยู่รอให้จมไปกับเรือว่า "วันนี้ตอนช่วงบ่าย (24 กุมภาพันธ์ 2558) ฉันได้ต่อสายถึงเพื่อนพระที่เป็นเจ้าคุณ เจ้าอาวาสอารามหลวง ให้ได้ส่งสัญญาณไปถึงกรรมการมหาเถรฯว่า หากไม่อยากเสียตัว ก็จงยอมเสียหน้า โดยแก้ด้วยการกล่าวอ้างถึงความวิตกกังวลเดือดร้อนของพุทธบริษัทที่มีต่อมติที่ออกไปแล้ว เพื่อลดกระแสและยุติข้อวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้บ้านเมืองกลับมาสงบสุข สังฆมณฑลเรียบร้อย มหาเถรสมาคมเป็นที่ศรัทธาของพุทธศาสนิกชน จึงค่อยกลับมาพิจารณาคดีธรรมกาย นายธัมมชโยใหม่ให้สอดคล้องต่อข้อกำหนดของพระธรรมวินัย โดยให้เวลามหาเถรสมาคมถึงวันประชุมคราวหน้า หากยังรักษาพวกโดยไม่รักษาพระธรรมวินัย ฉันพุทธะอิสระจะนำความผิดของ มส. (ไม่ทั้งหมด) ไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษแก่ตำรวจกองปราบฯและร้องเรียนต่อผู้ตรวจการรัฐสภา"

@ "พระไพศาล"แนะยึดพระวินัย

       พระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ กล่าวถึงกรณีวัดพระธรรมกายว่า อยากให้ทุกฝ่ายยึดความถูกต้องมากกว่าความถูกใจ หากไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมายก็ทำให้ถูกต้อง ไม่ใช่กลบเกลื่อนเพราะจะนำไปสู่ความแตกแยกและปัญหาในระยะยาว ส่วนการแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดความถูกต้อง สิ่งสำคัญคือ ต้องทำด้วยใจ ที่ไม่โกรธไม่เกลียด ทำด้วยใจที่ปราศจากอคติ ส่วนเรื่องความผิดของพระธัมมชโย อยากให้สังคมยึดหลักพระธรรมวินัยเป็นหลัก โดยพระธรรมวินัยระบุไว้ชัดเจนว่า พระถ้าหากเอาของอื่นมาเป็นของตน หรือลักขโมย ถือว่าปาราชิก คราวนี้ก็ต้องมาดูว่าพระธัมมชโยได้ทำเช่นนั้นจริงและมีเจตนาหรือไม่ 

       ผู้สื่อข่าวถามกรณีการที่มีบางฝ่ายเสนอให้มีการปฏิรูป มส. พระไพศาลกล่าวว่า ต้องยอมรับความจริงว่า ปัญหาที่เกิดกับวงการพระสงฆ์ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพระธัมมชโย ธรรมกาย เรื่องเณรคำ เรื่องพระอลัชชี เกลื่อนกลาดบ้านเมือง มันเกิดจากความไร้ประสิทธิภาพของ มส. และสะท้อนให้เห็นถึงความผิดพลาดในระดับโครงสร้างหรือระบบการปกครองคณะสงฆ์ ซึ่งมีลักษณะรวมศูนย์อำนาจไว้ที่คณะกรรมการ มส. เพียง 20 ท่าน

@ ธรรมกายสะท้อนศาสนาล้มเหลว

      "การที่วัดพระธรรมกายได้รับความนิยม แพร่หลาย สิ่งสำคัญเกิดจากการที่คนไทยไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องพระพุทธศาสนาตั้งแต่เรื่องพื้นฐานคือเรื่องบุญ ไปคิดว่าบุญจะได้มากเท่าไร อยู่ที่ว่าจะถวายเงินมากเท่าไร ถวายมากได้มาก ถวายน้อยได้น้อย รวมทั้งทำบุญเพื่อหวังที่จะเอา หวังร่ำรวย ซึ่งความคิดนี้ไม่ใช่ วัตถุประสงค์การทำบุญในทางพระพุทธศาสนา ทำบุญในทางพุทธคือทำเพื่อละ ไม่ใช่ทำเพื่อเอา การที่คนส่วนมากมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในการทำบุญ มันก็นำไปสู่ความศรัทธาหลงใหลในวัดพระธรรมกาย สิ่งนี้สะท้อนถึงความล้มเหลวของการเผยแผ่พระพุทธศาสนา" พระไพศาลกล่าว 

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ยังมีพุทธศาสนิกชนมาทำบุญไหว้พระกันตามปกติ และมีรายงานว่า นพ.จายหม่องคำ รองประธานาธิบดี สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า พร้อมภริยา ได้เดินทางมานมัสการสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นการส่วนตัว พร้อมกราบเรียนเรื่องการถวายสมณศักดิ์ชั้นอัคคมหาสัทธัมมโชติกะธะชะ จากรัฐบาลพม่า โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ภาษีเจริญ ให้ความดูแลและอำนวยความสะดวก 

    ด้านพระพรหมโมลี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ติดภารกิจของสงฆ์จึงไม่สะดวกให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!