WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 04 มีนาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8862 ข่าวสดรายวัน


สงฆ์ยํ้าอีก ชุมนุมใหญ่ 12 มีค. 
วันเส้นตายจี้สปช.ยุบทิ้ง กก.ปฏิรูปพุทธชุดไพบูลย์ ยันมาสงบ-นั่งสวดมนต์'บิ๊กตู่'ให้เทียนฉายชี้ขาด


ร่วมจี้ยุบ - พระสงฆ์ตัวแทนสภานิสิต มจร.ขอนแก่น ยื่นหนังสือผ่านศูนย์ดำรงธรรม จ.ขอนแก่น เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี และประธานสปช. สั่งยุบคณะกรรมการปฏิรูปฯ พระพุทธศาสนา ที่มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสปช. เป็นประธาน เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 

     คณะสงฆ์ฮือนัดชุมนุมใหญ่วันเส้นตาย รวมพลัง แสดงสังฆมติไม่เอากก. ปฏิรูปพุทธฯชุดไพบูลย์ นิติตะวันหลังรัฐบาล-สปช.มีท่าทีเพิกเฉยไม่รับฟังเสียงพระสงฆ์ เผยพระภิกษุ-สามเณร-ฆราวาสจากทุกภาคจะรวมพลังกันครั้งใหญ่ปกป้องพระพุทธศาสนา จัดสวดมนต์ ตั้งเวทีเสวนาทางวิชาการ พร้อมออกแถลงการณ์ย้ำจุดยืน ยืนยันไม่เกี่ยวกับกรณีวัดพระธรรมกาย ขณะเดียวกันสภานิสิตมหาจุฬาฯขอนแก่นก็ยื่นหนังสือถึงบิ๊กตู่ผ่านศูนย์ดำรงธรรม จี้ยกเลิกกก.ปฏิรูปพุทธฯ ด้าน'บิ๊กตู่'ปัดวุ่น ระบุส่งเรื่องให้'เทียนฉาย'พิจารณาแล้ว
    เมื่อเวลา 14.10 น. วันที่ 3 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมครม.ถึงกรณีที่พระธรรมทูตต่างประเทศและคณะสงฆ์เรียกร้องให้มีการยุบคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูป แห่งชาติ (สปช.) ว่า ตอนนี้ให้นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. ดูแลอยู่ ท่านรับไปแล้วให้ไปดูถึงความเหมาะสม พูดไปก็ขัดแย้งกันเปล่าๆ ก็ต้องการให้ชัดเจนขึ้นว่าต่อจากนี้ไปจะทำอย่างไร ถ้าบอกว่าไม่มีกฎหมายก็ไปหากฎหมายมาว่ากัน ตอนนี้อยู่ที่ว่าควรจะทำแบบใดเท่านั้น
    "ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ตัวผมก็อดทนทุกอย่างเลย เอาผมเป็นหลักก็แล้วกัน ฉะนั้นผมก็คิดว่าตรงนั้นส่วนหนึ่ง แต่ถ้ามองว่าเขาทำไม่ถูก ส่วนที่ดีเขาก็มีอยู่ ก็ค่อยๆ ว่ากัน แก้กันไป ไม่ใช่ว่าผมปัดหรือไปอุ้มอะไร" นายกฯ กล่าว 
    วันเดียวกัน พระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร จันทสาโร) รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ในฐานะที่ปรึกษาสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ สนพ.พร้อมด้วยองค์กรทางพระพุทธศาสนาหลายแห่งแสดงจุดยืนเรียกร้องให้มีการยุบคณะกรรมการปฏิรูปฯ พระพุทธศาสนาภายใน 15 นั้น หากพบว่ารัฐบาลและ สนช.ยังคงนิ่งเฉย สนพ.ยังคงยืนยันจะนิมนต์พระสงฆ์และฆราวาสจำนวนมากร่วมชุมนุมในวันพฤหัสบดีที่ 12 มี.ค.อย่างแน่นอน 
    ทั้งนี้ สนพ.ขอยืนยันว่ากรอบการชุมนุม ของคณะสงฆ์ให้ยุบคณะกรรมการปฏิรูปฯ พระพุทธศาสนา จะไม่ใช้ความรุนแรงแข็งกร้าวแต่อย่างใด ไม่มีการตะโกนด่าทอหยาบคาย แต่จะเน้นความสงบตามกรอบในพระธรรมวินัยและอยู่ภายใต้กฎหมายบ้านเมือง เหมาะสมแก่สมณสารูปของบรรพชิต สำหรับกิจกรรมการชุมนุมนั้นทาง สนพ.กำหนดกรอบไว้ประกอบด้วย การสวดเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อดลใจให้รัฐบาลและ สนช.ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง, กิจกรรมเวทีเสวนาทางวิชาการเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา โดยพระสงฆ์และนักวิชาการด้านพระพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียง, การออกแถลงการณ์ข้อเรียกร้องและยื่นหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น 
    "ขณะนี้มีองค์กรทางพระพุทธศาสนาหลายแห่งจากในประเทศและต่างประเทศ แสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกับ สนพ. เรียกร้องให้ยุบคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา เห็นได้ชัดเจนว่าองค์กรทางพระพุทธศาสนาแต่ละแห่ง พร้อมใจกันออกมาแสดงจุดยืนเพื่อปกป้องพระศาสนา ส่วนการชุมนุมนั้นมิได้กำหนดกฎเกณฑ์ว่าจะต้องมีผู้เข้าร่วมชุมนุมเท่าใด ทุกอย่างให้เป็นตามกำลังศรัทธา แต่ละองค์กรพุทธหรือคณะสงฆ์ในแต่ละภาค จะนิมนต์พระสงฆ์และฆราวาส ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแต่ละบุคคล ซึ่งขอให้บุคคลที่มาเป็นไปด้วยความเต็มใจ มิใช่บังคับเอามา จะมากันมากหรือน้อยมิใช่สาระสำคัญ เพียงให้มีความตั้งใจปกป้องพระพุทธศาสนา" พระเมธีธรรมาจารย์กล่าว
     พระเมธีธรรมาจารย์กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานคณะกรรมการปฏิรูปฯ พระพุทธศาสนา จะจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย ในวันอังคารที่ 10 มี.ค.นั้น องค์กรเครือข่ายชาวพุทธ และ สนพ.ขอแสดงจุดยืนดังนี้ 1.เราไม่ยอมรับคณะกรรมการชุดนี้มาตั้งแต่ต้น และเรียกร้องให้ยุบคณะกรรมการชุดดังกล่าว 2.จะไม่ไปร่วมสัมมนา เสวนาด้วยไม่ว่ากรณีใดๆ 3.ถ้าหากว่ามีพระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งไปร่วมงาน แสดงว่าท่านรูปนั้นไม่ใช่สมาชิกสงฆ์ในเครือข่ายองค์กรชาวพุทธ
    วันเดียวกัน สมาคมนักวิชาการพระพุทธศาสนา (สนพ.) ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 เรื่องแนวทางในการพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนาคณะสงฆ์และมหาเถรสมาคม โดยระบุว่า เนื่องจากมีกลุ่มบุคคลที่พยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดความเสียหายแตกแยกโดยรวมต่อพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะคณะสงฆ์และมหาเถรฯ ซึ่งอ้างถึงแนวทางปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา และมีความพยายามดำเนินการต่างๆ ต่อคณะสงฆ์ และมหาเถรฯ ให้เชื่อมโยงกับวัดพระธรรมกายนั้น สนพ.เห็นว่าการกระทำของกลุ่มดังกล่าวมีเจตนาอย่างชัดแจ้ง ที่กระทำต่อคณะสงฆ์และมหาเถรฯ อันไม่เหมาะสม จึงชี้แจงข้อเท็จจริงในแนวทางการพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนา คณะสงฆ์และมหาเถรฯ ดังนี้ 
    1.สนพ.มีอุดมการณ์ทางพระพุทธศาสนาอันชัดแจ้งด้วยหลักวิชาทางพระพุทธศาสนา โดยยึดหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์เป็นแนวทางในการพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนาตามหน้าที่ชาวพุทธของความเป็นพุทธบริษัท 2.การพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนาคณะสงฆ์และมส.ที่ถูกกระทำย่ำยีอยู่ในขณะนี้ของ สนพ.ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับกรณีวัด พระธรรมกาย 3.ให้กลุ่มบุคคล ประกอบด้วย คณะกรรมการปฏิรูปฯ พระพุทธศาสนาบางคน และพระสุวิทย์ ธีรธัมโม ยุติการกระทำใดๆ ที่ละเมิดต่อพระธรรมวินัย และไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง และให้ยุติการสร้างความแตกแยกในศาสนจักร โดยเฉพาะการล่วงเกินใส่ร้ายคณะสงฆ์ และมส. ซึ่งเป็นองค์กรปกครองสูงสุดโดยเร็ว
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะสงฆ์และชาวพุทธได้ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนให้ยกเลิก คณะกรรมการปฏิรูปฯ พระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดองค์กรนิสิตวิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษ มหาจุฬาฯ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ยกเลิกคณะกรรมการปฏิรูปฯ พระพุทธศาสนา ขอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการให้เหมาะสมดีงาม ในการสืบทอดสถาบันพระพุทธศาสนาอันเป็นที่พึ่งทางจิตใจชาวไทยมาช้านาน นอกจากนี้ พระวัดคลองเมือง จ.พิษณุโลก ยังได้ส่งหนังสือแสดงจุดยืนให้ยุบคณะกรรมการปฏิรูปฯ พระพุทธศาสนาด้วย
     เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น พระมหาศิริศักดิ์ สิริวุฑฒิปัญญาเมธี รองประธานสภานิสิตและโฆษกสภานิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น พระมหาเมธี คัมภีรญาโณ ที่ปรึกษาประธานนิสิตคณะรัฐศาสตร์ พร้อมพระสงฆ์ในคณะนิสิตคณะรัฐศาสตร์ประมาณ 30 รูป เดินทางมาที่ศูนย์ดำรงธรรมศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เพื่อพบกับนายกำธร ถาวรสถิตย์ ผวจ.ขอนแก่น เพื่อยื่นหนังสือแถลง การณ์คณะกรรมการสภานิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น เรื่อง ขอให้ยกเลิกคณะกรรมการปฏิรูปพระพุทธศาสนาให้ผู้ว่าฯ นำเรียนต่อนายกรัฐมนตรี
     ต่อมานายสำราญ รัตนพันธุ์ นักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ขอนแก่น มารับหนังสือแถลงการณ์ มีข้อความสรุปว่า ตามที่ ศ.ดร.เทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา โดยมีนายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธาน ดูเหมือนเป็นกับประธานคณะกรรมการคนนี้ จ้องใช้การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา หรือนำพระพุทธศาสนาไปเกี่ยวข้องกับการเมือง เพื่อหวังทำลายความน่าเชื่อถือของประชาชนต่อองค์กรปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์ก่อน แล้วจักเข้ามาจัดระเบียบของคณะสงฆ์ไทย
     สภานิสิต (บรรพชิต) วิทยาเขตขอนแก่น ขอเน้นย้ำว่า ไม่ได้ขัดข้องในการปฏิรูป เพราะที่ผ่านมาคณะสงฆ์ได้เสนอการปฏิรูปตนเองผ่านการแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์มาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ติดปัญหาทุกครั้ง ทั้งนี้ ปัญหาของคณะสงฆ์หรือปัญหาบ้านเมือง ล้วนแต่ต้องได้รับการแก้ไข จึงขอให้ผู้มีส่วนรับผิดชอบมองว่า พระสงฆ์โดยภาพรวมมีปัญหาอย่างไร รัฐบาลจะอุปถัมภ์เกื้อกูลให้คณะสงฆ์แก้ปัญหาตนเองอย่างไร ทั้งอาณาจักรและศาสนจักรจะร่วมมือกันเผยแผ่ศีลธรรมอันดีงามของศาสนาให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร และสนับสนุนให้สถาบันสงฆ์พัฒนาตนให้เป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพ เป็นสังฆะที่เป็นต้นแบบได้อย่างไรมากกว่าที่จะมาจับผิดกันเช่นนี้
   พระมหาศิริศักดิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีบางกลุ่มต้องการเข้ามาจัดการปฏิรูปพระพุทธศาสนาของประเทศ แม้ว่าพระพุทธศาสนาของประเทศที่ปกครองหรือศาลของพระ คือ มหาเถรสมาคม การมาครั้งนี้ไม่ได้มาคัดค้าน แต่มาเพื่อยื่นแถลงการณ์ ขอให้รองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในด้านปฏิรูปพระพุทธศาสนาเข้ามาปรึกษาหารือกับมหาเถรสมาคมด้วย ถ้าจะมีการปฏิรูปศาสนาจริงๆ ควรมีผ้าเหลืองเข้ามาเป็นกรรมการไม่ใช่มีแต่ผ้าลาย หรือเรียกว่า "อย่าให้ผ้าลายมาแก้ปัญหาผ้าเหลือง" ขอให้ทุกท่านไม่ว่าจะเป็นคฤหัสถ์ บรรพชิต ต้องมีความปรองดองกันขึ้นมาก่อนที่จะปฏิรูปศาสนาของประเทศ 
    พระมหาเมธี กล่าวว่า การมาครั้งนี้จึงขอมายื่นหนังสือให้ ผวจ.ขอนแก่น เพื่อที่จะได้ประสานงานไปยังฝ่ายรัฐบาลที่อยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งการเรียกร้องของชมรมรัฐศาสตร์ มหา วิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น คือไม่เห็นด้วยในการแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา เพราะไม่มีการปรึกษาคณะสงฆ์ ไม่มีความรู้ความชำนาญในด้านของพระพุทธศาสนา และไม่ให้คณะสงฆ์เข้าไปเกี่ยวข้องในการปฏิรูปพระพุทธศาสนา สิ่งนี้กลุ่มของอาตมายอมไม่ได้ พร้อมกับขอเรียกร้องให้มีการหยุดการคุกคามคณะสงฆ์ โดยเฉพาะมหาเถรสมาคม ซึ่งเป็นองค์กรปกครองสูงสุดของพระพุทธศาสนา และขอเรียกร้อง ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองให้ช่วยกันทำเพื่อพระพุทธศาสนา โดยมีความเห็นที่ถูกต้อง
    ส่วนนายสำราญ รัตนพันธุ์ นักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ตนจะนำแถลงการณ์ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มาเรียกร้องครั้งนี้ไปรายงานให้ ผวจ.ขอนแก่นรับทราบ เพื่อพิจารณาดำเนินการรายงานให้ส่วนกลางทราบโดยเร็วที่สุดต่อไป
     ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พระ สุวิทย์ ธีรธัมโม หรือพุทธอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม เดินทางเข้าพบพ.ต.ท. วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ เพื่อยื่นหนังสือขอให้ดีเอสไอตรวจสอบเส้นทางการเงินและทรัพย์สินของเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ และกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เนื่องจากมีการก่อสร้างอาคารจอดรถ พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล วงเงิน 300 ล้านบาท รูปหล่อหลวงพ่อสดวัดปากน้ำด้วยทองคำบริสุทธิ์น้ำหนัก 1 ตัน รวมถึงการครอบครองรถยนต์หรูหมายเลขทะเบียน ขม 99 กทม. ซึ่งต้องสงสัยว่ารถยนต์คันดังกล่าวมีการหลีกเลี่ยงภาษี นอกจากนี้ ยังขอให้ดีเอสไอตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินประจำตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช เงินประจำตำแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน สมเด็จพระสังฆราช ว่ามีการใช้จ่ายตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่
     หลวงปู่พุทธอิสระ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า มส. ได้มีการขอพระราชทาน เลื่อนสมณศักดิ์แก่พระราชภาวนาวิสุทธิ์ พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายขึ้นเป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ซึ่งเป็นการ แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน เนื่องจากพระธัมมชโยต้องอาบัติปาราชิกไม่อาจกลับมาบวชได้อีก
    ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ พุทธอิสระ เข้ายื่นหนังสือต่อนายตระกูล วินิจฉัยภาค อัยการสูงสุด เพื่อขอให้ตรวจสอบเหตุผลของการสั่งฟ้องและการถอนฟ้องคดีพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และขอให้ยกคดีขึ้นฟ้องร้องยังศาลใหม่ มี นายพรศักดิ์ ศรีณรงค์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา และนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือร้องเรียน
    นายพรศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นมานานแล้ว ชุดทำงานเดิมก็เกษียณราชการหมดแล้ว ซึ่งการดำเนินการเกี่ยวกับคดีจะต้องรอทางอัยการสูงสุดมีคำสั่งมาก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนระยะเวลาการตรวจสอบสำนวนคดีเก่านั้น คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะในการค้นหาเอกสารสำนวน เพราะไม่ทราบว่าตอนนี้เอกสารสำนวนคดีเก็บไว้อยู่ที่ใด เนื่องจากเป็นคดีเก่านานกว่า 10 ปีแล้ว
    นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า คดีนี้ต้องขอตรวจสอบสำนวนก่อนว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เหตุใดอดีตอัยการสูงสุดจึงมีคำสั่งให้ถอนฟ้อง เพราะเรื่องนี้เกิดมานานแล้วและมีเอกสารจำนวนมาก โดยท้ายที่สุดต้องดูว่าอัยการสูงสุดจะ ตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบสำนวนดังกล่าวหรือไม่
     ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล เจ้าของบริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ที่เกี่ยวข้องกับคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด เข้าให้ปากคำกับนายนพดล อุเทน ผู้อำนวยการ กองคดี 1 ปปง. และพ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล หัวหน้าพนักงานสอบสวนชุดตรวจสอบความเชื่อมโยงทางการเงินระหว่างสหกรณ์เครดิต ยูเนี่ยนคลองจั่น กับวัดพระธรรมกาย ตามหมายเรียกให้เข้าชี้แจงธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการยักยอกทรัพย์สหกรณ์คลองจั่น เนื่องจากก่อนหน้านี้ ปปง. ดีเอสไอ และทหารสนธิกำลังเข้าตรวจค้นบริษัทเอส.ดับบลิวฯ และอายัดทรัพย์สิน รถยนต์และตู้เซฟพร้อมเอกสารจำนวนมากมาตรวจสอบ โดยนายสถาพรเข้าให้ปากคำพร้อมทนายความ
    นายนพดล กล่าวว่า นายสถาพรเข้าชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์คลองจั่น ส่วนรายละเอียดการให้ปากคำไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นความลับในสำนวนคดีที่สำคัญ ซึ่ง ปปง. อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่ออายัดทรัพย์สินเพิ่มเติม

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!