WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ทิพาภรณ์ เจียรวนนท์ รักเด็กแบบลูกสาวเจ้าสัวซีพี
ทันข่าวCP

จากคำพ่อสอนสร้างรอยทางแห่งการให้ของทายาทเจ้าสัวซีพี ผู้มุ่งมั่นสานต่อปณิธานด้วยการแบ่งเงินรายได้ 2%และเพิ่มเงินรวม 70 ล้านบาทมอบโอกาสให้อนาคตของชาติผ่านมูลนิธิและกิจกรรมเพื่อสังคม สู่การก้าวติดอันดับสุดยอดผู้ใจบุญแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

      ธนินท์ เจียรวนนท์ ผู้เพราะเมล็ดพันธุ์แห่งการให้ผ่านหลักปรัชญาที่ถ่ายทอด 'งานทุกอย่างที่ทำ ด้วยการสละกำลังสมองกำลังกาย และเวลา จะต้องเป็นประโยชน์ต่อคนหมู่มากในสังคมที่เราอาศัยอยู่ ต่อลูกค้า ต่อเพื่อนพนักงาน ต่อบริษัท และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆผู้ใดก็ตามที่คิดและทำตามขอบข่ายแห่งปรัชญานี้ความสำเร็จจะตามมาสำหรับผู้นั้น'โดยในบรรดาทายาท 5 คนของเจ้าสัว วรรณี-ศุภกิจ-ณรงค์-ศุภชัย และทิพาภรณ์ บุตรสาวคนสุดท้องของเขาเป็นผู้ที่ได้รับการเพราะเมล็ดพันธุ์แห่งการ'ให้'ได้หยั่งรากลึกมากที่สุด จนกระทั่งติดอันดับผู้ใจบุญแห่งเอเชียแปซิกฟิก หรือ Heroes of Philanthropy จากการจัดอันดับของ Forbes Asia ปี 2557 

     นับเนื่องจากบิดามอบหมายให้ทิพาภรณ์ หรือ “บี” สานต่อเจตนารมณ์ช่วยเหลือเด็กขาดโอกาสในประเทศไทยเป็นโครงการแรกทันทีที่เรียนจบเมื่อปี 2537การเยี่ยมเยียนเด็กกำพร้าตามโรงเรียนหรือมูลนิธิต่างๆ กลายเป็นวิถีปกติของเธอ จากเงินส่วนตัวของบิดาที่ไม่ใช่เพียงนำไปแจกจ่ายแต่ต้องพยายามนำไปต่อยอดให้งอกเงยผ่านโครงการต่างๆก่อให้เกิดความสุข  และผลักดันให้ทิพาภรณ์มุ่งมั่นอยู่บนเส้นทางแห่งการให้  และกลายเป็นผู้สืบทอดเจตนารมณ์หลักในฐานะหัวเรือใหญ่ของมูลนิธิพุทธรักษาที่มีอายุมากกว่า 15 ปี เมื่อเส้นทางของคนในตระกูลเจียรวนนท์ โดยเฉพาะลูกสาวและสะใภ้ ถูกลิขิตให้สร้างธุรกิจนอกกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ในปี 2543 ทิพาภรณ์ในวัย 33 ปี เลือกสร้างกลุ่มบริษัทดีที (DT GROUP) ซึ่งมาจากชื่ออักษรภาษาอังกฤษตัวแรกของบิดาและมารดา คือ ธนินท์และคุณหญิง เทวี พร้อมยึดปรัชญาข้างต้นของบิดาและมารดา เป็นปรัชญา หรือ word of wisdom ของกลุ่มบริษัท ซึ่งประกอบด้วย บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แบบครบวงจร ภายใต้แนวความคิด 'คิดและสร้างเพื่อความยั่งยืนของมนุษย์'

      บริษัท แมกโนเลีย ไฟน์เนสท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ลงทุนและพัฒนาดครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับสากลและบริษัท ดีแพลน (เซี้ยงไฮ้) คอนซัลติ้ง จำกัด รองรับงานบริหารงานก่อสร้าง การออกแบบ และเป็นที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างครบวงจรในประเทศจีน รวมทั้งบริษัท ดี ไอ ดี ไซน์ จำกัด บริษัทผู้ให้บริการด้านการออกแบบ สถาปัตยกรรม การแตกแต่ง ภายในและภายนอก

       ขณะที่บริษัท ดี ซูพรีม จำกัด จัดหาและจัดจำหน่ายสินค้า การบริการออกแบบและพัฒนาสินค้าตามความต้องการ รวมถึงบริษัท เตอร์เทซี เซอร์วิสเวจ คอรืปอเรชั่น จำกัด บริหารจัดการงานด้านบริการ การบำรุงรัษาที่พักอาศัย และระบบสาธารณูปโภคส่วนกลาง ให้กับโครงการของกลุ่มบิรษัทดีทีอละองค์กรภายนอก

 

ทุ่ม 70 ล้านเดินหน้าภารกิจ'ให้'

       จากคำบอกเล่าของพนักงานในกลุ่มบริษัทดีทีและเครือซีพี กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการให้ความสำคัญช่วยเหลือเยาวชนต่อเนื่องไปยังการช่วยเหลือสังคม ซึ่งถ่ายทอดถึงทายาทสาวคนสุดท้องในปัจจุบันว่า "ท่านประธานมักกล่าวถึงคำพูดของ ดร.หยู นักวิชาการชาวไต้หวันเมื่อ30ปีที่แล้วเกี่ยวกับผลวิจัยอาชญากรในโลกจำนวน80-90% ทั้งหมดเป็นคนที่ขาดความอบอุ่น ไม่รู้จักความรักตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้สามารถฆ่าคนโดยไม่รู้สึกอะไร ท่านจึงมีความคิดช่วยเหลือสังคมตั้งแต่ยังเป็นเยาวชน เพื่อไม่ให้เป็นอาชญากรในอนาคต ด้วยการให้ความรักความอบอุ่นไม่ใช่แค่ให้เงินหรือให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจบ"

       เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ทิพาภรณ์จึงกำหนดให้กลุ่มบริษัทดีทีแบ่งเงินรายได้ 2% ใช้จ่ายเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคม แต่ความต้องการความเชื่อเหลือยังคงมากเกินกว่างบประมาณที่ตั้งไว้ ซึ่งเธอและครอบครัวต่างยินดีมอบเงินส่วนตัวให้กับการสร้างประโยชน์เพื่อสังคมโดยล่าสุดในปีนี้ มูลนิธิพุทธรักษาได้รับการเพิ่มงบประมาณกว่า 50 ล้านบาทจากเดิมที่ไม่ถึง 10 ล้านบาท และกิจกรรมเพื่อสังคมอื่นๆอีก 10 ล้านบาท รวมทั้งโครงการ ICARE ที่ดำเนินกิจกรรมและโครงการภายใต้ภารกิจไอเดียดีๆ เพื่อโลกที่เราแคร์ รวมจำนวนเงินช่วยเหลือของกลุ่มบริษัททั้งหมดประมาณ 70 ล้านบาท ซึ่งทิมประชาสัมพันธ์ของกลุ่มบริษัทกล่าวยืนยันความตั้งใจ 'ให้' ของครอบครัวเจียรวนนท์ว่า ที่ผ่านมาผู้ถือหุ้นที่เป็นครอบครัวไม่เคยได้รับเงินปันผล

       สำหรับ มูลนิธิพุทธรักษาที่ได้รับงบประมาณความช่วยเหลือมากที่สุดได้รับการก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2542 จากความมุ่งหมายสานต่อดำริของครอบครัวที่มีแนวทางการดำเนินธุรกิจไม่ได้มุ่งหวังเพียงความสำเร็จทางธุรกิจ แต่ยังให้ความสำคัญกับสังคม พร้อมช่วยเหลือบุคคลด้อยโอกาสในสังคมและส่งเสริมกิจกรรมเกี่ยวเนื่องกับศาสนา

        ภารกิจของมูลนิธิมุ่งไปยังการสนับสนุนด้านการศึกษาให้กับเยาวชนและพุทธศาสนาได้แก่ การสนับสนุนการศึกษาด้อยโอกาสผ่านโรงเรียนและองค์กรต่างๆการสนับสนุนให้มีการอบรมพัฒนาครูอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการด้านการศึกษาต่างๆ เช่น โครงการครูต่างชาติสอนภาษาอังกฤษและภาษาจีนโครงการพัฒนาห้องการเรียนรู้ โครงการเลี้ยงไก่ไข่ เป็นต้น

       นอกจากนั้น มูลนิธิยังให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยยากไร้ทางด้านสุขภาพและปัญหาความบกพร่องทางร่างกาย รวมทั้งการสนับสนุนและส่งเสริมพระพุทธศาสนาพร้อมเดินหน้าช่วยเหลือสาธารณะประโยชน์และกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง

      ทิพาภรณ์กล่าวว่า "แนวทางของมูลนิธิเน้นที่เด็กและการศึกษามากกว่า 90% เรามุ่งให้ปัญญามากกว่าการสร้างวัตถุ ให้การศึกษาควบคู่กับความดี เคยมีคนถามบีว่าโลกนี้มีสิ่งที่เราน่าช่วยเยอะแยะ ทำไมต้องเป็นเด็ก บีตอบว่า ถ้ากำลังทรัพย์เราเพียงพอเราอยากช่วยทั้งหมด แต่ในวันนี้เรายังต้องทำงานสร้างองค์กร ขณะที่การช่วยเหลือเด็กหากสำเร็จเพียง10ใน100 เขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ทำประโยชน์ให้กับสังคมเพิ่มได้อีกหลายเท่า"

       ตัวอย่างการส่งเสริมการศึกษาควบคู่กับความดีสะท้อนชัดจากโครงการมอบโอกาสให้เด็กที่มีความประพฤติดีและผลการเรียนดีในมูลนิธิพุทธรักษาได้ศึกษาต่อในประเทศอินเดียเมื่อปี2553 พร้อมให้ทุนสนับสนุนต่อเนื่องตั้งแต่อายุ 9 ปีถึงระดับมหาวิทยาลัยโดยเมื่อกลับมาพักในประเทศไทย เด็กชายต้องบวชเป็นเวลา15วัน และเด็กหญิงต้องถือศีลแปด เพื่อกล่อมเกลาทาด้านจิตใจและให้ใช้พระพุทธศาสนาเป็นเครื่องเหนี่ยวนำให้ใช้พระพุทธศาสนาเป็นเครื่องเหนี่ยวนำการทำความดี ซึ่งนักเรียนกลุ่มแรกที่เป็นรุ่นนำร่องนี้มีเด็กทั้งหมด4คนเป็นแบบย่างที่ดีให้กับเพื่อนและเด็กรุ่นอื่นต่อไป

      "วันนี้เราช่วยเด็กมากกว่า 3,364 คนและยังช่วยเด็กทีวีอีก 165 คน โดยคุณพ่อมักจะติดต่อหาบีเมื่อเห็นเด็กๆที่ออกข่าวในโทรทัศน์ เราเรียกเด็กกลุ่มนี้ว่าเด็กทีวี กตัญญูและอดทน เพียงแต่อาจขาดโอกาส เราจึงสนับสนุนด้านการศึกษาให้กับเด็กเหล่านี้ได้เรียนหนังสือและเสริมด้านคุณภาพชีวิตให้เขาสามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีต่อไป"

      การให้อย่างไม่หวังผลตอบแทนนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับองค์กรโดยรวม  จากการที่พนักงานคุ้นเคยกับการให้ ทำให้องค์กรอบอุ่นและเต็มไปด้วยน้ำใจ ซึ่งบริษัทมีการกำหนดนโยบายชัดเจนหากสมาชิกในองค์กรต้องการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมใดๆหัวหน้างานต้องอนุมัติ และกำหนดกรอบ KPI ของกลุ่มบริษัทดีทีเกี่ยวกับการช่วยเหลือสังคมให้ครบตามตัวชี้วัดเป้าหมายของแต่ละแผนก ขณะที่เด็กผู้ได้รับการให้โอกาส ความหวัง และแรงบันดาลใจ กระทั่งสัมผัสถึงความรัก และความอบอุ่นที่ได้รับ ส่งผลให้เขาต้องการส่งต่อน้ำใจหรือโอกาสให้กับผู้อื่นต่อไปในอนาคต

 

ความสุขที่ยั่งยืนฉบับเจียรวนนท์

       ไม่เพียงปรัชญาการทำงานหรือ Words of Wisdom ที่ทิพาภรณ์ยึดเป็นแนวทางขององค์กร แต่หลากหลายแนวคิดได้รับการถ่ายทอดจากบิดาและมารดาที่ร่วมกันถ่ายทอดวิธีคิด พร้อมให้คำปรึกษาด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล

       ทายาทคนเล็กของตระกูลเจียรวนนท์กล่าวถึงความอบอุ่นในครอบครัวว่า "คุณพ่อและคุณแม่เหมือนคู่ soul mate โดยมีคุณแม่เป็นจุดศูนย์กลางดวงใจของคนในครอบครัวทุกคนจะโทรหาคุณแม่ทุกวัน  และกลับมาทานข้าวกับคุณแม่เมื่อมีเวลา ส่วนใหญ่เป็น วันเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดยาวที่ไปเที่ยวด้วยกัน คุณแม่เลี้ยงพวกเรามาอย่างใกล้ชิดแม้คุณพ่อทำงานหนัก แต่เราไม่เคยรู้สึกขาดความอบอุ่น พี่น้องรักและสนิทกันช่วยเหลือกันตลอด"

       บ่อยครั้งที่เธอปรึกษาหรือขอความคิดเห็นบิดา และได้รับคำแนะนำให้ย้อนทบทวนความผิดของตัวเองก่อน เช่น ปัญหาหารบริหารคนที่ไม่เข้าใจในคำสั่งหรือสื่อสารผิดพลาดส่วนหนึ่งอาจเกิดขึ้นจากผู้บริหารหรือผู้สั่งงานที่ไม่สามารถถ่ายทอดให้พนักงานเข้าใจได้แทนที่จะคาดหวังต่อพนักงาน ผู้บริหารควรทำความเข้าใจกับมีพื้นฐานของพนักงานแต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน เปรียบได้กับสีส้มของแต่ละคนที่สามารถต่างเฉดสีกันได้ตามความนึกคิด หรือแม้แต่พี่น้องที่เติบโตมาด้วยกันยังมีมุมมองไม่เหมือนกัน ซึ่งท้ายที่สุดหากทำความเข้าใจตรงกันได้ผลงานที่ได้รับจะเกิดขึ้นจากความเต็มใจและเป็นความเร็จร่วมกัน

       นอกจากนั้น หลักการสำคัญที่ทิพาภรณ์นำมาปรับใช้ด้านการบริหารทั้งธุรกิจและเวลา คือ การทำงานด้วยใจที่สามารถใช้บริหารเวลาได้ โดยมุ่งมองถึงสิ่งที่จะได้รับจากการทำงาน และการผสมผสานการทำธุรกิจร่วมกับการสร้างประโยชน์ต่อสังคมเพื่อให้ทั้งหมดเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างยั่งยืนในการทำงาน 

      "เวลามันแปลก ถ้าวัดตามนาฬิกาจะมี24 ชั่วโมง แต่บีมองว่าเวลายืดหยุ่นตามใจคนถ้าสุขเวลาจะสั้น แต่ถ้าทุกข์เวลาจะยาวนานดังนั้นการจัดการใจและพลังของเราเป็นเรื่องสำคัญมาก อย่างคุณพ่อทำงานหนักมาก แต่ยังมีเวลาคิดช่วยเหลือคน เหมือนการเล่นเกมหลบระเบิด ถ้าจับจังหวะระเบิดได้ เราจะหลบพ้น ขึ้นเลเวลใหม่ ยากขึ้น โดนระเบิดตาย ตาเรายังไม่เลิก เพราะสนุก ช่วงระเบิดลงมากๆเราอาจรู้สึกมึนบ้างแต่พอตั้งสติได้สุดท้ายเราจะผ่านเลเวลนี้ไปได้"

จาก นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือน สิงหาคม 2014

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!