WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ชมรมคอลัมนืสต์

เครือข่ายสื่อมวลชน ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ ทวงถามนโยบายสังคมและสุขภาพ ที่เคยพูดหาเสียงก่อนเลือกตั้ง

เครือข่ายสื่อมวลชน ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี ทวงถามนโยบายสังคมและสุขภาพ ที่เคยจัดเวทีพรรคร่วมรัฐบาลก่อนเลือกตั้ง ควรเพิ่มเติมปัญหาเด็กถดถอยด้านการเรียนรู้ จุดยืนห้ามนำเข้าและขายบุหรี่ไฟฟ้า แก้ปัญหาพนันออนไลน์และการหลอกลวงออนไลน์ ป้องกันการใช้กัญชาสันทนาการและผสมอาหาร ทำลายยาเสพติดของกลางให้เร็วป้องกันนำมาขายใหม่ ดูแลผู้สูงวัยอยู่ในแผน สปสช.และเพิ่มเรื่องสมุนไพรกับแพทย์ทางเลือก

      เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา เครือข่ายสื่อมวลชนขับเคลื่อนสุขภาวะเพื่อสังคมไทยยั่งยืน ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของสื่อมวลชนจากหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุและสื่อออนไลน์ ได้ลงนามส่งจดหมายเปิดผนึกผ่านสื่อมวลชนถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีในโอกาสที่รัฐบาลแถลงนโยบายในการบริหารประเทศต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอความคิดเห็นให้รัฐบาลนำไปประกอบการพิจารณาเพิ่มเติมนโยบายด้านสังคมและผลกระทบทางสุขภาพ

โดยระบุว่าเครือข่ายสื่อมวลชนขับเคลื่อนสุขภาวะเพื่อสังคมไทยยั่งยืนได้จัดประชุมเรื่อง'สื่อมวลชนพบพรรคการเมือง : ถามหา นโยบายสร้างเสริมสุขภาพคนไทย'เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2566 ณ ห้องฟอร์จูน ชั้น 3 โรงแรมแกรนด์ฟอร์จูน กรุงเทพฯ มีตัวแทนพรรคการเมือง ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้คือ พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคชาติไทยพัฒนา เข้าร่วมนำเสนอนโยบายด้วย ในวันดังกล่าวมีการนำเสนอ นโยบายด้านสังคมและการสร้างเสริมสุขภาพหลายเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลเห็นตรงกันที่จะผลักดันให้เป็นนโยบายรัฐบาลในการบริหารประเทศ

และจากเอกสารประกอบการแถลงนโยบายรัฐบาลที่มีการเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนทั่วไปนั้นมีนโยบายระยะกลางเรื่องการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นำความปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทยทุกคนบรรจุอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม หลายประเด็นกลับไม่มีอยู่นโยบายหรือมีนโยบายแต่ไม่มีความชัดเจนเพียงพอที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ ทางเครือข่ายฯจึงมีมติร่วมกันยื่นข้อเสนอเพื่อนำไปเพิ่มเติมในการปรับปรุงการจัดทำนโยบายด้านสังคมและผลกระทบทางสุขภาพ 8 ประเด็นคือ

ด้านการศึกษา นอกจากการพัฒนาคุณภาพคนที่จบการศึกษาให้ความต้องการของเศรษฐกิจแบบใหม่และการปฏิรูปการศึกษาสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต รัฐบาลควรจะเพิ่มเติมในเรื่องโอกาสทางการศึกษาของเด็กในครอบครัวยากจนที่ได้รับผลกระทบจากจากปัญหาเศรษฐกิจให้ได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง

รวมทั้งการแก้ปัญหาการถดถอยทางการเรียนรู้ของเด็กไทยจากสถานการณ์โควิด 19 ที่มีเด็กยากจนเพิ่มขึ้นถึง 3 แสนคนด้วย ด้านปัญหายาเสพติด นอกจากการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทยโดยยึดหลักเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย จะมีการยึดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติดและร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดนแล้ว รัฐบาลควรเพิ่มมาตรการเชิงป้องกันให้มากขึ้นทั้งการรณรงค์ สื่อสาร ให้ความรู้กับประชาชนเพื่อไม่ให้เด็กและเยาวชนตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ายาเสพติด 

นอกจากนั้น ควรจะมีนโยบายการที่ชัดเจนในการทำลายยาเสพติดของกลางโดยเร็วเพื่อป้องกันการยักยอกหรือการเล็ดลอดของยาเสพติดนำกลับมาขายใหม่

ด้านนโยบายที่เกี่ยวกับกัญชา มีการระบุถึงการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแต่ไม่มีการพูดถึงการให้ความรู้ รณรงค์ ป้องกันและปราบปรามการนำกัญชาไปใช้เพื่อสันทนาการ และการประกอบอาหาร เครื่องดื่ม ขนม รวมทั้งผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กและเยาวชนและสังคมโดยรวม 

ด้านนโยบายที่เกี่ยวกับสุขภาพจิต ขณะนี้คนไทยมีปัญหาความเครียดจากปัญหาเศรษฐกิจ รายได้มากกว่ารายจ่ายรวมทั้งผลกระทบจากโควิด 19 ที่ต่อเนื่องมากถึงปัจจุบัน ทำให้คนไทยเกิดปัญหาซึมเศร้าทั้งในผู้ใหญ่ เด็กและเยาวชน หลายตัดสินใจจบชีวิตตัวเองและครอบครัวเพราะไม่มีทางออกของชีวิตปรึกษาใครไม่ได้ เรื่องเหล่านี้ควรจะเป็นวาระสำคัญของรัฐบาลในการให้ความรู้และสร้างภูมิคุ้มกันกับประชาชน

ด้านนโยบายที่เกี่ยวกับการบริโภคยาสูบ โดยเฉพาะเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าที่กำลังแพร่หลายในเด็กและเยาวชน นอกจากการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจกับประชาชนแล้ว รัฐบาลควรมีจุดยืนที่มั่นคงว่าว่าบุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นสิ่งที่ผิด กฎหมาย ทั้งการนำเข้าและการจำหน่าย รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายจับกุมอย่างจริงจัง มีการทำลายของกลางที่ยึดได้ทันที เพื่อป้องกันปัญหาการวิ่งเต้นจากพ่อค้าแล้วนำกลับมาขายใหม่ 

ด้านนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์และ การหลอกลวงออนไลน์ มีข้อมูลจากศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดเผยพฤติกรรมการเล่นพนันออนไลน์ปี 2566 ในรอบ 12 เดือนพบว่าคนรุ่นใหม่เล่นพนันออนไลน์ 32.3% หรือเกือบ 3 ล้าน คน และปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์นับตั้งแต่ 17 มีนาคม 2566 ถึงปัจจุบันมีกว่า 3,000 เรื่อง ความเสียหายกว่า 2,700 ล้านบาท เรื่องนี้เป็นปัญหาสำคัญที่สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจและส่งผลกระทบทางสังคมกับประชาชน เด็กและเยาวชนอย่างมาก และควรจะเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

ด้านนโยบายผู้สูงอายุ สื่อมวลชนเห็นด้วยที่รัฐบาลมีการจัดสวัสดิการแห่งรัฐให้ความสำคัญกับความเท่าเทียม ของคนทุกกลุ่มซึ่งรวมถึงผู้สูงอายุ แต่ขอให้มีการบรรจุเรื่องการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิงเข้าไปอยู่ในแผนงานของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ การสนับสนุนบุคลากร พยาบาล ผู้บริบาลรวมทั้งจิตอาสาไปดูแลผู้สูงอายุ ถึงบ้านโดยร่วมมือกับหน่วยงานภาคเอกชนหรือหน่วยงานที่ สปสช.กำหนด และด้านนโยบายสุขภาพมีการยกระดับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ให้มีคุณภาพและทั่วถึงมากขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ดี

แต่ขณะเดียวกัน หากรัฐบาลบรรจุเรื่องการ ส่งเสริมและพัฒนาการใช้สมุนไพร การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือก หลากหลายในการดูแลสุขภาพจะส่งผลต่อสุขภาวะอนามัยที่ดีของประชาชนมากขึ้น

ในตอนท้ายของจดหมายเปิดผนึก เครือข่ายสื่อมวลชนขับเคลื่อนสุขภาวะเพื่อสังคมไทยยั่งยืน ระบุว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่านายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะได้นำข้อเสนอนี้ร่วมกับข้อเสนออื่นๆ ทั้งจากภาคการเมือง ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม และพี่น้องประชาชนไปปรับปรุงเพิ่มเติมนโยบายเพื่อยังประโยชน์สุขแก่ประชาชนโดยส่วนรวมอย่างยั่งยืนต่อไป

พร้อมกันนั้นได้มีการลงนามรายชื่อและบทบาทหน้าที่แนบท้ายจดหมายด้วย เช่น นายณรงค์ ปานนอก ประธานชมรมคอลัมนิสต์นักจัดรายการวิทยุและโทรทัศน์ไทย นายศักดา เอียว หรือ เซีย การ์ตูนนิสต์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ นายจิระ ห้องสำเริง ผู้ก่อตั้ง smemedia.com  ผู้ดำเนินรายการสถานีวิทยุ ZaabNews FM 96.0 MHz นายถวัลย์ ไชยรัตน์ ผอ.คลื่น FM 96.5  MHz นางสาวแวววยุลี ลุ่มร้อย บก.ข่าวเศรษฐกิจ ไทยรัฐทีวี นายจิระพงค์ เต็มเปี่ยม หัวหน้าข่าวหน้า 1 นสพ.แนวหน้า และนายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ ผู้ดำเนินรายการวิทยุ เป็นต้น

 

Click Donate Support Web  

gpf 720x100 66

CKPower 720x100

MTL 720x100

kasat 720x100TOA 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100PTG 720x100iconmotor

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!