WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

11465 Amataรมว.แรงงาน ลงพื้นที่ จังหวัดชลบุรี เยี่ยมชมอมตะสมาร์ทซิตี้
และการพัฒนากำลังแรงงาน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย

          หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี เยี่ยมชมการดำเนินงานโครงการอมตะสมาร์ทซิตี้ (AMATA Smart City) และการพัฒนากำลังแรงงานให้สอดคล้องกับ 10 อุตสาหกรรมในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC)

          หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เยี่ยมชมการดำเนินโครงการอมตะสมาร์ทซิตี้ (AMATA Smart City) และการพัฒนากำลังแรงงาน ให้สอดคล้องกับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการ และพบปะนักศึกษาฝึกงานของมูลนิธิเฟืองพัฒนาและบริษัท เอฟโอ เอ็มเอ็ม (เอเชีย) จำกัด ซึ่งประกอบกิจการผลิตยานยนต์นั่งส่วนบุคคลไฟฟ้าขนาดเล็ก และเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการหุ่นยนต์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ของวิทยาลัยอาชีวศึกษาเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์

          หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังการเยี่ยมชมโครงการว่า โครงการอมตะสมาร์ทซิตี้ (AMATA Smart City) เป็นการดำเนินการภายใต้แนวคิดเมืองอัจฉริยะอมตะ ให้สามารถพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน มีการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน พัฒนาเป็นศูนย์กลางการทำวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและแหล่งนวัตกรรมในภูมิภาคอาเซียน โดยบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) สนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และสร้างบุคลากรรองรับตลาดแรงงานใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ร่วมกับการสร้างโอกาสให้พนักงานและชุมชนโดยรอบมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงแรงงานที่ส่งเสริมการมีงานทำที่มีคุณค่าให้กับคนทุกช่วงวัย

          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ภารกิจหลักที่สำคัญของกระทรวงแรงงาน คือการส่งเสริมการมีงานทำ พัฒนาทักษะฝีมือ คุ้มครองดูแลสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่างๆ ของแรงงาน ซึ่งภารกิจเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศให้สามารถยกระดับรายได้ไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของกระแสโลก การจัดตั้งศูนย์บริหารแรงงานเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกของกระทรวงแรงงาน จึงเป็นหน่วยงานในกลุ่มแรกๆ ที่เข้าไปร่วมมือในการทำงานกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)และได้เริ่มต้นจัดทำข้อมูลการสำรวจความต้องการแรงงานของสถานประกอบการในพื้นที่ ทำให้เกิดการบรรจุงานจำนวนเกือบ 30,000 อัตราในปีที่ผ่านมา และจากการประเมินความต้องการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นพบว่า มีความต้องการแรงงานเข้ามาทำงานในพื้นที่อีกจำนวนมาก ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่แรงงานเหล่านั้นจะต้องได้รับการเพิ่มพูนทักษะเพื่อรองรับอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น

          นอกจากนี้ กระทรวงแรงงาน ยังได้นำฐานข้อมูลแรงงานแห่งชาติมาใช้เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลของหน่วยงานต่างๆ และได้มีการพัฒนาระบบฐานข้อมูลให้มีความสามารถในการติดตามความเคลื่อนไหวของความต้องการแรงงานและเชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่นๆ ได้เพิ่มมากขึ้นในการพัฒนาระบบช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ในประเด็นการคุ้มครองและดูแลสวัสดิการ สิทธิประโยชน์ตามกฎระเบียบต่างๆ ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ข้อมูลข่าวสารกระจายไปอย่างทั่วถึง เพื่อให้แรงงานได้รับการดูแล เข้าถึงสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับและเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด

          ด้านนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีสถานประกอบการ 38,127 แห่ง ในจ.ชลบุรี 23,563 แห่ง ระยอง 9,288 แห่ง และฉะเชิงเทรา 5,276 แห่ง มีผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม 1,402,890 คน ด้านความต้องการแรงงาน 10 อุตสาหกรรม พบว่า ระหว่างปี พ.ศ.2562-2566 มีจำนวน 475,667 คน โดยเป็นระดับอาชีวศึกษา 253,115 คน ปริญญาตรี 213,942 คน และปริญญาโท-เอก 8,610 คน โดยต้องการแรงงานในอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต 53,739 คน อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ 58,228 คน ท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดี 16,920 คน หุ่นยนต์ 37,526 คน การบิน 32,837 คน ดิจิทัล 116,222 คน การแพทย์ครบวงจร 11,410 คน ระบบราง (รถไฟฟ้าความเร็วสูง) 24,246 คน พาณิชย์นาวี 14,630 คน และโลจิสติกส์ 109,910 คน

          นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ 
คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มอมตะ ได้มีแผนยกระดับคุณภาพแรงงานที่อยู่ในระบบสายการผลิตเดิม และแรงงานใหม่ที่กำลังจะเข้าสู่ระบบ โดยการร่วมมือกับสถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ และผู้ประกอบการในนิคมฯ เพื่อการถ่ายทอด และฝึกงานภายในสถานประกอบการจริง เป็นการเพิ่มทักษะในด้านต่างๆ ให้เกิดการเรียนรู้และความชำนาญในเทคโนโลยีใหม่ ตามแผนการดำเนินงานพัฒนา โครงการอมตะสมาร์ทซิตี้ (AMATA Smart City) ซึ่งเป็นโครงการที่รองรับอุตสาหกรรมชั้นสูง ที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศ สอดรับกับทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งอมตะ มีแผนการพัฒนาที่เป็นรูปธรรมในด้านการศึกษา ที่มุ่งเน้นการพัฒนาบุคลาการป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมในทุกระดับชั้นของฝีมือแรงงาน โดยเปิดกว้างให้กับแรงงานทุกคนสามารถเข้ามาใช้บริการผ่านศูนย์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เชื่อมั่นว่า จะส่งผลให้อมตะ เป็นศูนย์การเรียนรู้ในภูมิภาคนี้ และมีส่วนสำคัญต่อการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาค รวมถึงสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ

          ทั้งนี้ในปี 2563 จะดำเนินการในด้านการลงทุนพัฒนาอมตะ เข้าสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ตั้งแต่การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การเป็นเมือง Low Carbon City ที่เน้นไปใช้พลังงานสะอาด รองรับประเภทอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตและการบริหารจัดการ โดยปัจจุบัน นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรีได้เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2537 รวมระยะเวลากว่า 25 ปี ได้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมรวม 2 แห่ง ได้แก่ อมตะซิตี้ ชลบุรี และอมตะซิตี้ ระยอง รวมพื้นที่กว่า 40,000 ไร่ มีโรงงานอุตสาหกรรมกว่า 1,200 โรงงาน ประกอบด้วยอุตสาหกรรม ชิ้นส่วนรถยนต์ ยางรถยนต์ เหล็ก เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น มีนักลงทุนรวม 29 สัญชาติ อาทิ ญี่ปุ่น จีน ไทย ยุโรป เกาหลีใต้ และอื่นๆ รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 3 แสนล้านบาท มีแรงงานหมุนเวียนในนิคมฯ กว่า 2 แสนคน

 


AO11465

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

ais 790x90GC 790x90

sme 720x90banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!