- Details
- Category: กทม.
- Published: Wednesday, 12 April 2023 20:26
- Hits: 2592
สภากรุงเทพมหานคร เห็นชอบด้วยคะแนน 33 ต่อ 3 เสียง ให้รถเมล์ใหม่ในกรุงเทพทุกคันต้องเป็นรถเมล์ไฟฟ้า (EV) ภายใน 7 ปี
ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร เห็นชอบหลักการญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง รถโดยสารประจำทางพลังงานไฟฟ้าเพื่อลดมลภาวะ พ.ศ. ... วาระที่ 1 ด้วยคะแนน 33 ต่อ 3 เสียง มีเนื้อหากำหนดให้รถเมล์ใหม่ในกรุงเทพทุกคันต้องเป็นรถเมล์ไฟฟ้า (EV) และภายใน 7 ปี รถเมล์ในกรุงเทพต้องเป็นรถเมล์ไฟฟ้าทั้งหมด
สำหรับ ฝุ่นในกทม.เกิดจากยานพาหนะ 60% และ 90% ของไอเสียจากรถคือ ฝุ่นละออง PM 2.5 การปรับปรุงให้รถเมล์ดีขึ้น จะทำให้คนหันมาใช้เยอะขึ้น ใช้รถส่วนตัวน้อยลง ฝุ่นน้อยลง ปัญหาก็จะหายเป็นโดมิโน
ทั้งนี้ เพื่อควบคุมปริมาณมลพิษที่ออกจากรถยนต์ ไม่ให้เกินเกณฑ์ที่เป็นอันตรายต่อประชาชน จึงเห็นควรมีมาตรการกำหนดให้รถโดยสารประจำทาง ปรับปรุงเป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นพลังงานสะอาด ไม่ส่งผลกระทบต่อมลภาวะทางอากาศ และสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาทางเทคโนโลยีของรถยนต์ทั่วโลก บังคับใช้ในกรุงเทพมหานคร
หลังจากนี้ จะมีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติดังกล่าว จำนวน 17 คน กำหนดเวลาแปรญัตติภายใน 7 วัน และพิจารณาแล้วเสร็จภายใน 60 วัน
กฎหมายรถเมล์อนาคต หรือร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง รถโดยสารประจำทางพลังงานไฟฟ้าเพื่อลดมลภาวะ นำเสนอโดย นายพุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ ส.ก.เขตยานนาวา พรรคก้าวไกล โดยเป็นกฎหมายที่จะยกระดับคุณภาพการให้บริการรถเมล์ให้สะอาด ปลอดฝุ่น ปลอดมลภาวะ และช่วยให้ไทยบรรลุเป้าหมายเป็นประเทศ Net Zero หรือปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2593
นายพุทธิพัชร์ กล่าวว่า เนื้อหาสำคัญของกฎหมายรถเมล์อนาคต คือการเปลี่ยนรถเมล์สันดาปเป็นรถเมล์ไฟฟ้า (EV Bus) ภายใน 7 ปี
ภายหลังจากที่กฎหมายฉบับนี้ผ่านสภา กทม. จะมีระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน 1 ปี ถ้าพ้นจาก 1 ปีไปแล้ว นอกจากรถเมล์ที่ยังมีสัมปทานเดินรถ รถเมล์ไฟฟ้าเท่านั้นที่จะสามารถเดินทางสัญจรได้ในพื้นที่ กทม.
ส่วนรถเมล์ที่มีสัมปทานเดินรถเดิมก็จะทยอยหมดอายุสัมปทาน ซึ่งอายุสัมปทานนานที่สุดที่มีการต่อคือ 7 ปี นั่นหมายความว่าภายใน 7 ปี รถเมล์ทั้งหมดที่วิ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ จะเป็นรถเมล์ EV ทั้งหมด
"เรื่องนี้เป็นการใช้อำนาจของท้องถิ่นปกป้องชีวิตคนในเมือง ในอดีตก็เคยมีการใช้อำนาจแบบเดียวกันมาแล้วในสมัย อดีตผู้ว่า กทม. พิจิตร รัตกุล ที่เคยสั่งห้ามรถเมล์ที่ก่อมลพิษเกินค่ามาตรฐานเข้ามาวิ่งในกรุงเทพฯ" นายพุทธิพัชร์ กล่าว
สำหรับ ข้อบัญญัติรถเมล์อนาคต หลังจากที่ผ่านวาระ 1 รับหลักการในวันนี้แล้ว คาดว่า จะผ่านวาระ 3 ได้ในสมัยประชุมหน้า ต้นเดือน ก.ค. 66 ที่จะถึงนี้
"ปัญหาสิ่งแวดล้อมของคนกรุงเทพฯ เป็นปัญหาที่เรารอไม่ได้ ทุกวันนี้คนกรุงเทพฯ แม้แต่คนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ก็กำลังสูดมลพิษทางอากาศเข้าไป เท่ากับสูบบุหรี่วันละ 3.2 มวน อากาศในกรุงเทพฯ เป็นสิ่งที่ทุกคนใช้ร่วมกันไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจน ข้อบัญญัติแบบนี้จึงสมควรมีตั้งนานแล้ว" นายพุทธิพัชร์ กล่าว
หลังจากที่ข้อบัญญัติรถเมล์อนาคตผ่าน พรรคก้าวไกลจะเดินหน้าต่อในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนเมืองหลวง ไม่ว่าจะเป็นการยื่นร่างแก้ไขข้อบัญญัติควบคุมอาคาร ที่จะมีข้อกำหนดเรื่องการควบคุมการปล่อยความร้อนและพื้นที่สีเขียว หลังจากนั้นจะเดินหน้าต่อเรื่องการลดการปล่อยฝุ่นควัน PM2.5 จากแหล่งอื่นๆ