- Details
- Category: การเมือง
- Published: Monday, 19 May 2014 18:22
- Hits: 4888
วันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8573 ข่าวสดรายวัน
เทือกโหมกระแส ขู่ปิดล้อม โรงผลิตไฟฟ้า ปูดแผน-บนเวที ลั่น 26 พค.จบจริง ตู่ดักคอพูดปูทาง ให้ทหารออกมา แดงตั้งนำจับ 5 ล.'สุเทพ-แกนนำ'
 โชว์ 5 ล้าน - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. ขึ้นเวทีโชว์เงินสด 5 ล้านบาท รางวัลนำจับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำ กปปส. ผู้ต้องหาคดีกบฏ ที่เวทีถนนอักษะ เมื่อวันที่ 18 พ.ค. |
'ณัฐวุฒิ' หอบเงินสด 5 ล้านบาทโชว์บนเวที เผยมีคนบริจาค 5 ล้าน ค่านำจับสุเทพ และแกนนำกปปส. โดยเป็นเงินก้อนแรกและคาดจะมีคนสมทบทุนมากขึ้นเรื่อยๆ ระบุผู้บริจาคไม่พอใจที่สุเทพประกาศไล่ล่ารมต.บีบให้เซ็นใบลาออก "มท.1"จวก สุเทพเสียสติไปแล้ว กำชับปลัดมท.แจ้ง ผู้ว่าฯ-ขรก.ห้ามยุ่งกับม็อบกปปส. ไม่อย่างนั้น โดนฟันวินัยและอาญา ด้าน "สุเทพ"ย้ำแนวร่วมล่าตัวรมต. ก่อนร่วมถกกับอดีตขรก. และสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ให้ลุกฮือขึ้นต้านระบอบทักษิณ สรส.แถลงการณ์ร่วมมือด้วย โดยให้ขึ้นป้ายหนุนกปปส. พร้อมดีเดย์นัดหยุดงาน 22 พ.ค.นี้ ลั่นถึงประเทศชาติเสียหายก็ต้องทำเพื่อขับไล่รบ. กปปส.ย้ำ 23-26 พ.ค.นี้เคลื่อนไหวใหญ่ครั้งสุดท้ายจริงๆ รฟท.-ขสมก.มั่นใจไม่หยุดงาน เพื่อไทยเย้ยสุเทพประกาศศึกครั้งสุดท้ายมา 11 หนแล้ว นปช.-กปปส.ต่างจังหวัดทยอยเสริมทัพในเมืองกรุง
'สุเทพ'ล่ารมต.ให้ลาออก
ความคืบหน้าสถานการณ์การชุมนุมของ ม็อบกปปส.และม็อบนปช. เมื่อวันที่ 18 พ.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.โพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัว Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ) ความว่า จะยึดคืนอำนาจอธิปไตย โดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยขั้นแรกจะไปหาตัวคณะรัฐมนตรีที่ยังเหลืออยู่ เพื่อไปขอร้องให้ลาออก โดยคนแรกที่จะไปคือ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ที่ถูกอุปโลกน์มาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยจะเอากระดาษไปให้เขียน ใบลาออกเพื่อจะได้ไม่เป็น...ขวางคลองอยู่ และจะไม่ไปคุกคาม ไม่ใช้กำลังประทุษร้าย แต่จะไปมือเปล่า ไปยกมือไหว้ ขอให้ลาออกแต่โดยดี
ให้ขรก.ต่อต้านรัฐบาล
"เราจะมีปฏิบัติการอีกชุดหนึ่งโดยข้าราช การในกระทรวงต่างๆ จะลุกฮือขึ้นพร้อมกัน ปฏิเสธต่อต้าน ไม่รับคำสั่งจากรัฐมนตรีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายอีกต่อไป และขึ้นป้ายสำนักงานว่า ไม่ขอรับใช้กากเดนทรราชเหล่านี้อีกต่อไป โดยจะมีข้าราชการที่เกษียณแล้วไปเป็นผู้ประสานงาน" นายสุเทพกล่าว
นัดถกกับขรก.ที่ทำเนียบ
ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นาย สุเทพประชุมหารือกับอดีตข้าราชการ โดยเลขาธิการ กปปส.กล่าวว่า ระบอบทักษิณส่งผลให้ระบบข้าราชการและระบบคุณธรรมเสียหาย โดยพยายามรวบอำนาจตุลาการมาอยู่ใต้การบงการของตัวเอง ให้รัฐสภามีอำนาจแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งฝ่ายตุลาการโดยอ้างเหตุผลการยึดโยงกับประชาชน อีกทั้งยังทำให้พรรคการเมืองถูกกลุ่มทุนบงการ มี เจ้าพ่อเจ้าแม่และคนทำธุรกิจสีเทาเข้าไปนั่งในรัฐสภาจำนวนมาก จากการติดสินบน เจ้าหน้าที่เพื่อให้ชนะการเลือกตั้ง
19 พ.ค.ขอคืนอำนาจ
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า นับถือในความเป็นวิชาชีพของข้าราชการแต่วันนี้ยกมือไหว้ปลัดกระทรวงหรืออธิบดีไม่ได้ เพราะรู้ว่าเป็นผู้รับใช้สมคบกับนักการเมืองอย่างไม่มีเกียรติศักดิ์ศรี ดูถูกเงินเดือนตัวเองเพราะเงินที่ได้จากพรรคการเมืองมีมากกว่าหลายเท่า ดังนั้น ระบบราชการต้องได้รับการแก้ไขขนานใหญ่ ทำอย่างไรให้ข้าราชการไม่ตกอยู่ภายใต้นัก การเมืองและมีศักดิ์ศรีเหมือน ในอดีต สิ่งเหล่านี้บางเรื่องเกินปัญญาของประชาชน แต่หากพี่น้องข้าราชการที่ยังมั่นคงกับการเป็นข้าราชการของแผ่นดิน ช่วยกันคิดแก้ไขตอนนี้ยังทันการ ทั้งนี้ ปฏิบัติการเรียกคืนอำนาจอธิปไตยที่จะเริ่มในวันที่ 19 พ.ค. เนื่องจากเกรงหากปล่อยเวลาเนิ่นนาน วุฒิสภาอาจถูกแทรกแซง ทั้งยังเปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามระดมสรรพกำลังได้ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าในการต่อสู้ครั้งนี้ยึดหลักสันติไม่ใช้อาวุธและความรุนแรงและยึดหลักนี้จนถึงที่สุด
นัดเดินขบวนครั้งใหญ่
"สำหรับรัฐมนตรีบางกลุ่ม กปปส.จะหาทางไปพูดกับผู้หลักผู้ใหญ่ของเจ้าตัว เช่น พูดกับนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยให้ไปบอกให้รัฐมนตรีลาออก ซึ่งไม่ทราบว่าจะได้ผลหรือไม่อย่างไร ขณะเดียวกัน 3 วันนี้ กปปส.จะเดินขบวนใหญ่ให้ประชาชนออกมาแสดงพลังเป็นครั้งสุดท้าย และให้รัฐวิสาหกิจร่วมด้วย โดยระหว่างนี้อยากให้กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ แสดง ออกว่าต่อต้านรัฐบาลและรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การขึ้นป้าย เหมือนพนักงานรัฐ วิสาหกิจและกระทรวงสาธารณสุข นอกจากนี้ขอให้ข้าราชการประชุมหาทางว่าจะกอบกู้ระบบราชการและล้างอำนาจอิทธิพลของระบอบทักษิณได้อย่างไร ขอความกรุณาให้ช่วยกันคิดอ่านว่าใครสามารถเป็นเจ้าภาพได้แล้วให้หัวหน้าส่วนมาร่วมประชุมกับ กปปส. อย่างช้าภายในวันที่ 22 พ.ค.นี้ เพื่อเสริมพลังของมวลมหาประชาชนในช่วง 3 วันสุดท้าย" เลขาธิการ กปปส.กล่าว
สรส.หนุนม็อบนกหวีด
นายคมสัน ทองศิริ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) แถลงผลประชุมร่วมกับแกนนำ กปปส. เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่า การต่อสู้ใช้เวลามาแล้วกว่า 6 เดือนเศษ และนายสุเทพประกาศว่าหนังเรื่องนี้ควรจะถึงเวลาจบได้แล้ว เพราะสูญเสีย มามาก โดยไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแล ซึ่ง สรส.เห็นด้วยว่าควรจบได้แล้ว
ให้ออกแถลงการณ์ต้าน
นายคมสัน กล่าวว่า หลังพูดคุยกันแล้วมีข้อกำหนดวิธีการรูปแบบขั้นตอนในการปฏิบัติการร่วมกับ กปปส. โดย 1.ขอให้สหภาพแรงงานทุกแรงงานออกแถลงการณ์ไม่ยอมรับอำนาจของระบอบทักษิณ และข้าราชการที่เป็นของระบอบทักษิณต่อไป 2.ขอให้ขึ้นป้ายข้อความแสดงความไม่ยอมรับอำนาจของรัฐบาล และสนับสนุนให้มีรัฐบาลใหม่ ให้เป็นรัฐบาลของประชาชน 3.ให้องค์กรที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานแสดงสัญลักษณ์อารยะขัดขืน โดยการติดธงชาติที่รถ หรือสัญลักษณ์ธงชาติที่เป็นนกหวีด แสดงตัวตนให้ชัดว่าต่อต้านไม่รับ คำสั่งของระบอบทักษิณ
ฮึ่ม 22 พ.ค.ดีเดย์หยุดงาน
นายคมสัน กล่าวว่า 4.วันที่ 19-21 พฤษภาคม ขอให้แต่ละสหภาพที่เป็นแนวร่วม นำสมาชิกปฏิบัติการไล่ล่ารัฐมนตรี เพื่อคืนอำนาจ 5.ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคมเป็น ต้นไป ให้สมาชิกสหภาพนัดหยุดงาน และ ถ้ารัฐบาลยังไม่คืนอำนาจให้แก่ประชาชน จะปฏิบัติการขั้นสูงสุดที่แต่ละสหภาพแรงงานมีเครื่องมือที่จะปฏิบัติการขั้นสูงสุด เพื่อให้สำเร็จลุล่วงให้ประชาชนประสบชัยชนะ
โต้ไม่ตัดน้ำ-ตัดไฟปชช.
"ดังนั้น จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล หรือผู้ที่มีอำนาจในขณะนี้ ซึ่งเราไม่ยอมรับ โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ คืนอำนาจให้กับประชาชน ไม่เช่นนั้นในฐานะที่เป็นสมาชิกร่วมกับ กปปส. จะปฏิบัติการสูงสุดภายใต้รัฐธรรมนูญ" นายคมสันกล่าว
ส่วนการตัดน้ำตัดไฟ นายคมสันกล่าวว่า เป็นวาทกรรมของฝ่ายตรงข้าม ที่นำมาใช้พูดโจมตี ที่ผ่านมาเราไม่สามารถตัดน้ำตัดไฟประชาชนได้ ตราบที่ยังเสียค่าบริการอยู่ สำหรับปฏิบัติการขั้นสูงสุดที่แต่ละสหภาพ แรงงานจะใช้มีเครื่องมือที่มีมาปฏิบัติการนั้น หลายคนถามว่าทำแบบนี้ ประเทศจะเสียหายหรือไม่ ขอบอกว่าหากจะเสียหายแล้วรัฐบาลชุดนี้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องทำ
'เอกนัฏ'จี้รัฐบาลลาออก
ที่เวทีกปปส. บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ หน้าองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) บนเวทีปราศรัยเล่าข่าวสารบ้านเมืองให้แก่ ผู้ชุมนุม โดยผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ยังคงพักผ่อนบริเวณรอบพื้นที่ ต่อมานายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. กล่าวว่า เป้าหมายต่อไปของกปปส. คือเร่งดำเนินการให้มีนายกฯ ที่มีอำนาจเต็มเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ในการปฏิบัติจะเริ่มต้นในวันที่ 19-21 พ.ค.นี้ พร้อมทวงคืนอำนาจอธิปไตย และขอเรียกร้อง ให้นายนิวัฒน์ธำรงลาออกจากตำแหน่ง เพราะอยู่ต่อไปก็ขัดขวางการเดินหน้าของประเทศ
"ในวันที่ 22 พ.ค. จะเรียกร้องให้ส่วนราชการเข้ามาหารือ และหาทางออก ส่วน วันที่ 23-26 พ.ค. จะเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่กดดันทุกฝ่าย อย่างไรก็ตามยืนยันว่าจะไม่ปิดสถานที่ราชการ เพราะเป้าหมายชัดเจนคือตัวรัฐมนตรี ที่อยากเรียกร้องให้ ลาออก เนื่องจากข้าราชการมีความสับสน เพราะไม่รู้ว่ารัฐมนตรียังมีอำนาจสามารถ สั่งการได้หรือไม่" นายเอกนัฏกล่าว
 บังเกอร์ - ผู้ชุมนุมกปปส.ระดมขนทรายใส่ถุงทำบังเกอร์ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน กรุงเทพฯ เตรียมพร้อมต่อสู้ครั้งสุดท้ายตามประกาศของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เมื่อ 18 พ.ค. |
ย้ำ 26 พ.ค.นี้จบจริงๆ
โฆษก กปปส.กล่าวต่อว่า หากคนเสื้อแดงจัดมวลชนออกมาปกป้องรัฐมนตรี เราจะหลีกเลี่ยงการปะทะ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า กปปส.จะเคลื่อนมวลชนไปปิดสถานีโทรทัศน์ และสถานที่ราชการ โดยเฉพาะหน่วยทหารนั้นยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะสถานีโทรทัศน์ทุกช่องให้ความร่วมมือตามที่เคยตกลงกันทุกประการ เราไม่ได้คุกคามสื่อ แต่สื่อต้องไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐบาล และศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) ส่วนแนวทางของวุฒิสภาเป็นแนวทางที่ถูกต้อง แต่เขายังไม่ทำ ดังนั้น ประชาชนจะทำให้การเคลื่อนไหว 7 วันต่อจากนี้สำคัญมาก ภารกิจของนายสุเทพต้องขอปิดไว้บ้าง เพราะการเคลื่อนไหวต้องปรับตามสถานการณ์ ยืนยันว่าในวันที่ 26 พ.ค.นี้จะจบจริงๆ
แดงยังปักหลักถ.อักษะ
ที่เวทีชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ถนนอุทยาน (อักษะ) พุทธมณฑล บรรยากาศการชุมนุมรวมพลคนปราบกบฏมีคนเสื้อแดงหลายพันคนปักหลักชุมนุมต่อเนื่อง บางส่วนทำกิจธุระส่วนตัวตามเต็นท์ที่พัก และบางส่วนต่างร่วมฟังการแถลงข่าว นปช. แดงทั้งแผ่นดิน ถึงท่าทีแนวทางการต่อสู้ของนปช. พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์กลุ่มกปปส.
'จตุพร'ชี้สุเทพคุกคาม
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวว่า นปช.จะปักหลักชุมนุมอยู่ที่อักษะเพื่อประเมินท่าทีของนายสุเทพ เพราะนาย สุเทพโกหกทุกนาที จะประมาทไม่ได้ ถ้านายสุเทพพูดว่าจะไปทางซ้ายต้องคิดไปทางขวา ที่ต้องระวังคือการสร้างสถานการณ์ให้กองทัพ ออกมา ทั้งนี้ การประกาศไล่ล่ารัฐมนตรีทั้ง 12 คนให้ได้ภายใน 3 วันของนายสุเทพ ชุดรปภ.ของรัฐมนตรีจะดูแลปกป้องขั้นสูง เชื่อว่าโอกาสในการปะทะมีสูง ศอ.รส.จึงต้องดำเนินการติดตามจับกุมแกนนำกปปส.ตามหมายจับ ซึ่งที่มีท่าทีการข่มขู่คุกคามอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งนายสุเทพยังมีความหวังว่าจะชนะ
ลั่นไม่ยอมรับนายกฯ เถื่อน
"แผนสุดท้ายของนายสุเทพหลังจากที่ยึดทำเนียบรัฐบาลไปแล้วแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงมีความพยายามให้รัฐวิสาหกิจที่เป็นพวกตัดน้ำตัดไฟเหมือนปี 2553 ที่นายสุเทพได้ตัดสัญญาณดาวเทียมไทยคม และตัดสัญญาณโทรศัพท์บริเวณแยกราชประสงค์ ภารกิจของนายสุเทพครั้งนี้คือการสร้างความโกลาหลเพื่อเปิดทางให้กองทัพเข้ามาควบคุมสถาน การณ์ ไม่มีทางอื่นที่นายสุเทพจะชนะ ขณะที่ส.ว.สรรหา ตุลาการ และ กกต. ก็ยังไม่หยุดทำงานตามแนวทางทฤษฎีสมคบคิดเพื่อให้เกิดสุญญากาศ แต่ นปช.ไม่มีทางยอมให้มีรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีที่มาจากนอกแนวทางรัฐธรรมนูญ" นายจตุพรกล่าว
'ณัฐวุฒิ'จี้ถอนประกันกปปส.
ส่วนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. กล่าวว่า กปปส.ประกาศให้มวลชนดำเนินการบุกจับรัฐมนตรีทุกคน บังคับให้เซ็นชื่อลาออก ถือเป็นการข่มขู่คุกคามสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล ไม่มีอะไรรับรองความปลอดภัยได้ แม้แต่คนธรรมดาไปย้ายกรวยของกปปส.ยังถูกยิงถูกแทงเกือบตาย หากรัฐมนตรีถูกจับได้จะขนาดไหน จึงขอเรียกร้องให้ศอ.รส. ร้องต่อศาลถอนประกันแกนนำกปปส.เหมือนคดีที่นายเจ๋ง ดอกจิก ที่ปราศรัยพูดเบอร์โทรศัพท์ตุลาการ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง พูดในรัฐสภา ซึ่งทั้ง 2 คนถูกฟ้องถอนประกัน
ได้ 5 ล้าน-นำจับกปปส.
"ได้รับการติดต่อบริจาคเงิน 5 ล้านบาทจากผู้ต้องการรักษานิติรัฐรายหนึ่ง ซึ่งมีความประสงค์ให้เพื่อเป็นรางวัลนำจับแกนนำ กปปส.ที่มีหมายจับข้อหากบฏ และพยายามข่มขู่คุกคามประชาชน โดยมีเงื่อนไขว่าการจับกุมต้องเป็นไปตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ผู้บริจาคเงินรายนี้ไม่ขอเปิดเผยเนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัยในชีวิต" นายณัฐวุฒิกล่าว
จารุพงศ์จวกสุเทพเสียสติ
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ฐานะรักษาการ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพประกาศจะส่งการ์ด กปปส.ไล่ล่ารัฐมนตรีให้เซ็นลาออกจากตำแหน่งภายในวันที่ 19-21 พ.ค.นี้ว่า ไม่อยากเชื่อว่าคนที่เคยเป็นถึงอดีตรองนายกฯ และอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จะกล้าพูดจาข่มขู่แบบนี้ เป็นเรื่องโจ๊ก ไร้สาระ ถ้าไม่บ้าก็ไม่รู้ว่าจะว่าอะไรแล้ว น่าจะเป็นคำพูดของคนเสียจริต เสียสติ สื่อไม่ควรให้ราคากับคนบ้า จากการชุมนุมของ กปปส.ที่ผ่านมาทำผิดกฎหมายมาตั้งแต่ต้น ถึงตอนนี้ยังกล้า ข่มขู่รัฐมนตรีที่มาโดยชอบและถูกต้องตามกฎหมายอีก การที่นายสุเทพประกาศแบบนี้ยิ่งทำให้สถานภาพตัวเองดูแย่ลงไปอีก
ลั่นตัดน้ำตัดไฟผิดกฎหมาย
นายจารุพงศ์ กล่าวต่อว่า กรณีที่สมาพันธรัฐวิสาหกิจระบุว่าจะตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดการสื่อสารกระทรวง ทบวง กรม ที่ทำงานและบ้านรัฐมนตรีนั้น ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย โดยสามัญสำนึกควรรู้ว่าเรื่องไฟฟ้าและประปาเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐาน ใครก็ไม่มีสิทธิขู่ตัดน้ำตัดไฟใครทั้งสิ้น หากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจริงอยากรู้เหมือนกันว่าศาลจะว่าอย่างไร ได้กำชับทั้งผู้ว่าฯ กฟผ. ผู้ว่าฯ กฟน. ผู้ว่าฯ กปภ. และผู้ว่าฯ กปน.ดูแลให้เกิดความเรียบร้อย เชื่อว่าทั้งผู้ว่าฯ รวมทั้งพนักงานในสังกัดรู้กฎกติกาดีอยู่แล้ว หากปล่อยให้มีการตัดน้ำตัดไฟจริงนอกจากผิดกฎหมายแล้วยังตัดทางทำมาหากินของตัวเองด้วย
สั่งปลัดมท.-ผู้ว่าฯห้ามชุมนุม
พร้อมกันนี้นายจารุพงศ์มีหนังสือสั่งการด่วนที่สุดถึงนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรม ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บริหารรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงมหาด ไทย ห้ามเดินทางไปรายงานตัวกับผู้ชุมนุมทางการเมือง โดยมีสาระสำคัญว่า ตามที่นายสุเทพประกาศตนเป็นรัฏฐาธิปัตย์ เรียกให้ข้าราชการ หัวหน้าส่วนราชการไปรายงานตัวกับนายสุเทพตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค.นั้น ในฐานะ รมว.มหาดไทย ขอแจ้งให้ทราบว่าการกระทำของนายสุเทพเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประกอบกับนายสุเทพยังถูกออกหมายจับ ขณะที่รัฐบาลจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 181
ขู่ลงโทษทางวินัย-อาญา
ในฐานะ รมว.มหาดไทย ยังคงมีอำนาจบริหารงานของกระทรวง จึงขอใช้อำนาจตามพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 หากข้าราชการผู้ใดปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของนายสุเทพ จะถือว่าปฏิบัติตาม ผู้อื่นที่ไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาตามกฎหมาย อันจะนำไปสู่การลงโทษทางวินัย และหากมีการ กระทำที่ทำให้เกิดความเสียหาย จะนำไปสู่การดำเนินคดีทางแพ่งและทางอาญาต่อไป
ชัยเกษมชี้เฮือกสุดท้าย
นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม ในฐานะที่ปรึกษาศอ.รส. กล่าวว่า ถือเป็นความพยายามเคลื่อนไหวให้ครบวงจรเพื่อให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองเพื่อเอาใจมวลชน เป็นความพยายามครั้งสุดท้ายของกปปส.ที่ต้องการจบในวันที่ 26 พ.ค. เพราะประกาศเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายมาหลายครั้งแล้ว ยืนยันว่า ครม.ลาออกไม่ได้เพราะรัฐธรรมนูญบังคับให้อยู่ต่อ หากผู้ชุมนุมกปปส.จะมาหาตนรวมถึง ครม.คนอื่นๆ ถ้ามาดีๆ ก็พูดคุยกันได้ แต่ต้องไม่ใช้กำลังบังคับขู่เข็ญ ไม่เช่นนั้นก็มีสิทธิ์คุ้มครองตัวเอง ทั้งนี้ หาก ครม.ที่ถูกประกาศไล่ล่ารู้สึกกังวลในความปลอดภัย ศอ.รส.จะส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแล
 เผด็จศึก - นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมแกนนำกปปส. ประชุมกับบรรดาข้าราชการเกษียณที่เคยบริหารงานในหน่วยงานราชการต่างๆ เพื่อหารือแผนเผด็จศึกรัฐบาล ที่ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 18 พ.ค. |
'ชัชชาติ'เน้นเลี่ยงกปปส.
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์กรณีเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่กลุ่ม กปปส.จะตามไล่ล่าขอให้เซ็นใบลาออกว่า คงจะหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกัน และไม่ให้ปัญหาขยายวงกว้างออกไปมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเคยออกพื้นที่ไปพบปะประชาชนมีทั้งที่ต้องการให้รัฐบาลทำหน้าที่ต่อไปและส่วนหนึ่งไม่ต้องการให้อยู่ต่อ จึงจำเป็นต้องยึดตามรัฐธรรมนูญที่ต้องทำหน้าที่ต่อไป เพื่อเดินหน้าจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จ การลาออกไม่ใช่ทางออก หากรัฐบาลลาออกแล้วจัดตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมาก็คิดว่ารัฐบาลชุดใหม่จะมีอำนาจน้อยกว่าชุดปัจจุบัน จะส่งผลต่อเนื่องไปถึงการทำงานที่ยากมากขึ้น
มั่นใจรฟท.-ขสมก.ไม่หยุด
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาหลายเดือนพนักงานการรถไฟฯ ส่วนใหญ่ไม่เคยร่วมหยุดงานประท้วงกับกปปส. ยิ่งสถานการณ์ขณะนี้ยิ่งเห็นว่าการชุมนุมสร้างความเสียหายร้ายแรงกับประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการของแกนนำเท่านั้น มั่นใจว่าคนรถไฟจะไม่ร่วมหยุดงานกับกปปส.เหมือนเดิม กปปส.ควรยุติการชุมนุม ไม่ให้ประเทศเสียหายกว่านี้และกลับไปสู่กระบวน การเลือกตั้ง
ขณะที่นายนเรศ บุญเปี่ยม รักษาการ ผอ. ขสมก. กล่าวว่า มั่นใจว่าพนักงานขสมก.จะไม่หยุดงานกระทบกับประชาชนผู้ใช้บริการ จากการพูดคุยกับสหภาพแรงงาน ขสมก. ก็ไม่ได้เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว
พท.เย้ยสุดท้ายมา 11 หน
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการประกาศไล่ล่ารัฐมนตรีของกลุ่มกปปส.ว่า จากการตรวจสอบพบว่าทีมไล่ล่านั้นไล่ล่าเฉพาะรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย การกระทำของนายสุเทพไม่ต่างจากโจรปล้นอำนาจ ปล้นประชาธิปไตยจากประชาชนกลางวันแสกๆ ทีมกฎหมายมองว่านายสุเทพโดนข้อหากบฏ ขณะที่อัยการฟ้องข้อหากบฏและก่อการร้าย การ กระทำ ดังกล่าวจึงเป็นการทำผิดข้อหากบฏซ้ำซาก ยุยง ปลุกปั่น ไม่เกรงกลัวกฎหมาย เป็นพฤติกรรมรุนแรง เชื่อว่าจะไม่สำเร็จ ส่วนที่อ้างว่าถ้าไม่สำเร็จจะมอบตัวในวันที่ 27 พ.ค.นั้น เชื่อว่านายสุเทพก็ยังไม่มอบตัวและไม่เลิกชุมนุม เพราะก่อนหน้านี้ประกาศยกระดับครั้งสุดท้ายมา 11 ครั้งแล้ว
'นิวัฒน์ธำรง'ดอดกลับกรุง
ด้านนายนิวัฒน์ธำรงหลังเสร็จสิ้นภารกิจที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ เดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงที่สนามบินกองบังคับการกองบินตำรวจ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน ในเวลา 14.00 น. โดยกำหนดการเดินทางถูกปิดเป็นความลับ เพื่อความปลอดภัย หลังนายสุเทพประกาศนำมวลชนไล่ล่า รวมถึงยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการหารือกับนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่ประธานวุฒิสภา เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับการหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ครั้งที่ผ่านมา
ตู่เตือนสรส.อย่ารับใช้สุเทพ
ค่ำวันเดียวกันบนเวทีปราศรัยกลุ่มนปช. ถ.อักษะ นายจตุพรกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า จากมติ กปปส. ให้สหภาพแรงงานรัฐ วิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) หยุดงานตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.เป็นต้นไป เพื่อยึดอำนาจอธิปไตย เรียนว่ารัฐวิสาหกิจเป็นสมบัติของประชาชน ต้องทำหน้าที่รับใช้ประชาชนไม่ใช่รับใช้ นายสุเทพ หากรัฐวิสาหกิจหยุดงานแล้วประชาชนเดือดร้อนเท่ากับเป็นกบฏเช่นเดียวกับนายสุเทพ สรส.มีเป้าหมายสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน คือการตัดน้ำ ตัดไฟ และตัดสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งนาย สุเทพเคยทำมาก่อน ดังนั้น ขอเรียกร้องให้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เห็นด้วยกับ สรส.และนาย สุเทพ ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปแทนสหภาพฯ ที่หยุดงาน
เชื่อมีตัดน้ำ-ตัดไฟแน่
นายจตุพร กล่าวต่อว่า ขอให้ ศอ.รส.เตรียมพร้อม แม้นายสุเทพจะประกาศไม่ตัดน้ำตัดไฟก็เชื่อไม่ได้ เพราะหากหยุดงานแล้วไม่เกิดความเดือดร้อนก็อาจจะมีการตัดน้ำตัดไฟได้ ส่วนในวันที่ 19 พ.ค. นปช.จะมีกิจกรรมทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้วีรชน โดยนิมนต์พระสงฆ์ 2,557 รูป บิณฑบาตตลอดแนวถนนอักษะ เริ่มตั้งแต่ 07.00 น.
"สำหรับคณะรัฐมนตรีขออย่าประมาท อย่าให้ถูกจับตัวได้และถูกบังคับให้เขียนใบลาออกแม้แต่คนเดียว ฝากถึงนายนิวัฒน์ ธํารงให้ระวังตัว อย่าให้ถูกจับ และการนัดพูดคุยกับนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย แม้จะบอกว่าเป็นความลับก็อย่าได้เชื่อ เพราะ กปปส.บอกชัดเจนว่านายสุรชัย เป็นคนของพวกเขา" นายจตุพรกล่าว
เต้นโชว์ 5 ล้าน-ค่านำจับ
ด้านนายณัฐวุฒิ ขึ้นเวทีปราศรัย พร้อมนำเงินสดจำนวน 5 ล้านบาทขึ้นมาแสดงต่อผู้ชุมนุม และว่าหลังจากนายสุเทพ พร้อมด้วยแกนนำที่ถูกออกหมายจับ 30 คน ประกาศให้มวลชนกระจายกำลังจับกุมคณะรัฐมนตรีและบังคับให้เขียนใบลาออก ตนได้รับการติดต่อจากกลุ่มบุคคลที่ใช้ชื่อว่า "คนไทยผู้ต้องการเห็นกฎหมายเป็นกฎหมาย" ซึ่งรับไม่ได้กับเหตุการณ์ครั้งนี้มอบเงินจำนวน 5 ล้านบาท และระบุว่าจะมอบเป็นเงินรางวัลให้กับใครก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นคนเสื้อแดง กปปส. หรือคนที่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวการเมือง ที่ชี้เบาะแสและนำไปสู่การจับกุมแกนนำที่ถูกออกหมายจับ
แนะการ์ดกปปส.มาเอาเงิน
"หากจับแกนนำทั่วไปจะจ่าย 300,000 บาท กรณีที่เป็นนายสุเทพ จ่ายให้ 3 ล้านบาท ฝากไปถึงการ์ด กปปส. ที่รู้ความเคลื่อนไหวของนายสุเทพ เงินดังกล่าวไม่ใช่น้อยๆ ขอให้คิดทบทวนให้ดี หากพาตำรวจไปจับนาย สุเทพได้เราจ่ายทันที ทั้งนี้ ยอดเงิน 5 ล้านบาทดังกล่าวเป็นเพียงเงินตั้งต้น หากใครที่สนใจจะสมทบทุนรางวัลนำจับ สามารถบริจาคเข้าบัญชี นปช.เพื่อเพิ่มรางวัลได้ และการชี้เบาะแสจะสิ้นสุดในเวลา 09.00 น. วันที่ 27 พ.ค.นี้" นายณัฐวุฒิกล่าว
ร่วมรำลึกวีรชนปี"53
ต่อมา รศ.ดร.สุดา รังกุพันธุ์ แกนนำกลุ่มปฏิญญาหน้าศาล นำญาติวีรชนเดือนเม.ย.-พ.ค. 2553 กว่า 30 คน ขึ้นบนเวที พิธีกรขานชื่อวีรชนที่เสียชีวิต อาทิ นายวสันต์ ภู่ทอง, นายบุญทิ้ง ปานศิลา, นายสยาม วัฒนนุกูล และอีกหลายสิบรายชื่อ กระทั่งชื่อสุดท้ายที่ถูกลักลอบยิงเสียชีวิตกลางเมืองคือ ไม้หนึ่ง ก.กุนที จากนั้นต่อมา รศ.ดร.สุดาอ่านบทกวีที่ไม้หนึ่งเป็นผู้ประพันธ์ เพื่อรำลึกครบรอบ 4 ปี เหตุการณ์ล้อมปราบ พ.ค.2553 ขณะที่คนเสื้อแดงลุกขึ้นยืนแสดงความอาลัย และร่วมร้องเพลงนักสู้ธุลีดิน ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า มีหลายคนที่ร้องเพลงและน้ำตานองหน้าไปด้วย เมื่อเสร็จสิ้นพิธีพิธีกรจึงดำเนินกิจกรรมปราศรัยต่อไป
สุเทพนัดเดินไล่ล่ารมต.
เวลา 20.40 น. นายสุเทพขึ้นเวทีปราศรัย กล่าวว่า กปปส.จะเริ่มปฏิบัติการเรียกคืนอำนาจอธิปไตยกลับมาเป็นของประชาชน ตั้งแต่วันที่ 19-26 พ.ค. แบ่งเป็น 3 ขั้น คือ วันที่ 19 พ.ค. ทีมเคลื่อนที่เร็วของ กปปส.จะออกตามหาคณะรัฐมนตรีเพื่อให้เซ็นใบลาออก แม้รัฐมนตรีบางคนยืนยันว่าไม่ลาออกเด็ดขาดโดยอ้างว่าไม่มีกฎหมายบังคับ มวลมหาประชาชนไม่รู้กฎหมายแต่จะไล่ด้วย ส้นเท้า ด้วยการเดินขบวนครั้งใหญ่ เวลา 10.00 น. ออกจากสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผ่านสี่แยกคอกวัว ผ่านถนนตะนาว ศาลเจ้าพ่อเสือ วังบูรพา แยกเจริญกรุง กรมรักษาดินแดน ท่าเตียน ปากคลองตลาด สะพานพุทธ เข้าโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย พาหุรัด วัดสุทัศน์ ถนนดินสอ และสิ้นสุดที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ขอให้ประชาชนเปลี่ยนเป้ารณรงค์ใหม่ ไล่รัฐมนตรีอย่างเดียว ขอให้ประชาชนที่เห็นด้วยออกมาสมทบ เดินขบวนใหญ่ทั้ง 3 วัน ให้คนทั้งประเทศทั้งโลกได้เห็น
ให้ประชาชนติดธงชาติ
นายสุเทพกล่าวต่อว่า ปฏิบัติการขั้นที่ 2 คือ การแสดงออกทางสัญลักษณ์ พนักงานรัฐวิสาหกิจมีมติจะแสดงสัญลักษณ์การต่อสู้โดยติดธงชาติและแขวนนกหวีดไปทำงาน และรัฐวิสาหกิจจะขึ้นป้ายไม่รับคำสั่งรัฐมนตรีทั้งหลาย ทุกหนทุกแห่ง และขอเรียนพี่น้องข้าราชการ ให้ทำอย่างเดียวกัน แสดงตัวออกมาให้ชัดเจนว่าอยู่ข้างมวลมหาประชาชน ส่วนประชาชนขอให้ชักธงชาติขึ้นที่หน้าบ้าน ติดธงชาติที่รถ นอกจากนี้ขอให้ ผู้บริหารส่วนราชการต่างๆ นัดประชุมเพื่อหารือว่าจะมีแนวทางอย่างไร ให้ได้ข้อสรุปในวันที่ 22 พ.ค.นี้ ทั้งนี้ เบื้องต้นรัฐวิสาหกิจจะหยุดงานเพื่อสนับสนุนการต่อสู้ของมวลมหาประชาชน แต่ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ยืนยันว่าอยู่บนหลักการของพลเมืองดี
23-25 พ.ค.นัดชุมนุมใหญ่
"ขั้นที่ 3 เป็นการแสดงพลังประชาชนครั้งใหญ่สุดติดต่อกัน 3 วัน บนถนน 2 สายหลัก คือ ราชดำเนินจากลานพระบรมรูปทรงม้า-สนามหลวง และถนนสุขุมวิท ซอยอ่อนนุช-ปทุมวัน นัดหมายเวลา 17.00 น. ของทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 23-25 พ.ค. เปิดโอกาสให้ทุกคนปราศรัยและโชว์การแสดงได้ตามจุดต่างๆ และจะเลิกกิจกรรมในเวลาไม่เกิน 22.00 น." นายสุเทพกล่าว
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า จากนั้นวันจันทร์ที่ 26 พ.ค. ที่ท้องสนามหลวง กปปส.จะสร้างเวทีใหญ่ และในเวลา 19.00 น. จะประกาศอย่างเป็นทางการว่าอำนาจอธิปไตยกลับคืนมาเป็นของปวงชนชาวไทยโดยเรียบร้อยแล้ว ตั้งสัตยาธิษฐานต่อหน้าพระแก้วมรกต ศาล หลักเมืองและพระบรมฉายาลักษณ์ ตั้งใจทำเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินด้วยใจบริสุทธิ์เพื่อทำให้สำเร็จ ดังนั้นวันที่ประกาศความสำเร็จในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์นั้นอีกครั้งเป็นการปิดเกมการต่อสู้ของมวลมหาประชาชน
ส่งการ์ดคุมโรงไฟฟ้า-โทรศัพท์
"ขณะที่มีการดำเนินการทั้งหลายจะมีการ์ดคอยดูแลความปลอดภัยสถานที่สำคัญต่างๆ ไม่ได้เป็นการยึดแต่จะไม่ให้ฝ่ายคนร้ายไปทำลายสถานที่เหล่านั้น ได้แก่ โรงผลิตกระแสไฟฟ้า สถานีจ่ายไฟฟ้า องค์การโทรศัพท์" นายสุเทพกล่าว และว่า ทั้งนี้ กปปส.จะจัดเวทีมวลมหาประชาข้าราชการ ตั้งเวทีที่ถนนอู่ทองใน หน้ารัฐสภา ให้ได้แสดงพลังให้ประจักษ์แก่สายตาคนทั้งประเทศ เริ่มวันที่ 23 พ.ค. เวลา 14.00 น. ขอให้เตรียมตัวเข้าร่วมขบวนการ เรียกคืนอำนาจอธิปไตยกลับมาเป็นของปวงชนชาวไทยตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 3
นายสุเทพยัง กล่าวอีกว่า ส่วนการเรียกปลัดกระทรวงและข้าราชการระดับสูงมารายงานตัวนั้น ยอมรับว่าข้าราชการอาจไม่ยอมมาพบกปปส. ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้ ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเป็นผู้จัดนัดพบปะพูดคุยกันเอง
ตู่ดักคอแผนปูทางทหาร
ที่เวทีนปช. นายจตุพรขึ้นปราศรัยถึงกรณีนายสุเทพประกาศบนเวทีว่าจะไปปิดล้อม โรงไฟฟ้า สถานีจ่ายไฟฟ้า และการสื่อสาร โดยอ้างไปป้องกันไม่ให้ถูกยึดว่า ที่ผ่านมาคน เสื้อแดงไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับโรงไฟฟ้า หรือตัดการสื่อสารใดๆ ที่นายสุเทพอ้างแบบนี้เชื่อว่าเป็นแผนสร้างสถานการณ์ ทำให้เกิดความวุ่นวาย ต้องการให้ทหารออกมาเคลื่อนไหว ขอบอกไปยังพนักงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ ว่าถ้าหยุดงานไปเฉยๆ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนก็ไม่ว่าอะไร แต่หากออกมาช่วยนายสุเทพตัดน้ำ-ตัดไฟจะถือว่าเป็นกบฏเช่นกัน
ภูธรเสริมกำลังเข้ากรุงคุมม็อบ
เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ลานอนุสาวรีย์พ่อเจ้าทิพย์ช้าง ถนนซูเปอร์ไฮเวย์ ลำปาง-พะเยา อ.เมือง จ.ลำปาง พล.ต.ต.พรชัย พัตร์ผ่องศรี ผบก.ภ.ลำปาง เดินทางมาให้กำลังใจและให้โอวาทกับตำรวจกองร้อยชุดควบคุมฝูงชนลำปาง 175 นาย ซึ่งจะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบ ร่วมกับตำรวจนครบาลเป็นเวลา 10 วัน เพื่อควบคุมดูแลการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช. และกลุ่ม กปปส. พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เน้นย้ำผู้บังคับบัญชากำชับห้ามกำลังพลนำอาวุธปืนประจำกายหรืออาวุธมีดติดตัวไปโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันตกเป็นเป้าหมายถูกโจมตีจากกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมกำชับระหว่างปฏิบัติหน้าที่กำลังพลทุกนายต้องสวมเสื้อเกราะป้องกันอันตรายจากอาวุธต่างๆ
ที่บริเวณลานด้านหน้าสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.ภ.สุรินทร์ เป็นประธานการปล่อยแถว ร้อยควบคุมฝูงชน กองร้อยที่ 1 จ.สุรินทร์ เดินทางไปสนับสนุนภารกิจรักษาความปลอดภัยและรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่ บช.น. กำลังพล 158 นาย ยานพาหนะรถตู้ 17 คัน
ที่บก.ภ.อุบลราชธานี พ.ต.อ.อภิศักดิ์ เดชะคำภู รองผบก.ภ.อุบลฯ ร่วมกับคณะนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ส่งกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชน 1 กองร้อยจำนวน 160 นาย เดินทางไปดูแลความสงบการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ที่ถนนอักษะ พุทธมณฑล เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ เนื่องจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ประเมินว่าสัปดาห์หน้าอาจมีการเผชิญหน้าของมวลชนสองกลุ่ม จำเป็นต้องมีการระดมกำลังเข้าดูแลความสงบ
ในส่วนของการตรวจตราค้นอาวุธกลุ่มผู้ชุมนุมจากพื้นที่ต่างๆ เข้ากรุงเทพฯ ที่จ.นครราช สีมา เส้นทางหลังของมวลชนจากอีสานเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจตั้งจุดตรวจค้นอาวุธอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะที่บริเวณถนน 4 แยกอวยชัย อ.ปักธงชัย จุดเชื่อมต่อระหว่างถนนเส้น 304 ปักธงชัย-กบินทร์บุรี กับถนนเส้น 24 มุ่งหน้าสู่ถนนมิตรภาพ อ.สีคิ้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปักธงชัย ร่วมกับทหารจากมลฑลทหารบกที่ 21 (มทบ.21) ค่ายสุรนารี ตั้งด่านตรวจรถยนต์ส่วนบุคคล และรถตู้โดยสารอย่างเข้มงวด ตลอด 24 ชั่วโมง
นปช.-กปปส.ระดมเพิ่มแนวร่วม
เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่หน้าโรงแรมแกรนด์วโรรส ต.พระสิงห์ อ.เมืองเชียงใหม่ กลุ่มคน เสื้อแดงเชียงใหม่และกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 จำนวนมาก ทยอยขึ้นรถตู้ที่เตรียมไว้เดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ สมทบกันที่ ถ.อักษะ นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 กล่าวว่า สมาชิกทยอยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยมาขึ้นรถตู้ที่จัดไว้ให้ และยังมีกลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มอื่นๆ จัดทั้งรถบัส รถตู้ ทยอยออกจากเชียงใหม่ในช่วงเช้าวันนี้
"เรายังเตรียมรถสำรองไว้อีกเรื่อยๆ หากคนเสื้อแดงเชียงใหม่ประสงค์จะเดินทางไปร่วมในวันนี้ ก็มีรถสำรองรอไว้ เต็มออกๆ ทันที นอกจากนี้กลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางไปกรุงเทพฯ ก่อนหน้านั้นจะแบ่งกำลังเดินทางไปที่ศาลอาญาเพื่อร่วมกับนักศึกษา ม.รามคำแหง เพื่อแสดงพลังคัดค้านการประกันตัวพวกกบฏที่ถูกจับกุมมาด้วย" นายเพชรวรรตกล่าว
นายปัณณวัฒน์ นาคมูล ประธาน นปช.อุตรดิตถ์ พร้อมด้วย ด.ต.ทินฐิภัทร์ ธรรมจักร ประธาน นปช.แพร่ และนายสิทธิชัย ต๊ะอาจ ประธาน นปช.เพชรบูรณ์ แถลงข่าวที่ศูนย์ประสานงานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จ.อุตรดิตถ์ ในนาม นปช. 17 จังหวัดภาคเหนือ ถึงการเคลื่อนมวลชนเพื่อเพิ่มการชุมนุมใหญ่ที่ถนนอักษะ ในวันที่ 18-19 พ.ค.นี้ว่า นปช.และคนเสื้อแดง 17 จังหวัดภาคเหนือ ระดมพลมวลชนเพื่อไปร่วมชุมนุมใหญ่ เป็นช่วงเวลาที่สถานการณ์ทางการเมืองร้อนแรง เพื่อเป็นการแสดงพลังปราบกบฏสุเทพ และปกป้องระบอบประชาธิปไตย
ด้านกลุ่ม กปปส.นครราชสีมา นำโดยทันตแพทย์ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการ กปปส. นครราชสีมา กล่าวหลังจากที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ประกาศจัดทีมไล่ล่า รักษาการรัฐมนตรีทุกกระทรวง เพื่อกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง ตามแผนเผด็จศึกรัฐบาล ปฏิรูปประเทศไทย ทางแกนนำ กปปส.จังหวัดนครราชสีมาหารือกันและตกลงกันว่าจะจัดทีมมวลชนไล่ล่านายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งอยู่ในพื้นที่ รวมทั้งอาจไปชุมนุมหน้าที่ทำการพรรคชาติพัฒนาด้วย ขณะเดียวกันในวันที่ 23 พ.ค.นี้ กปปส.จังหวัดนคราชสีมาจะเดินทางไปร่วมชุมนุมในกรุงเทพฯ ด้วย
รัฐวิสาหกิจนัด 22 พค.ฮือ สไตรก์ไล่รบ. สุเทพจัดทีมคุมโรงไฟฟ้า 27 ฉลองชัยสนามหลวง อดีตขรก.ส่งจม.ถึงบิ๊กตู่ เจ้าภาพระดมแก้วิกฤต 'เต้น'โชว์ 5 ล.นำจับแกน
 ร่วมหารือ - นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ถ่ายรูปร่วมกับอดีตข้าราชการที่เข้าร่วมหารือเพื่อเตรียมการเคลื่อนไหวของ กปปส. เรียกร้องให้มีนายกฯคนกลาง ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม
มติชนออนไลน์ : |
'สรส.'นัดรัฐวิสาหกิจหยุดงาน 22 พ.ค. 'ชัชชาติ'เตือน รสก.อย่าจับประชาชนเป็นตัวประกัน สั่งให้ทำงานเต็มที่ 'ชัยเกษม'ไม่หวั่นถูก กปปส.ไล่ล่า ยันไม่หลบในเซฟเฮาส์
@ "ชัยเกษม"ชี้"สุเทพ"เฮือกสุดท้าย เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม นายชัยเกษม นิติสิริ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ประกาศชุมนุมใหญ่ครั้งสุดท้าย ถ้าวันที่ 27 พฤษภาคมไม่ชนะจะเข้ามอบตัวว่า ไม่เชื่อว่านายสุเทพจะมอบตัว คงไม่ยอมติดคุก เพราะโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต เชื่อว่าหนีไปต่างประเทศแน่นอน ห่วงแต่มวลชนที่เวลานี้ทั้งภาพและเทปที่ถ่ายไว้ พอไล่เช็กบิลกันโดนกันเป็นแถว ตอนนี้ที่ทำอะไรไม่ได้ เพราะคนมีมาก แต่ในอนาคตต้องดำเนินการตามกฎหมาย "เป็นความพยายามเฮือกสุดท้ายของนายสุเทพ เพื่อให้ได้รัฐบาลเฉพาะกิจ ต้องให้ทหารปฏิวัติ ฉีกรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีรัฏฐาธิปัตย์ สมมุติแค่บุกบ้านรัฐมนตรี 12 คน แล้วมีการยิงตายเป็นร้อยก็ปฏิวัติได้แล้ว รัฐบาลต้องระมัดระวัง นายสุเทพคงไม่แค่มาแล้วยกมือไหว้ขอร้องแน่ วันที่ 19 พฤษภาคม ทางศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) จะต้องหารือกันถึงเรื่องดังกล่าว" นายชัยเกษมกล่าว
@ ไม่หวั่นล่า-ป้องสิทธิเต็มรูปแบบ นายชัยเกษม กล่าวว่า ที่นายสุเทพ ให้มวลชนไล่ล่ารัฐมนตรี 12 คน เพื่อให้เซ็นใบลาออกจากตำแหน่งนั้น ยังใช้ชีวิตในการทำงานปกติไม่ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอะไรเป็นพิเศษ หากจะมาบังคับ เอาปืนจี้หัวตนจนยอมเซ็นใบลาออก ใบลาออกนั้นมันก็ใช้ประโยชน์ไม่ได้ เพราะเป็นการขู่บังคับ ไม่มีผลทางกฎหมาย "ผมจะไม่หนีไปอยู่เซฟเฮาส์ เมื่อโจรจะมาปล้นบ้านผมก็ต้องปกป้องทรัพย์สินของผม ถ้ามายกมือไหว้พูดจาดีๆ ผมก็จะชี้แจงดีๆ ว่าผมลาออกไม่ได้ แต่ถ้ามาแบบอันธพาลคุกคามข่มขู่ หรือบุกรุกบ้านพัก ผมก็ต้องปกป้องสิทธิเต็มรูปแบบ ฝากบอกนายสุเทพว่าผมจะสู้เพื่อปกป้องสิทธิของผมตามกฎหมาย" นายชัยเกษมกล่าว
@ เล็งยื่นศาลถอนประกันกปปส. นายชัยเกษม กล่าวว่า สั่งการให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รวบรวมพยานหลักฐานแกนนำ กปสส. ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่กระทำการผิดเงื่อนไขการปล่อยตัว ยื่นคำร้องศาลเพื่อขอให้ถอนประกัน ทั้งนี้ ยังให้นำคลิปนายเสรี วงษ์มณฑา แกนนำ กปปส.ที่ถูกออกหมายจับ ไปกล่าวปราศรัยที่ นครชิคาโก ประเทศสหรัฐมารวบรวมในสำนวนเพื่อดำเนินคดีกับบุคคล ที่นายเสรีระบุว่าร่วมกับ กปปส.กระทำผิด เมื่อถามว่า ศอ.รส.ต้องขอกำลังทหารเพิ่มหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาพื้นที่ทหาร กลุ่ม กปปส.ก็บุกมาแล้ว นายชัยเกษมกล่าวว่า ที่ผ่านมาจะเห็นว่าทหารเล่นบทบาทธุระไม่ใช่อยู่พอสมควร ฉะนั้นเที่ยวนี้ก็เหมือนกัน คงต้องใช้กำลังตำรวจเป็นหลัก ส่วนทหารก็แล้วแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. จะวางตัวอย่างไร อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
@ 'จารุพงศ์'จวก'สุเทพ'บ้า นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ ประกาศจะส่งการ์ด กปปส.ไล่ล่ารัฐมนตรีให้เซ็นลาออกจากตำแหน่ง ว่า ไม่อยากเชื่อว่าคนที่เคยเป็นถึงอดีตรองนายกฯ และอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะกล้าพูดจาข่มขู่แบบนี้ "ถ้าไม่บ้าก็ไม่รู้ว่าจะว่าอะไรแล้ว น่าจะเป็นคำพูดของคนเสียจริต เสียสติ สื่อไม่ควรให้ราคากับคนบ้า การชุมนุมของ กปปส.ที่ผ่านมาก็ทำผิดกฎหมายมาตั้งแต่ต้น ตอนนี้ยังกล้าข่มขู่รัฐมนตรีที่มาโดยถูกต้องตามกฎหมายอีก ไม่ต่างจากโจร ถามว่าบรรดารัฐมนตรีจะยอมให้จับตัวได้ง่ายๆ หรือ การที่นายสุเทพประกาศแบบนี้ยิ่งทำให้สถานภาพของตัวนายสุเทพดูแย่ลงไปอีก" นายจารุพงศ์กล่าว
@ 'ธาริต'ลั่นเอาผิดคนล่ารมต. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ในฐานะเลขาธิการ ศอ.รส. กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ประกาศให้มวลชนไล่ล่าติดตามรัฐมนตรี ให้เซ็นใบลาออก ว่า ศอ.รส.ขอฝากแจ้งเตือนไปยังประชาชน กลุ่มบุคคล และองค์กรที่ไปประชุมร่วมสนับสนุนนายสุเทพ เพราะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย กลุ่มบุคคลใดที่เข้าร่วมประชุมหรือมติใดร่วมกับนายสุเทพ ดีเอสไอจะพิจารณาดำเนินคดีต่อไป นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะเข้ามอบตัวในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้นั้น ไม่เชื่อเด็ดขาดว่านายสุเทพจะกล้า ที่ผ่านมานายสุเทพประกาศการต่อสู้ครั้งสุดท้ายมาหลายครั้งจนไม่มีความน่าเชื่อถืออีกต่อไป หากมอบตัวจริงจะขอเป็นคนส่งเสบียงให้นายสุเทพทุกสัปดาห์ ทั้งข้าวมันไก่ โอเลี้ยง
@ กปปส.โคราชประกบ'รมว.อุตฯ' ที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ทันตแพทย์ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการ กปปส.นครราชสีมา กล่าวว่า หลังจากที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ประกาศให้จัดทีมไล่ล่ารัฐมนตรี เพื่อกดดันให้ลาออกนั้น ทางแกนนำ กปปส.นครราชสีมา หารือกันและตกลงกันว่าจะจัดทีมมวลชนไล่ล่ารัฐมนตรีหนึ่งเดียว ที่อยู่ใน จ.นครราชสีมา คือนายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ขณะนี้ให้แกนนำของ อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน และ อ.เมือง จัดมวลชนเตรียมความพร้อมที่จะเคลื่อนไหวไล่ล่านายประเสริฐ ทุกพื้นที่ที่เดินทางไปร่วมกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งอาจไปชุมนุมหน้าที่ทำการพรรคชาติพัฒนาด้วย ทันตแพทย์ศุภผล กล่าวว่า ในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ กลุ่ม กปปส.นครราชสีมา นัดกันขึ้นรถยนต์ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เพื่อเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ
@ ปชป.ข้องใจ'ธาริต'ลุกลี้ลุกลน ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรค ปชป. แถลงว่า ขอสังเกตการใช้อำนาจของ ศอ.รส. และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เนื่องจากโครงสร้าง ศอ.รส.มีเพียงคำสั่งแต่งตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็น ผอ.ศอ.รส. แต่เมื่อ ร.ต.อ.เฉลิม พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี โครงสร้างการทำงานของ ศอ.รส.น่าจะหมดไปด้วย "แต่การดำเนินการของ ศอ.รส.หลายครั้งทำด้วยความรีบเร่งลุกลี้ลุกลน ล่าสุดมีการออกหมายจับแกนนำ กปปส.ที่แปลกประหลาด เช่น ขอศาลออกหมายจับ ทำให้เข้าใจว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาถูกอัยการสั่งฟ้องแล้ว เมื่อไปรายงานตัวกับศาล ปรากฏว่าศาลแจ้งว่าเป็นแค่หมายเรียกเพราะอัยการยังไม่สั่งฟ้อง เมื่อตรวจย้อนไปที่ดีเอสไอพบว่าเป็นเพียงความเห็นว่าสมควรสั่งฟ้องยังไม่มีข้อยุติว่าให้สั่งฟ้อง แสดงให้เห็นว่าเป็นการลักไก่ของนายธาริต" นายชวนนท์กล่าว นายชวนนท์ กล่าวว่า สัปดาห์นี้ถือเป็นสัปดาห์อันตราย เพราะมีเหตุการณ์ที่ดาราคนหนึ่งทำทรัพย์สินหายจึงไปแจ้งความ แต่พอไปตรวจหลักฐานที่รีสอร์ตกลับพบว่ามีการขนถ่ายอาวุธจากรถที่อ้างว่าเป็นของนักการเมืองใหญ่คนหนึ่งในรัฐบาลและให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยขอให้ไม่ดำเนินการเอาผิด ขอตั้งข้อสังเกตว่าเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุในกรุงเทพฯหรือไม่ ซึ่งรถที่ขนอาวุธมาส่งมีทะเบียน จ.เชียงราย
@ ขู่ตามเอาผิด'ดีเอสไอ' นายราเมศ รัตนเชวง รองโฆษกและคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค ปชป. แถลงว่า การที่พนักงานสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอ ขอศาลออกหมายจับ 57 แกนนำกลุ่ม กปปส. และจับกุมพร้อมขอฝากขังนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ซึ่งศาลยกคำร้องฝากขังนั้น การกระทำของพนักงานสืบสวนดีเอสไอ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลมีคำสั่งชัดเจนว่า เจ้าพนักงานมีอำนาจควบคุมผู้ที่ถูกจับกุมได้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น และให้มายื่นฟ้องต่อศาลสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม ดีเอสไอกลับยื่นคำร้องขอฝากขังต่อ ตามกฎหมายแล้วไม่มีสิทธิที่จะทำได้ เพราะเป็นอำนาจของศาลยุติธรรม นายราเมศ กล่าวว่า การจับกุมของพนักงานสืบสวนดีเอสไอ ถือเป็นการลักไก่ ขัดหลักกฎหมาย เพราะเป็นหน้าที่ของอัยการที่จะมีคำสั่งสอบสวนเพิ่มเติม จึงขอเรียกร้องไปยังอัยการ แสดงความชัดเจนในการประสานงานระหว่างอัยการและดีเอสไอว่ามีการสั่งฟ้องแกนนำคนใดบ้าง ไม่ใช่ออกหมายจับอย่างเดียว และไม่ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ดังนั้น ในวันที่ 19 พฤษภาคม พรรคจะรวบรวมเอกสารหลักฐานดำเนินคดีกับพนักงานสืบสวนฯดีเอสไอ ฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
@ "ตู่"ชี้"สุเทพ"ป่วน-เปิดทางทหาร ที่เวทีชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ถนนอุทยาน (อักษะ) พุทธมณฑล คนเสื้อแดงปักหลักชุมนุมต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวว่า นปช.จะปักหลักชุมนุมอยู่ที่ถนนอักษะเพื่อประเมินท่าทีของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. จะประมาทไม่ได้ ที่ต้องระวังคือการสร้างสถานการณ์ให้กองทัพออกมา ที่ กปปส.ประกาศไล่ล่ารัฐมนตรี 12 คน ทีม รปภ.ของรัฐมนตรีจะดูแลปกป้องขั้นสูง เชื่อว่าโอกาสปะทะมีสูง แผนสุดท้ายของนายสุเทพ หลังจากยึดทำเนียบรัฐบาลไปแล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงมีความพยายามให้รัฐวิสาหกิจที่เป็นพวกนายสุเทพตัดน้ำตัดไฟ เพื่อการสร้างความโกลาหล เปิดทางให้กองทัพเข้ามาควบคุมสถานการณ์
@ "เต้น"เผยคนให้ 5 ล.นำจับกปปส. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. กล่าวว่า กปปส.ประกาศจับรัฐมนตรีทุกคนให้เซ็นชื่อลาออก ถือเป็นการข่มขู่คุกคามสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล จึงขอเรียกร้องให้ ศอ.รส.ร้องต่อศาลถอนประกันแกนนำ กปปส.เหมือนคดีที่นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ที่ปราศรัยพูดเบอร์โทรศัพท์ตุลาการ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง พูดในรัฐสภา ซึ่งทั้ง 2 คนถูกฟ้องถอนประกัน "ได้รับการติดต่อบริจาคเงิน 5 ล้านบาท จากผู้ต้องการรักษานิติรัฐคนหนึ่ง เพื่อเป็นรางวัลนำจับแกนนำ กปปส. ที่มีหมายจับข้อหากบฏ และพยายามข่มขู่คุกคามประชาชน โดยการจับกุมต้องเป็นไปตามกฎหมาย ผู้บริจาคเงินรายนี้ไม่ขอเปิดเผยตัวตน เนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัยในชีวิต" นายณัฐวุฒิกล่าว
@ ยุการ์ดจับ"สุเทพ"ได้ 4 ล้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. กล่าวปราศรัยบทเวทีพร้อมเงินสด 5 ล้านบาทว่า หลังนายสุเทพ พร้อมแกนนำที่ถูกออกหมายจับ มีคนไทยที่เขารับไม่ได้มอบเงิน 5 ล้านบาท ระบุว่า จะมอบเป็นเงินรางวัลให้กับใครก็ได้ไม่ว่าจะเป็นคนเสื้อแดง หรือแม้แต่การ์ดของนายสุเทพ ที่ชี้เบาะแสและนำไปสู่การจับกุมแกนนำที่ถูกออกหมายจับ กรณีแกนนำทั่วไปรายละ 300,000 บาท กรณีที่เป็นนายสุเทพ จะได้ 4 ล้านบาท "เงิน 5 ล้านบาทเป็นเพียงเงินตั้งต้น หากใครสนใจจะสมทบทุนสามารถบริจาคเข้าบัญชี นปช.เพื่อเพิ่มรางวัลได้ ทั้งนี้ การชี้เบาะแสจะสิ้นสุดในเวลา 09.00 น. วันที่ 27 พฤษภาคมนี้" นายณัฐวุฒิกล่าว นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ที่นายสุเทพประกาศจะมอบตัวในวันที่ 27 พฤษภาคมนั้น ขอให้นายสุเทพและแกนนำประกาศให้ชัดเจนว่าหมายถึงการยุติการชุมนุมของ กปปส.ด้วยเพราะถ้านายสุเทพมอบตัว ก็จะมีคนอ้างตัวเป็นร่างทรงชุมนุมต่อ เมื่อนายสุเทพประกันตัวออกมาก็จะเข้ามาชุมนุมอีก
@ แดงเหนือ-อีสานทยอยเข้ากรุง น.ส.จีรนันท์ จันทวงศ์ แกนนำกลุ่มลูกคนเมืองรักชาติประชาธิปไตยเชียงราย กล่าวว่า มีกลุ่มเครือข่ายคนเสื้อแดงจาก 18 อำเภอ ของ จ.เชียงราย ติดต่อเพื่อขอเดินทางไปร่วมชุมนุมที่ถนนอักษะจำนวนมาก จึงจัดรถยนต์พร้อมเสบียงพากลุ่มผู้ชุมนุมไปสมทบวันละประมาณ 3-4 คันรถ ขณะนี้มีเดินทางไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1,000 คน นายนาวิน บุญเสรฐ อดีต ส.ส.พิจิตร พรรคเพื่อไทย (พท.) ผู้ประสานงานกลุ่ม นปช.ภาคเหนือ กล่าวว่า นปช.ทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือระดมมวลชนเพื่อไปร่วมชุมนุมครั้งใหญ่ที่ถนนอักษะ ส่วน จ.พิจิตร มีคนเสื้อแดงจาก 12 อำเภอ กว่า 1,000 คน ไปกับรถบัส รถตู้ และรถส่วนตัว นายสนิท สมงาม แกนนำ นปช.หนองบัวลำภู กล่าวว่า ที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.ให้ นปช.ทั่วประเทศระดมคนร่วมชุมนุมครั้งใหญ่ระหว่างวันที่ 17-19 พฤษภาคมนั้น มีกลุ่ม นปช.ทยอยเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถตู้และรถบัส ตั้งแต่เย็นวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมาแล้ว และวันเดียวกันนี้จะยอยเดินทางไปอีก โดยนัดหมายกับ นปช.อีสาน ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ก่อนเคลื่อนขบวนเข้ากรุงเทพฯ พร้อมกัน
@ ร.ร.วัดมกุฏฯเลื่อนเปิดเรียน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนสังกัด กทม.ที่อยู่ในพื้นที่การชุมนุม จนต้องเลื่อนการเปิดภาคเรียนจากวันที่ 16 พฤษภาคม เป็นวันที่ 19 พฤษภาคม มี 2 แห่ง คือโรงเรียนวัดมกุฏกษัตริยาราม เขตพระนคร และวัดเบญจมบพิตร เขตดุสิต จากการสอบถามไปยังโรงเรียนทั้ง 2 แห่ง แจ้งว่าโรงเรียนวัดเบญจมบรพิตร จะเปิดภาคเรียนในวันที่ 19 พฤษภาคม ส่วนโรงเรียนวัดมกุฏกษัตริยาราม เลื่อนเปิดภาคเรียนไปเป็นวันที่ 21 พฤษภาคม เนื่องจากยังเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัย นายบรรจง สุขดี รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ในวันที่ 19 พฤษภาคม กทม.จะเปิดให้บริการสวนลุมพินีตามปกติ ตั้งแต่เวลา 04.30 น. หลังจากปิดพื้นที่เพื่อฟื้นฟูซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดเสียหาย ดูแลต้นไม้ที่ให้กลับมาสมบูรณ์ และทำความสะอาดภายในสวนและถนนโดยรอบ รวมถึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอีโอดี เข้าตรวจสอบพื้นที่เพื่อความปลอดภัย ทันทีที่กลุ่ม กปปส.ออกจากพื้นที่สวนลุมพินี สภาพสวนใกล้สมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงการฟื้นฟูสนามหญ้าที่คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จะกลับมาเป็นปกติ
@ 'สุเทพ'แจงรอส.ว.ไม่ได้ เมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. พร้อมแกนนำ กปปส.ประชุมหารือกับตัวแทนกลุ่มรัฐวิสาหกิจ และอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ในการเคลื่อนไหวใหญ่ครั้งสุดท้าย เพื่อจะจบภารกิจภายในวันที่ 26 พฤษภาคม นายสุเทพ กล่าวก่อนการประชุมว่า วันที่ 19 พฤษภาคม กปปส.จะเริ่มปฏิบัติการยึดคืนอำนาจอธิปไตย ก่อนหน้านี้อาศัย ส.ว. ซึ่งเป็นช่องทางเดียวที่เหลืออยู่ในการหาทางออกให้กับประเทศ และ ส.ว.เห็นด้วยว่าต้องมีนายกฯที่มีอำนาจเต็มเพื่อมาแก้วิกฤต และปฏิรูปประเทศ และ ส.ว.ก็มีอำนาจที่จะทำได้ตามอำนาจของกฎหมาย แต่ต้องใช้เวลา ซึ่งเป็นเหตุให้รอไม่ได้ เนื่องจากเกรงว่าระบอบทักษิณจะเข้าแทรกแซง ส.ว. จึงต้องขอคำแนะนำจากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
@ รสก.ประกาศหยุดงาน 22 พ.ค. ต่อมา นายสุเทพแถลงหลังการประชุมว่า ตัวแทนสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ทางกลุ่มเห็นด้วยที่จะปฏิบัติการร่วมกับ กปปส. โดยทุกรัฐวิสาหกิจขึ้นป้ายต่อต้านรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม "นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคมเป็นต้นไป รัฐวิสาหกิจจะนัดหยุดงานเพื่อมารวมกำลังกับ กปปส. และวันที่ 26 พฤษภาคม จะเป็นการปฏิบัติการขั้นสูงสุด แต่จะไม่มีการตัดน้ำ-ตัดไฟอย่างแน่นอน ส่วนราชการก็จะหยุดงานวันที่ 22-23 พฤษภาคม รวมทั้งขึ้นป้ายสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐบาล และอยากให้มีการจัดประชุมภายในส่วนราชการเพื่อให้ข้าราชการกระทรวงนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นปลัดกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการ ปรึกษาหารือถึงแนวทางในการล้างอำนาจระบอบทักษิณ"นายสุเทพกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวนายสุเทพเชิญสื่อมวลชนออกจากตึกสันติไมตรีเพื่อประชุมลับกับอดีตราชการชั้นผู้ใหญ่
@ ขอ"เติ้ง"สั่งรมต.ชทพ.ลาออก ต่อมา นายสุเทพแถลงอีกครั้งหลังหารือกับอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ว่า สิ่งที่อยากขอจากผู้อาวุโสทั้งหลาย คือ กลุ่มข้าราชการ เพราะไม่สามารถทำได้เต็มที่ เหมือนท่านผู้อาวุโสทั้งหลาย คือ มวลชน พยายามจะหาทางเข้าให้ถึงตัวรัฐมนตรีที่ยังมีอยู่ ขอให้เขาลาออก โดยจะเดินทางไปหาเขาที่ทำงาน ไปถึงที่บ้านหรือแอบไปทำงานอยู่ที่ไหน จะใช้วิธีที่นุ่มนวลที่สุด "ขอยืนยันกับท่านผู้อาวุโสว่า เรายึดหลักสันติ ไม่มีอาวุธ ไม่ใช้ความรุนแรง จะใช้พลังของประชาชนจริงๆ จะทำให้ถึงที่สุด คิดว่าจะทำ 3 วันติดต่อกัน บางกลุ่มคงหาทางไปพูดกับผู้ใหญ่ของเขา เช่น จะไปพูดกับนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ขอให้รัฐมนตรีของท่านลาออกได้หรือไม่ ขณะเดียวกันวันที่ 19-21 พฤษภาคม จะเดินขบวนใหญ่เพื่อให้ประชาชนมาแสดงพลังครั้งสุดท้าย และให้รัฐวิสาหกิจทั้งหลาย ร่วมมือปฏิบัติการด้วย" นายสุเทพกล่าว นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. กล่าวหลังการประชุมว่า วันที่ 26 พฤษภาคม จะเป็นบทสรุปทั้งหมดว่า กปปส. จะแพ้หรือชนะ หากชนะ นายสุเทพจะประกาศชัยชนะ หากไม่เป็นเช่นนั้น วันที่ 27 นายสุเทพจะเดินทางเข้ามอบตัวทันที แต่ส่วนตัวค่อนข้างมั่นใจ กปปส.จะชนะอย่างแน่นอน ขณะที่การเดินขบวนปฏิบัติการยึดคืนอำนาจอธิปไตยวันที่ 19-21 พฤษภาคมนี้ กปปส.จะเอาใบลาออกไปให้รัฐมนตรีเซ็นลาออก
@ สรส.ชู 5 มาตรการไล่รัฐบาล นายคมสัน ทองศิริ เลขาธิการสมาพันธ์สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) แถลงผลการประชุมร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ว่า มีมาตรการ 5 ประการคือ 1.ให้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทุกแห่งออกแถลงการณ์ไม่ยอมรับอำนาจในระบอบทักษิณ และข้าราชการที่อยู่ในระบอบทักษิณ 2.ให้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทุกแห่งที่เป็นสมาชิกของ สรส. ขึ้นป้ายข้อความไม่ยอมรับอำนาจของรัฐบาล และเรียกร้องให้มีรัฐบาลใหม่ที่เป็นรัฐบาลของประชาชน 3.ให้สหภาพสมาชิกทุกแห่งแสดงสัญลักษณ์อารยะขัดขืน โดยการติดธงชาติหรือสติ๊กเกอร์ธงชาติ หรือแขวนนกหวีดเพื่อแสดงตัวตนที่แท้จริง "4.ในวันที่ 19-21 พฤษภาคมนี้ สรส.จะร่วมกับมวลมหาประชาชนในการไล่ล่ารัฐมนตรีในรัฐบาลภายใต้ระบอบทักษิณ เพื่อทวงคืนอำนาจมาให้มวลมหาประชาชน และ 5.ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคมเป็นต้นไป สหภาพสมาชิกจะนัดหยุดงานเพื่อให้รัฐบาลคืนอำนาจให้กับมวลมหาประชาชน" นายคมสันกล่าว และว่า หากรัฐบาลยังดื้อ สรส.จะยกระดับปฏิบัติการขั้นสูงสุดเท่าที่รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งจะมีเครื่องไม้เครื่องมือกระทำได้ ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ
@ อดีตขรก.ให้"บิ๊กตู่"เป็นเจ้าภาพ นายจเด็จ อินสว่าง อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะแกนนำอดีตข้าราชการระดับสูง แถลงหลังการหารือของกลุ่มอดีตข้าราชการระดับสูงว่า การหารือไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องของประเทศชาติ รัฐบาลไม่มีหัวไม่สามารถทำงานได้ การขาดหายไปของนายกฯ เนื่องจากมีพฤติการณ์ที่ทุจริตและประพฤติมิชอบ รัฐมนตรีที่เหลือก็ไม่มีอำนาจในการบริหารงาน เกิดข้อขัดแย้งทางข้อกฎหมาย นายจเด็จ กล่าวว่า จะปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้อยู่ต่อไปไม่ได้ ต้องเร่งแก้ไข ต้องมีนายกฯที่มีอำนาจโดยเร็ว ทุกกระทรวง ทบวง กรม โดยปลัดกระทรวง อธิบดี เพื่อนข้าราชการจะต้องกล้าหาญ สำแดงความเป็นข้าราชการที่รักความถูกต้องและเป็นธรรม ไม่ปฏิบัติหน้าที่ต่อการสั่งการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และรัฐบาลที่ขาดคุณธรรมและไม่ชอบด้วยกฎหมาย "ทางกลุ่มจะยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะที่เป็นรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (รอง ผอ.รมน.) ขอให้เป็นเจ้าภาพเชิญข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นปลัดกระทรวง อธิบดี ทูตานุทูตที่ประจำอยู่ทั่วโลก ประชุมหารือแสวงหาทางออกของประเทศ เพื่อประโยชน์ของประเทศ ถ้าไม่รีบแก้ไขร่วมมือกันแล้ว ประเทศชาติจะล่มสลาย พวกเราห่วงใยประเทศชาติ บ้านเมืองจะแย่ ปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องออกมาแก้ไขวิบัติหายนะ เรื่องนี้เป็นเรื่องของประเทศชาติ ไม่ใช่เรื่องการเมือง" นายจเด็จกล่าว
@ "ชัชชาติ"สั่งรสก.ทำงานเต็มที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ความรับผิดชอบหลักของรัฐวิสาหกิจและหน่วยราชการ คือการให้บริการประชาชน ซึ่งกระทรวงได้เน้นย้ำไปยังหัวหน้าหน่วยและผู้เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ อย่าเอาประชาชนเป็นตัวประกัน ยอมรับว่าอาจมีพนักงานรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งเข้าร่วม แต่คาดว่าจะไม่กระทบต่อการบริการประชาชนในภาพรวม นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวถึงกรณีสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ประกาศให้พนักงานรัฐวิสาหกิจร่วมหยุดงานในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ เพื่อขับไล่รัฐบาลว่า ที่ผ่านมาพนักงาน ร.ฟ.ท.ส่วนใหญ่ไม่เคยร่วมหยุดงานประท้วงกับกลุ่ม กปปส. มั่นใจว่าคนของ ร.ฟ.ท.จะไม่ร่วมหยุดงานกับ กปปส.อย่างแน่นอน นายนเรศ บุญเปี่ยม รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า ขสมก.มั่นใจว่าจะไม่มีพนักงานหยุดงานจนส่งผลกระทบกับการให้บริการประชาชน จากการพูดคุยกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ขสมก. ก็ไม่เห็นด้วยการนัดหยุดงาน
@ มท.1 ฮึ่มห้ามรสก.ตัดน้ำ-ไฟ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ที่ สรส. ระบุว่า จะตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดการสื่อสารของกระทรวง ทบวง กรม ที่ทำงานและบ้านของรัฐมนตรีนั้น ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย โดยสามัญสำนึกควรรู้ว่าเรื่องไฟฟ้าและประปาเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ใครก็ไม่มีสิทธิที่จะมาขู่ตัดน้ำ ตัดไฟ หากเกิดเหตุการณ์นี้จริงอยากรู้เหมือนกันว่าศาลจะว่าอย่างไร "กำชับทั้งผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) และผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) ดูแลให้เกิดความเรียบร้อย เชื่อว่าทั้งผู้ว่าฯ และพนักงานในสังกัดรู้กฎกติกาดีอยู่แล้ว หากปล่อยให้มีการตัดน้ำ ตัดไฟจริง นอกจากผิดกฎหมายแล้วยังเป็นการตัดทางทำมาหากินของตัวเองด้วย" นายจารุพงศ์กล่าว
@ ขู่ฟันวินัย-อาญาขรก.ร่วมม็อบ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจารุพงศ์ มีหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 18 พฤษภาคม สั่งการถึงนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, รองปลัดกระทรวงมหาดไทย, อธิบดีกรม, ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บริหารรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงมหาดไทย ห้ามมิให้เดินทางไปรายงานตัวกับผู้ชุมนุมทางการเมือง โดยหนังสือระบุว่า "ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขอแจ้งให้ทราบว่าการกระทำของนายสุเทพ ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เป็นการใช้สิทธิเพื่อล้มล้างการปกครองโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ซึ่งนายสุเทพยังบังอาจตั้งตัวเป็นรัฏฐาธิปัตย์ และข่มขู่ข้าราชการให้ไปรายงานตัว กระทรวงมหาดไทยขอแจ้งให้ทราบว่า รัฐบาลจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 หากข้าราชการผู้ใดปฏิบัติตามคำสั่งของนายสุเทพ จะถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งผู้อื่น ซึ่งมิใช่ผู้บังคับบัญชาโดยชอบด้วยกฎหมาย อันอาจนำไปสู่การพิจารณาโทษทางวินัย และหากก่อให้เกิดความเสียหายอาจมีการพิจารณาดำเนินคดีอาญาและทางแพ่งต่อไป"
@ 'ตู่'ซัดรสก.หยุดงานเป็นกบฏ ต่อมาเมื่อเวลา 18.00 น. วันเดียวกัน ที่ถนนอักษะ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ที่สหภาพรัฐวิสาหกิจหยุดงานตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคมนั้น รัฐวิสาหกิจว่ารัฐวิสหกิจเป็นสมบัติของประชาชน ต้องรับใช้ประชาชนไม่ใช่นายสุเทพ หากรัฐวิสาหกิจหยุดงานแล้วประชาชนเดือดร้อนเท่ากับเป็นกบฏเช่นเดียวกับนายสุเทพ "เป้าหมายสูงสุดคือการสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน คือการตัดน้ำ ตัดไฟ และ ตัดสัญญาณโทรศัพท์ ดังนั้นขอเรียกร้องให้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เห็นด้วยกับสหภาพรัฐวิสาหกิจและนายสุเทพ ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปและปฏิบัติงานแทนสหภาพที่หยุดงาน" ประธาน นปช.กล่าว และว่า วันที่ 19 พฤษภาคม นปช. จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้วีรชนโดยนิมนต์พระสงฆ์ 2557 รูป บิณฑบาตตลอดแนวถนนอักษะ ต่อมาเวลา 19.00 น. รศ.ดร.สุดา รังกุพันธุ์ แกนนำกลุ่มปฏิญญาหน้าศาล นำญาติวีรชนเดือนเมษายน-พฤษภาคมกว่า 30 คน ขึ้นบนเวที จากนั้นพิธีกรเวทีมีเรียกชื่อวีรชน อาทิ นายวสันต์ ภู่ทอง นายบุญทิ้ง ปานศิลา นายสยาม วัฒนนุกูล กระทั่งชื่อสุดท้ายที่คือ ไม้หนึ่ง ก.กุนที และแกนนำกลุ่มปฏิญญาฯ โดย รศ.ดร.สุดาอ่านบทกวีที่ไม้หนึ่งฯ เป็นผู้ประพันธ์ เพื่อรำลึกครบรอบ 4 ปี เหตุการณ์ล้อมปราบ ปี 2553 จากนั้นคนเสื้อแดงต่างลุกขึ้นยืนแสดงความอาลัย และร่วมร้องเพลงนักสู้ธุลีดิน ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า
@ สุเทพนำเดินไล่รมต.19-21พ.ค. เวลา 20.30 น. ที่เวทีปราศรัย หน้าสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กล่าวปราศรัยว่า ขอให้พี่น้องเดินกันอีกในวันที่ 19 พฤษภาคม เราจะเดินขบวนครั้งใหญ่ ออกจากสะพานผ่านฟ้า ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผ่านสี่แยกคอกวัว ไปสะพานพุทธ แล้วกลับมายังสะพานผ่านฟ้า เดินเพื่อไล่รัฐมนตรี ตั้งแต่ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ไปจนถึงรัฐมนตรีทั้ง 24 คนให้ลาออกทั้งหมด เราจะเดินขบวนไล่ตลอดทั้ง 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 19-21 พฤษภาคม นายสุเทพ กล่าวว่า ส่วนพี่น้องรัฐวิสาหกิจจะขึ้นป้ายปฏิเสธที่จะรับคำสั่งของรัฐมนตรีทั้งหลาย ขอให้พี่น้องข้าราชการทั้งหลายทำอย่างเดียวกับพนักงานรัฐวิสาหกิจ ตั้งแต่วันที่ 19-21 พฤษภาคม ส่วนพี่น้องที่อยู่บ้านให้ชักธงชาติขึ้นหน้าบ้านเพื่อแสดงตัวว่าอยู่ข้าง กปปส. ส่วนคนที่ใช้รถยนต์ก็ติดธงชาติไว้ที่รถด้วย คนขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์โปรดติดธงชาติ และให้พี่น้องขึ้นเฉพาะรถที่ติดธงชาติ "พี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัดชักธงชาติที่บ้าน ที่ทำการ ห้างร้านต่างๆ ชักธงชาติให้พร้อมเพียงกัน พอวัน 22 พฤษภาคม ขอให้ผู้มีบารมีช่วยเป็นเจ้าภาพเชิญข้าราชการ ปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าฯ นัดประชุมกันว่ามวลชนรวมตัวกันทวงคืนอำนาจอธิปไตยให้แล้ว บรรดาข้าราชการจะดำเนินการอย่างไร" นายสุเทพกล่าว และว่า พี่น้องข้าราชการเรียกร้องว่าขอจัดเวทีมวลมหาประชาข้าราชการได้หรือไม่ เราไม่ติดขัด เราจะไปตั้งเวทีให้ที่ถนนอู่ทองใน หน้ารัฐสภา ให้พี่น้องข้าราชการแสดงพลังกันได้ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคมเป็นต้นไป
@ ส่งกำลังดูแลโรงไฟฟ้า-สื่อสาร นายสุเทพ กล่าวว่า การปฏิบัติการในวันที่ 23-26 พฤษภาคม จะชุมนุมแสดงพลังครั้งใหญ่ที่สุดติดต่อกัน 3 วัน แต่จะนัดเวลาพร้อมกัน จะชุมนุมบนถนนสองสายหลัก คือ 1.ถนนราชดำเนิน จากลานพระบรมรูปทรงม้าถึงสนามหลวง 2.ถนนสุขุมวิทตั้งแต่ซอยอ่อนนุชจนถึงปทุมวัน เวลาที่นัดหมายคือ 17.00 น. ของทุกวัน เวลา 18.00 น. จะร่วมร้องเพลงชาติพร้อมเปล่านกหวีดพร้อมกันทั้งถนนสองสาย จะชุมนุมถึง เวลา 21.00 น. แล้วกลับบ้าน เราจะแสดงพลังเพื่อทวงคืนอำนาจอธิปไตยมาให้ปวงชนชาวไทย "จะให้มวลมหาประชาชนดูแลพื้นที่จุดยุทธศาสตร์ทั้งหลายไม่ให้ฝ่ายตรงข้าม ฝ่ายคนร้าย ไปทำลายสถานที่ต่างๆ ที่จะมีผลกระทบต่อประชาชน เราจะไปรักษาโรงผลิตกระแสไฟฟ้า และสถานที่สำคัญ เช่น สถานีจ่ายไฟฟ้าทั้งหลาย องค์การโทรศัพท์ การสื่อสารต่างๆ ภารกิจครั้งนี้ครั้งสุดท้ายม้วนเดียวจบ ไม่มีอีกแล้ว เราทำทุกอย่างอย่างเปิดเผย" นายสุเทพกล่าว
@ นัด 27พ.ค.ฉลองชัยที่สนามหลวง "วันที่ 27 พฤษภาคม เป็นปฏิบัติการครั้งสุดท้าย จะสร้างเวทีใหญ่ท้องสนามหลวง เวลา 19.00 น. เราจะประกาศเป็นทางการว่าบัดนี้อำนาจอธิปไตยได้กลับมาเป็นของปวงชนชาวไทยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อว่าวันที่ 5 พฤษภาคม เราร่วมกันตั้งสัตยาธิษฐานต่อหน้าพระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว ศาลหลักเมือง ว่ามวลมหาประชาชนจะทำภารกิจนี้เพื่อให้สำเร็จ เราจึงเลือกวันที่ 27 พฤษภาคม และสถานที่ที่เราประกาศตั้งสัตยาธิษฐานเอาไว้ เราจะฉลองชัยชนะพร้อมกันทั้งประเทศ" นายสุเทพกล่าว ส่วนที่เวที กปปปส.แจ้งวัฒนะ พระพุทธะอิสระ แกนนำ กปปส.แจ้งวัฒนะ กล่าวบนเวทีว่า ในวันที่ 19 พฤษภาคม จะเดินทางไปศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านคำสั่งหรือทุเลาคำสั่งการออกหมายจับ 30 แกนนำ กปปส. รวมถึงเอาผิดกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ศอ.รส. ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ละเมิดอำนาจศาล เนื่องจากเห็นว่าการกระทำของดีเอสไอ และ ศอ.รส. ไม่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ขอออกหมายจับโดยไม่ชอบ หลังอัยการระบุยังไม่ได้ทำสำนวนคดี แต่ดีเอสไอกลับนำตัวแกนนำที่จับได้ไปฟ้องศาล |
