WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8575 ข่าวสดรายวัน


'บิ๊กตู่'งัดกฎอัยการศึก แก้วิกฤตม็อบ 
ส่งกำลังทหารตรึงทั่วประเทศ เร่งจัดเจรจา-หย่าศึกคู่ขัดแย้ง ยืนยันไม่เกี่ยวตั้งรัฐบาล'ม.7' จอดำกันทั่วหน้าทีวีดาวเทียม ช่องเสื้อแดง-เหลือง-นกหวีด


มาครบ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะผอ.รส. พร้อมผบ.เหล่าทัพ ชี้แจงการประกาศกฎอัยการศึก หลังเรียกปลัดและหน.หน่วยราชการ มาประชุมที่สโมสร ทบ. เมื่อวันที่ 20 พ.ค.

    'ประยุทธ์'ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศ นั่งเป็นผอ.รส.เอง มีผลตั้งแต่ตี 3 วันอังคาร ส่งกำลังทหารตรึงเข้ม อ้างเพื่อหยุดยั้งวิกฤตม็อบส่อนองเลือด เรียกข้าราชการระดับสูง-ผู้ว่าฯ ทั้ง 77 จังหวัดรายงานตัว อ้างที่ผ่านมามีเหตุการณ์รุนแรงเสียเลือดเสียเนื้อรวม 22 ศพ บี้'ธาริต'เลิกหมายจับคดีกบฏ อ้างเดินหน้าต่อจะไม่จบ พร้อมสั่งกองทัพ 1-4 ตั้งกองกำลังกอ.รส.ระดับกองทัพภาค สั่งปิดแล้วสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมทั้งเอเชีย อัพเดท-บลูสกาย-เอเอสทีวี-ทีนิวส์ จอดำ รวมถึงสถานีวิทยุชุมชนอีกนับพันกว่าสถานีรวด เตรียมเรียกเจรจาคู่ขัดแย้งทางการเมืองทั้งนปช.-กปปส.

'บิ๊กตู่'ประกาศใช้กฎอัยการศึก
      เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 20 พ.ค. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. อ่านประกาศกองทัพบก ฉบับที่ 1/2557 เรื่องการประกาศใช้พ.ร.บ.กฎอัยการศึก ผ่านสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 อ้างเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและป้องกันเหตุรุนแรงที่จะเกิดขึ้น โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 2 และมาตรา 4 แห่งพ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ.2457 ประกาศใช้ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.2557 เวลา 03.00 น. เป็นต้นไป กองทัพบกมุ่งหวังจะนำพาความสงบเรียบร้อยกลับมาสู่บ้านเมืองโดยเร็วที่สุด ขอให้ทุกพวกทุกฝ่ายหยุดการเคลื่อนไหวเพื่อเข้าสู่กระบวน การแก้ไขปัญหาของชาติอย่างยั่งยืนโดยเร็ว อำนาจตามความในมาตราต่างๆ ของพ.ร.บ. กฎอัยการศึกพ.ศ.2457 นั้นจะแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน ขอให้ประชาชนทั่วไปอย่าตื่นตระหนก ยังคงทำหน้าที่ปฏิบัติงานได้ตามปกติทุกประการ กองทัพบกมุ่งหวังที่จะให้สถานการณ์คลี่คลายลงได้โดยเร็ว
       จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ลงนามในประกาศกองทัพบก ฉบับที่ 2/2557 จัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) มีผบ.ทบ.เป็นผอ.รส. และสั่งยุบศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) และให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณา จักร (กอ.รมน.) ทั้งตำรวจและทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ รวมถึงกระทรวงมหาดไทย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ขึ้นตรงกับผบ.ทบ.ในฐานะผอ.รส.

ปิดทีวีเอเอสทีวี-บลูสกาย-แดง
      ต่อมา กอ.รส.ได้ออกคำสั่งชุดแรก 6 ฉบับ อาทิ ให้ผู้ชุมนุมอยู่ในที่ตั้ง ห้ามเคลื่อนย้าย โดยกปปส.ให้ชุมนุมที่ถ.ราชดำเนินและศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ส่วนกลุ่มนปช.ให้ชุมนุมที่ถ.อุทยาน หรือถ.อักษะ, ห้ามสถานีโทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ ดาวเทียม เคเบิล วิทยุชุมชนเสนอข่าวบิดเบือนหรือปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวาย, เชิญหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ 2550 และ ผู้แทนสภาวิชาชีพสาขาต่างๆ ผู้แทนภาคประชาสังคม เข้าประชุมตามสถานที่ที่กำหนดในแต่ละภาค และแต่งตั้งผบ.สส. ผบ.ทร. ผบ.ทอ.และผบ.ตร.เป็นที่ปรึกษากอ.รส. 
      นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือระงับการถ่ายทอดออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมและสถานีวิทยุชุมชน ได้แก่ สถานีโทรทัศน์เอ็มวี 5 สถานีโทรทัศน์ดีเอ็นเอ็น สถานีโทรทัศน์ยูดีดี สถานีโทรทัศน์เอเชียอัพเดท สถานีโทรทัศน์พีแอนด์พี สถานีโทรทัศน์โฟร์แชนแนล สถานีโทรทัศน์บลูสกาย สถานีโทรทัศน์เอฟเอ็มทีวี สถานีโทรทัศน์ ทีนิวส์ สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และสถานีวิทยุชุมชนที่ไม่ได้รับการอนุญาตให้จัดตั้งขึ้นตามที่กฎหมายกำหนด 
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์ จะประกาศกฎอัยการศึกผ่านสถานีโทรทัศน์ทุกช่องในเวลา 06.30 น. มีความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ในเวลา 23.00 น. วันที่ 19 พ.ค. กองทัพบกมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่ตามจุดตรวจ และจุดเฝ้าระวังตามสถานที่ราชการได้ถอนกำลังออกทั้งหมด โดยรื้อบังเกอร์ทุกจุดกลับที่ตั้งหน่วยทหาร เหลือเพียงบางจุดที่อยู่ใกล้กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ตรงข้ามวัดมกุฏกษัตริยาราม และวัดโสมนัสราชวรวิหาร 

ส่งกำลังบุกฟรีทีวี-สั่งเกี่ยวสัญญาณ
        กระทั่งเวลา 01.30 น วันที่ 20 พ.ค. พ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ร.11 รอ. มีคำสั่งด่วนเรียกรวมพลภายใน ร.11 รอ. โดยผู้บังคับกองพันได้แจ้งไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาพร้อมแจ้งรหัส'ออกมาแสดงพลัง'ให้เตรียมพร้อมออกปฏิบัติหน้าที่ในทันที 
       เวลา 02.30 น. มีกำลังทหารหลายชุด ชุดละ 30 นาย พร้อมอาวุธประจำกาย เข้าไปยังสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ โดยพล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.พล 1 รอ. ได้คุมกำลังไปยังสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ขอตัดสัญญาณเชื่อมกับททบ.5 เพื่อถ่ายทอดการประกาศกฎอัยการศึกในเวลา 06.30 น. และเวลา 03.00 น. มีการนำคำสั่งกองทัพบกเรื่องประกาศกฎอัยการศึกลงทางโซเชี่ยลมีเดีย โดยมีความพยายามตรวจสอบข่าวดังกล่าวว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม มีรายงานด้วยว่าเมื่อเวลา 05.00 น. มีกำลังทหารเข้าปิดทางด่วนขาเข้าทุกเส้นทางที่จะมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหา นครและเปิดเส้นทางจราจรในเวลา 08.30 น. ให้รถสัญจรไปมาตามปกติ 
       เวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้เรียกหัวหน้าส่วนราชการเข้ารับทราบประกาศและคำสั่งให้หน่วยงานต่างๆ เป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีฯ โดยมีข้าราชการทยอยเดินทางมากันอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งแจ้งให้เจ้าหน้าที่ของกองทัพบกได้จัดศูนย์แถลงข่าวให้สื่อมวลชนมารอการแถลงข่าว พร้อมจัดห้องให้หัวหน้าส่วนราชการเข้ารายงานตัว ที่สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต ทั้งนี้ ในเวลา 14.00 น. กอ.รส.จะเชิญปลัดกระทรวงต่างๆ และอธิบดี หัวหน้าส่วนราชการเข้าพบรายงานตัวและร่วมกันแก้ไขสถานการณ์ตามประกาศฉบับที่ 2 เรื่องการจัดตั้งกอ.รสและให้มีอำนาจเชิญบุคคลมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่

เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการ
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจประกาศกฎอัยการศึกนั้น พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. เดินทางไปอำลาตำแหน่งที่ประเทศปากีสถาน ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค. ขณะที่พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระ ทรวงกลาโหม เดินทางไปประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ที่ประเทศพม่า ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค. มีกำหนดกลับในวันที่ 20 พ.ค. เวลา 23.00 น. 

ปลัด-อธิบดี-เทียบเท่ามาพร้อมหน้า
      เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีฯ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรอิสระ หน่วยงานความมั่นคง อาทิ นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. นายสุวพันธ์ ตันยุวัฒนะ ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ รวมทั้งข้าราชการที่มีบทบาทสำคัญในรัฐบาลรักษาการชุดนี้มาร่วมประชุมด้วย เช่น นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนัก นายกฯ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และพล.ต.ต. อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขา ธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ ผู้อำนวยการ อสมท นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย 
      นอกจากนี้ ยังมีภาคเอกชนที่เข้าร่วม อาทิ ประธานสภาหอการค้า ประธานสภาอุตสาห กรรม รวมถึงตัวแทนผู้ว่าฯ กทม. ผวจ.นนทบุรี สมุทรปราการ พระนครศรีอยุธยา กว่า 350 คน มารับฟังการชี้แจงและกรอบการปฏิบัติงาน 
      ส่วนในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้นั้น ให้หัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ให้ไปรายงานตัวกับแม่ทัพภาค พร้อมทั้งรับฟังการประชุมผ่านวิดีโอระบบคอนเฟอเรนซ์

พรรคคนธรรมดาแจกใบปลิวค้าน
      กระทั่งเวลา 14.05 น. พล.อ.ประยุทธ์พร้อมด้วยที่ปรึกษากอ.รส. ได้แก่ พล.ร.อ. ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. และพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เดินทางมาถึงสโมสรทหารบกด้วยสีหน้าเรียบเฉยและเคร่งขรึม ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยขึ้นไปยังห้องประชุมเพื่อชี้แจงกับผู้เข้าร่วมประชุมรับทราบนโยบายและแนวทางปฏิบัติหลังประกาศใช้กฎอัยการศึก ทั้งนี้ มีสื่อ มวลชนทั้งไทยและต่างประเทศจำนวนมากให้ความสนใจและติดตามความเคลื่อนไหว 


เฝ้าจุด - ทหารพร้อมรถติดปืนกลประจำการหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสถานที่สำคัญทั่วกรุงเทพฯ รวมทั้งเข้าควบคุมสถานีโทรทัศน์หลักๆ ส่วนทีวีดาวเทียมที่สนับสนุนม็อบทั้งสองฝ่ายโดนสั่งปิดทั้งหมด

       สำหรับการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่สโมสรทหารบก วิภาวดี ซึ่งชั้น 1 เป็นสถานที่รายงานตัว ชั้น 2 เป็นห้องประชุม โดยใช้กำลังพลจากกำลังทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ และสารวัตรทหาร จำนวน 2 กองร้อย
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างนั้นมีตัวแทนจากพรรคคนธรรมดาแห่งประเทศไทยนำแถลงการณ์เรียกร้องให้ยกเลิกการใช้กฎอัยการศึกและแสดงจุดยืนต่อต้านการรัฐ ประหารทุกรูปแบบมาแจกจ่ายให้กับสื่อมวลชน โดยระบุไม่เห็นด้วยกับการประกาศใช้กฎอัยการศึก จึงเรียกร้องให้รัฐบาลทูลเกล้าฯ ร่างพระบรมราชโองการยกเลิกกฎอัยการศึก โดยมีนาย นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

เผยธาริตถูกเพ่งเล็ง-สั่งให้หยุด
     รายงานข่าวในที่ประชุมชี้แจงระหว่างผบ. ทบ.กับหัวหน้าส่วนราชการแจ้งว่า ในที่ประชุมช่วงต้น พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงถึงวัตถุ ประสงค์การประกาศกฎอัยการศึกครั้งนี้ โดยขอให้ข้าราชการทำหน้าที่ที่มีอยู่และดำเนินการตามกฎหมายเพื่อไม่ให้บ้านเมืองเกิดความรุนแรง ทุกคนต้องช่วยกัน ไม่ใช่ปล่อยให้คนไทยตีกันเองหรือไม่ใช่ปล่อยให้ฆ่ากัน หรือเสียเลือดเสียเนื้อกันแล้วค่อยออกมาแก้ไข
       แหล่งข่าวกล่าวว่า ในที่ประชุมผู้ที่ถูกเพ่งเล็งเป็นกรณีพิเศษได้แก่ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการครม. ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์บอกชัดเจนว่าให้ไปคุยกับฝ่ายการเมืองให้เรียบร้อยตามหน้าที่ และถามหานายธาริตซึ่งพูดถึงมากที่สุด 
      "พล.อ.ประยุทธ์ ได้เรียกชื่อโดยบอกว่ามันไม่ได้แล้ว หยุดได้แล้ว ทำงานได้แล้ว มันเละไปหมดแล้วต้องหยุด และถ้าจะฟ้องใครก็ให้มาฟ้องผม และยังบอกที่ประชุมว่าจะปล่อยบ้านเมืองและประชาชนเกิดความรุนแรงแบบนี้ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าจะปล่อยให้ตีกัน ฆ่ากันตายจนเสียเลือดเสียเนื้อแล้วค่อยออกมา มันไม่ได้" แหล่งข่าวกล่าว

เลือกตั้งเสียเลือดเสียเนื้ออย่าทำ
       นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่าบรรยากาศประชุมเป็นไปด้วยดี ในช่วงหนึ่งพล.อ.ประยุทธ์บอกกับนายอำพนว่าให้ช่วยไปคุยกับฝ่ายการเมืองให้เรียบร้อย และยังพูดกับนายธาริตด้วยว่าให้หยุดได้แล้ว ที่ผ่านมามันเละไปหมดแล้ว จะดำเนินการอะไรขอให้พิจารณาให้เกิดความรอบคอบ ในส่วนกกต. พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแต่บอกว่าหากจัดการเลือกตั้งแล้วเลือกไม่ได้ก็ไม่ต้องเลือก ถ้าเลือกตั้งแล้วเสียเลือดเสียเนื้อก็ไม่ต้องทำ ถ้าใช้กฎหมายไม่ได้ก็ไม่ต้องใช้ 100 เปอร์เซ็นต์ ให้ไปช่วยกันหาทางออกดีกว่า 
       นายภุชงค์ กล่าวว่า จะนำผลการหารือไปรายงานให้ที่ประชุมกกต.ในวันที่ 21 พ.ค. ส่วนการประกาศกฎอัยการศึกถือเป็นกฎหมายสำคัญที่จะช่วยสร้างความสงบเรียบร้อย



เมื่อถามว่ากกต.จะสามารถจัดการเลือกตั้งในระหว่างประกาศกฎอัยการศึกได้หรือไม่ นายภุชงค์กล่าวว่า เดิมการจัดการเลือกตั้งต้องอาศัยกฎหมายหลายฉบับ แต่ระหว่างนี้หากมีการดำเนินการใดๆ ต้องนำกฎอัยการศึกมาพิจารณาด้วย โดยผบ.ทบ.ย้ำว่าถ้าการเลือกตั้งจัดไม่ได้ก็ไม่ต้องเลือก ถ้ามีการเลือกตั้งแล้วเสียเลือดเนื้อก็ไม่ต้องจัด
       ด้านนายอำพน ปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ เมื่อถามว่าได้รับมอบหมายให้ไปคุยกับฝ่ายการเมืองจะดำเนินการเลยหรือไม่ นายอำพนได้แต่ยิ้มแล้วเดินเลี่ยงกลับออกไป

หมอณรงค์ ปลัดสธ.สีหน้ายิ้มแย้ม
      นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า ผบ.ทบ.ชี้แจงถึงสาเหตุที่ประกาศใช้กฎอัยการศึกเพื่ออำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน ซึ่งไม่ได้ส่งผลต่อการเดินทางของประชาชน และถือว่าดีเพราะวันที่ 22 พ.ค.นี้มีการประกาศเคลื่อนไหวของกปปส. เมื่อมีการประกาศใช้กฎอัยการศึกประชาชนจะได้เดินทางได้สะดวก ส่วนการให้บริการก็จะไม่มีการหยุดชะงัก
      "ผบ.ทบ.ชี้แจงว่าที่ประกาศกฎอัยการศึกไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง แต่จำเป็น เนื่องจากมีเหตุรุนแรงและสถานการณ์ต่างๆ จึงต้องรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน และย้ำการทำหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ให้เป็นไปตามปกติ เช่น การอำนวยความสะดวกโดยส่งกลับผู้ที่มาร่วมชุมนุมด้วยรถไฟ" นายประภัสร์กล่าว
       พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.ในฐานะเลขาธิการป.ป.ส. กล่าวสั้นๆ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ผบ.ทบ.ชี้แจงถึงการประกาศกฎอัยการศึก ส่วนรายละเอียดขอให้ไปฟังผบ.ทบ.แถลงจะดีกว่า 
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังประชุมเสร็จสิ้น ข้าราชการและภาคส่วนต่างๆ ทยอยเดินทางกลับ น่าสังเกตว่าหัวหน้าส่วนราชการบางคน อาทิ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาฯ ศอ.บต.มีสีหน้าเคร่งขรึมและเลี่ยงที่จะตอบคำถาม โดยระบุว่ามีประชุมและเดินขึ้นรถทันที เช่นเดียวกับนพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แม้จะมีสีหน้ายิ้มแย้มแต่ไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

'ภราดร'ย้ำกอ.รส.ต้องอยู่ใต้รัฐบาล
       ด้านพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษานายกฯ กล่าวว่า การประกาศกฎอัยการศึกเป็นไปตามอำนาจทางกฎหมาย ทหารสามารถประกาศใช้ได้เองและได้รายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบแล้ว ซึ่งกองทัพคงพิจารณาแล้วว่าสถานการณ์มีความจำเป็นจึงประกาศใช้กฎอัยการศึก จึงไม่มีอะไรน่าห่วง ส่วนการดูแลความมั่นคงทั้งหมด ทหารจะเป็นเจ้าภาพหลักแต่ยังอยู่ภายใต้รัฐบาล ส่วนฝ่ายตำรวจ ฝ่ายพลเรือน กระทรวงมหาดไทยต้องขึ้นอยู่กับยุทธการทางทหาร และหน่วยราชการอื่นปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ 
      พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ประกาศใช้กฎอัยการศึกไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรัฐบาล โดยรัฐบาลยังต้องปฏิบัติภารกิจต่อไป และการที่ทหารออกมาก็เพื่อช่วยให้เกิดความเข้มแข็งมากขึ้น จัดระเบียบความเรียบร้อย แต่การประกาศใช้กฎอัยการศึกจะทำให้ประเทศสงบหรือไม่ต้องดูตั้งแต่ตอนนี้ว่าฝ่ายทหารดำเนินการอย่างไร หากดำเนินการเรียบร้อยก็ส่งเสริมฝ่ายการเมือง ยืนยันไม่ใช่การปฏิวัติ เป็นการใช้กฎหมายตามกฎอัยการศึกของการแก้ไขปัญหาความสงบเรียบร้อย ส่วนศอ.รสได้ยุติปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 03.00 น. โดยกองกำลังทั้งหมดให้กลับที่ตั้งของตนเอง เหลือเพียงเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตาม คำสั่งของกอ.รส 

ประสานงานแกนนำคู่ขัดแย้งหารือ
       รายงานข่าวจากกองทัพบก แจ้งว่า หลังมีคำสั่งกองทัพบก ฉบับที่ 2/2557 จัดตั้งกอ.รส. และให้ศอ.รส. ยุติการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้กำลังของหน่วยต่างๆ ตามโครงสร้างการจัดของ ศอ.รส.เคลื่อนย้ายกลับที่ตั้งเพื่อไปปฏิบัติภารกิจของแต่ละหน่วยนั้น ทำให้กองกำลังทหารที่จัดตั้งขึ้นเพื่อปฏิบัติภารกิจตามที่ศอ. รส.ร้องขอต้องยุติลงไปด้วย พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผอ.รส. จึงมีคำสั่งจัดตั้งกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาค 1, 2, 3 และ 4 มีแม่ทัพภาคทั้ง 4 เป็นผู้บัญชาการกองกำลัง เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยในทุกภาคของประเทศ สามารถขอกำลังจากข้าราชการในส่วนของความมั่นคงมาสนับสนุนด้วย โดยกำหนดพื้นที่รักษาความปลอดภัย ทั้งสถานที่สำคัญ เขตพระราชฐาน สื่อขั้วความขัดแย้ง เส้นทางคมนาคม ที่สุ่มเสี่ยงจะเกิดเหตุร้าย เป็นต้น
       รายงานแจ้งว่า กอ.รส.ยังจัดโครงสร้างการบริหารงานเพื่อให้การบริหารงานคล่องตัว มีพล.อ.ประยุทธ์ เป็น ผอ.รส. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. เป็น รองผอ.รส. พล.อ. ไพบูลย์ คุ้มฉายา และพล.อ.ฉัตรชัย สาลิกัลยะ ผช.ผบ.ทบ. เป็นผช.ผอ.รส และพล.อ.อักษรา เกิดผล เสนาธิการทหารบก เป็นเลขาธิการรส. กรมฝ่ายเสนาธิการร่วมเป็นคณะทำงาน รวมทั้งมี ผบ.สส. ผบ.ทร. ผบ.ทอ.และ ผบ.ตร. เป็นที่ปรึกษา โดยกอ.รส.จะประชุมช่วงเช้าเวลา 09.00 น. ที่บก.กอ.รส. ภายใน ร.1 รอ.และจะแถลงข่าวทุกวันหลังประชุมเสร็จ ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต


รายงาน - พล.อ.ประยุทธ์ ส่งหนังสือรายงานเรื่องประกาศใช้กฎอัยการศึกถึงนาย นิวัฒน์ธํารง บุญทรงไพศาล รักษาการนายกรัฐมนตรี ระบุสาเหตุจากสถานการณ์การชุมนุมมีแนวโน้มรุนแรง และบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ เมื่อ 20 พ.ค.

        รายงานข่าวแจ้งว่า วันที่ 21 พ.ค. จะมอบให้คณะทำงานไปประสานแกนนำคู่ขัดแย้ง และองค์กรที่มีบทบาทแก้ไขปัญหา เช่น แกนนำ กปปส. แกนนำ นปช. รวมถึงรักษาการประธานวุฒิสภา มาหารือกับกอ.รส. เพื่อร่วมกันหาทางออกอย่างเร็วที่สุด

อดุลย์ ขึ้นฮ.จากปากช่องรายงานตัว
     เมื่อเวลา 06.00 น. วันเดียวกัน ที่โรงแรม กรีนเนอรี่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังมีการประกาศกฎอัยการศึก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ซึ่งอยู่ระหว่างนำคณะนายตำรวจระดับผู้บังคับการขึ้นไปทั่วประเทศสัมมนาประจำปี เรียกประชุมผู้บังคับบัญชาระดับสูงของตร.เป็นการเร่งด่วน เพื่อรับทราบและรับมือกับสถานการณ์ ต่อมาเวลา 07.00 น. ให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้เป็นการใช้กฎหมายสูงสุด โดยพล.อ.ประยุทธ์จะนั่งเป็นผอ.กอ.รส.และยุติศอ.รส." การประกาศ กฎอัยการศึกตอนนี้ก็เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย สถานการณ์ก็น่าคลี่คลายขึ้น" ผบ.ตร.กล่าว และว่าในเวลา 08.00 น. ตนจะเปิดการสัมมนาและชี้แจงสถานการณ์ให้นายพลทั่วประเทศได้ทราบ จากนั้นเดินทางกลับกทม.ด่วนโดยเฮลิคอปเตอร์ ตามที่ผบ.ทบ.เชิญผู้นำเหล่าทัพพูดคุยในเวลา 12.00 น. ที่พล.1รอ. พล.ต.อ. อดุลย์กล่าวว่า "สถานการณ์ตอนนี้ก็ยังเป็นรัฐบาลเดิม เพียงแต่มีการใช้กฎอัยการศึกเท่านั้น"

ทหารตั้งด่านรอบกรุง-หนึบแต่เช้า
      ด้านพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร.กล่าวว่าจากที่กองทัพบกออกประกาศใช้กฎอัยการศึกเพื่อควบคุมสถานการณ์ทางการเมืองเมื่อช่วงเวลา 03.00 น. ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารตั้งด่านความมั่นคงบริเวณเส้นทางโดยรอบกรุง ที่ประชาชนใช้เดินทางเข้ามายังพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน ส่งผลให้การจราจรเมื่อช่วงเช้า บริเวณทางด่วนบางนาขาเข้าปิดการจราจรไม่ให้รถผ่านหน้าด่าน ทำให้มีท้ายสะสมเข้าไปในอ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ถนนบรมราชชนนีมีท้ายสะสมเข้าไปถึงถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ถนนพระราม 2 มีสภาพรถติดขัดการจราจรหนาแน่น ส่วนด้านถนนกาญจนาภิเษกขาเข้ามุ่งหน้าทางด่วนพระ ประแดง-บางนา มุ่งหน้าถนนพระราม 2 มีการตั้งด่านความมั่นคงของทหารซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำลวดหนามมาวางบนพื้นผิวการจราจรส่งผลให้เหลือช่องเดินรถเพียง 1 ช่องทางเท่านั้น
      พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวอีกว่า ตำรวจได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่หาร เพื่อขอให้เปิดเส้นทางในทุกจุดที่มีการตั้งด่านแล้ว พร้อมทั้งได้มอบหมายให้ตำรวจจราจรเข้าไปประจำจุดที่มีปัญหาการจราจร แต่สภาพการจราจรทั่วไปยังคงติดขัดเนื่องจากสะสมเป็นบริเวณกว้าง

ประยุทธ์ แถลงอ้างรักษาความสงบ
       เวลา 15.20 น. ที่สโมสรกองทัพบก วิภาวดี พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมด้วยผบ.ทอ. ผบ.ทร. และผบ.ตร. ในฐานะที่ปรึกษา กอ.รส. ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุมส่วนราชการ โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สังคมอย่าตื่นตระหนกกับการประกาศใช้กฎอัยการศึกในทุกพื้นที่ เป็นเพียงการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวดขึ้น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและแสวงหาทางออกอย่างสันติวิธีให้ได้ ลดความขัดแย้งของทุกฝ่าย โดยไม่มีการกดดันจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทั้งสิ้น วันนี้อาจมีคนเดือดร้อนอยู่บ้าง ตนอยากขอเวลาสักระยะหนึ่งให้สถานการณ์สงบเรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งอีกต่อไป 
      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เชิญปลัดกระทรวง อธิบดี รวมถึงภาคเศรษฐกิจ สังคม เอกชนและสหภาพต่างๆ ซึ่งทุกคนมีข้อสรุปว่าบ้านเมืองต้องเดินหน้าไปให้ได้โดยสันติวิธี ข้าราชการทุกกระทรวงเห็นชอบร่วมกันและเข้าใจถึงความจำเป็นของทหาร วันนี้ 3 เหล่าทัพกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหนึ่งเดียวในการรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประเทศและมิตรประเทศในเรื่องการลงทุน การท่องเที่ยว ว่าพวกเราจะไม่ส่งผลกระทบกับกิจการใดๆ ทั้งสิ้น

อ้างมีจลาจล-ตาย 28 ศพเจ็บ 700
      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่เราจะดำเนินการเร่งด่วน คือการบังคับใช้กฎหมายสำหรับ ผู้ที่ใช้อาวุธสงครามหรือผู้ที่ตั้งกองกำลัง ทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บและสูญเสีย ซึ่งหลายคนสงสัยในคำพูดของตนที่พูดว่าเมื่อมีการจลาจล แต่จริงๆ แล้ว ที่ผ่านมาได้เกิดการจลาจล เนื่องจากมีการบาดเจ็บและสูญเสียจำนวนมาก มีประชาชนเสียชีวิต 28 ราย และบาดเจ็บกว่า 700 คน ถือเป็นการเสียชีวิตที่ใหญ่หลวง ซึ่งเสียชีวิตคนเดียวก็มากแล้วสำหรับครอบครัวของเขา
      ผอ.รส.กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศให้ได้ ซึ่งข้าราชการทุกกระทรวงต้องเข้มแข็ง ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายด้วยความชอบธรรม มีคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งทุกคนให้สัญญากันไว้ ส่วนการแก้ไขปัญหาต้องให้ทุกกระบวนการได้ทำงานโดยไม่ไปกดดัน ผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่ายต้องอยู่ในความสงบและสันติวิธี จะมาต่อสู้ด้วยอาวุธทำลายกันนั้น พวกเรายอมไม่ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของพวกเราที่ต้องดูแลคนไทยทุกคน เราพยายามให้ความเป็นธรรมกับทุกพวกอยู่แล้ว ไม่ว่าใครจะถูกผิด ต้องว่ากันในกระบวน การยุติธรรม ตนตัดสินไม่ได้ว่าใครผิดมากผิดน้อย แต่เป็นเรื่องของศาล ทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการทั้งสิ้น 
      "หลังประกาศกฎอัยการศึก ถือเป็นการนับหนึ่งว่าบ้านเมืองต้องเดินไปในทางที่สงบและสันติโดยเร็ว เราจะไม่เอาเรื่องเก่ามาพูดกันให้แก้ปัญหาไม่ได้อีก เราต้องมองวันข้างหน้าว่าจะเดินต่อไปอย่างไร ขอร้องสื่อและทุกภาคส่วนให้ช่วยกันสร้างความเข้าใจกับประชาชนว่าจะขัดแย้งต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เราจะไปหวังพึ่งใครไม่ได้อีกแล้ว นอกจากคนไทยทุกคนไม่ว่าสีใด เราต้องสลายสีเสื้อไปให้ได้ และอย่าไปสนับสนุนฝ่ายใดให้เกิดความรุนแรง เราจำเป็นต้องระงับการเผยแพร่ของสื่อหลายช่อง ก็ต้องขออภัย เนื่องจากมีความจำเป็นในเรื่องความมั่นคง ขอให้ทุกคนอดทน ซึ่งการประกาศใช้กฎอัยการศึกนั้นจะใช้เพียงบางมาตรา เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ให้เกิดผลกระทบในวงกว้างและสร้างปัญหาในอนาคต พวกเรามีความตั้งใจดีที่จะให้ชาติบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว 

โต้ทหารปูทางนำไปสู่รัฐประหาร
      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การประกาศกฎอัยการศึกนี้ต้องการให้เกิดความสงบและปลอดภัย จะไม่มีใครประกาศไว้นาน แต่อยากให้หาทางออกได้โดยเร็ว ทั้งนี้เหตุการณ์สงบเมื่อใดและบ้านเมืองปลอดภัยเมื่อใด มีเสถียรภาพเมื่อใด ก็เมื่อนั้น
       เมื่อถามว่าสังคมตั้งคำถามว่ากองทัพต้อง การให้มีการเลือกตั้งหรือได้นายกฯ มาตรา 7 พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ ทุกอย่างเป็นกระบวนการ เป็นกฎหมายที่ต้องดำเนินการกัน หากทำได้ก็ทำไป หากทำไม่ได้ก็ต้องขจัดข้อขัดแย้งก่อนถึงจะทำได้ หากข้อขัดแย้งยังไม่มีการแก้ไขก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ทหารจึงจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึก
      เมื่อถามว่าหากบ้านเมืองไม่สงบนาน 3-6 เดือนจะยังคงใช้ต่อได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คงไม่ถึงตรงนั้น ทุกอย่างถ้าเป็นกระบวนการ หรือกฎหมายถ้าทำได้ก็ทำไป แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งก่อน ถ้าเงื่อนไขความขัดแย้งไม่จบก็ยังไม่กลับทั้งคู่ ฉะนั้นคนที่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขทั้งหมดต้องมาแก้ปัญหา ส่วนสถานการณ์จะพัฒนาถึงการรัฐประหารหรือไม่นั้น เป็นคำถามที่ใครก็ไม่ตอบ ตนไม่เคยตอบสักอย่าง อย่ามาสรุปเอง 

ถามกลับลั่นรัฐบาลตอนนี้อยู่ที่ใด
       ต่อข้อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเชิญคู่ขัดแย้งมาพูดคุย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อยู่ในกระบวนการที่ต้องดำเนินการ แต่วันนี้พูดคุยกับข้าราชการก่อน หลังจากนั้นจะให้คู่ขัดแย้งมาพูดคุยกันท่ามกลางความสงบ ถ้าไม่สงบและมีการเคลื่อนไหว ยุยง ปลุกปั่น หรือสร้างภาพจนเกิดความรุนแรงก็จะพูดกันไม่รู้เรื่อง ฉะนั้นทุกฝ่ายต้องหยุดก่อน
      ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเรียกทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยกันโดยเร็วที่สุด พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถ้าตนเรียกทุกฝ่ายต้องมาอยู่แล้ว เป็นการปฏิบัติตามภายใต้กฎอัยการศึก ไม่อย่างนั้นทั้งสองฝ่ายก็ไม่ฟัง ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปว่าจะเกิดอะไรเกิดขึ้นอีกหรือไม่ แต่พวกตนจะไม่ยอมให้ มีการนองเลือดขึ้นมาให้แผ่นดินไทยเป็น อันขาด
      เมื่อถามว่าขณะนี้รัฐบาลอยู่ในสถานะใด พล.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็รู้คำตอบอยู่แล้ว ถ้าไม่รู้ก็ไปถามคนที่เขารู้ ตนมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย
     เมื่อถามว่ากองทัพจะดำเนินการอย่างไรต้องถามความเห็นรัฐบาลรักษาการหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้อนว่า "ตอนนี้รัฐบาลอยู่ที่ใด ผมก็ไม่ทราบ แต่ถ้าทำงานได้ก็ทำกันไป ประเทศชาติต้องทำงาน ตอนนี้ขอให้ข้าราช การประจำกับทหารทำงานเพื่อบ้านเมืองอย่าไปกังวล ผมไม่ไปยุ่งกับใคร ไม่ไปยุ่งกับรัฐบาล ทุกอย่างจะดำเนินการปกติ จะไม่ไปละเมิดสิทธิมนุษยชนให้มากนักหรือให้ประชาชนเดือดร้อน ซึ่งยังมีอีกหลายมาตราที่ไม่ได้ใช้ รวมถึงการประกาศใช้เคอร์ฟิว ก็ยังไม่มีการประกาศใช้"
      รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุม พล.อ. ประยุทธ์ถามหานายธาริตว่ามาประชุมหรือไม่ ในช่วงที่นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสมช. ได้ถามถึงคดีกบฏที่ถูกออกหมายจับซึ่งนาย ธาริต ที่นั่งอยู่แถวหลังยกมือด้วยใบหน้าเคร่งเครียดพร้อมบอกว่า 'มาครับ'ทั้งนี้ ผบ.ทบ.บอกว่า'ท่านอธิบดี เรื่องคดีก็เบาๆ หน่อย ไม่อย่างนั้นก็ไม่จบซะที"

ทหารยึดเอ็นบีทีเชียงใหม่
      ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 09.30 น. วันเดียวกัน กำลังทหารจากกองพลทหารราบที่ 7 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ พร้อมอาวุธบุกยึดสถานีวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จ.เชียงใหม่ พร้อมนำตัวนางดวงมาลย์ ศรีกิจวิไลกุล ผอ.สถานีไปรายงานที่ค่ายกาวิละ พร้อมกันนั้นได้ยึดรถถ่ายทอดสด และรถเชื่อมสัญญาณดาวเทียมนำไปเก็บไว้ที่กองพลทหารราบที่ 7 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ด้วย
       ที่ค่ายกาวิละ พล.ต.ศรายุทธ รังษี ผบ.มทบ.33 ได้เชิญนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายนาวิน สินธุสอาด และนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ และนายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนั้นทหารได้เชิญตัวหัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วน และอธิการบดีทุกสถาบันการศึกษา และนายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ เข้ารับฟังและทำความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงที่มีการประกาศกฎอัยการศึก
       ส่วนที่โรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลซ สถานนีวิทยุคลื่น 92.5 เมกะเฮิร์ตซ์ สถานีวิทยุคนเสื้อแดง กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ตั้งอยู่กลางเมืองเชียงใหม่ นายวรวุฒิ รุจินาภินันท์ หรือดีเจ.แดง สองแคว กล่าวว่า ทางสถานีวิทยุได้เปิดสถานีตามปกติ แต่หยุดรายการวิเคราะห์การเมืองและเปิดเพลงให้ฟังเท่านั้น ส่วนนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล ที่ปรึกษากระทรวงการพัฒนาสังคมเเละความมั่นคงของมนุษย์นั้นเดินทางไปศึกษาดูงานของกระทรวงที่ยุโรป

แม่ทัพ 3 เรียกชี้แจง 17 ผู้ว่าฯ เหนือ
      ที่สโมสรบันเทิงทัพ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมือง พิษณุโลก พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 ได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการทุกสังกัด เข้ารับฟังคำชี้แจงและรับทราบการประกาศใช้กฎอัยการศึก หลังจาก ผบ.ทบ. ประกาศใช้กฎอัยการศึกครอบคลุมทั่วประเทศมีนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก รองผู้ว่าฯ นายอำเภอ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก นายกเทศมนตรีเทศบาลนครพิษณุโลก และหัวหน้าหน่วยงานใน จ.พิษณุ โลกทุกหน่วย
       แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ที่เชิญมาในวันนี้อยากจะขอความร่วมมือ ในส่วนของ กอ.รส.กองทัพภาคที่ 3 จะจัดกำลังเข้าควบคุมสถานที่สำคัญต่างๆ สถานที่ราชการ สื่อมวลชน สถานีวิทยุโทรทัศน์ สถานีวิทยุของทางราชการ สถานีวิทยุชุมชนทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ รวมถึงให้หยุดไม่มีการเชิญชวนนักวิชาการนักวิเคราะห์นักเคลื่อนไหวทางการเมืองมาให้ความคิดเห็น ช่วงบ่ายเวลา 14.00 น. วันนี้ จะเชิญผู้ว่าราชการทั้ง 17 จังหวัดมาร่วมประชุมพร้อมกัน

กองทัพภาคที่ 2 ตั้งด่านตรวจเข้ม
       ที่ จ.นครราชสีมา ที่บริเวณประตูทางเข้ากองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นคร ราชสีมา มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและสารวัตรทหาร (สห.) นำเหล็กแผงกั้นมาตั้งจุดตรวจที่บริเวณประตูทางเข้า เพื่อตรวจตรารถยนต์ของบุคคลที่ผ่านเข้าออกกองทัพภาคที่ 2 อย่างเข้มงวด นอกจากนี้ยังตั้งจุดตรวจบริเวณถนนสายต่างๆ ที่จะเข้าตัวเมืองและเข้าสู่กทม.ด้วย
        เวลา 14.00 น. พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เรียกผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดนครราช สีมา ประมาณ 150 คน เข้าประชุมที่ห้องประชุม อาคารวิบูลย์ศักดิ์ ภายในค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 เพื่อชี้แจงเรื่องการประกาศกฎอัยการศึก โดยมีวาระการประชุม 3 เรื่อง ประกอบไปด้วย 1.ชี้แจงการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่, 2.การปรึกษาแนวทางการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, 3.การมอบแนวทางการปฏิบัติในช่วงประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งที่ประชุมได้มีการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับ พล.อ.ประยุทธ์ แม่ทัพภาคที่ 1, 2, 3 และ 4 รวมทั้งกองกำลังสุรนารี และกองกำลังสุรศักดิ์มนตรีด้วย 

กองทัพภาค 4 จัดชี้แจง 2 จุด 14 จว.
      เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 4 อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พล.ท. วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 เรียกหัวหน้าส่วนราชการทุกสังกัดใน 9 จังหวัดภาคใต้ เข้ารับฟังคำชี้แจงและรับทราบหลังจากมีการประกาศใช้กฎอัยการศึก โดยกองทัพภาคที่ 4 ได้ตั้งศูนย์กองอำนวยรักษาความสงบเรียบร้อยของกองทัพภาคที่ 4 (กอ.รส.ทภ.4) และเรียก ผู้ว่าราชการจังหวัดในภาคใต้ 9 จังหวัด เข้ารับทราบคำชี้แจงของ ผบ.ทบ.ส่วนอีก 5 จังหวัดนั้นเข้าประชุมที่ค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี
      สำหรับ บรรยากาศทั่วไปนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรม ราช ได้นำหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมรับฟัง ตัวแทนจากตำรวจภูธรภาค 8 หน่วยภาคเอกชน รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสื่อมวลชนเดินทางมาร่วมรับฟังคำชี้แจง

ปิดเพิ่ม 4 ช่อง-เตือนสื่อออนไลน์
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กอ.รส.ยังได้ออกคำสั่ง ที่ 7/2557 ปิดโทรทัศน์เพิ่มอีก 4 ช่อง ประกอบด้วย สถานีโทรทัศน์ วอยซ์ ทีวี สถานีโทรทัศน์ ฮอตทีวี สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเรสคิว และ สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ(คปท.) ต่อมาได้ออกประกาศฉบับที่ 8 ขอความร่วมมือผู้ประกอบการสื่อสังคมออนไลน์ และผู้เกี่ยวข้อง ให้ระงับการเสนอข่าวปลุกระดมความรุนแรงด้วย
       ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากพล.อ. ประยุทธ์ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่เวลา 03.00 น.วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ได้ทำหนังสือรายงานนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ในฐานะรักษาการนายกฯในวันเดียวกันแล้ว

ห้ามสัมภาษณ์นักวิชาการ-ชุมนุม
      ต่อมา กอ.รส.ได้ออกคำสั่ง ที่ 9/2557 ห้ามสร้างความขัดแข้งหรือต่อต้านการปฏิบัติงานของกอ.รส. ห้ามไม่ให้เจ้าของกิจการสื่อสิ่งพิมพ์และรายการโทรทัศน์ทุกประเภท บรรณาธิการ พิธีกร และสื่อมวลชน เชิญกลุ่มบุคคลหรือนักวิชาการมาให้สัมภาษณ์สร้างความสับสน หากฝ่าฝืนจะถูกเรียกตัวมาดำเนินคดี ตลอดจนระงับการจำหน่วยจ่ายแจกสิ่งพิมพ์และการออกอากาศในทันที
       นอกจากนี้ ยังให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผบช.น.และผบก.จังหวัดต่างๆ ระงับการชุมนุมหรือกิจกรรมที่ต่อต้านการปฏิบัติงานของกอ.รส. หาเกินขีดความสามารถให้ผบ.หน่วยทหารในพื้นที่ใกล้เคียงดำเนินการขั้นต่อไป

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!