WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

โผล่หน้าเวทีบิ๊กตู่ปราศรัย 5 นศ.ชู 3 นิ้ว ใส่เสื้อต้านปว.-ทหารรวบ ปรับทัศนคติ'ก่อนปล่อย นายกฯขำกระตั้วแทงเสือ เยี่ยมขอนแก่นสู้แล้งท่วม โปรดเกล้าฯแล้ว'2 รมช.' 'อำนวย-วิสุทธิ์'ร่วมครม.

บุกชู3นิ้ว - เจ้าหน้าที่เข้ารวบตัวนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น 5 คน สวมเสื้อยืดสกรีนข้อความพร้อมกับชู 3 นิ้วประท้วง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขณะขึ้นกล่าวบนเวที ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน


เสนอไอเดีย - นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นประธานการประชุมเชิญตัวแทนพรรคชาติพัฒนาเข้าร่วมเสนอแนะแนวทางการปฏิรูปเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 



     'บิ๊กตู่'ขำนึกว่า น.ศ.มาเต้นแสดงโชว์ หลังบุกประท้วงหน้าเวที ระหว่างนำคณะตรวจภัยแล้งขอนแก่น ย้ำทหารไม่ใช่ศัตรูประชาชน 'วิษณุ'แจงออก กม. 300 ฉบับ 'เทียนฉาย'แนะเกณฑ์เวทีรับฟังความเห็น

@ บิ๊กตู่ย้ำไม่แทรกแซงสปช.-สนช.

     พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) ก่อนเดินทาง ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น และกาฬสินธุ์ ถึงการเรียกประชุม 5 ฝ่าย เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า เป็นการหารือในทางปฏิบัติว่าจะทำอย่างไรให้การปฏิรูปประเทศเรียบร้อย ทำตามโรดแมปที่วางไว้ และวางพื้นฐานประเทศระยะยาวได้ ซึ่งเกี่ยวพันทั้งรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกที่ต้องออกให้ทันกรอบเวลา เป็นการทำความเข้าใจให้ทุกส่วนตั้งโจทย์ตรงกันว่าวันนี้อะไรคือความเดือดร้อนของประชาชน อะไรที่ปฏิบัติได้เลยไม่ต้องใช้กฎหมายก็ให้แจ้งมายังรัฐบาล จะได้นำไปเคลื่อนทันที ส่วนที่ทำไม่ทันก็ต้องเขียนในรัฐธรรมนูญเพื่อส่งต่อการปฏิรูปให้กับรัฐบาลใหม่ 

     "ยืนยันว่ารัฐบาลและ คสช.จะไม่เข้าเกี่ยวข้องในการสั่งการใดๆ ทั้งสิ้นกับ สนช. สปช.เป็นเรื่องของกฎหมาย จะไปชี้นำอะไรไม่ได้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

@ ครวญไม่มีกำลังใจทำงาน

     พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เห็นด้วยกับบทความของนายคณิต ณ นคร ที่ว่าการใช้กฎหมายเข้าไปแก้ปัญหาทางการเมืองอันตราย ต้องระมัดระวัง เพราะบางครั้งก็เป็นปัญหา ถ้าไม่ทำ เจ้าหน้าที่ก็จะโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ถ้าทำก็อาจดูแรงเกินไป ถ้ามีคนสร้างความรุนแรงก็จะวุ่นวายไปกันหมด ถึงจะเห็นต่าง แต่ต้องเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก ต้องใช้หลักการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือมีเหตุมีผลและมีสติ จึงพยายามเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าต้องมีสติ แม้เวลาตอบคำถามสื่อก็ต้องระมัดระวัง ให้เกียรติซึ่งกันและกัน เวลาถามคำถามบางเรื่องรัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาซับซ้อน แต่ยังไม่ทันทำอะไรกลับมาบอกว่าจะกลับเป็นเหมือนเดิม แล้วจะเอากำลังใจที่ไหนมาทำ เพราะเข้ามาทำไม่มีเรื่องผลประโยชน์ หรือการสืบทอดอำนาจทั้งสิ้น ขออย่าไปเขียนทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจกันไปหมด 

     นายกฯย้ำว่า เรื่องการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่อจากนี้ไป ถ้าทุกคนร่วมมือกันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา 

@ มือมืดโปรยใบปลิวต่อต้าน

     จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ นำคณะประกอบด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการ (รมว.)กระทรวงมหาดไทย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ออกเดินทาง และไปถึงจังหวัดขอนแก่นเมื่อเวลา 09.45 น. เพื่อตรวจเยี่ยมการเตรียมการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น ทั้งในส่วนการอารักขาและรักษาความปลอดภัย พล.อ.ประยุทธ์ และวางกำลังรายรอบศาลากลางจังหวัดขอนแก่น สถานที่แรกที่นายกฯปฏิบัติภารกิจ มีกำลังตำรวจ เจ้าหน้าที่อาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กรมการปกครอง และสารวัตรทหาร ดูแลระหว่างการประชุมและการเดินทาง มีการตรวจการเข้าออกลานศาลากลางจังหวัดและจุดสำคัญ พร้อมติดตั้งเครื่องสแกนวัตถุแปลกปลอม และจัดสถานที่เฉพาะสำหรับการยื่นหนังสือร้องเรียน ในส่วนบุคคลที่เข้า-ออกอาคารศาลากลาง ต้องติดบัตรทุกคน 

      อย่างไรก็ตาม ก่อนคณะนายกฯไปถึงช่วงเช้ามืด ได้มีกลุ่มบุคคลโปรยใบปลิวต่อต้านการลงพื้นที่ ที่ถนนศูนย์ราชการรอบศาลากลาง จ.ขอนแก่น และถนนศรีจันทร์ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น มีข้อความ "อีสานไม่ต้อนรับเผด็จการ" ตำรวจได้เร่งเก็บและเคลียร์พื้นที่ก่อนคณะนายกฯเดินทางถึง

@ 5 น.ศ.แฝงตัว-โผล่ต้านต่อหน้า

     ต่อมานายกฯปฏิบัติภารกิจแรก เมื่อเวลา 09.50 น. ด้วยการปล่อยแถวเครื่องจักรกลสาธารณภัย ออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง มีนายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พล.ต.ต.กิจจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ประชาชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบจ.ให้การต้อนรับประมาณ 700 คน 

      ทั้งนี้ ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นกล่าวเปิดงานบนเวทีในหอประชุม ขณะที่กล่าวสวัสดีทักทายผู้ร่วมงานว่า "วันนี้คงได้เห็นตัวจริงกันแล้ว ได้พกพาความห่วงใยและนำกำลังใจมาเยอะแยะ เพื่อส่งมอบให้กับชาวอีสานโดยเฉพาะ จ.ขอนแก่น และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง" ระหว่างนั้นมีนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น 5 คน ที่ยืนปะปนอยู่กับผู้มาร่วมงาน ได้ลุกขึ้นยืนด้านหน้าเวที พร้อมถอดเสื้อคลุมสีดำออกและโยนไปด้านหน้าเวที เผยให้เห็นเสื้อยืดสีดำที่สวมอยู่ข้างใน สกรีนข้อความสีขาวว่า "ไม่-เอา-รัฐ-ประ-หาร" โดยนักศึกษาทั้ง 5 ชูสัญลักษณ์ 3 นิ้วด้วย เจ้าหน้าที่จึงรีบเข้าไปคุมตัวนำออกนอกห้องประชุมทันทีและส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ไปสอบสวน หนึ่งในนักศึกษากล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ต้องการมาแสดงออกทางความคิดเห็นและพวกผมก็เป็นคนที่นี่" 

@ บ่นประท้วงก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว

     ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่านักศึกษาทั้ง 5 คนคือกลุ่มดาวดิน เป็นสมาชิกเครือข่ายประชาธิปไตยที่ทหารเชิญตัวไปปรับทัศนคติมาแล้วครั้งหนึ่ง

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนักศึกษาออกมาแสดงสัญลักษณ์ต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์หยุดนิ่งและมองไปที่กลุ่มนักศึกษา และหัวเราะในลำคอ พร้อมกล่าวว่า "เนี่ยก็มีแบบนี้ ไม่เป็นไร ค่อยๆ พาเขาไป ไม่เป็นอะไรหรอก ไปๆ เดียวเราจะดูแลให้อยู่แล้ว ปัญหาทั้งหมด ไม่ค่อยเข้าใจกันก็ลำบากนะ มีใครมาประท้วงอีกไหม มาเร็วๆ จะได้พูดทีเดียว ถ้าประท้วงกันก็ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว ไม่เกิดอะไรขึ้น ไม่มีผลอะไรทั้งสิ้น ผมว่าคนส่วนใหญ่เข้าใจพวกเรานะ เข้าใจว่าวันนี้เราจะทำอะไรกัน" เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ พูดมาถึงช่วงนี้ ผู้เข้าร่วมงานปรบมือดังลั่น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ขอบคุณนะ เขามาเขาก็มีความคิดของเขาอีกแบบ มีความคิดแตกต่างก็ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวก็ต้องไปหาข้อยุติกันให้ได้ วันนี้เราต้องการเข้ามาทำทุกอย่างให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ผมเคยเป็น ผบ.ทบ. ทุกคนก็เคยรับราชการ เข้าใจงานดี"

@ บอกทหารไม่ใช่ศัตรูประชาชน

     อย่างไรก็ตาม ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์พูดผู้เข้าร่วมงานยังคงส่งเสียงฮือฮา วิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์จึงยุติการพูดชั่วขณะ และเอ่ยทักว่า "อ้าว ตกลงใครจะพูดกันก่อน ฟังกันนิดนึง เดี๋ยวจะได้เข้าใจกัน เราเป็นทหาร เรามีความรู้สึกว่าต้องดูแลประชาชนทุกคนให้ได้ ทหารไม่ใช่ศัตรูของพวกเรา วันนี้เราทุกคนต้องหันหน้าหากัน วันนี้มาในบทบาทของนายกฯ และรัฐมนตรีร่วมคณะ ต้องการมาดูแลทุกคนให้มีความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน ผมจึงอยากบอกพวกเราสั้นๆ ว่า เราต้องมองประเทศให้เป็นหนึ่งเดียวให้ได้ ทุกภาคทุกจังหวัดคือประเทศไทย รัฐบาลมีหน้าที่ในการดูแลทุกจังหวัดทุกพื้นที่และทุกตารางนิ้วของประเทศให้เกิดความเป็นธรรมให้ได้ ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาล สิ่งที่เป็นปัญหามาโดยตลอด ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ไปบังคับใครทั้งสิ้น เพียงแต่จะบอกว่าเราควรทำอะไรอย่างไรต่อไป แต่ต้องมาตกลงกันก่อน ถ้าเราจะขัดแย้งกันอยู่ตลอดไปไม่รู้จะหาทางร่วมมือกันได้อย่างไร ประเทศชาติก็ไปไหนไม่ได้ วันนี้เราต้องมาแก้ไขภาพใหญ่ของประเทศให้ได้ เพื่อเชื่อมโยงกับเพื่อนบ้านและประชาคมโลก เราอย่ามองประเด็นเล็กๆ น้อยๆ เป็นปัญหาทุกเรื่องเพราะจะทำให้การขับเคลื่อนประเทศไปไม่ได้"

@ ขำนึกว่าน.ศ.มาเต้นแสดงโชว์

      นายกฯกล่าวว่า "ผมไม่ใช่คนก้าวร้าว หรือชอบความรุนแรง ก็เห็นตัวตนของผมวันนี้แล้ว และผมก็เจ็บปวดทุกครั้งเวลาที่ต้องมามีปัญหาอะไรกับพวกท่านทั้งหลาย ซึ่งไม่เคยคิดอะไรทั้งสิ้น วันนี้ผมเอาหัวใจเต็มร้อยมา ผมก็คาดหวังว่าจะได้หัวใจของพวกเรากลับไปให้ผมเกินร้อย ให้ผมได้มั้ยครับ" ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายกฯพูดถึงช่วงนี้ได้รับเสียงปรบมืออีกครั้ง นายกฯจึงพูดต่อว่า "เราสัญญากันและกันว่า เราและรัฐบาลทหารต้องช่วยกันขับเคลื่อนประเทศไทยทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นความยากจน ความเหลื่อมล้ำ รายได้ การเข้าถึงกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม เพราะเวลาเรามีจำกัด ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกัน ถ้ายังขัดแย้งกันเหมือนเหตุการณ์เมื่อสักครู่ มันก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งหมด เมื่อสักครู่ผมนึกว่ามีการเอาการแสดงมารับผม จริงๆ นะ ทำไมใส่ชุดดำ นึกว่ามาเต้นกระตั้วแทงเสือ นึกว่าพี่น้องมาแสดงกัน ไม่เป็นอะไร ไม่โกรธแค้นกัน พี่น้องทั้งนั้น คนไทยทั้งสิ้น คนไทยไม่รักคนไทยด้วยกันแล้วใครจะมารักเรา ถ้าเราไม่ร่วมมือกันแล้วใครจะมาทำให้เรา ถ้ารัฐบาลไม่ช่วยและดูแลประชาชนใครจะดู" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และยังเรียกร้องทุกฝ่ายเลิกคอร์รัปชั่น พร้อมกับยืนยันการเข้ามาบริหารประเทศครั้งนี้ ไม่ต้องการผลประโยชน์แม้สลึงเดียว 

     พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก่อนมามีกำลังใจเต็มร้อย แต่พอมาเจอเต้นกันนิดหน่อยเลยขึ้นเป็นร้อยห้าสิบ เข้าใจดีเพราะไม่มีใครทำให้คนรักได้ร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว แต่พยายามทำให้คนพอใจมากที่สุด โดยไม่เสียประโยชน์ส่วนรวม

@ คาดโทษผวจ.ปล่อยแล้ง-ท่วมซ้ำ 

ต่อมาเวลา 10.30 น. นายกฯเป็นประธานประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง 20 จังหวัดอีสาน โดยกล่าวว่า พื้นที่ไหนมีปัญหามาก จะลงพื้นที่นั้นก่อน รัฐบาลมีความยินดีและเต็มใจที่จะดูแลชาวอีสาน 20 จังหวัด ทุกคนต้องทำงานอย่างตื่นตัวแม้จะรำคาญว่าหัวหน้า คสช.พูดมาก แต่มันต้องพูดเพราะที่ผ่านมาไม่มีใครพูด พอมีการพูดก็นำไปสู่ข้างใดข้างหนึ่งจนกลายเป็นปัญหามาตลอด แต่วันนี้พูดตรงกลางว่าประเทศมีปัญหาอะไรบ้างก็ต้องช่วยกันและอดทน "ทนหน้าพวกผมหน่อยแล้วกัน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

จากนั้น ผู้ว่าฯแต่ละจังหวัดรายงานสถานการณ์ รวมถึงการดำเนินการศูนย์ดำรงธรรม เมื่อรายงานเสร็จ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับผู้เข้าร่วมประชุมว่า ขอสั่งการให้ประชาสัมพันธ์ปัญหาการทำนาปรัง การแนะนำปลูกพืชฤดูแล้ง และการจ้างคนเข้ามาทำงาน ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะให้คนแก่มาขุดดิน จนมีกระแสต่อต้านรัฐบาลว่าจะเอาคนแก่มาขุดดิน ไม่ใช่คนใจร้ายใจดำ เพียงแต่ต้องการสร้างรายได้ให้กับทุกคน และขอแนะนำให้ทุกจังหวัดที่ปลูกข้าวไปสร้างแบรนด์ของตัวเองเพื่อเพิ่มมูลค่า และต้องเร่งแก้ไขปัญหาแล้งซ้ำซาก จะนำไปประเมินผล จากนี้ไปพื้นที่แล้งซ้ำซากต้องลดทุกปีและขอให้จำไว้ ถ้าปีหน้าไม่ลดลงมีเรื่อง พื้นที่ไหนเคยน้ำท่วมแล้วยังปล่อยให้ท่วมอีกก็มีเรื่องเช่นเดียวกัน บางส่วนจะต้องลดลงให้ได้ต้องไปบริหารการจัดการอย่างเร่งด่วน และยังกำชับ แก้ปัญหาลักลอบตัดไม้ทำลายป่า และต้องดำเนินการกับนายทุนให้หมด

@ กรมชลฯการันตีน้ำกินใช้ไม่ขาด

ทั้งนี้ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวรายงานสถานการณ์น้ำในภาคอีสานว่า เมื่อสิ้นสุดฤดูฝนปลายพฤศจิกายนถึงธันวาคม อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่จะมีน้ำน้อย 7 แห่ง และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางมีน้ำพอใช้และน้ำน้อยรวม 71 แห่ง ไม่สามารถช่วยเหลือการเพาะปลูกในช่วงฤดูแล้งได้ แต่ยังสนับสนุนการใช้น้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคได้อย่างเพียงพอ

ขณะที่นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) กล่าวถึงการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดว่า มีการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมกาฬสินธุ์ 3 อันดับแรกคือ 1.การบุกรุกทรัพยากรป่าไม้ 2.การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม ขาดที่ดินทำกิน และ 3.หนี้สินนอกระบบ รวมถึงรายงาน แนวทางการแก้ 4 ระยะ โดยช่วงท้ายการประชุม นายวิบูลย์กล่าวว่า การดำเนินการของศูนย์ดังกล่าวเริ่มต้นด้วยรอยยิ้มของผู้จัดตั้ง และหวังให้จบลงด้วยรอยยิ้มของประชาชน 

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ปลัด มท.มีคำหวานตลอด ส่วนตัวอยากเห็นรอยยิ้มของประชาชนมาก่อน ไม่เช่นนั้นตนเองก็คงจะยิ้มไม่ออก พร้อมกำชับทุกจังหวัด ดูแลประชาชนช่วงเศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลง นายกฯยังกล่าวหยอกนายวิบูลย์ว่า หากทำได้ตามที่รายงาน อาจต้องยุบกระทรวงมหาดไทยทิ้ง ตั้งกระทรวงดำรงธรรมแทน เพราะดำเนินการได้ทุกอย่าง

@ ส่งกลุ่มดาวดินไปปรับทัศนคติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจและสารวัตรทหารควบคุมตัวนักศึกษากลุ่มดาวดินไปสอบปากคำที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ก่อนส่งต่อตัวไปยังมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร์ เพื่อปรับทัศนคติ เป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ชื่อ นายเจตน์สฤษฎ์ นามโคตร ชั้นปี 2 นายวิชชากร อนุชน ชั้นปีที่ 4 นายจตุภัทร์ บุญภัทรวิทยา ชั้นปีที่ 4 นายพายุ บุญโสภณ ชั้นปีที่ 2 และนายวสันต์ เสกสิทธิ์ ชั้นปีที่ 4 

ต่อมาเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารได้ปล่อยตัวนักศึกษาทั้งหมดกลับไป โดยแจ้งให้ผู้ปกครองนักศึกษาทั้ง 5 คน มาทำความเข้าใจในการปรับทัศนคติ และจะแจ้งข้อกล่าวหาในวันที่ 20 พฤศจิกายน

สำหรับการเปิดรับเรื่องราวร้องทุกข์ของสำนักนายกรัฐมนตรี ภายในศาลาประชาคมขอนแก่น ปรากฏว่ามีประชาชนในจังหวัดภาคอีสานหลายแห่งมายื่นหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องปัญหาที่ดินทำกิน การทุจริตคอร์รัปชั่น ปัญหาภัยแล้ง และปัญหาภายในชุมชน

@ ตรวจแหล่งน้ำรปภ.คุมเข้ม

ต่อมาเวลา 14.30 น. ที่โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองใหญ่ ต.น้ำอ้อม อ.กระนวน จ.ขอนแก่น พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะเข้าตรวจเยี่ยม โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับข้าราชการและประชาชนว่า อยากให้เข้าใจรัฐบาล ที่พูดทุกวันศุกร์นั้นอย่าเพิ่งรำคาญ ตอนไปต่างประเทศก็ได้บอกกับต่างชาติไปว่าประเทศไทยไม่ได้ทะเลาะกันแล้ว ต่างชาติก็ทนเห็นไม่ได้ที่แต่การประท้วง วันนี้มาภาคอีสานก่อน เพราะประชาชนเดือดร้อนมากกว่าที่อื่น และมีภัยแล้งเยอะกว่า ใครเห็นต่างคงไม่ว่า แต่อย่าทำให้วุ่นวาย เพราะจะทำให้ปฏิรูปประเทศไม่ได้ ส่วนเรื่องการปฏิรูปองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ยังไม่ได้เข้าไปยุ่งเลย พูดกันไปเองเพราะมีคนดูแลประชาชนกันอยู่แล้ว ขอความร่วมมือในช่วง 1 ปีนี้ได้หรือไม่ สัญญาได้หรือไม่ ส่วนใครทำไม่ได้ ก็ขอให้บอกด้วย วันนี้อย่าคิดว่าเป็นรัฐบาลทหาร เพราะเป็นทหาร

นอกราชการแล้ว แต่ยังมีภาพของทหารอยู่ เมื่อถอดเครื่องแบบก็เป็นประชาชนคนไทย มีสิทธิ

เท่ากัน ใครเป็นรัฐบาลวันข้างหน้าก็ต้องมาดูแล วันนี้มาสร้างพื้นฐานในการเดินไปข้างหน้าดีกว่า ที่พูดเยอะสู้ละครวันศุกร์ได้หรือไม่ เดี๋ยวจะหาว่าเบียดเวลาละคร แบบนี้เดี๋ยวพวกดาราจะบ่นเอา เพราะรอว่าแฟนๆ จะดู แต่ช่วงนี้ต้องขอหน่อย เพราะถ้าไม่ฟังแล้วไม่คิดตามก็ไม่เกิดประโยชน์ ใครมาพูดก็ไม่เข้าใจ จึงต้องมาพูดเอง แต่ถ้าพูดแล้วเห็นไม่ถูกต้องก็ส่งผ่านช่องทางที่เปิดให้แล้วตนจะรับมาดู

@ ชี้วันประวัติศาสตร์มาอีสาน 

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองใหญ่ ถึงการเดินทางลงพื้นที่ภาคอีสานว่า ได้รับฟังหลายปัญหาคิดว่าแก้ไม่ยาก งบประมาณที่จะลงมาในพื้นที่ภาคอีสานมีหลายส่วน วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์อีกครั้ง 

เมื่อถามว่า วันนี้พูดคนเดียวเหนื่อยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่เหนื่อย วันนี้ได้มอบนโยบายให้กับท้องถิ่นแล้วว่าให้ช่วยกันทำความเข้าใจ เมื่อเขารับตนได้ก็ไปถ่ายทอดให้ได้ สิ่งที่ทำงานมา 5-6 เดือน ไม่ได้ทำเพื่อให้มารัก ทำให้รักว่าบ้านเขา ทำอย่างไรให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ จะขับเคลื่อนให้ ที่ผ่านมามีใครเคยพูดให้ฟังกันหรือไม่ มีใครเคยบอกถึงอนาคตว่าประเทศจะเดินไปอย่างไร ต้องวางพื้นฐานให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่รัฐบาลต่อไปจะเปลี่ยนแปลงก็ช่วยไม่ได้ 

ส่วนกรณีที่มีคนเห็นต่างทำให้นายกรัฐมนตรีท้อหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ไม่ท้อๆ เมื่อกี้นะเด็กนะ ทราบว่าเป็นนักศึกษา ก็ต้องไปสร้างความเข้าใจกับเขาให้ดี" 

ผู้สื่อข่าวถามว่า เจอเหตุการณ์อย่างนี้ ยังจะลงพื้นที่ภาคเหนือหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ทำไมละ แล้วจะต้องไปรบอะไรกับเขา ไม่รบกับเขาหรอก หลังจากลงพื้นที่อีสานแล้วจะไปพื้นที่อื่นต่อ ส่วนจะเป็นช่วงไหนยังตอบไม่ได้ ยังไม่แน่นอน แต่ยืนยันว่าไปแน่ รวมทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะไปหมดทุกภาค"

@ ยันเพิ่มครม.อีก2ตำแหน่ง

ส่วนกรณีกลุ่มเห็นต่างไม่ได้เป็นอุปสรรคกับการลงพื้นที่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่เป็นอุปสรรคเขาเป็นคนไทย ดังนั้นคนไทยต้องเข้าใจ เป็นผู้บริหารใช้อำนาจใช้กฎหมาย ต้องอดทนฟัง อย่าใช้ความรุนแรงก็แล้วกัน ไม่ได้มีอะไรรุนแรงไม่ใช่หรือ คนที่มาแสดงอะไรให้ดูก็ไม่ได้มีอะไรรุนแรง เมื่อถามว่าช่วงเหตุการณ์รู้สึกตกใจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ปุโธ่ ผมไม่ใช่คนขี้ตกใจขนาดนั้นหรอก"

เมื่อถามว่าคาดการณ์ไว้หรือไม่ว่าลงพื้นที่แล้วจะมีคนมาต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถ้ามีโอกาสก็มีทั้งนั้น แต่ตอนนี้ปลอดภัยที่สุดเพราะอยู่ท่ามกลางสื่อ ปลอดภัยไม่มีใครทำร้ายหรอก 

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรีเพิ่มอีก 2 ตำแหน่งว่า มีการปรับ 2 ตำแหน่ง คือ นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขณะนี้ต้องรอให้โปรดเกล้าฯ และนำเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อน หลังปีใหม่จะมีโอกาสปรับ ครม.อีกหรือไม่นั้น เดี๋ยวดูอีกที

@ อนุมัติงบ100ล.ซ่อมคลอง

จากนั้นที่บริเวณเขื่อนลำปาว อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำที่เขื่อนลำปาว พล.อ.ประยุทธ์กล่าวภายหลังรับฟังบรรยายสรุปว่า รู้สึกสบายใจที่ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ไม่เดือดร้อนเรื่องน้ำ รัฐบาลจะบูรณาการเรื่องน้ำอย่างเป็นระบบทั้งประเทศ ภายใต้งบประมาณที่จำกัด จะใช้งบประมาณค้างจ่ายปี 2557 มาดำเนินโครงการเร่งด่วน และตั้งงบประมาณปี 2558 ไว้ดำเนินโครงการเกี่ยวกับน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อซ่อมคลองชลประทานที่เสียหายจากอุทกภัยเมื่อปี 2554 จำนวน 100 กว่าล้านบาท 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่เสร็จสิ้นภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะได้เดินทางมายังสนามบิน จ.ขอนแก่น เพื่อขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับมายังกรุงเทพฯ 

@ โปรดเกล้าฯ"วิสุทธิ์-อำนวย"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายอำนวย ปะติเส เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 เป็นต้นไป โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ รับสนองพระบรมราชโองการ

@ "บิ๊กโด่ง"ชี้น.ศ.ประท้วงไม่เหมาะ

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีนักศึกษากลุ่มดาวดินประท้วงว่า ถือว่าไม่เหมาะสม เพราะผู้นำรัฐบาลมีความห่วงใยประชาชน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพี่น้องประชาชน แต่มีคนบางกลุ่มแอบแฝงเข้ามากับประชาชน ไม่สมควรอย่างยิ่ง ไม่สมกับที่ทางรัฐบาลตั้งใจทำงาน หากกลุ่มบุคคลมีความคิดต้องการแสดงออก ก็มีเวทีให้เข้าไปชี้แจงและพูดคุยหรือสามารถส่งข้อมูลต่างๆ เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นงานด้านปฏิรูปที่มี สปช.เกิดขึ้นแล้ว พร้อมรับฟังทุกภาคส่วนต่างๆ ได้เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ในส่วนของทางทหารได้เน้นย้ำ พล.ท.ธวัช สุกปลั่ง แม่ทัพภาคที่ 2 แล้วให้ดูแลให้เกิดความเรียบร้อย เหตุการณ์สามารถเกิดขึ้นมาได้ แต่ไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม นายกฯยังได้รับความนิยมจากประชาชนโดยรวม จากการสำรวจโพลของสำนักต่างๆ มั่นใจว่าจากโพลที่สำรวจมาเราได้รับความร่วมมือและความเห็นชอบต่างๆ มาด้วยดีตามลำดับ เพราะฉะนั้นการรักษาความปลอดภัยก็ไม่มีปัญหาอะไร

@ "วิษณุ"แจงเร่งดันกม.300ฉบับ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์เร่งรัดในการประชุม 5 ฝ่าย ถึงการผลักดันกฎหมายต่างๆ ประมาณ 300 ฉบับว่า มีการรายงานก่อนหน้านั้นในที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า ขณะนี้มีกฎหมายจาก 20 กระทรวง กำลังดำเนินการเสนอ ครม.ประมาณ 130 ฉบับ และมีกฎหมายกลางทางอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมการกฤษฎีกาประมาณ 30 ฉบับ และกฎหมายปลายทางส่งเข้า สนช.ไปแล้วประมาณ 70 ฉบับ ยังไม่รู้ว่าจะได้ออกมาตามฝันไว้หรือไม่ โดยเฉพาะกฎหมายจากต้นทาง ไม่รู้จะเสร็จเมื่อไร แล้วก็ยังไม่รู้ว่า ครม.จะเห็นด้วยหรือไม่ นายกฯกำชับ สปช.ว่า หากคิดจะปฏิรูปอะไรก็ต้องออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปออกมา ไม่ใช่เพ้อไปโดยไม่มีกฎหมายอะไร จึงย้ำ สปช.ว่ากฎหมายอะไรทำเองได้ก็ให้ช่วยทำ ไม่ต้องเสียเวลาให้รัฐบาลดำเนินการ เพราะหากทำไปแล้วเห็นไม่ตรงกันจะเสียเวลา คาดว่าจะมีประมาณ 200-300 ฉบับ 

@ ให้รอดูรธน.ก่อนออกกม.ลูก

นายวิษณุกล่าวว่า ส่วนการเขียนกฎหมายลูกหลังจากมีรัฐธรรมนูญ ทาง กมธ.เป็นผู้รับผิดชอบ รัฐบาลไม่รู้จะเตรียมอะไร เพราะไม่รู้ว่าเขียนรัฐธรรมนูญออกมาอย่างไร ส่วนที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ กรรมการ คสช. ระบุว่า ไม่ต้องเร่งรีบเขียนรัฐธรรมนูญเพราะเกรงว่าจะเสียของนั้น ความหมายของนายมีชัยคือชี้แจงว่ารัฐธรรมนูญเสร็จประมาณสิงหาคมถึงกันยายนปี 2558 จากนั้นประมาณ 3 เดือนก็เลือกตั้งเพราะกฎหมายลูกแล้วเสร็จ นี่คือความตั้งใจไว้อย่างนั้นได้ แต่ไม่อยากให้ไปผูกมัดอะไร กฎหมายลูก 3 เดือนเสร็จนั้นหมายถึงกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายเลือกตั้ง กฎหมาย กกต. แต่กฎหมายลูกอื่นๆ ยังมีอีกมาก ปี 2550 มีกฎหมายลูกต้องออกประมาณ 20-30 ฉบับ กำหนดว่าต้องออกภายใน 1 หรือ 2 ปี สุดท้ายออกได้แค่ 3 ฉบับ ผ่านไป 7 ปี จนถึงวันยึดอำนาจครั้งสุดท้ายกฎหมายที่เหลือไม่ได้ออกสักฉบับ ดังนั้น กฎหมายลูกอื่นที่สำคัญนอกจากทั้ง 3 ฉบับ ก็ให้ทำเสร็จก่อนเลือกตั้ง มิเช่นนั้นอย่าหวังว่ารัฐบาลที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาจะเข้ามาทำต่อ 

นายวิษณุกล่าวว่า ส่วนการมอบหมายให้นายมีชัยติดตามการยกร่างรัฐธรรมนูญ กมธ.มีคณะที่ปรึกษาอยู่แล้ว นายมีชัยไม่ได้เป็นคณะที่ปรึกษาฯ จึงมาเป็นคณะกรรมการคอยติดตามการทำงานและให้คำแนะนำคณะที่ปรึกษา คสช. เพราะช่วยได้ แต่ไม่ใช่ไปแนะนำ กมธ.ยกร่าง เพราะไม่เกี่ยวข้องกับ กมธ.ยกร่างใด ไม่ยุ่ง ไม่คบ ไม่พบกับ กมธ.เลย กมธ.จะรายงานความคืบหน้าการทำงานทุกสัปดาห์ ฉะนั้นสาธารณชนสามารถรับรู้ได้อยู่แล้ว 

@ ไม่ปิดกั้นประชามติรัฐธรรมนูญ

นายวิษณุกล่าวถึงกรณีนายบวรศักดิ์ 

อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เห็นด้วยให้มีการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญว่า ไม่มีใครไม่เห็นด้วย จากนี้จะพูดกันทั้งหมดว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้บังคับให้ทำประชามติ หากจำเป็นต้องทำ ไม่มีอะไรขัดข้อง ที่ไม่เขียนบังคับว่าต้องทำประชามติ เพราะเขียนไปก็จะมองอีกอย่างว่าต้องการยืดเวลา เพราะเรื่องนี้ใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือน จากนั้นต้องใช้เวลาทำกฎหมายลูกอีก 3 เดือน และจะไปทำกฎหมายลูกก่อนได้อย่างไร พอดีพอร้ายบวกไป 6 เดือนแล้วไม่ได้เลือกตั้ง ก็จะเป็นประเด็นอีก ส่วนเงิน 3,000 ล้านบาทนั้น ไม่น่าเสียดาย แต่ถ้าไม่เรียบร้อยก็เสียเวลา เสียเงิน และเสียของ หากรัฐธรรมนูญล้ม ทุกคนรู้ปัญหาเก่าในการร่างรัฐธรรมนูญ คงไม่ให้ซ้ำรอยเหมือนที่ผ่านมา 

นายวิษณุกล่าวว่า จะมีการปรับปรุงรูปแบบการให้อำนาจขององค์กรอิสระหรือยุบเลิกหรือไม่นั้น ตนมีความคิดอยู่ แต่ไม่ควรพูด เพราะที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว เพื่อให้ข้อสังเกตว่าที่เคยมีแล้วจะต้องมีต่อไป แต่ต้องเปลี่ยนองค์ประกอบหน้าที่ เช่น กกต.สุดท้ายต้องมี แต่จะมีแบบที่เคยมีอำนาจหรือไม่ ที่ผ่านมามีการไปให้อำนาจเขา เมื่อให้ก็ต้องใช้ เพราะถ้าไม่ใช้ก็จะบอกว่าเสียของ ถ้าไม่คิดว่าจะต้องให้เป็นแบบนั้น ก็อย่าไปให้อำนาจตั้งแต่แรก

@ "เทียนฉาย"มอบแนวรับฟังปชช. 

นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. กล่าวภายหลังให้ความเห็นต่อ กมธ.วิสามัญการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนว่า การรับฟังความเห็นต่อการปฏิรูปมี 3 ประเด็น คือ 1.เริ่มการปฏิรูปจากข้อมูลที่มีอยู่ 2.การรับฟังความคิดเห็นประชาชนในประเด็นภาพของอนาคต เนื่องจากผลการศึกษาที่ผ่านมายังขาดมุมมองอนาคต และ 3.ต้องมีหลายช่องทางให้ประชาชนแสดงความเห็นได้ เปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นให้มากที่สุด จากนั้นจึงจะสังเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปใช้อีกครั้ง 

นายเทียนฉายกล่าวว่า วิธีการรับฟังความเห็นประชาชนจะเป็นไปตามกรอบรัฐธรรมนูญ โครงสร้างของ กมธ.วิสามัญประกอบด้วย 8 หน่วยงานสำคัญ มั่นใจว่าไม่มีอคติ จะตั้งโจทย์รับฟังความเห็นอย่างชัดเจน รูปแบบการจัดเวที 2 รูปแบบ คือ การเปิดเวทีให้กับกลุ่มตัวอย่างคัดเลือกโดยหลักทางสถิติ เช่น เพศ อายุ มาให้ความเห็น อาจทำร้อยละ 80 และเวทีเปิดทั่วไปเพื่อเสนอความเห็นต่อการปฏิรูปประมาณร้อยละ 20 สปช.อาจจัดเวทีเองในรูปแบบรายภาคหรือรายจังหวัด และอาจมีหน่วยงานอื่นจัดแล้วเชิญ สปช.ไปรับฟังเพื่อเก็บประเด็น 

@ "ประชา"ชงตั้งอนุกมธ.77จว.

นายประชา เตรัตน์ สปช. จ.ชลบุรี ในฐานะประธาน กมธ.วิสามัญการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน กล่าวภายหลังการประชุมว่า การให้ประชาชนมีส่วนร่วม กระบวนการที่สำคัญคือต้องออกแบบหวังผลให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แบ่งเป็น 3 วิธี 1.ใช้กระบวนการทางวิชาการ เลือกกลุ่มตัวแทนจากภาคประชาชนมาแสดงความเห็น 2.ใช้กระบวนการเติมเต็มข้อมูล ก่อนหน้านี้ได้มีข้อมูลการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ไว้แล้ว ส่วนที่เหลือจะเอาข้อมูลจากประชาชนมาเติมเต็มให้สมบูรณ์ 3.การทำให้ประชาชนมีความรู้สึกในการมีส่วนร่วมมากที่สุด จะตั้งคณะอนุกรรมาธิการระดับจังหวัด 77 จังหวัด จังหวัดละไม่เกิน 15 คน ประกอบด้วย สมาชิก สปช.จังหวัด เป็นประธานอนุ กมธ. ส่วนที่เหลือจะเลือกจากผู้เคยสมัคร สปช. และ กกต.เป็นเลขาธิการ นอกจากนี้ยังมี กอ.รมน. ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นที่ปรึกษา

@ เจษฎ์เผยพร้อมร่างกม.ประกอบ

นายเจษฎ์ โทณะวณิก คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการทำหน้าที่คู่ขนานกับกรรมาธิการยกร่างฯ เพราะท้ายที่สุดเมื่อได้รัฐธรรมนูญ จะต้องชำระกฎหมายให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ กฎหมายบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับองค์กรตามรัฐธรรมนูญมีผู้รับผิดชอบอยู่แล้ว จึงทำควบคู่ในระหว่างร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์ให้ร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญให้เสร็จทันภายใน 6 เดือน ถ้าเริ่มดำเนินการตั้งแต่ขณะนี้ ควรเริ่มวางกลไกเกี่ยวกับการตรวจ ป้องกันการทุจริต หรือหารือเกี่ยวกับกรอบการทำประชามติ เพราะเมื่อร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จจะเหลือแต่การพิจารณากฎหมายย่อย ส่วนกฎหมายอื่นสามารถทำควบคู่ เช่น วิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างทั้งหมด กฎหมายขององค์กรเหล่านั้นจึงเริ่มพิจารณาได้เลย 

@ เชิญ"ชพ.-พช."ร่วมหารือกมธ.

ที่รัฐสภา กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นประธานการประชุมเชิญตัวแทนพรรคชาติพัฒนา (ชพ.) และตัวแทนจากพรรคพลังชล (พช.) เข้าร่วมหารือ

จากนั้น พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษก กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ แถลงภายหลังการหารือว่า พรรค ชพ.เสนอไว้ 6 ประเด็น ส่วนประเด็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนาเห็นด้วย คือ ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ควรจะเกินร้อยละ 20 ของจำนวน ส.ส.ทั้งหมด และคุณสมบัติของ ส.ส.บัญชีรายชื่อควรจะสูงกว่า ส.ส.เลือกตั้ง อาจรวมถึงการศึกษา อายุ ส.ส.ต้องจบปริญญาตรีและสังกัดพรรคการเมือง เพราะการไม่สังกัดพรรคอาจจะมีการซื้อตัว ส.ส. เพื่อการจัดตั้งรัฐบาล สำหรับพรรค พช.เห็นว่า ส.ส.ควรสังกัดพรรคการเมือง และควรจะให้สิทธิ ส.ส.ในบางเรื่องที่จะลงมติ รวมถึงให้สิทธิในการเสนอเรื่องต่างๆ ในที่ประชุมได้โดยไม่ต้องใช้มติพรรค

@ วิปสนช.ยัน"กลชัย"ทำหน้าที่ได้ 

นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษก กมธ.วิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) แถลงผลการประชุมวิป สนช.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณากรณี พล.ต.กลชัย สุวรรณบูรณ์ สนช. หนึ่งใน 38 อดีต ส.ว.ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลถอดถอนกรณีแก้รัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว.ว่าจะปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่ วิป สนช.มีมติว่า พล.ต.กลชัยสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ เนื่องจากเป็นคนละตำแหน่งกัน แต่หากมีการประชุม สนช.เพื่อพิจารณาถอดถอนในประเด็นดังกล่าว พล.ต.

กลชัยสามารถลงชื่อร่วมประชุม แต่ไม่สามารถพิจารณาเพื่อลงมติถอดถอนได้ เนื่องจากมีส่วนได้ส่วนเสีย สำนวนการยื่นถอดถอนยังมาไม่ถึงประธาน สนช.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!