WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8759 ข่าวสดรายวัน


ฮังเกอร์เกมส์วุ่น ชู 3 นิ้วอีก รวบนศ.-ก่อนปล่อย 
บิ๊กตู่ไม่โกรธ-ไม่เอาผิด 5 ดาวดิน'102 ปัญญาชน'จี้เลิกอัยการศึก 'อรรถพล'คะแนนท่วมท้นนั่งกอ. 

ชู 3 นิ้ว- ตร.นอกเครื่องแบบเข้าคุมตัวนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่ชู 3 นิ้วหน้าโรงหนังสยามพารากอน ที่เปิดฉายหนัง"ฮังเกอร์ เกมส์" ไปสอบสวนที่ค่ายพล.ม.2.รอ.สนามเป้า ก่อนปล่อยตัวในช่วงค่ำ เมื่อวันที่ 20 พ.ย.

         หนังฮังเกอร์เกมส์วุ่น กลุ่มน.ศ. ธรรมศาสตร์เสรีฯย้ายโรงดูหนังมาที่สยามพารากอน หนุ่มสวยโผล่ชู 3 นิ้วหน้าโรง ก่อนถูกตร.พาไปโรงพักพร้อมพวกรวม 3 คน และส่งเข้าพล.ม.2รอ.ปรับทัศนคติ ป้ายโผล่อีกที่สะพานลอยมก.จี้เลิกคุกคามนักศึกษา 'บิ๊กตู่'ยันไม่โกรธถูก 5 นักศึกษาม.ขอนแก่นบุกชู 3 นิ้วประท้วง ยอมรับไม่มีความสุขที่ยังประกาศใช้กฎอัยการศึก ด้านคณบดีนิติศาสตร์ม.ขอนแก่น-ผู้ปกครองพาเข้าพบนายทหารมทบ.33 ก่อนจะได้รับการปล่อยออกมาโดยไม่ให้เซ็นรับเงื่อนไขหรือดำเนินคดีแต่อย่างใด นักสันติวิธีจี้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยคุ้มครองสิทธิ์ 5 ลูกศิษย์ ด้านแกนนำดาวดินยืนยันเคลื่อนไหวต่อไป 'เสธ.อู้'เผยเพื่อไทย-นปช.ไม่ร่วมสังฆกรรมร่างรธน. 'อาจารย์ปื๊ด'ลั่นพร้อมเข้าไปพูดคุยขอรับฟังความคิดเห็นด้วยตัวเอง คณะบุคคล 102 คนออกแถลง การณ์จี้ยกเลิกพร้อมให้เร่งคืนประชาธิปไตย


ประยุทธ์ห้ามถามเลิกอัยการศึก
       เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 พ.ย. ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร(วปอ.) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานพิธีเปิดการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 57 ประจำปี การศึกษา 2557-2558 และบรรยายหัวข้อ "บทบาทของภาครัฐและเอกชนในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ" โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่กลับมายืนที่นี่อีกครั้ง ในช่วงรับราชการก็นั่งอยู่ข้างล่างเหมือนทุกคน วันนี้บทบาทใหม่แต่ตัวตนยังเหมือนเดิม ยังเป็นประยุทธ์คนเดิม เรื่องด้านความมั่นคงไม่ใช่แค่เรื่องของเจ้าหน้าที่ แต่เป็นเรื่องของประชาชนทุกคน รวมทั้งสื่อมวลชนก็ต้องมีส่วนสร้างความปรองดองให้คนรักกัน
      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลดูแลภาคเศรษฐกิจไม่ค่อยดี เราจึงต้องให้ต่างชาติเขาเชื่อมั่นและอยากมาลงทุนดูเรื่อง ข้อกฎหมาย การทำสัญญาต่างๆ ต้องเอื้อต่อ การลงทุน เช่น ใช้นโยบายไทยบวกหนึ่ง คือลงทุนในไทยและเราเสนอให้ไปลงทุนที่พม่า ลาว กัมพูชาหรือประเทศอื่น เพื่อสร้างความเข้มแข็งในกลุ่มประเทศที่มีรายได้น้อย โดยชักจูงคนอื่นให้มาลงทุน 
     "เราต้องเห็นใจพม่าเขามี 125 เผ่า มีชนพื้นเมืองเยอะมาก กระจายไปทั่ว นั่นคือความยากง่ายของเขาในการค้าการลงทุน เหมือนกับเราที่วันนี้ต้องมีกฎหมายพิเศษ ถามว่าผมมีความสุขหรือ ไม่มีความสุข ยิ่งใช้นานยิ่งไม่มีความสุข แต่มันจำเป็น และสื่อไม่ต้องถามผมบ่อย ยิ่งถาม ยิ่งไม่ตอบ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว 

ยันไม่โกรธน.ศ.ขอนแก่น-ประท้วง
     พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้เราจะมีการปฏิรูป ถามว่าถ้าไม่มีทหารเข้ามาจะปฏิรูป ได้หรือไม่ ก็ไม่ได้ เราต้องทำให้รอบบ้าน เชื่อมั่น ลดความหวาดระแวงลง จากการที่ประเทศเราติดกับดักประชาธิปไตยที่ยังหาไม่เจอ ติดกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง วันนี้ต้องทำอย่างไรเพื่อเราจะก้าวพ้นกับดักเหล่านี้ ส่วนกับดักประชาธิปไตย เราจะไม่เข้าไปก้าวล่วง วันนี้ มีสนช. สปช. ซึ่งเป็นแม่น้ำ 5 สายที่ต้องเดินไปข้างหน้าให้ได้ อย่าเสียเวลาถกเถียงกัน จึงฝากถึงสนช.ว่าอย่าเถียงกัน แค่กฎหมายชั่งตวงวัดก็เถียงกันอยู่ ทั้งที่กฎหมายแบบนี้เป็นกฎหมายที่ดี แต่ไม่ได้ทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ประเทศมีปัญหาอีกเยอะที่ต้องแก้ไข
       พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนเหตุการณ์นักศึกษาประท้วงที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้โกรธ ยืนยันว่าที่เข้ามาวันนี้เพื่อปรับเปลี่ยนและนำไปสู่การวางรากฐานในอนาคต ความขัดแย้งก็ว่ากันไป แต่เราต้องทำต้องปฏิรูปและพัฒนาต่างๆ เพื่อวางรากฐานเอาไว้ ไม่เช่นนั้นลูกหลานจะอยู่ไม่ได้ในอนาคต 

อ้างยังเป็นทหารประชาธิปไตย
     ก่อนจบการบรรยาย มีนักศึกษา วปอ.คนหนึ่งสอบถามถึงความคาดหวังในการปฏิรูปและอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นในการปฏิรูป พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ที่ตนพูดมาทั้งหมดก็ล้วนแต่คาดหวัง ไม่เช่นนั้นสิ่งที่ทำมาจะเสียเปล่า แต่ขึ้นอยู่กับทุกคนในประเทศต้องช่วยกัน ซึ่งการปฏิรูปเรื่องใดที่ทำได้ ให้ทำก่อนเพื่อให้มีคนที่มีคุณภาพเข้ามาและลดความขัดแย้ง ปัญหาประเทศมาจากรัฐธรรมนูญที่ทำให้ติดขัดและไม่มีใครแก้ไขได้ จึงต้องใช้วิธีอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ เพื่อให้ทุกอย่างที่หยุดชะงักในช่วง 6 เดือนก่อนหน้านี้เดินหน้าได้ ตนต้องเข้ามาแก้ปัญหา เพราะยอมไม่ได้ที่จะให้ประเทศไทยเป็นแบบนี้ จึงจำเป็นต้องทำ
      นายกฯ กล่าวว่า ยืนยันตนเป็นนายทหารประชาธิปไตย เเต่ตนมีความจำเป็นต้องทำ ขณะที่การปฏิรูปในระยะสั้น ต้องดูว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดเผด็จการรัฐสภา การใช้อำนาจโดยไม่โปร่งใส ดังนั้น การบริหารจัดการเพื่อขับเคลื่อนประเทศจึงต้องเหนื่อย เพราะมีทั้งปัญหาเก่าที่หมักหมมและปัญหาใหม่ที่จะเป็นอุปสรรคในการเดินหน้า เราจึงต้องลดสิ่งเหล่านี้ลงไป

ประวิตรฮึ่มอยู่ 1 ปี-อย่าแสดงออก
       ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ ต่อต้านรัฐบาลว่า ไม่หนักใจและเชื่อว่าจะไม่บานปลาย ขณะเดียวกันยังไม่ต้องประเมินสถานการณ์ใดๆ เพราะมั่นใจว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจว่า คสช.และรัฐบาลทำอะไรอยู่ เราต้องการความปรองดอง ไม่ต้องการความแตกแยก ขอเวลาทำงานเพียง 1 ปี ให้สปช.ทำงานปฏิรูปประเทศจนถึงการเลือกตั้งทุกอย่างก็จบ
      ผมบอกแล้วว่า คิดได้ แต่อย่าแสดงออก ขอเวลา 1 ปี คสช.ก็บอกแล้ว ร้องเพลง ไม่นาน อย่าไปคิดมาก เชื่อว่าการแสดงสัญลักษณ์ต่างๆ นี้จะไม่ทำลายบรรยากาศการบริหารประเทศของรัฐบาล ยืนยันว่านายกฯสามารถเดินทางลงไปได้ทุกพื้นที่ เพราะไม่ได้ขัดแย้งกับใคร ซึ่งทั้งหมดทำเพื่อประเทศชาติ ไม่เห็นมีตรงไหนที่จะมาทำลายประเทศ เราทำด้วยความโปร่งใสชัดเจน" พล.อ.ประวิตรกล่าว 

บิ๊กป๊อกชี้เรื่องเล็กน้อย-ไม่มีปัญหา
      ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงภาพรวมการลงพื้นที่ตรวจภัยแล้งในพื้นที่ภาคอีสานร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ ถือว่าดี นายกฯพึงพอใจที่ได้พบประชาชนในพื้นที่ ส่วนที่มีกลุ่มนักศึกษาชูสัญลักษณ์ 3 นิ้วต่อต้านรัฐประหาร จะส่งผลต่อการลงพื้นที่ในครั้งต่อไปหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า เชื่อว่าไม่มีปัญหา เพราะไปที่ไหนย่อมต้องมีคนเห็นต่าง ซึ่งเราเข้าใจ การแสดงออกดังกล่าวเป็นเรื่องเล็กน้อย อย่าถือสา เรามีหน้าที่ทำความเข้าใจว่าเราทำอะไรอยู่ เราพยายามด้วยความมุ่งมั่น แก้ปัญหาเพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจที่ดีขึ้น เราไม่ได้ทำทุจริต เราเข้ามาในช่วงเวลาเท่านี้ ประเทศต้องเดินไปตามโรดแม็ป ต้องรอให้กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญทำรัฐธรรมนูญเสร็จ ทำกฎหมายลูกเสร็จถึงจะเลือกตั้งได้ 
      "ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การชูสามนิ้ว นัยที่เกิดขึ้นคือนายกฯ ไปพบประชาชน เมื่อเด็กเดินเข้ามาทำแบบนี้ ถามว่าจะให้ทำอย่างไร เจ้าหน้าที่ก็ต้องพาตัวออกไปใช่หรือไม่ หากยอมแล้ว อีกสีหนึ่งทำแบบนี้บ้างจะทำอย่างไร เห็นต่างได้แต่รัฐบาลไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ผมพูดกับนายกฯว่าประเทศกำลังมีปัญหา ภายใน 1 ปีนี้พยายามจะเขียนรัฐธรรมนูญ ให้เสร็จ แก้ไขปัญหาที่คั่งค้างให้เรียบร้อย แล้วให้คนใหม่เข้ามาทำต่อไป" พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวและว่า ส่วนการทำงานของกระทรวงมหาดไทย ตนพอใจทุกหน่วยงาน ซึ่งตนอยากใช้เวลา 1 ปีทำงานให้เกิดผลมากที่สุด

ผบ.ทร.ระบุคนไทยชื่นชอบรัฐบาล
      ที่กองทัพเรือ พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวา นิชย์ ผบ.ทร. กล่าวถึงพล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่จ.ขอนแก่นแล้วเกิดการต่อต้านว่า ถือเป็นเรื่องปกติที่มีความคิดที่ต่างกันอยู่เสมอ คิดว่าต้องใช้เวลาสักระยะในการแก้ปัญหา จริงๆ แล้วรัฐบาลให้โอกาสกับบุคคลที่เห็นต่าง อีกทั้งยังเปิดให้พรรคการเมืองร่วมแสดงความคิดเห็นต่อการร่างรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ขอให้มาร่วมมือกันดีกว่า เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้ ไม่ควรคิดแต่เรื่องในอดีต ไม่งั้นจะไม่สามารถลบภาพขัดแย้งเดิมๆ ได้
       เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่าจะเกิดกรณีเลียนแบบขึ้นในพื้นที่อื่นอีก พล.ร.อ.ไกรสร กล่าวว่า ตนไม่มั่นใจว่าจะมีลัทธิเอาอย่างอีกหรือไม่ แต่คิดว่าคนส่วนใหญ่เชื่อใจรัฐบาล เนื่องจากผลงานที่ผ่านมารัฐบาลแสดงให้เห็นแล้วว่าบริหารประเทศได้ดี โพลต่างๆ มีผลชี้วัดที่ออกมาส่วนใหญ่เป็นผลดี ฉะนั้นขอให้ช่วยกัน โดยเฉพาะสื่อต้องช่วยนำเสนอข่าวที่มีประโยชน์ต่อบ้านเมือง อย่านำเสนอข่าวในแง่ลบที่ไม่มีประโยชน์ต่อสังคม จะช่วยให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้

คณะบุคคล 102 คน-จี้เลิกอัยการศึก
      วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะบุคคล 102 คน ประกอบด้วยนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย นักเขียน กวี และ เจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชน ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ "ยกเลิกกฎอัยการศึก อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน" ผ่าน change.org เชิญชวนลงชื่อในแถลงการณ์ โดย เรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึกโดยเร็วที่สุด เนื่องจากตั้งแต่รัฐประหาร มีการปิดกั้นเสรีภาพทางวิชาการ และการเคลื่อนไหวในประเด็นปัญหาปากท้องของชาวบ้าน ล่าสุด มีการจับกุมนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น หลังแสดงออกไม่เอารัฐประหารที่จ.ขอนแก่น ต่อหน้านายกฯและหัวหน้า คสช. ทั้งที่เป็น กลุ่มนักศึกษาที่ลงพื้นที่เรียนรู้ปัญหากับชาวบ้านภาคอีสานตลอดหลายปีที่ผ่านมา 
      แถลงการณ์ระบุว่า ในนามของบุคคล นักวิชาการ นักเขียน นักกิจกรรมทางสังคมและตัวแทนองค์กรทางสังคมต่างๆ ขอประกาศแสดงจุดยืนและข้อเรียกร้องดังนี้ 1.ยกเลิกกฎอัยการศึกโดยเร็วที่สุด เพื่อปลดปล่อยสิทธิและเสรีภาพในการเคลื่อนไหวประเด็นปัญหาของประชาชน 2.เราเชื่อมั่นว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน อำนาจอื่นใดที่เข้ามาแย่งชิงอำนาจของประชาชน เราไม่ขอยอมรับอำนาจนั้น 3.ขอให้กำลังใจ ต่อนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายต่างๆ ของ คสช. ซึ่งการดำเนินคดีต่อนักศึกษาและประชาชนด้วยกฎอัยการศึก เป็นเรื่องที่เราไม่อาจยอมรับได้

ไม่เอาผิด - 5 นักศึกษากลุ่มดาวดิน ที่ชู 3 นิ้วประท้วงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เข้ารับฟังคำชี้แจงจากนายทหาร ที่สโมสรมทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร จ.ขอนแก่น ก่อนได้รับการปล่อยตัวไปโดยไม่ตั้งข้อหา เมื่อ 20 พ.ย.


เล็งปิดเฟซบุ๊ก-ทวิตเตอร์ทำเนียบ
       รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า คณะทำงานนายกฯได้วิเคราะห์เสียงสะท้อนของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล คสช. โดยเฉพาะ ต่อตัวพล.อ.ประยุทธ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้จากเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ไทยคู่ฟ้า ซึ่งพบว่ามีทั้งที่เห็นด้วยกับการทำงานของรัฐบาล และติติงวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งมีบางข้อความมีเนื้อหาโจมตีด้วยถ้อยคำรุนแรง จึงเชิญเจ้าหน้าที่และคณะทำงานที่ทำเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ มาหารือ เนื่องจากไม่อยากให้นำข้อความการแสดงความไม่เห็นด้วยออกสู่สาธารณะ แม้เนื้อหาแสดงความไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่ง ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ถูกวิจารณ์ผ่านเว็บดังกล่าว แต่คณะทำงานเห็นว่าทั้งเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์เป็นช่องหนึ่งที่จะประชาสัมพันธ์ผลงานให้ประชาชนทราบ จึงไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร
      ข่าวแจ้งว่า คณะทำงานของนายกฯและ ผู้บริหารสำนักเลขาธิการนายกฯ(สลน.) รวมทั้งสำนักโฆษกสำนักนายกฯ จึงพิจารณาแล้วเตรียมเสนอข้อมูลต่อพล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกฯ ในวันที่ 24 พ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาว่าถ้าหากเป็นผลเสียต่อรัฐบาลมากกว่าผลดี ควรปิดทั้งเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ไทยคู่ฟ้า แต่เบื้องต้นใช้วิธีการลดข้อความ ที่โพสต์ลง สำหรับเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ไทยคู่ฟ้านั้นเกิดขึ้นในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ช่วงปลายปี 2551 ปัจจุบันมีแฟนเพจกว่า 7 หมื่นคน 

ชาวนาร้องบิ๊กตู่ชะลอเก็บหนี้สิน
      ที่ศูนย์บริการประชาชน นายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมคมชาวนาและเกษตรกรไทย ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์เรียกร้องให้รัฐบาลบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนาด้วยการให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ชะลอการเรียกเก็บหนี้ไปอีกระยะ โดยระบุว่าปัจจุบันนี้ชาวนาขายข้าวไม่ได้ราคา ไม่พอกับต้นทุนการผลิต ไม่สามารถชำระใช้หนี้ให้แก่ธ.ก.ส. รวมทั้งหนี้ในและนอกระบบได้ อีกทั้งการที่ภาครัฐให้ชาวนนางดทำนาในช่วงฤดูแล้งนี้ทำให้ไม่มีรายได้มาชำระหนี้ ส่วนมาตรการช่วยเหลือให้ชาวนาไร่ละ 1 พันบาทนั้น ไม่สามารถทำให้ความเป็นอยู่ชาวนาดีขึ้นมาได้ เป็นเพียงการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงนึ่งเท่านั้น และเงิน 1 พันบาทต่อไร่ถือว่าน้อยไป 
     "อยากให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือเยียวยาชาวนาที่ขณะนี้เดือดร้อนอย่างหนัก แต่หากไม่ดำเนินการ ก็ไม่มั่นใจว่าชาวนาจะออกมาชุมนุมเรียกร้องหรือไม่" นายวิเชียรกล่าว 
      ขณะที่อุปนายกสมาคมชาวนา และเกษตรกรไทย จ.เชียงใหม่ และ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน มายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายกฯเพื่อให้แก้ปัญหาราคาข้าวเปลือกเหนียว สันป่าตอง 1 ที่มีราคาตกต่ำเหลือเพียงตันละ 7 พันบาท จากเดิมที่ควรได้ 8,000-9,000 บาท จึงอยากเรียกร้องให้นายกฯช่วยเหลือพยุงราคาข้าวให้แก่ชาวนาภาคเหนือตอนบนอย่างเร่งด่วน

ปชป.ขอเลื่อนให้ข้อมูลกมธ.ยกร่าง
      เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุม กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ มีนพ.กระแส ชนะวงศ์ รองประธานกมธ.ยกร่างฯ คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการเชิญพรรคการเมืองเข้าหารือ วันนี้มีตัวแทนจากพรรคมาตุภูมิ ประกอบด้วย นพ.อุดมศักดิ์ ศรีสุทิวา เลขาธิการพรรค และพล.ต. วีระศักดิ์ นาทะสิริ รองเลขาธิการพรรค เข้าร่วมหารือ 
        ต่อมาเวลา 12.30 น. พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ แถลงว่า พรรคมาตุภูมิเสนอให้วางกลไกป้องกันการทุจริต ให้คดีทุจริตไม่ควรมีอายุความ เพิ่มโทษผู้กระทำผิดเป็น 2 เท่า ส่วนการ เข้าสู่ระบบทางการเมืองโดยเฉพาะการ คัดเลือกนายกฯ มี 2 ความเห็น คือ ให้ทั้ง ส.ส.และส.ว. เป็นผู้เลือกบุคคลที่เป็น ส.ส. หรือส.ว. ขึ้นเป็นนายกฯได้ หรือให้ส.ส.และส.ว.คัดเลือกบุคคลภายนอกมาเป็นนายกฯได้ 
      พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า พรรคประชา ธิปัตย์แจ้งขอเลื่อนเข้าหารือในวันที่ 24 พ.ย. เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ติดภารกิจในต่างประเทศ เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมให้ความคิดเห็นต่อกมธ.ยกร่างฯใน 2 สัปดาห์นี้เแน่นอน ส่วนวันที่ 25 พ.ย. จะมีตัวแทนจากมวลชนกลุ่ม กปปส. พร้อมด้วยนายสุริยะใส กตะศิลา ตัวแทนจากมวลชนกลุ่มพันธมิตร เข้ามาแสดงความคิดเห็น

เผยเพื่อไทย-นปช.ไม่เข้าร่วมด้วย
       พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า ส่วนพรรคเพื่อไทยและกลุ่มนปช. คาดว่าจะไม่มาเข้าร่วมกับกมธ.ยกร่างฯอย่างแน่นอน เนื่องจากมีผู้ใหญ่ในพรรคไม่เห็นด้วย แต่กมธ.ยกร่างฯจะประสานขอความคิดเห็นจากพรรคเพื่อไทยและนปช.ในรูปแบบอื่นๆ ต่อไป โดยวันที่ 20 พ.ย.นี้ กมธ.ยกร่างฯได้ทำแบบสอบถามความคิดเห็นต่อการร่างรัฐธรรมนูญไปยัง 74 พรรคเรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญยังเป็นไปตามกำหนดการเดิม แม้จะไม่มีพรรคใหญ่บางพรรคเข้าร่วม โดยวันที่ 20 ธ.ค.จะยกร่างรัฐธรรมนูญรายมาตรา 
      นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ คนที่ 1 ในฐานะประธานกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ว่า กมธ.ยกร่างฯและอนุกมธ.ทั้งหมดต้องพูดคุยกันตั้งแต่วันที่ 2-9 ธ.ค. คาดว่าวันที่ 15-17 ธ.ค. กมธ.ปฏิรูปทั้ง 18 คณะ ต้องพิจารณารายละเอียดข้อเสนอก่อนส่งให้กมธ.ยกร่างฯ และภายในวันที่ 29 ธ.ค. ต้องได้กรอบยกร่างรัฐธรรมนูญ จากนั้นจะยกร่างรัฐธรรมนูญจริงๆ หลังปีใหม่ 

'บวรศักดิ์'เตรียมขอเข้าพูดคุย
       ส่วนการแต่งตั้งนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ทำหน้าที่ติดตามการยกร่างรัฐธรรมนูญนั้น นายบวรศักดิ์กล่าวว่า เป็นการแต่งตั้งเพิ่มเติมจากคณะที่ปรึกษาคสช. เดิมมีพล.อ.ประวิตร เป็นประธาน บวกนายมีชัย เข้ามาเพื่อเสนอขอแก้ไขเพิ่มเติม จึงต้องมีคนช่วยทำการบ้านเพิ่ม ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งเพื่อให้เข้ามาล้วงลูกในการยกร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนการทำกฎหมายลูกควบคู่กับการยกร่างรัฐธรรมนูญนั้น ยังไม่ขอพูดถึง ต้องรอดูรัฐธรรมนูญก่อน นอกจากนี้วิธีรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชน เห็นว่าควรใช้รูปแบบการทำงานของสถาบันพระปกเกล้า คือใช้วิธีการทางสถิติ และเชิญผู้เกี่ยวข้องและมีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามาตกลง โดยจะพูดถึงแต่อนาคต ไม่พูดถึงอดีต
     นายบวรศักดิ์ กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยระบุอาจไม่ร่วมแสดงความเห็นต่อกมธ. ยกร่างฯว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่มา เรามีวิธีที่จะได้ข้อมูล อาจเข้าไปหาพรรคเพื่อไทยด้วยตนเอง ตนอาจไปพบเองก็ได้ ส่วนที่พรรคอื่นจะไม่มาร่วมแสดงความเห็นด้วยนั้น ตนขอพิจารณาเป็นรายพรรค เช่น พรรคที่ชัดเจนว่าไม่ได้ต่อต้านการยกร่างรัฐธรรมนูญ ตนก็พร้อมไปรับฟังความเห็น แต่บางพรรคที่ต่อต้านชัดเจน คงไม่มีประโยชน์ที่จะไป

สนช.รับทราบ-ตั้ง 2 รมต.ใหม่
       เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม แจ้งให้ รับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายวิสุทธิ์ ศรี สุพรรณ รมช.คลัง และนายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมแจ้งให้ สมาชิกสนช.ที่ประสงค์จะตั้งกระทู้ถามสด ยื่นคำถามได้ตั้งแต่เวลา 08.30-09.00 น. ของ วันที่ 21 พ.ย. 
      จากนั้น พิจารณาร่างข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสนช. ที่วิปสนช.ในฐานะผู้รับผิดชอบร่างเสร็จแล้ว โดยมีสมาชิกสนช.อภิปรายอย่างกว้างขวาง อาทิ นายกล้านรงค์ จันทิก สมาชิกสนช. ตั้ง ข้อสังเกตว่า ข้อบังคับควรเขียนให้ชัดเจนมากกว่านี้ เช่นคำว่า มีความประพฤติเสื่อมเสีย เราจะเห็นเด่นชัดได้อย่างไรเพราะถ้าเขียนไว้แคบเกินไปจะมีผลกระทบขยับตัวไม่ได้เลย เช่น กำหนดว่าห้ามพบปะบุคคลภายนอก เป็นต้น ก่อนที่ประชุมจะมีมติเห็นชอบรับหลักการร่างข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรม ตามที่วิปสนช.เสนอ ด้วยคะแนน 178 ต่อ 1 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)สามัญ 17 คน ประกอบด้วยตัวแทนจากกมธ.สามัญประจำสนช. 16 คน และจากวิปสนช.อีก 1 คน

'ชู'ถือตะเกียงเข้าสภา-กังขาโรดแม็ป 
      วันเดียวกัน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย เดินทางมายังอาคารรัฐสภา พร้อมถือตะเกียงมาด้วย โดยระบุว่า บ้านเมืองกำลังมืดมิด จากเมื่อก่อน ที่เห็นแสงสว่างอยู่บ้าง จึงนำตะเกียงมา เพิ่มความสว่างให้บ้านเมือง และอยากฝากตะเกียงไปให้ประธานกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ และพล.อ.ประยุทธ์เพื่อให้ช่วยบ้านเมืองทำให้สว่างอีกครั้ง ทั้งนี้ ตนขอปฏิเสธที่จะเข้าร่วมแสดงความเห็นกับกมธ.ยกร่างฯเพราะร่างแล้วฉีก ฉีกแล้วร่างใหม่ ไม่เกิดประโยชน์
       "มีแต่คนหาว่าผมบ้าที่ไม่เข้าร่วม แต่ผมว่าคนที่มาประชุมบ้ากว่าผมอีก วันนี้บ้านเมืองมืดมิด พูดไม่ได้ จะเรียกประชุมพรรคยังไม่ได้ แล้วจะเอาสิทธิ์ที่ไหนมาประชุม กับกมธ.ยกร่างฯ จะเอามติหรือเอาความเห็นที่ไหนมาเสนอต่อกมธ.ยกร่างฯ ดังนั้น การประชุมข้างบนก็ประชุมเถื่อน เพราะพรรค มาโดยมติใครก็ไม่รู้ ไม่มีฐานความคิด จึง ขอตั้งฉายารัฐธรรมนูญนี้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับ หน้าขาว ฟันเหยิน" นายชูวิทย์ กล่าวและว่า ตนเห็นด้วยที่นายกฯไม่ยกเลิกกฎอัยการศึก ถ้าเลิกก็ยุ่ง เพราะขณะนี้ยังมีคลื่นใต้น้ำเคลื่อนไหวอยู่ 
      เมื่อถามว่า ออกมาพูดแบบนี้ไม่กลัวทหารเรียก นายชูวิทย์กล่าวว่า ตนรักทหาร ลูกชายก็เป็นทหาร แต่บังเอิญโรดแม็ปดันไปคล้ายกับโรดแม็ปของพระสุเทพ ปภากโร แกนนำ กปปส.ที่วางไว้เหมือนก๊อบปี้กันมา ถ้าเป็น กลางจริงๆ ทุกคนก็คงเห็นด้วย
วันทัพเรือ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ร่วมงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันกองทัพเรือ ครบรอบ 108 ปี ที่ห้องเจ้าพระยา หอประชุม กองทัพเรือ เมื่อวันที่ 20 พ.ย.

5 น.ศ.รายงานตัว-พ.อ.ชี้ถูกหลอก
      เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สโมสรนายทหาร มทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร จ.ขอนแก่น นาย จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา นายวสันต์ ไตรรัตน์รังสี นายเจตน์สฤษฏิ์ นามโคตร นายพายุ บุญโสภณ และนายวิชชากร อนุชน นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กลุ่มดาวดินที่แสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้วต่อต้าน นายกฯ พร้อมโชว์เสื้อยืดสีดำสกรีนข้อความ สีขาวคำว่า "ไม่-เอา-รัฐ-ประ-หาร" เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ขณะพล.อ.ประยุทธ์ขึ้นเวทีมอบนโยบายที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น และถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปสอบสวนที่ค่าย ศรีพัชรินทร ก่อนได้รับการปล่อยตัวเมื่อ ในค่ำวันเดียวกันนั้น ได้เดินทางมาพร้อม ผู้ปกครอง นายกิตติบดี ใยพลู คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และน.ส.ภาวิณี ชุมศรี ทนายความของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เข้าพบ พ.อ. สุรศักดิ์ สำราญบำรุง หน.กขว.มทบ.23 
      พ.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศเกิดความสับสนและเกิดปัญหามาก ทหารจึงต้องขอความร่วมมือทำตามกฎอัยการศึก เพื่อให้สังคมอยู่อย่างเป็นสุข เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นสิทธิของนักศึกษา แต่ช่วงนี้ขอให้เรียนให้ จบก่อน ค่อยคิดช่วยเหลือบ้านเมืองตามที่ใจต้องการ
      "ขอให้นักศึกษาหยุดการเคลื่อนไหวคัดค้านฝ่ายรัฐไปก่อน เพื่อไม่ให้เป็นขอนแก่นโมเดลเหมือนที่ผ่านมา เพราะทุกคนเป็นคนไทย อยู่ด้วยกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ การที่นักศึกษา 5 คนชู 3 นิ้วคัดค้านฝ่ายรัฐ เชื่อว่านักศึกษาถูกหลอกใช้ ซึ่งจะทำให้ ผู้ปกครองเสียใจในภายหลังถ้านักศึกษาเรียนไม่จบ และถูกดำเนินคดี ซึ่งฝ่ายทหารไม่ทำ พร้อมปล่อยตัวนักศึกษาทั้ง 5 คน" พ.อ.สุรศักดิ์กล่าว

'ดาวดิน'ยันไม่มีใครหนุนหลัง
     จากนั้น ได้ให้เจ้าหน้าที่นำตัวนักศึกษาพร้อมฝ่ายผู้ปกครอง และคณบดีคณะนิติศาสตร์ไปที่กองกิจการพลเรือน มทบ. 23 ค่ายศรีพัชรินทร โดยฝ่ายทหารสอบปากคำนักศึกษาทุกคน พร้อมให้เซ็นหนังสือยอมรับการแสดงออกในทางที่ไม่เหมาะสม เวลาผ่านไป 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารได้ปล่อยตัวนักศึกษาทั้ง 5 คน ท่ามกลางความดีใจของพ่อ แม่และญาติพี่น้องที่มารอต้อนรับในค่ายศรีพัชรินทร
      นายเจตน์สฤษฏิ์ กล่าวว่า การแสดงออกครั้งนี้มีนักศึกษาเห็นด้วยจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าพลังของนักศึกษายังไม่หมด โดยมีกลุ่มดาวดินเป็นจุดเริ่มต้น เรียกว่าเป็นขอนแก่นโมเดลก็ได้ การชู 3 นิ้ว พวกตนจับกลุ่มคิดกันเองก่อนที่นายกฯจะมาที่ขอนแก่น 2 วัน มีเสื้อยืดในกลุ่มดาวดินอยู่ที่บ้านและซื้อสติ๊กเกอร์ "ไม่เอารัฐประหาร" มาติดโดยแยกกันคนละคำ และมาแสดงออกต่อหน้านายกฯ ยืนยันพวกตนทั้ง 5 คน ทำด้วยตนเองไม่มีใครหนุนหลังตามที่ผู้ใหญ่บางคนเข้าใจผิดว่ามีคนหนุนหลัง ซึ่งพอใจเพราะมีผลเกินเป้าตั้งไว้แต่แรก

เคลื่อนไหวต่อ-ไม่รับอำนาจบิ๊กตู่
       ด้านนายจตุภัทร์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารเรียกพวกตนมาอธิบายว่าช่วงนี้เป็นคสช. ต้องดำเนินการแบบไหน พร้อมพยายามให้เชื่อตามฝ่ายของทหาร พวกตนยังยืนยันคำเดิมว่าไม่เชื่อ และยอมรับผลที่อาจจะเกิดขึ้นที่ต่อต้านคัดค้านพล.อ.ประยุทธ์ แม้จะขู่ว่าต้องออกจากสถานภาพนักศึกษา และถูกดำเนินคดีในช่วงที่มีคสช.อีกด้วย แต่ฝ่ายทหารก็ปล่อยตัวโดยมีเงื่อนไขเดียวว่าห้ามเคลื่อนไหวในค่ายทหาร ส่วนที่อื่นๆ ไม่ได้บอกและไม่มีห้ามเอาไว้ด้วย ยืนยันว่าจะเคลื่อนไหวต่อไป เพราะความถูกต้องจะต้องมี เมื่อกฎหมายออกมาไม่ยุติธรรม พวกเราต้องพร้อมแสดงออกโดยคัดค้านในรูปแบบใดแบบหนึ่ง เพราะไม่สามารถรับอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ว่ากรณีใดๆ
    นายจตุภัทร์ กล่าวว่า ที่มีข้อเสนอให้เซ็นรับทราบคือ 1.ยอมรับสิ่งที่เราทำ 2.ไม่เคลื่อนไหวไม่ทำกิจกรรมคัดค้านผู้นำประเทศ 3.ถ้าเคลื่อนไหวจะยอมรับในการดำเนินคดี ซึ่งพวกตนไม่เซ็นยอมรับใน ข้อห้ามของฝ่ายทหาร แต่ก็ได้รับการปล่อยตัวและไม่มีการดำเนินคดี ยืนยันว่าพวกตนจะเคลื่อนไหวคัดค้านผู้นำประเทศต่อไปเพื่อหาความยุติธรรมให้ได้ในที่สุด สังคมจะต้องไม่ถูกปิดหู ปิดตา เช่นทุกวันนี้ ซึ่งบอกไม่ได้ว่าจะนานเท่าไร

คณบดีนิติโล่ง-ไม่ดำเนินคดี
       นายกิตติบดี ใยพลู คณบดีคณะนิติศาสตร์ ม.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้ฝ่ายทหารและนักศึกษาทำความเข้าใจกันแล้ว ฝ่ายทหารได้ปล่อยตัวโดยไม่มีลงบันทึก หรือเซ็นหลักฐานใดๆ ไม่มีแจ้งความเพื่อดำเนินคดีอาญา แม้สิ่งที่นักศึกษาทำจะถูกมองว่าผิดกฎหมายก็ตาม แต่อยากให้ทหารและผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเข้าใจนักศึกษาด้วย เพราะถือเป็นสิทธิที่สามารถแสดงออกได้ 
       "นักศึกษาดังกล่าวมาเรียนหนังสือตามปกติ คิดว่านักศึกษามีความเข้าใจมากขึ้น แต่ถ้าออกมาเคลื่อนไหวอีก และทำผิดกฎหมาย ไม่ใช่บทบาทหน้าที่ของมหาวิทยาลัยจะต้องดำเนินการ แต่บทบาทหน้าที่ของรัฐบาลที่จะเอาผิดกับผู้กระทำผิดกฎหมายบ้านเมืองมากกว่า" นายกิตติบดีกล่าว

มธ.เสรีดูหนังที่พารากอนแทน
      เมื่อเวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนักศึกษากลุ่มธรรมศาสตร์เสรี เพื่อประชาธิปไตย นัดทำกิจกรรมแสดงสัญลักษณ์ที่บริเวณหน้าโรงภาพยนตร์สกาลา สยามสแควร์ หลังโรงภาพยนตร์สกาลาและลิโดยกเลิกการฉายภาพยนตร์เรื่องฮังเกอร์เกมส์รอบปฐมทัศน์วันเดียวกันนี้ 
      นายรัฎพล ศุภโสภณ ตัวแทนนักศึกษากลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย ชี้แจงถึงการจัดกิจกรรมดูภาพยนตร์เรื่อง ฮังเกอร์เกมส์ว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง และพร้อมแจกตั๋ว 160 ใบ ให้ผู้ที่ได้รางวัลจากการร่วมกิจกรรมในเพจกลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย เพื่อชมในห้างสรรพสินค้าพารากอนแทน เนื่องจากรอบภาพยนตร์ ที่โรงหนังสกาลาและลิโดถูกยกเลิก ส่วนการเชิญชวนแสดงกิจกรรมรำกระตั้วแทงเสือนั้น ไม่ต้องการให้เกี่ยวข้องกับการเมือง อีกทั้ง เจ้าหน้าที่ก็ไม่อนุญาตให้ชูสามนิ้วอยู่แล้ว และนายกฯพูดเองว่ารำกระตั้วไม่ผิด
      "ส่วนจะเป็นการโหนกระแสภาพยนตร์หรือไม่ แล้วแต่คนจะมอง เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง การทำแคมเปญการตลาดนั้นต้องทำตอนที่ภาพยนตร์เริ่มฉายซึ่งเป็นเรื่องปกติ และได้รับผลตอบรับอย่างดี ถ้าจะโหนกระแสทางการเมืองจริง อย่างกลุ่มกปปส.และนปช.ก็เคยโหนกระแสภาพยนตร์หลายเรื่อง สิ่งที่ทำยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง"นายรัฏพลกล่าว

สัมภาษณ์เสร็จ-พาไปสน.ปทุมวัน 
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายรัฎพล ให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว ให้นายรัฎพลขึ้นรถยนต์เพื่อไปพูดคุยที่สน.ปทุมวัน ซึ่งระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ได้ เชิญตัวนายกิตติธัช สุมาลย์นพ ที่เคยอ่านหนังสือ 1984 และกินแซนด์วิช ที่หน้า ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน และถูก เจ้าหน้าที่ทหารลากตัวหลังจากที่เกิดรัฐ ประหารใหม่ๆ ในขณะที่อยู่ในบริเวณเดียวกันไปที่สน.ปทุมวันด้วย 
      นายกิตติธัช ยืนยันว่า เดินทางมาเพื่อสอบถามทางโรงภาพยนตร์ว่าสามารถคืนตั๋วภาพยนตร์ได้หรือไม่เท่านั้น และจะไปดูภาพยนตร์ฮังเกอร์เกมส์ ที่ห้างสรรพสินค้าพารากอนต่อเท่านั้น ไม่ได้มาเพื่อทำกิจกรรมการเมือง ตนไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่จะจับตัวมาที่สถานีตำรวจด้วย
       จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนักศึกษามาที่สน.ปทุมวัน ก่อนสอบถามประวัติของนักศึกษาทั้งสองคน โดยมี เจ้าหน้าที่ทหารเข้าร่วมสังเกตการณ์ พร้อมบันทึกภาพ และภาพเคลื่อนไหวระหว่างที่นักศึกษาทั้งสองคนพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้อีกด้วย

ตร.ล็อกตัวน.ศ.หนุ่มสวยชู 3 นิ้ว
       ต่อเวลา 12.30 น. ที่หน้าโรงภาพยนตร์ พารากอนซีนีเพล็กซ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีนักศึกษาจากกลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชา ธิปไตยมายืนแจกตั๋วภาพยนตร์ฮังเกอร์เกมส์ ให้แก่ผู้ที่ได้รางวัลและประชาชนที่สนใจดูภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ท่ามกลางการเฝ้าจับตา ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบประมาณ 60 นาย อย่างไรก็ตาม มีวัยรุ่นซึ่งเป็นสาวประเภทสอง ได้ชูสามนิ้วขึ้นและกำลังเดินไปดูภาพยนตร์ ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปควบคุมตัวโดยทันที ทราบต่อมาว่า วัยรุ่นดังกล่าวชื่อ นายนัชชชา กองอุดม นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
       ต่อมาเวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายนัชชชา มาที่สน.ปทุมวัน เพื่อสอบสวนและบันทึกประวัติ โดยนายนัชชชากล่าวว่า วันนี้ได้รับตั๋วภาพยนตร์กับเพื่อนที่รู้จัก จึงมาดูหนังที่โรงภาพยนตร์เพียงคนเดียว เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้มีสิ่งที่ตรงกับสถานการณ์ในประเทศปัจจุบัน ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ แต่ ส่วนตัวมีแนวคิดในหลักการประชาธิปไตยเท่านั้น 
      "รู้อยู่แล้วว่า การชูสามนิ้ว จะทำให้โดนจับกุม ยืนยันไม่มีการวางแผนใดๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นสิทธิที่ประชาชนคนหนึ่งทำได้ ไม่ได้ผิดกฎหมาย" นายนัชชชากล่าว
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่มีการสอบสวน นายรัฎพล นายกิตติธีช และนายนัชชชานั้น มีเจ้าหน้าที่ทหารขอเข้ามาควบคุมตัวเพื่อ นำตัวไปปรับทัศนคติที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) สนามเป้า โดยนายนัชชชาได้ยินยอมไปแต่โดยดี ล่าสุด ทหารได้ยอมปล่อยตัวนายนัชชาออกมา 
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเว็บไซต์ เด็ก หลังห้องประชาไท รายงานว่าเมื่อเวลา 17.00 น. บริเวณสะพานลอย ฝั่งประตู 1 ถนนงามวงศ์วาน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบป้ายผ้าความยาวประมาณ 8 เมตร มีข้อความว่า"รัฐทหาร หยุด คุกคามนศ."
      เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักศึกษากลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิป ไตย ที่ถูกควบคุมตัวไว้ได้รับการปล่อยตัวแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ลงบันทึกประจำวันไว้ 

จี้ผู้บริหารมข.-คุ้มครอง 5 นักศึกษา 
      ด้านนางสุกัญญา เอมอิ่มธรรม ผอ.สถาบันสันติศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่าการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของนักศึกษา ม.ขอนแก่น เป็นไปอย่างสันติวิธี ไม่มีความรุนแรง สามารถทำได้และต้องได้รับการคุ้มครองตามมาตรา 4 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ที่ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพของประชาชน ดังนั้น การที่นักศึกษาที่ถูกควบคุมตัวระบุว่ามีการข่มขู่จะให้พ้นสภาพนักศึกษา หากไม่ลงนามให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ จึงถือว่าไม่เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล ผู้บริหารหรือคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย จำเป็นต้องออกมามีบทบาทต่อกรณีดังกล่าวให้ชัดเจนว่า สิ่งที่นักศึกษาอ้างเป็นจริงหรือไม่ เป็นคำสั่งจากเบื้องบนหรือไม่ ถ้าจริงก็ควรแสดงบทบาทเจรจาต่อรองคุ้มครองสิทธิเสรีภาพการแสดงออกของนักศึกษา
       "การกดไม่ใช่การแก้ปัญหาที่แท้จริง จึงจำเป็นต้องเปิดพื้นที่ให้ผู้เห็นต่าง การควบคุมตัวชาวบ้าน นักศึกษา ตลอดจนนักวิชาการ ไปพูดคุยไม่อาจแก้ไขปัญหาได้ ทั้งยังอาจทำให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยต่อแนวทางปฏิรูปที่ ยังอยู่ไม่มีความสงบรู้สึกว่าถูกบีบบังคับมากเกินไป จนออกมาเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นได้ ผู้บริหารประเทศจำเป็นต้องวิเคราะห์ต่อการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของประชาชนที่ไม่เห็นด้วยให้ดี เพราะหากปล่อยให้เหตุการณ์ดำเนินไปเช่นนี้ ก็มีความเสี่ยงจะทำให้สถานการณ์ลุกลามมากขึ้นได้" นางสุกัญญากล่าว 

'เอกชัย'เตือนรบ.อย่าทุบกระจก
      ด้านพล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผอ.สำนักสันติวิธี สถาบันพระปกเกล้า และรองประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงกรณีควบคุมตัวนักศึกษากลุ่มดาวดิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น 5 คน ชู 3 นิ้วต้านรัฐประหาร ต่อหน้าพล.อ. ประยุทธ์ ขณะลงพื้นที่จ.ขอนแก่นว่า สะท้อนภาพถึงความขุ่นข้องหมองใจของสังคมที่ ยังคงอยู่ จึงต้องแสดงความไม่พอใจออกมา เนื่องจากคนที่ไม่เห็นด้วยไม่มีพื้นที่แสดง ออก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าผ่านพ้นไปด้วยดี นักศึกษาใช้การแสดงออก ส่วนภาครัฐเข้าควบคุมตัวไปพูดคุย ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งการแก้ปัญหาสำหรับผู้ต่อต้านนั้น ภาครัฐจำเป็นต้องรับฟังด้วยความอดทน ไม่สร้างความตึงเครียดมากกว่านี้ ส่วนกมธ.ปฏิรูปด้านการเมืองก็เฝ้าดูสถาน การณ์ที่เกิดขึ้นตลอด ซึ่งกมธ.ต้องสร้างพื้นที่รับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชนให้มากกว่าเดิม
       "การแสดงออกของนักศึกษากลุ่มดาวดินเสมือนกระจกสะท้อนความเป็นจริงของสังคมออกมา ทางแก้ไขต้องไม่ใช่การไปทุบกระจกให้แตก แต่ต้องช่วยกันขัดกระจกให้สะอาดเพื่อเราจะได้เห็นภาพสะท้อนของแต่ละฝ่ายได้ดียิ่งขึ้น นับว่าดีที่พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่รับฟังความเห็นของประชาชน และจะดียิ่งขึ้นหากพล.อ.ประยุทธ์ไปพบประชาชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อจะได้รับรู้ว่าประชาชนมีความเห็นอย่างไร" พล.อ. เอกชัยกล่าว

เผยแม่น้ำ 5 สายหนุนประชามติ
      วันเดียวกัน นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลได้หารือร่วมกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และคณะกรรมการร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญ มีความเห็นร่วมกันว่า ควรต้องทำประชามติรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อให้ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย เพราะการร่างรัฐธรรมนูญเป็นการเขียนกฎหมายให้กับคนทั้งประเทศ ซึ่ง คสช. และรัฐบาล สามารถอ้างได้ว่าเป็นการทำเพื่อส่วนรวม
       นายสมหมาย กล่าวว่า จากการหารือ คาดว่าจะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี เพื่อ จะดำเนินการต่างๆ ให้เสร็จเรียบร้อย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้บอกกับทุกคนที่เข้าหารือว่า ให้เร่งรีบทำงานโดยไม่ต้องคำนึงว่าจะต้องให้ท่าน อยู่ในตำแหน่งนานๆ หากมีการดำเนินการด้านต่างๆ ได้เรียบร้อยก่อน 1 ปี ก็สามารถทำได้ 

'ธนะศักดิ์'เลี้ยงแนะนำตัว 48 ทูต
       เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 20 พ.ย. ที่วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ จัดงานเลี้ยงแนะนำตัวกับคณะทูตานุทูต ประจำประเทศไทย 48 ประเทศ ที่เดินทางมาพร้อมคู่สมรส และตัวแทนองค์การระหว่างประเทศในไทย มีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมข้าราชการระดับสูงของกระทรวง ให้การต้อนรับ
     พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวต้อนรับ พร้อมแนะนําตัวในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน และถือโอกาสบอกเล่าถึงพัฒนาการภายในประเทศของไทยต่อคณะทูตานุทูตประเทศต่างๆ และว่าขณะนี้ประเทศไทยกำลังดำเนินการตามแผนโรดแม็ปซึ่งอยู่ในช่วงการยกร่างรัฐธรรมนูญที่มุ่งให้เกิดการปฏิรูปประเทศในระยะยาวและทำให้เกิดประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน และยืนยันว่าจะไปพบปะกับต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอและพร้อมให้ความร่วมมือระหว่างกันทุกด้าน 
     ด้านนายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า แม้พล.อ.ธนะศักดิ์ จะรับตำแหน่งมากว่า 3 เดือนแล้ว แต่เนื่องจากติดภารกิจในต่างประเทศ วันนี้จึงถือโอกาสทำความรู้จักกับเอกอัครราชทูตต่างประเทศ 
      นายเสข ยังกล่าวถึงกรณีที่นักศึกษาไทยในฝรั่งเศส รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎอัยการศึกในประเทศไทยว่า ถือเป็นสิทธิของนักศึกษาไทยและชุมชนคนไทยที่อยู่ในต่างแดน ซึ่งมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น รวมทั้งยังสามารถมีส่วนในการปฏิรูปประเทศได้ โดยทางสถานเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทย จะรวบรวมนำความคิดเห็นจากการที่ได้พบปะและพูดคุยกับชุมชนไทยในประเทศต่างๆ นำมาเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)และสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) เพราะการรับฟังความคิดเห็นต้องฟังจากหลายฝ่าย รวมทั้งความคิดเห็นของชาวไทยในต่างแดนด้วย

'อรรถพล'ท่วม-ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ
      เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ห้องประชุม 301 สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด(อสส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เป็นประธานการนับคะแนนเลือกตั้งซ่อม ก.อ.สัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิ ที่เลือกจากข้าราชการอัยการชั้น 6 ขึ้นไป 1 ตำแหน่ง แทนนายเรวัตร จันทร์ประเสริฐ ซึ่งเดิมได้รับเลือกตั้งเป็น ก.อ.สัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิ แต่เมื่อนายเรวัตร ขึ้นเป็นรอง อสส. จึงทำให้ตำแหน่ง ก.อ.ในสัดส่วนดังกล่าวว่างลง การนับคะแนนเลือกตั้งซ่อมดังกล่าว ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น ปรากฏว่าจำนวนบัตรเลือกตั้งที่อัยการทั่วประเทศที่มีสิทธิลงคะแนนกว่า 3,100 คนนั้น ได้ลงคะแนนแล้วส่งกลับมาเพื่อตรวจนับมีกว่า 2,400 ใบ พบเป็นบัตรเสียกว่า 20 ใบ 
       ผลการนับคะแนน ปรากฏว่า นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อดีต อสส. ที่ถูกให้พ้นจากตำแหน่ง อสส. ในช่วงยึดอำนาจ คสช. ได้คะแนนสูงถึง 1,677 คะแนน ซึ่งเกินจำนวนกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิและผู้ลงคะแนน ขณะที่คู่แข่ง 2 ราย คือ น.ส.นิภาพร รุจนรงค์ ผู้ตรวจการอัยการ ได้ 620 คะแนน และนายสมชาย เก้านพรัตน์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีปกครอง ได้ 80 คะแนน 
        จากผลคะแนนเลือกตั้งดังกล่าว ทำให้นายอรรถพล ได้รับเลือกให้เป็นก.อ.สัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มาจากการเลือกตั้งข้าราชการอัยการ ทำให้องค์ประกอบ ก.อ.ครบเต็ม 15 คนแล้วปฏิบัติหน้าที่ตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ 2553 ต่อไป ซึ่ง ก.อ.จะมีอำนาจพิจารณาโยกย้ายข้าราชการอัยการตามวาระ 
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมก.อ.ดังกล่าว ทำให้จับตามองความเป็นเอกภาพในการบริหารงานของกาสำนักงานอัยการสูงสุดต่อไป เนื่องจากนายอรรถพล ที่พ้นจากตำแหน่งในช่วง คสช. ได้กลับมาลงแข่งขันเลือกตั้งเป็น ก.อ.สัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิ
      แหล่งข่าวอัยการ ตั้งข้อสังเกตว่า จากคะแนนที่ให้นายอรรถพล มากกว่า 1,600 คะแนน จะสะท้อนว่าอัยการยังคงสนับสนุนนายอรรถพล ในการปฏิบัติหน้าที่ แม้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ผ่านมาที่ดูเหมือนมีความพยายามแทรกแซงองค์กรอัยการ 

สมยศจี้สอบจอโฆษณาป้อมตร.
       เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการตรวจสอบกรณีการติดตั้งป้ายแอลอีดีโฆษณาของเอกชนที่ติดตั้งบริเวณป้อมตำรวจจราจรตามแยกต่างๆ ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล ว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. สั่งการให้ดำเนินการ 2 ส่วน ส่วนแรกที่มีสัญญากับเอกชน เป็นสัญญาในอดีต ที่ไปทำไว้กับเอกชนซึ่งยังคงมีผลผูกพันกันอยู่ มอบหมายให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. ไปพิจารณาในรูปคณะกรรมการว่ากรณีดังกล่าวเป็นการกระทำไปโดยชอบด้วยกฎหมายและเป็นการทำที่ถูกต้องหรือไม่ ในส่วนนี้ต้องรอผลการพิจารณาของคณะกรรมการชุดนี้ 
      ส่วนที่สอง เป็นกรณีที่ไม่มีสัญญากับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) หรือบช.น.ไม่เคยมีการสั่งการลงไปหรือรับรู้ ถือว่าไม่มีสัญญา หรือแม้ว่าจะมีการลงบันทึกกันกับสถานีตำรวจก็ถือว่าไม่ผูกพัน เพราะไม่ได้รับมอบอำนาจจากผบช.น. เพราะบางกรณีพบว่ามีการใช้ไฟฟ้าของทางราชการในป้อมของตำรวจจราจรด้วย หากพบกรณีแบบนี้ให้ดำเนินการรื้อถอนทันที ส่วนการดำเนินทางวินัยกับตำรวจที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว หากผลการพิจารณาพบว่ามีความบกพร่องก็ต้องรีบดำเนินการเช่นเดียวกัน

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!