WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8762 ข่าวสดรายวัน


'บิ๊กตู่'นำ 2 รมต.เฝ้าในหลวง 
เข้าถวายสัตย์ฯ นายกกราบทูล รายงานราชการ ล่ามือ'ใบปลิว'โปรยอนุสาวรีย์

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ นำนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง และนายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรฯ เฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ที่ร.พ.ศิริราช 

         นายกฯ นำ 2 รมต.ใหม่ วิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ-อำนวย ปะติเส เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนรับตำแหน่ง "บิ๊กตู่" ได้ถวายรายงานราชการนาน 40 นาที มือมืดโปรยใบปลิวต้านรัฐประหาร-คสช. เกลื่อนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผบ.ทบ.บิ๊กโด่งสั่งสอบหาต้นตอทั้งใบปลิวกลางกรุง-พ่นสเปรย์เชียงราย ระบุไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่ให้ความสำคัญ หวั่นพฤติกรรมเลียนแบบ วอนอาจารย์-ผู้ปกครองทำความเข้าใจนักศึกษา "ยงยุทธ" ตีความชู 3 นิ้วหมายถึงชาติ ศาสน์ กษัตริย์ "ปนัดดา" กลัวฮอลลีวู้ดหัวเราะเยาะคนไทยชู 3 นิ้ว เพื่อไทยแนะ คสช.รอมชอมอย่าถือสานักศึกษา เผยเหตุสถานการณ์บ้านเมืองกดดันสร้างความอึดอัด หวั่นสอยส.ว.-ส.ส.ปมขัดแย้งรอบใหม่ สวน สนช.ถ้าเขียน รธน.ดีอย่ากลัวแก้ ภูมิธรรมรอฟังกรรมาธิการยกร่างฯ หาทางออกเปิดรับความเห็น ปัดข่าวบวรศักดิ์นัดเข้าหารือ ป.ป.ช.เตรียมยื่น สนช.สอย 38 ส.ว.ปมแก้รธน.

นายกฯนำ 2 รมต.ใหม่ถวายสัตย์

      พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จลงจากที่ประทับชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ไปยังห้องประชุมสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ เมื่อเวลา 16.52 น. วันที่ 23 พ.ย. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำรัฐมนตรีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเพิ่มเติม จำนวน 2 คน ได้แก่ นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง และนายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ เฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ โอกาสนี้นายอำพล กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรีร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย

    หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกรัฐมนตรีเฝ้าฯ กราบบังคมทูลรายงานข้อราชการเป็นการส่วนพระองค์นาน 40 นาที

ใบปลิวลึกลับว่อนอนุสาวรีย์ปชต.

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 05.00 น. วันเดียวกัน เกิดเหตุผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนรถ สวมหมวกกันน็อกโปรยใบปลิวจำนวนหนึ่งบริเวณหน้าร้านอาหารศรแดงตรงข้ามอนุสาวรีย์ประชาธิป ไตย ถนนราชดำเนินนอก เขตพระนคร ใบปลิวดังกล่าวมีข้อความโจมตีรัฐบาลและคสช. รวมถึงเรียกร้องให้ยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญ ราษฎร์เก็บใบปลิวทั้งหมดออกแล้ว พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อเร่งหาตัวผู้โปรยใบปลิวมาดำเนินการต่อไป

ตร.เช็กเส้นทางตามล่าจยย.มือมืด

       เวลา 16.00 น. พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผกก.สน.สำราญราษฎร์ กล่าวว่า สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดไล่จากบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิป ไตยไปยังศาลเจ้าพ่อเสือ ซึ่งมีกล้องวงจรปิดตามเส้นทางกว่า 20 ตัว จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อเวลา 05.00 น.ที่ผ่านมา พบผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะก่อเหตุเป็นชายสวมหมวกกัน น็อกสีขาว สวมเสื้อสีดำ กางเกงยีนส์ ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดป้ายทะเบียนเป็นยานพาหนะ บริเวณตะกร้าหน้ารถมีกระดาษสีขาว ขับขี่มาคนเดียวใช้เส้นทางออกมาจากสี่แยกคอกวัววนรถรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก่อนโปรยใบ ปลิว ต่อมาขี่รถวนกลับสี่แยกคอกวัวเลี้ยวซ้ายเข้าถนนตะนาว มุ่งหน้าศาลเจ้าพ่อเสือ เลี้ยวขวาเข้าตรอกเสถียร ถึงศาลมุ่งหน้าไปทาง รร.39 ก่อนหายตัวไป 

ทหาร-ตร.สนธิกำลังเฝ้าจับตา

      พ.ต.อ.สมชาย กล่าวต่อว่า ข้อความในใบปลิวนั้นเป็นข้อความเชิงโจมตีการทำงาน ของคสช. และต่อต้านการรัฐประหาร เขียนด้วยลายมือ ทั้งนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมามีกลุ่มนักศึกษาเดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณ ดังกล่าวท่าม กลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ หลังจากกลุ่มนักศึกษาแยกย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ก็ถอนกำลังในเวลา 03.00 น. ก่อนจะเกิดเหตุดังกล่าว คาดว่าคืนวันเดียวกันนี้เจ้าหน้าที่ทหารจะสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. สำราญราษฎร์เฝ้าติดตามการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้น

บิ๊กโด่งสั่งสอบใบปลิว-พ่นสเปรย์

     ที่กรมการขนส่งทหารบก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีใบปลิวดังกล่าวและการพ่นข้อความโจมตีรัฐบาลในพื้นที่ จ.เชียงราย ว่า ได้รับรายงานแล้วและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ติดตามสืบสวนสืบหา ใครก็ตามหากอยู่ในข่ายกระทำผิดต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตามถือเป็นสิทธิในการแสดงข้อคิดเห็น โดยเป็นข้อคิดเห็นของคนที่ยังไม่เข้าใจการปฏิบัติงานของรัฐบาล ขอฝากให้ช่วยกันทำความเข้าใจในเรื่องที่ผ่านมาและการดำเนินงานของรัฐบาลที่เป็นไปตามขั้นตอนที่นายกรัฐมนตรีระบุไว้ ทุกภาคส่วนควรเข้าใจในเรื่องนี้และช่วยกันประคับประคอง

ไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่ให้ความสำคัญ

       "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่คงต้องให้ความสนใจว่าเกิดความคิดเห็นอะไรขึ้นอย่างไร บางจุดเป็นเรื่องของนักศึกษาในพื้นที่จังหวัดนั้นๆ ต้องดูไปถึงว่ามีผู้เกี่ยว ข้องในเชิงลึกลงไปอย่างไรหรือไม่ หากเป็นเยาวชน นิสิตนักศึกษา อยากฝากไปยังผู้ปกครอง ครูอาจารย์ที่มีโอกาสดูแลได้ทำความเข้าใจกับนักเรียน นิสิต นักศึกษาเหล่านี้ ผมยังถือว่าเป็นเรื่องความบริสุทธิ์ที่นิสิตนักศึกษายังอยู่ในวัยที่น่าจะได้รับคำชี้แจงรับคำแนะนำที่ถูกต้อง เราคงไม่ลืมว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.นั้น ถ้าคสช.ไม่เข้ามาดำเนินการประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ในขณะนั้นทหารได้รับการเรียกร้องให้ออกมาดูแลประเทศ ดูแลความสงบสุขของคนในชาติ และมีเรื่องราวที่มีโอกาสจะทำให้เกิดวิกฤตที่สุดถ้าไม่เข้ามาดำเนินการ ขอให้ทำความเข้าใจกับนิสิตนักศึกษาเหล่านั้นด้วย ช่วยกันประคับประคองให้การดูแลชาติของรัฐบาลเป็นไปตามขั้นตอน แล้วในโอกาสต่อไปเราจะได้มีรัฐบาลที่มาจากขั้นตอนที่ถูกต้อง ผมเองไม่ต้องการให้เกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผู้อยู่เบื้องหลังอย่างไร ต้อง การให้เกิดการต่อต้านแบบค่อยเป็นค่อยไปและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หรือไม่นั้น ถ้าเป็นเช่นนั้นทุกคนลองคิดดูว่ากำลังทำให้ประเทศไม่สามารถยืนอยู่ในประชาคมโลกได้และถอยหลังลงไปอีก" ผบ.ทบ.กล่าว

รับหวั่นพฤติกรรมเลียนแบบ

       ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อมูลหรือไม่ว่ามีคนอยู่เบื้องหลังการโปรยใบปลิว พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ ขอร้องว่าอย่าได้มีเลย เพราะคงต้องเข้ามาดูแล แม้จะเป็นเรื่องเล็กแต่ตนให้ความสนใจและต้องดูแลในรายละเอียดกันต่อไป ต่อข้อถามว่าห่วงพฤติกรรมเลียนแบบหรือไม่ พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า เป็นไปได้แต่ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น คงต้องขอร้องให้ช่วยกันทำความเข้าใจ รัฐบาลพยายามประคับประคองจนทุกคนรู้สึกว่าบ้านเมืองเป็นปกติ แต่ความจริงขณะนี้ยังอยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติ แต่รัฐบาลทำให้ปกติขึ้นมาก็ดีแล้ว ต่อข้อถามอีกว่า กำชับกองทัพภาคที่ 3 อย่างไรกรณีที่มีการพ่น สเปรย์ต้านรัฐบาลในขณะที่ รมว.มหาดไทยลงพื้นที่ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีเตรียมลงพื้นที่ภาคเหนือเร็วๆ นี้ พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า ตนกำชับแม่ทัพภาคที่ 3 ไปแล้วว่าต้องดูแลให้เรียบร้อย

      เมื่อถามว่า ภาพยนตร์ฮังเกอร์เกมส์มีผล กระทบต่อความมั่นคงหรือไม่ ผบ.ทบ.กล่าวว่า จะเป็นการเลียนแบบต่อๆ ไป ช่วยกันอย่าให้เป็นเช่นนั้น ผู้ปกครองนิสิตนักศึกษาต้องช่วยกันดูแล ทำความเข้าใจ อย่าให้เกิดในวงกว้างขวางขึ้นและเกิดความไม่เรียบร้อยขึ้นได้

วินธัยซัดอคติ-ไม่สร้างสรรค์

    พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีใบปลิวว่า การกระทำต่างๆ เพื่อต่อต้านหรือโจมตีรัฐบาลและ คสช.นั้น ทาง คสช.คาดการณ์เอาไว้อยู่แล้ว ยืนยันว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ การกระทำดังกล่าวเป็นการแสดงออกที่ไม่สร้างสรรค์ มีเนื้อหาในลักษณะการกล่าวหาบิดเบือน ทำขึ้น โดยใช้อารมณ์ส่วนบุคคลในมุมมองอคติ สำหรับผลกระทบจะทำให้บ้านเมืองสกปรกไม่สวยงามและไม่น่าจะเกิดประโยชน์ใดๆ ต่อสังคมอย่างแท้จริง ผู้เห็นต่างที่ยังไม่เข้าใจ คสช.คงพยายามหาโอกาสแสดงออกในรูปแบบต่างๆ อยากขอให้คำนึงถึงเป้าประสงค์ที่สังคมส่วนใหญ่ต้องการด้วย เชื่อว่าส่วนใหญ่เวลานี้ประชาชนทั่วไปต้องการให้ประเทศพัฒนาและเดินไปข้างหน้าโดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมกัน หากผู้เห็นต่างมีความตั้งใจจริงในการเสนอความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติยังมีช่องทางที่เหมาะสมในระบบมากมายที่ทำได้


เกลื่อน- ใบปลิวต่อต้านกฎอัยการศึก ตกเกลื่อนรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน กทม. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. สั่งตรวจสอบที่มาของใบปลิว และ หาตัวการพ่นข้อความโจมตีรัฐบาลที่ จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 23 พ.ย.

ไก่อู ขอกำลังใจให้รบ.-หยุดต้าน

      พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมน ตรี และรมว.กลาโหม สั่งการให้สืบหาผู้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวรูปแบบต่างๆ เพื่อแสดงการต่อต้านรัฐบาลและ คสช.ว่า เป็นธรรมดาที่ฝ่ายความมั่นคงต้องดำเนินการ ดังกล่าว เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติ รัฐบาลมีหน้าที่ต้องเดินไปตามโรดแม็ป อะไรที่ทำให้การดำเนินงานตรงนี้ติดขัดเราต้องติดตาม เฝ้าสังเกตแล้วชี้แจงทำความเข้าใจกันเป็นระยะๆ รัฐบาลและ คสช.ติดตามข่าวสารที่มีผลกระทบกับความมั่นคงในแบบที่ไม่ทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่ไม่ปล่อยให้เรื่องใหญ่ลุกลามบานปลายออกไป ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังมุ่งให้ความสำคัญในการพัฒนาประเทศและแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ขอวิงวอนทุกฝ่ายว่าบ้านเมืองเรามีความเสียหายและเดิน ไปอย่างเชื่องช้าทั้งในเรื่องประชาธิปไตย เศรษฐกิจ และการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนนานแล้ว จึงขอให้ทุกฝ่ายยับยั้งชั่งใจ หยุดกระทำการต่างๆ ที่เป็นการต่อต้าน แล้วมาเป็นกำลังใจให้รัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ในประเทศดีกว่า

ยงยุทธ แนะคนต้านดูให้รอบคอบ

      ที่โรงแรมเดอะสุโกศล นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปฏิกิริยาของกลุ่มนักศึกษาหลายแห่งแสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้วต้านรัฐประหารว่า เป็นการแสดงออกของกลุ่มคน ไม่เกี่ยวกับสถานศึกษา แต่เป็นเรื่องที่ต้องคุยกันว่าขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ปกตินัก ยังไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับถาวร เรากำลังพยายามไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับถาวรเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามประชาธิปไตยปกติ ดังนั้น เวลาจะประท้วงหรือแสดงความไม่พอใจอะไรควรดูให้รอบคอบ ไม่ให้เกิดความปั่นป่วนหรือความโกลาหลในสังคมเหมือนช่วงก่อนรัฐประหาร แต่ละคนต้องช่วยกันคุม เหมือนกับเรือเพิ่งผ่านพายุมาต้องช่วยกันดูอย่าให้ล่ม

เปรียบชู 3 นิ้วชาติศาสน์กษัตริย์ 

       ต่อข้อถามว่ากังวลจะเกิดปรากฏการณ์เลียนแบบในสถานศึกษาหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สถานศึกษาเป็นสถานที่ที่มีคนหนุ่มคนสาวจำนวนมาก ไม่เกี่ยวกับสถาบันการศึกษา พอเขารู้สึกอย่างไรจึงแสดงออกมาเท่านั้นเอง อย่าไปตีความอะไรมาก สำหรับปัญญาชนอยากให้เสนอความเห็นอย่างสร้างสรรค์ ถ้าเป็นอย่างนั้นไม่มีปัญหา และการแสดงสัญลักษณ์ด้วยการชู 3 นิ้ว สำหรับตนหมายถึงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เรื่องสัญลักษณ์แล้วแต่แต่ละคนจะคิดกันไป ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เป็นเพียงสัญลักษณ์เท่านั้น สำหรับการประสานไปยังอธิการบดีมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อให้ช่วยชี้แจงนั้นต้องแล้วแต่พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งอาจดำเนินการได้หากเรื่องชักจะบานปลาย ส่วนกรณีนักศึกษา 5 คนที่แสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้วระหว่างพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ลงพื้นที่จ.ขอนแก่นจะพักการเรียนนั้นยอมรับว่าเป็นห่วงในระดับหนึ่ง

การข่าวเผยเคลื่อนไหวเป็นระยะ

      นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ในขณะนี้ว่า ด้านการข่าวประเมินว่าการจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่างๆ จะเกิดขึ้นเป็นระยะๆ เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงการปฏิรูป ผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวมีทั้งกลุ่มที่เคลื่อนไหวด้วยความบริสุทธิ์ใจตามอุดมการณ์และความเชื่อ และกลุ่มที่ฉวยโอกาสทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งวิธีดำเนินการกับกลุ่มต่างๆ นั้นมีหลากหลายรูปแบบ แต่ทั้งหมดต้องเน้นการทำความเข้าใจเป็นหลัก พล.อ.ประยุทธ์เองไม่ได้ปิดกั้นการทำกิจกรรม แต่ต้องดำเนินการตามความเหมาะสม หากจะทำกิจกรรมอะไรให้ขออนุญาตเข้ามา

ปนัดดากลัวฮอลลีวู้ดหัวเราะ

      ที่สถานสงเคราะห์เด็กบ้านราชวิถี เขตพญาไท ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดนั้นมีหลากหลายรสชาติ ไม่น่าจะเอาเรื่องของภาพยนตร์มาเป็นเรื่องจริงจังในการสร้างความแบ่งแยกของพวกเราซึ่งเป็นชนชาติไทยเดียวกัน เกรงว่าฮอลลีวู้ดจะหัวเราะเยาะเอา เพราะหนังที่เขาสร้างขึ้นมามีอยู่เพียงฉากเดียวที่มีการชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว ส่วนความหมายจะเป็นเช่นไรนั้นก็คือหนังฮอลลีวู้ด ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่สร้างความแบ่งแยกของคนในชาติ เรารักกันดีกว่า พยายามทำความเข้าใจและท้ายที่สุดจะเกิดความร่มเย็นแก่สังคมไทย

พท.วอนคสช.รอมชอมอย่าถือสา

     นายวรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้สร้างความอึดอัดให้กับประชาชนเพิ่มมากขึ้น หลายภาคส่วน เช่น สถาบันการศึกษา องค์กร รวมทั้งพรรค การเมือง ถูกสั่งห้ามเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมทางการเมืองกันหมด เมื่อไม่สามารถแสดงความคิดเห็นในสถานการณ์ที่พวกเขารู้สึกถูกคุกคาม กดดัน ประกอบกับปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้า มีแต่ปัจจัยด้านลบ จึงทำให้กลุ่มนักศึกษาหรือภาคประชาชนแสดงออกโดยการชู 3 นิ้วเพื่อระบายออกบ้าง อยากให้ คสช.และเจ้าหน้าที่รอมชอมและอย่าถือสา ไม่ใช่เอะอะก็จับกุมตัวไปปรับทัศนคติ หากประชาชนทนไม่ไหวออกมาชู 3 นิ้วกันทั้งประเทศจะทำอย่างไร 

หวั่นสอยส.ว.-ส.ส.ปมขัดแย้งใหม่

     อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทยกล่าวต่อว่า อีกหนึ่งปัจจัยด้านลบที่สำคัญและกำลังจะนำไปสู่ความขัดแย้งในประเทศรอบใหม่คือกรณีที่ป.ป.ช.พิจารณาเดินหน้าถอดถอนอดีตส.ส. และส.ว.กว่า 300 คนกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งที่พวกเราได้รับฉันทามติจากประชาชน 16 ล้านคนที่เลือกเข้ามา โดยเราหาเสียงไว้ว่าจะเข้ามาแก้ไขรัฐธรรมนูญ สุดท้ายกลายเป็นว่าพวกเราเป็นฝ่ายล้มล้างการปกครอง และจะส่งให้ สนช.ซึ่งมาจากการยึดอำนาจเป็นฝ่ายถอดถอนพวกเราซึ่งมาจากการเลือกตั้งอีก ป.ป.ช.ควรเอาเวลาไปจัดการคดี ปรส.สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ที่ทำให้ประเทศชาติเสียหายกว่า 8 แสนล้านบาทจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นประชาชนอาจมองว่าป.ป.ช. สองมาตรฐาน กระเหี้ยนกระหือรือสนองตัณหาตัวเองด้วยการจ้องแต่ทำลายพรรคเพื่อไทยเพียงฝ่ายเดียว "สุดท้ายการยึดอำนาจของ คสช.ก็จะเสียของ หากปล่อยให้ป.ป.ช.ทำลายพวกเราอยู่ฝ่ายเดียว หากพล.อ.ประยุทธ์อยากจะสร้างความปรองดองจริงๆ ต้องทำให้เห็นโดยเริ่มจากการปรามป.ป.ช.ให้ใช้อำนาจในทางที่ชอบด้วย" นายวรชัยกล่าว

นปช.แนะเปิดกิจกรรมความคิด

     นายศิริวัฒน์ จุปะมัดถา ผู้ประสานงานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พะเยา กล่าวว่า จากสถาน การณ์ในขณะนี้ที่มีกลุ่มต่างๆ แสดงออกถึงการคัดค้านรัฐประหารและพยายามเรียกร้องเสรีภาพทางความคิดมากขึ้น โดยการแสดง ออกเชิงสัญลักษณ์ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป อาจเป็นผลมาจากที่รัฐบาลขอความร่วมมือประชาชน สื่อมวลชนในเรื่องการหลีกเลี่ยงหรืองดวิพากษ์วิจารณ์ แสดงความคิดเห็นต่างๆ มากเกินไป จนกลายเป็นการเพิ่มความอึดอัดของผู้ที่ต้องการแสดงความคิดเห็นขึ้นมาแทนที่หรือไม่ เนื่องจากธรรมชาติของมนุษย์หากถูกห้ามหรือขอมากเกินไปในสิ่งที่ฝืนความรู้สึกจะไม่สามารถทนได้ในเวลาที่ยาวนาน

       ผู้ประสานงานกลุ่ม นปช.พะเยา กล่าวต่อว่า หากเป็นไปได้อยากให้รัฐบาลและคสช.เปิดโอกาสให้ผู้อื่นหรือกลุ่มต่างๆ แสดงความคิดเห็นหรือมีกิจกรรมเชิงความคิดบ้าง รัฐบาลและคสช.มีกำลังเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่รักษาความสงบอยู่ในมือเต็มที่ จึงไม่ควรกลัวว่าจะมีใครหรือกลุ่มคนใดมาก่อความวุ่นวาย เพราะในเชิงยุทธศาสตร์ด้านจิตวิทยาผู้ที่ยิ่งปิดกั้น ผู้อื่นทุกช่องทางเสมือนหนึ่งว่าผู้นั้นกลัวและอ่อนไหวต่อสิ่งรอบข้างมาก "หากรัฐบาลใจกว้างให้ประชาชนหรือกลุ่มต่างๆ มีโอกาสแสดงความคิดเห็นและเวทีสาธารณะที่เป็นประโยชน์ จะช่วยทำให้กระบวนการปฏิรูปประเทศเดินหน้าไปได้อย่างไม่มีข้อกังขา เนื่องจากแสดงถึงความเข้าใจและให้เกียรติประชาชนแต่ละกลุ่ม ซึ่งรัฐบาลและ คสช.จะได้รับเกียรติและความเข้าใจจากทุกกลุ่มตอบกลับมาด้วย" นายศิริวัฒน์กล่าว


คนดีเด่น- นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ รับมอบเข็มทองคำเชิดชูเกียรติคุณนักเรียนทุนรัฐบาลไทยดีเด่น ประจำปี 2557 จากนายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกฯ ที่โรงแรมเดอะสุโกศล เมื่อวันที่ 23 พ.ย.

โพลค้านน.ศ.เคลื่อนไหวต้าน

      วันเดียวกัน สวนดุสิตโพลเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน กรณีนักศึกษาสวมเสื้อไม่เอารัฐประหาร ชู 3 นิ้ว ต่อหน้า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อข้อถามถึงความเห็นกรณีนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นชู 3 นิ้วต่อหน้าพล.อ.ประยุทธ์ อันดับ 1 ร้อยละ 79.26 เห็นว่าสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ปกติ ไม่ควรออกมาเคลื่อนไหวในช่วงนี้ อันดับ 2 ร้อยละ 66.13 ระบุควรแสดงออกอย่างสร้างสรรค์โดยผ่านช่องทางอื่นๆ ที่เหมาะสม อันดับ 3 ร้อยละ 58.29 เห็นว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล สามารถทำได้ 

      เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความปรองดองที่ คสช.และรัฐบาลพยายามสร้างอยู่หรือไม่ อันดับ 1 ไม่เป็นอุปสรรค ร้อยละ 56.61 เพราะมั่นใจว่าทั้ง คสช.และรัฐบาลควบคุมสถานการณ์ได้ อันดับ 2 เป็นอุปสรรค ร้อยละ 43.39 เพราะอาจจุดกระแสให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับ คสช. และรัฐบาล ออกมาเรียกร้องหรือเคลื่อนไหว มากขึ้น 

      สำหรับ ความเห็นต่อเหตุการณ์นักศึกษา ชู 3 นิ้ว คิดว่าจะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองไทยเป็นอย่างไร อันดับ 1 เหมือนเดิม ร้อยละ 50.69 เพราะคนเบื่อปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง สนใจเรื่องความเป็นอยู่ปากท้องของตนเองมากกว่า อันดับ 2 ร้อนแรงขึ้น ร้อยละ 28.11 เพราะมีผู้ไม่เห็นด้วยออกมาเคลื่อนไหวมากขึ้น อันดับ 3 ไม่ร้อนแรง ร้อยละ 21.20 เพราะบ้านเมืองในขณะนี้อยู่ภายใต้กฎอัยการศึก น่าจะควบคุมได้ 

ชู 3 นิ้วสะท้อนปัญหาการเมืองยังอยู่

      ต่อข้อถามว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการกระทำของนักศึกษาดังกล่าว อันดับ 1 เฉยๆ ร้อยละ 49.31 อันดับ 2 ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 37.10 อันดับ 3 เห็นด้วย ร้อยละ 13.59 เมื่อถามถึงบทเรียนที่ได้จากการประท้วงชู 3 นิ้ว ให้อะไรกับสังคมไทยบ้าง อันดับ 1 แสดงให้เห็นว่าการรัฐประหารมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ควรเร่งชี้แจงทำความเข้าใจ ร้อยละ 71.89 อันดับ 2 ทุกคนมีสิทธิแสดงความคิดเห็น แต่ต้องปฏิบัติอย่างถูกต้องและอยู่ภายใต้กฎหมาย ร้อยละ 70.51 อันดับ 3 ปัญหาทางการเมืองยังคงก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม ร้อยละ 62.44

อนุกมธ.แก้รธน.วางกรอบอำนาจรัฐ

       นายไพบูลย์ นิติตะวัน คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ในฐานะประธานคณะ อนุกรรมาธิการพิจารณากรอบการจัดทำรัฐธรรมนูญ คณะที่ 8 ว่าด้วยนิติธรรม ศาล และการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 24 พ.ย.นี้ อนุกรรมาธิการจะประชุมเพื่อวางกรอบการจัดทำรัฐธรรมนูญในประเด็นเนื้อหาสาระเกี่ยวกับการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐว่าจะต้องตรวจสอบเรื่องใด ตรวจสอบใครและใช้กลไกใด จากนั้นจะเข้าสู่การพิจารณาเนื้อหาสาระในส่วนขององค์กรอิสระและองค์กรตามรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการตั้งสภาตรวจสอบภาคประชาชน 77 จังหวัดว่ารูปแบบการดำเนินงานและกรอบอำนาจหน้าที่ควรเป็นอย่างไร และหน่วยงานใดจะเข้ามาทำหน้าที่เป็นหน่วยงานธุรการช่วยประสานการทำงาน

หนุนพรรคการเมืองร่วมให้ความเห็น

       นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่าสำหรับความคืบหน้าการเชิญพรรคการเมืองและกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมืองมาเสนอความคิดเห็นต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญนั้นทราบว่าในช่วงเช้าวันอังคารที่ 25 พ.ย. ทาง กปปส.จะส่งตัวแทนเข้ามาหารือกับกรรมาธิ การยกร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนพรรคเพื่อไทยประสานมาว่าจะส่งผู้บริหารระดับสูงซึ่งมีบทบาทสำคัญของพรรคมาเป็นตัวแทนเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการยกร่างรัฐธรรมนูญ จะเป็นวันและเวลาใดนั้นอยู่ระหว่างการประสานงาน การที่พรรคการเมืองและกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมืองร่วมมือมาเสนอความคิดเห็นต่อกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเรื่องที่ดีและเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่ายมาก เพราะความเห็นและข้อมูลที่เสนอมาจะนำไปประกอบการพิจารณายกร่างรัฐธรรม นูญฉบับใหม่

สวนสนช.เขียนรธน.ดีอย่ากลัวแก้

     นายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีตคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่นายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ระบุว่าสมาชิกรัฐสภาชุดใหม่มีความสำคัญ อย่าปล่อยให้กลุ่มบุคคลเดิมกลับเข้าสู่อำนาจได้อีกว่า คนกลุ่มเดิมมีปัญหาอะไร การเป็นตัวแทนประชาชนย่อมมีความชอบธรรม ถ้าให้ความเป็นธรรมกับคนทุกฝ่าย ไม่กีดกันใครแล้วให้ประชาชนเลือกน่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องในระบอบประชาธิปไตย อย่ากีดกันปิดกั้นใคร อย่าดูถูกดุลพินิจประชาชน เพราะตอนนี้เขาเข้าใจการเมือง หากเขียนกฎกติกาขึ้นมาจะรู้ได้อย่างไรว่าประชาชนจะทำตาม การให้ประชาชนยอมรับกฎกติกาใหม่ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม ขณะนี้เห็นว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องพยายามทำอยู่ นอกจากให้ประชาชนมีส่วนร่วมแล้วยังต้องเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายต้องยุติธรรมไม่มีอคติ

      ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายตวง อันทะไชย สนช. ระบุว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่อาจห้ามทำลายลบล้างหลักการสำคัญที่รัฐธรรมนูญร่างไว้ นายอุดมเดชกล่าวว่าถ้าเขียนรัฐธรรม นูญให้เป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่ เป็นไปตามหลักสากลที่ประเทศประชาธิปไตยส่วนใหญ่ใช้กันก็ไม่น่าจะต้องเกรงว่าใครจะมาแก้ไข แต่ถ้าหมกเม็ดอะไรไว้ ไม่เป็นธรรมกับคนส่วนใหญ่ของประเทศหรือไม่เป็นกลางก็คงต้องกังวลว่าจะมีกระแสเรียกร้องให้แก้ จึงต้องกำหนดระยะเวลาห้ามแก้ไว้ แต่ถ้าทำดีเขียนดีเป็นที่ยอมรับคงไม่มีใครสร้างแนวร่วมในการแก้ได้

ภูมิธรรมรอฟังกมธ.หาทางออก

      นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าหลังจากที่พรรคเพื่อไทยทำหนังสือไปถึงกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเมื่อคราวก่อน โดยพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยว่าการร่างรัฐธรรมนูญต้องยึดโยงกับประชาชน และยืนยันว่าพร้อมร่วมมือกับกรรมาธิการ โดยเฉพาะการเสนอความคิดเห็นการร่างรัฐธรรมนูญ เพียงแต่เราติดขัดข้อกฎหมายและอยากให้กรรมาธิการ ช่วยเป็นตัวเชื่อมประสานไปทาง คสช.ว่าการแสดงความเห็นของพรรคเพื่อไทยถือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือไม่ เราต้องการความชัดเจนในส่วนนี้ พรรคเพื่อไทยยังรอคำตอบจากกรรมาธิการว่าจะหาทางออกในเรื่องนี้ให้เราอย่างไร ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยถูกกระทำไม่เหมือนกับพรรคอื่น ในทางกฎหมายเราห้ามขยับ ห้ามเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมทางการเมือง แต่ในทางวาจากลับมาบอกเราว่าทำได้ เสนอแนะได้ มันขัดแย้งกันเอง พรรคเพื่อไทยขอรอความชัดเจนจากกรรมาธิการ ก่อนเพื่อเป็นหลักประกัน

ปัดบวรศักดิ์นัดหารือ-แค่ข่าว

      นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่ากรณีที่มีข่าวว่านายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติคนที่ 1 ในฐานะประธานกรรมาธิการยกร่างฯ จะเดินทางมาหารือเรื่องดังกล่าวที่พรรคเพื่อไทยด้วยตนเองนั้น ตนเห็นข่าวดังกล่าวในหน้าหนังสือพิมพ์เท่านั้น ยังไม่ได้รับการประสานเข้ามาแต่อย่างใด หากเป็นจริงถือเป็นเรื่องดีที่จะได้พูดคุยและเสนอความเห็นในเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการ พรรคเพื่อไทยยินดีต้อนรับ 

บวรศักดิ์ ยกธรรมะแก้ปัญหา

      ที่โรงแรมเดอะสุโกศล สมาคมนักเรียนทุนรัฐบาลไทย ร่วมกับมูลนิธิสมาคมนักเรียนทุนรัฐบาลไทย จัดพิธีมอบเข็มทองคำเชิดชูเกียรติและประกาศเกียรติคุณนักเรียนทุนรัฐบาลไทยดีเด่นประจำปี 2557 อาทิ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติคนที่ 1 และประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และนักเรียนทุนรัฐบาลไทยดีเด่นอีก 5 คน โดยมีนายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบรางวัล

      จากนั้นนายบวรศักดิ์ กล่าวตอนหนึ่งในการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง 'อานิสงส์ของการสวดมนต์'ว่า การบริหารการปกครองจำเป็นต้องพึ่งหลักพุทธศาสนา จะไปยึดตามแบบตะวันตกอย่างเดียวไม่ได้ เพราะมุ่งเน้นให้ระบบดีแต่มักจะทิ้งตัวคน ในความเป็นจริงระบบที่ดีคนต้องดีด้วย หากระบบไม่ดีคนก็ไม่ดี จะเกิดความเสียหายเหมือนอย่างรัฐธรรมนูญในอดีต "พระพุทธเจ้ากล่าวถึงผู้นำโดยเปรียบเทียบว่าในฝูงโคจะมีโคตัวหนึ่งที่เป็นผู้นำ ถ้าตัวผู้นำพาฝูงโคลงแม่น้ำลึกและตลิ่งชัน โคในฝูงก็จะตายจำนวนมาก แต่ถ้าผู้นำพาลงน้ำตื้น ตลิ่งเรียบ โคทั้งฝูงก็จะสวัสดี ดังนั้น ผู้นำต้องมีปัญญาแห่งการรู้แจ้ง เพราะสังคมจะดีหรือร้ายนั้นขึ้นอยู่ที่ตัวผู้นำจะพาไป" นายบวรศักดิ์กล่าว 

ชี้ต้องดีทั้งคนและระบบ

       จากนั้น นายบวรศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐธรรมนูญจะอยู่ได้ถาวรหรือไม่ขึ้นอยู่ที่ 1.ต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่ดี 2.ผู้ใช้รัฐธรรมนูญที่ดี และ 3.วัฒนธรรมการเมืองที่ดีของพลเมือง นักการเมือง 3 สิ่งนี้จะทำให้รัฐธรรม นูญอยู่ได้นาน ถ้ารัฐธรรมนูญดีนักการเมืองไม่ดี หรือรัฐธรรมนูญไม่ดีนักการเมืองดีอย่างไรก็มีปัญหา ทั้งหมดนี้เป็นโจทย์ใหญ่ เพราะการเขียนรัฐธรรมนูญไม่อาจแก้ปัญหาเชิงวัฒนธรรมได้ อาทิ วัฒนธรรมอุปถัมภ์ที่อยู่ในสังคมไทยมานาน เช่น การซื้อเสียงขายเสียงในการเลือกตั้งที่แก้ไม่ได้ด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือตัวรัฐธรรม นูญ แต่จะทำอย่างไรไม่ให้คนไทยขายเสียง จะทำอย่างไรให้นักการเมืองเห็นว่าการซื้อเสียงเป็นเรื่องน่ารังเกียจ เรื่องเหล่านี้ไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ เพราะกฎหมายคุ้มครองไม่ได้หากผู้ใช้ไม่นับถือรัฐธรรมนูญ เห็นเป็นเพียงแค่กระดาษหรือเอกสารชิ้นหนึ่งเท่านั้น เพราะฉะนั้นต้องดีทั้งคนและระบบ

ยันหนุนประชาพิจารณ์ก่อนร่างรธน.

      ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวคิดการทำประชาพิจารณ์รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นายบวรศักดิ์กล่าวว่า ประชาพิจารณ์มีแน่ กรรมาธิการยกร่างฯ จะทำอย่างน้อย 10 ครั้ง ส่วนสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จะทำในระดับจังหวัด กรรมาธิการยกร่างฯ จะประสานกับ สปช.เพื่อไม่ซ้ำซ้อน ส่วนการฟังความเห็นจากพรรค การเมืองทราบมาว่าภายในวันที่ 24 พ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะแจ้งมายังกรรมาธิการยกร่างฯ ว่าหากไม่ได้รับอนุญาตจากคสช. ที่ไม่ให้ประชุมพรรค การเมืองอาจมาในฐานะส่วนตัว ส่วนพรรคเพื่อไทยติดต่อมาแต่ให้รอพล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช สปช.ในฐานะโฆษกรรมาธิการยกร่างฯ จะแถลงในวันที่ 24 พ.ย.เช่นกัน

     ต่อข้อถามว่า เมื่อทำประชาพิจารณ์แล้วต้องทำประชามติด้วยหรือไม่ นายบวรศักดิ์กล่าวว่า ตนยังมีความเห็นอย่างเดิม ถ้าถามส่วนตัวก็อยากให้ทำ การทำประชาพิจารณ์เป็น กระบวนการการมีส่วนร่วมก่อนการเขียนรัฐธรรมนูญ เช่นตอนปี 2540 ที่กรรมาธิ การจำนวนมากไม่เห็นด้วยในการกำหนดคุณสมบัติ ส.ส.ต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรี การเขียนแบบนี้ไม่เป็นสากล แต่เมื่อฟังประชาชนต้องการอย่างนั้นก็ต้องปรับตาม แต่ท้ายที่สุดการทำประชามติขึ้นอยู่กับ ครม.และ คสช.ตัดสินใจ ส่วนที่มี สนช.บางคนเห็นว่าต้องวางกรอบห้ามแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นความเห็นส่วนตัว ในกรรมาธิการยกร่างฯ ยังไม่ได้คุยกันถึงประเด็นนี้

ป.ป.ช.เตรียมยื่นสนช.สอย 38 ส.ว.

    นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวถึงการส่งสำนวนคดีถอดถอนอดีต 38 ส.ว.กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มาส.ว. โดยมิชอบว่า ขณะนี้ป.ป.ช.ยังไม่ได้ส่งราย งานและสำนวนถอดถอนดังกล่าวให้ที่ประชุมสนช. เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมานายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานป.ป.ช. ติดภารกิจไปต่างประเทศ ยังไม่ได้ลงนามรับรองมติที่ประชุมป.ป.ช.เรื่องการถอดถอนคดีดังกล่าว แต่ขณะนี้นายปานเทพกลับมาแล้วและจะลงนามรับรองมติที่ประชุมได้ภายในสัปดาห์นี้ คาดว่าน่าจะส่งรายงานและสำนวนถอดถอนให้ สนช.ได้ประมาณวันที่ 26-28 พ.ย.นี้ 

      นายสรรเสริญ กล่าวว่า ส่วนคดีถอดถอนอดีตส.ส. 268 คน กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มาส.ว.โดยมิชอบนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของป.ป.ช. กำลังแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกันอยู่ หากป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนอดีตส.ส.คนใดเสร็จแล้วจะทยอยชี้มูลความผิดไปก่อนเป็นกลุ่มๆ ไป คาดว่าจะเริ่มทยอยชี้มูลความผิดอดีตส.ส.ได้ภายในเดือนธ.ค.นี้ จะไม่รอชี้มูลความผิดพร้อมกันทีเดียวทั้ง 200 กว่าคน จะยิ่งทำให้คดีช้าไปเรื่อยๆ เพราะอดีตส.ส.บางคนมีคดีอาญาเรื่องการเสียบบัตรแทนกันร่วมอยู่ด้วย

โต้ลือ'เหลิม'ดับอีกย้ำปกติดี

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากมีกระแสข่าวลือทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กแพร่สะพัดอีกครั้งว่าร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกฯ และแกนนำพรรคเพื่อไทยเสียชีวิต จึงติดต่อสอบถามผู้ติดตามใกล้ชิดร.ต.อ.เฉลิม ได้รับการยืนยันว่าร.ต.อ.เฉลิมยังสบายดี ปกติดีทุกอย่าง ไม่เป็นอะไร และออกกำลังกายอยู่ภายในบ้านพัก

โพล 6 เดือนกับการคืนความสุข

      วันที่ 23 พ.ย. นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง "6 เดือน คสช. กับการคืนความสุขให้คนในชาติ" มีรายละเอียดดังนี้ ระดับความสุขของประชาชนในโอกาสครบรอบ 6 เดือนของ คสช. ร้อยละ 49.28 ระบุมีความสุขเพิ่มขึ้น เพราะรู้สึกปลอดภัย ร้อยละ 41.69 มีความสุขเท่าเดิม เพราะยังมีปัญหาทางสังคมเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ ร้อยละ 8.79 ระบุว่ามีความสุขลดลง เพราะการใช้อำนาจในการบริหารบ้านเมืองทำให้ประชาชนขาดสิทธิและเสรีภาพในบางเรื่อง ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่ เศรษฐกิจไม่ดี ค่าครองชีพแพง ร้อยละ 0.24 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

      สำหรับ ความคิดเห็นต่อการบริหารงานราชการแผ่นดินครบรอบ 6 เดือน ของ คสช. ในประเด็นที่ทำให้มีความสุขมากที่สุด ร้อยละ 55.11 ระบุว่าบ้านเมืองสงบเรียบร้อย รองลงมา ร้อยละ 14.86 ระบุว่าไม่มีประเด็นใดที่ทำให้มีความสุข ร้อยละ 7.19 การจัดระเบียบสังคม ร้อยละ 5.51 มุ่งแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น ร้อยละ 4.87 การแก้ไขปัญหาปากท้องเกษตรกร ส่วนความคิดเห็นในประเด็นที่ยังไม่สามารถทำให้มีความสุข ร้อยละ 28.43 ระบุว่าไม่มีประเด็นใดที่ไม่มีความสุข ร้อยละ 17.17 ระบุการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ร้อยละ 15.34 การแก้ไขปัญหาค่าครองชีพ ร้อยละ 13.90 การแก้ไขปัญหาปากท้องเกษตรกร ร้อยละ 7.27 การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น

ยื่นแก้พ.ร.บ.จนท.ปปช.ติดอาวุธ

      วันที่ 23 พ.ย. นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช.เสนอร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต ต่อสนช.ซึ่งจะพิจารณารับหลักการในวันที่ 27 พ.ย. ว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ ป.ป.ช. มีทั้งหมด 28 มาตรา มีหลักการสำคัญหลายเรื่อง อาทิ มาตรา 19 เรื่องการให้หยุดนับอายุความในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยหลบหนีระหว่างถูกดำเนินคดี จะไม่ให้นับเวลาที่หลบหนีรวมเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ เพราะที่ผ่านมามักมีปัญหาผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีคดี ระหว่างนำตัวไปส่งฟ้องคดี รอจนกว่าคดีหมดอายุความแล้วค่อยกลับมาใหม่ หลังจากนี้หากใครคิดจะหนีคดีต้องหนีไปตลอดชีวิต

      นายสรรเสริญ กล่าวว่า หลักการสำคัญอีกเรื่องคือ มาตรา 18 เพิ่มอำนาจให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.มีอำนาจเหมือนเจ้าพนักงานตำรวจในการจับกุมผู้ถูกกล่าวหาได้ ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ยอมไปรายงานตัวตามที่กำหนดและถูกศาลออกหมายจับแล้ว จากเดิมที่ ป.ป.ช.ต้องประสานให้ตำรวจจับกุมให้ เพราะที่ผ่านมาเวลามีผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีคดี ป.ป.ช.จะมีเจ้าหน้าที่คอยติดตามตัว บางครั้งรู้ว่าหลบหนีไปอยู่ที่ไหนแต่ไม่มีอำนาจจับกุม ต้องประสานตำรวจเป็นผู้จับ ทำให้บางครั้งผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีไปได้อีก แต่ไม่ได้หมายความว่า ป.ป.ช.จะมีอำนาจจับกุมเหมือนตำรวจได้ในทุกกรณี ต้องเป็นกรณีที่หลบหนีและถูกออกหมายจับแล้วเท่านั้น การแก้ไขมาตรานี้จะเพิ่มประสิทธิภาพให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ชุดจับกุม มีอำนาจพกอาวุธปืนเพื่อป้องกันตัวระหว่างเข้าจับกุม โดย ป.ป.ช.จะส่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเหล่านี้ไปฝึกที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ

      เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวว่าส่วนเรื่องการแสดงบัญชีทรัพย์สินของนักการเมือง ในมาตรา 12 จะแก้ไขกรณีที่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ส.ส. และส.ว. ไม่ยอมแจ้งบัญชีทรัพย์สิน หรือแจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จ และถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินว่าผิดจริง จะต้องถูกตัดสิทธิห้ามกลับมาดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐอีก จากเดิมที่กำหนดห้ามดำรงตำแหน่งเพียง 5 ปีเท่านั้น

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!