WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 5/2566 และครั้งที่ 6/2566

1aaaD

ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 5/2566 และครั้งที่ 6/2566

           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ (คกง.) ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลัง (กค.) กู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด-19) เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 (พระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564) ในคราวประชุมครั้งที่ 5/2566 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 และในคราวประชุมครั้งที่ 6/2566 เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2566 ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ ดังนี้

           1. ผลการพิจารณาของ คกง. ภายใต้พระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 5/2566

                      1.1 อนุมัติให้จังหวัดเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ 58 โครงการ กรอบวงเงิน 219.3050 ล้านบาท ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว

                      1.2 มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) เร่งดำเนินการประสานจังหวัดในการตรวจสอบการดำเนินโครงการของหน่วยงานที่ได้รับอนุมัติให้ดำเนินโครงการโดยใช้เงินกู้ตามพระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 โดยกรณีที่จังหวัดไม่สามารถดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรีให้จังหวัดเร่งดำเนินการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ และ/หรือเสนอขอยกเลิกการดำเนินโครงการตามขั้นตอนของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 พศ. 2564 (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564)

                      1.3 มอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการตามข้อ 1.1 เร่งปรับปรุงรายละเอียดของโครงการในระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ (Electronic Monitoring and Evaluation System of National Strategy and Country Reform : eMENSCR) (ระบบ eMENSCR) ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว พร้อมทั้งเร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี รายงานผลสัมฤทธิ์และคืนเงินกู้เหลือจ่าย (ถ้ามี) ตามระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

           2. ผลการพิจารณาของ คกง. ภายใตพระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 6/2566

                      2.1 อนุมัติให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและทดสอบวัคซีน และเกสัชภัณฑ์ในสิงมาร์โมเส็ท (โครงการทดสอบวัคซีนในลิงมาร์โมเส็ท) และโครงการศึกษาความปลอดภัย (Safety) ความสามารถในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Immunogenicity) และประสิทธิภาพ (Vaccine Efficacy) ของแคนดิเดตซับยูนิตวัคซีน สำหรับป้องกันโรคโควิด-19 ที่ใช้พืชเป็นแหล่งผลิตในมนุษย์ระยะที่ 2a (โครงการศึกษาวัคซีนโควิด-19 จากพืช ระยะ 2a) โดยขยายระยะเวลาดำเนินโครงการทั้งสอง เป็นสิ้นสุดภายในวันที่ 29 ธันวาคม 2566 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว ทั้งนี้ มอบหมายให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานดำเนินโครงการจัดทำรายงานความก้าวหน้าของโครงการและแผนการดำเนินงานที่ได้มีการปรับแผนพร้อมการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าการดำเนินโครงการข้างต้นจะสามารถแล้วเสร็จตามเป้าหมายที่กำหนด และในส่วนของโครงการศึกษาวัคซีนโควิด-19 จากพืช ระยะ 2a นั้น เห็นควรให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติร่วมกับบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อย่างใกล้ชิด โดยพิจารณาจัดทำแผนการดำเนินงาน/แผนบริหารความเสี่ยงที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปตามเป้าหมาย บรรลุผลผลิต/ผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด

                      2.2 อนุมัติให้จังหวัดเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ 41 โครงการ กรอบวงเงิน 203.2476 ล้านบาท ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว ทั้งนี้ มอบหมายให้ มท. เร่งดำเนินการประสานจังหวัดในการตรวจสอบการดำเนินโครงการของหน่วยงานที่ได้รับอนุมัติให้ดำเนินโครงการโดยใช้เงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 โดยกรณีที่จังหวัดไม่สามารถดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรีให้เร่งรัดจังหวัดดำเนินการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการและ/หรือเสนอขอยกเลิกการดำเนินโครงการตามขั้นตอนของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ต่อไป

                      2.3 มอบหมายให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบโครงการตามข้อ 2.1 และ 2.2 เร่งปรับปรุงรายละเอียดของโครงการในระบบ eMENSCR ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว พร้อมทั้งเร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด

           สาระสำคัญของเรื่อง

           1. ผลการพิจารณาของ คกง. ภายใต้พระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 5/2566 

           คกง. รายงานว่า ที่ประชุม คกง. ภายใต้พระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 5/2566 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 มีมติเกี่ยวกับการพิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมของข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการและการยกเลิกโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 โครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ของ มท. จำนวน 20 จังหวัด (จังหวัดลำปาง จังหวัดตราด จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดตาก จังหวัดนครนายก จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดตรัง จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดชุมพร จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดอุดรธานี จังหวัดน่าน จังหวัดพิจิตร จังหวัดสระแก้ว จังหวัดระนอง และจังหวัดพังงา) รวม 58 โครงการ มีรายละเอียด ดังนี้

                      1.1 ยกเลิกการดำเนินโครงการของ 6 จังหวัด (จังหวัดลำปาง จังหวัดตราด จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดตาก และจังหวัดนครนายก) รวม 25 โครงการ กรอบวงเงิน 63.1893 ล้านบาท เนื่องจากไม่สามารถจัดหาผู้รับจ้างและลงนามผูกพันสัญญาได้ทันภายในเดือนพฤศจิกายน 2565 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 รวมถึงไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ทันตามกรอบระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรี

                      1.2 ขยายระยะเวลาสิ้นสุดการดำเนินโครงการ เป็นสิ้นสุดเดือนพฤษภาคม 2566 ของ 11 จังหวัด (จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดตรัง จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดชุมพร จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดน่าน) รวม 28 โครงการ กรอบวงเงิน 126.8133 ล้านบาท เนื่องจากได้ลงนามผูกพันสัญญาแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินโครงการ

                      1.3 เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการและขยายระยะเวลาสิ้นสุดการดำเนินโครงการ เป็นสิ้นสุดเดือนพฤษภาคม 2566 ของ 4 จังหวัด (จังหวัดพิจิตร จังหวัดสระแก้ว จังหวัดระนอง และจังหวัดพังงา) รวม 5 โครงการ กรอบวงเงิน 29.3024 ล้านบาท เนื่องจากได้ลงนามผูกพันสัญญาแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินโครงการ

           2. ผลการพิจารณาของ คกง. ภายใต้พระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 6/2566 

                      คกง. รายงานว่า ที่ประชุม คกง. ภายใต้พระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 6/2566 เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2566 มีมติเกี่ยวกับการพิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมของข้อเสนอการขอขยายระยะเวลาดำเนินโครงการของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ จำนวน 2 โครงการ และข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ของ มท. จำนวน 13 จังหวัด รวม 41 โครงการ (จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดลำพูน จังหวัดระนอง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชุมพร จังหวัดยะลา จังหวัดอ่างทอง จังหวัดตาก จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดสุราษฎร์ธานี) มีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้

                      2.1 เห็นควรให้ความเห็นชอบการขยายระยะเวลาดำเนินโครงการจำนวน 2 โครงการ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว ดังนี้

โครงการ

 

มติคณะรัฐมนตรีเดิม

 

มติ คกง.

โครงการทดสอบวัคซีนในลิงมาร์โมเส็ท

 

สิ้นสุด

เดือนเมษายน 2566 (กรอบวงเงิน 139.8406 ล้านบาท)

 

ขยายระยะเวลาโครงการ

เป็นสิ้นสุดภายในวันที่ 29 ธันวาคม 2566

- อยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขรูปแบบรายการก่อสร้าง

- ประสบปัญหาความล่าช้าของการจัดซื้อและรับมอบลิงมาร์โมเส็ทจากผู้ค้าภายในประเทศที่อยู่ระหว่างเบิกจ่ายเงินสำหรับลิงมาร์โมเส็ท จำนวน 67 ตัว

- การจัดซื้อจากต่างประเทศ จำนวน 75 ตัว ประสบปัญหาด้านการจัดหาสายการบินสำหรับขนส่งเข้ามาในประเทศ

(ปัจจุบันมีผลการเบิกจ่ายแล้ว จำนวน 69.5082 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 49.71 ของวงเงินอนุมัติ)

โครงการศึกษาวัคซีนโควิด-19 จากพืช ระยะ 2a

 

สิ้นสุด

เดือนมิถุนายน 2566 (กรอบวงเงิน 211 ล้านบาท)

 

ขยายระยะเวลาโครงการ

เป็นสิ้นสุดภายในวันที่ 29 ธันวาคม 2566

- ประสบปัญหาปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้โดยเฉพาะข้อมูลความปลอดภัยของการทดสอบวัคซีนในระยะที่ 1 ของกลุ่มอาสาสมัครทั้ง 2 กลุ่ม ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 เพื่อนำมาอ้างอิงเพิ่มเติมต่อการขออนุมัติดำเนินการทดสอบวัคซีนในระยะที่สูงขึ้น

- การวิจัยและพัฒนาวัคซีนมีความซับซ้อนทางเทคนิคและจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการเพื่อให้วัคซีนมีความปลอดภัยสูงสุด

(ปัจจุบันมีผลการเบิกจ่ายแล้ว จำนวน 116.9000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 55.40 ของวงเงินอนุมัติ)

 

                      2.2 เห็นควรกำหนดเป็นเงื่อนไขเพื่อประกอบการพิจารณาให้ความเห็นชอบในการขยายระยะเวลาดำเนินโครงการทั้งสองโครงการข้างต้นตามที่เสนอโดยให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการร่วมกับหน่วยงานดำเนินโครงการจัดทำรายงานความก้าวหน้าของโครงการและแผนการดำเนินงานที่ได้มีการปรับแผนพร้อมการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าการดำเนินโครงการทั้งสองโครงการข้างต้นจะสามารถแล้วเสร็จตามเป้าหมายที่กำหนด และในส่วนของโครงการศึกษาวัคซีนโควิด-19 จากพืช ระยะ 2a นั้น เห็นควรให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติร่วมกับบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด ประสานกับ อย. อย่างใกล้ชิด โดยพิจารณาจัดทำแผนการดำเนินงาน/แผนบริหารความเสี่ยงที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นเพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปตามเป้าหมาย บรรลุผลผลิต/ผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด

                      2.3 เห็นชอบให้จังหวัดเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ 41 โครงการ กรอบวงเงิน 203.2476 ล้านบาท ดังนี้

                                 2.3.1 ยกเลิกการดำเนินโครงการของ 5 จังหวัด (จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดลำพูน จังหวัดระนอง และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา) รวม 10 โครงการ กรอบวงเงิน 21.4958 ล้านบาท เนื่องจากไม่สามารถจัดหาผู้รับจ้างและลงนามผูกพันสัญญาได้ทันภายในเดือนพฤศจิกายน 2565 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 รวมถึงไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ทันตามกรอบระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรี

                                 2.3.2 ขยายระยะเวลาสิ้นสุดการดำเนินโครงการ เป็นสิ้นสุดเดือนพฤษภาคม 2566 ของ 11 จังหวัด (จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชุมพร จังหวัดยะลา จังหวัดอ่างทอง จังหวัดตาก จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดระนอง) รวม 30 โครงการ กรอบวงเงิน 178.7518 ล้านบาท เนื่องจากได้ลงนามผูกพันสัญญาแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินโครงการ

                                 2.3.3 เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการของจังหวัดชุมพร จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการขุดลอกห้วยระกำ วงเงิน 3.0000 ล้านบาท โดยปรับลดเนื้องานเดิมบางส่วนที่ไม่สามารถดำเนินการได้ไปเพิ่มเติมในพื้นที่ดำเนินการใหม่และขยายระยะเวลาสิ้นสุดการดำเนินโครงการฯ เป็นสิ้นสุดเดือนพฤษภาคม 2566 เนื่องจากได้ลงนามผูกพันสัญญาแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินโครงการ

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 16 พฤษภาคม 2566

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396

 

 

A5661

Click Donate Support Web  

MTL 720x100

kasat 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100ais 720x100 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!