WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

รายงานสรุปผลการดำเนินการคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย

GOV4 copy copy

รายงานสรุปผลการดำเนินการคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบดังนี้ 

          1. รับทราบสรุปผลการดำเนินการคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย ตามที่คณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อยเสนอ 

          2. ให้คณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อทบทวนแนวทางการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สินในระยะต่อไปให้เกิดความเหมาะสม ก่อนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาประกอบการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามหน้าที่และอำนาจของแต่ละหน่วยงานต่อไป 

          สาระสำคัญ 

          1. สรุปผลการดำเนินการที่สำคัญ 

          คณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินฯ ได้ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 – มีนาคม 2566 ได้มีการประชุมคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินฯ เพื่อขับเคลื่อนประเด็นสำคัญ อันจะเป็นส่วนสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้แก่ประชาชนทั้งสิ้น 10 ครั้ง โดยเน้นการดำเนินการใน 2 ลักษณะ ได้แก่ (1) การปรับโครงสร้างหนี้/ไกล่เกลี่ยปัญหาหนี้สิน เพื่อไม่ให้เกิดการฟ้องร้องคดีจำนวนมากและการผิดนัดชำระหนี้ในวงกว้าง และ (2) การกำหนดมาตรการ Quick Win ที่ไม่สร้างภาระด้านงบประมาณแต่ช่วยลดภาระการจ่ายหนี้ของประชาชนได้ โดยมีสรุปความคืบหน้าผลการดำเนินการที่สำคัญ ดังนี้ 

                  1.1 การช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มต่างๆ ให้สามารถเข้าถึงกลไกการแก้ไขหนี้สินได้ง่ายและเป็นธรรมยิ่งขึ้น ดังนี้ 

                          (1) ลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) 4.6 ล้ายรายและผู้ค้ำประกัน 2.8 ล้านราย ได้รับประโยชน์จากการปรับปรุงพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 

                          (2) ลูกหนี้บุคคลธรรมดาเข้าถึงกลไกการไกล่เกลี่ยหนี้สิน 3.95 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้ 2.98 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็นจำนวนลูกหนี้ของสถาบันการเงินและผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-bank) ทั้งสิ้น 1.58 ล้านบัญชี และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (Special Financial Institutes : SFIs) 2.36 ล้านบัญชี 

                          (3) ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises : SMEs) ได้รับการค้ำประกันสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ผ่านโครงการช่วยเหลือของรัฐ เช่น โครงการทางด่วน แก้หนี้โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) (279,685) บัญชี และโครงการพักทรัพย์พักหนี้ (466 ราย) 

                          (4) การแก้ไขหนี้สินข้าราชการในกลุ่มข้าราชการครูและตำรวจให้สามารถเข้าถึงกลไกการปรับโครงสร้างหนี้โดยใช้สหกรณ์ออมทรัพย์เป็นกลไกหลัก 

                          นอกจากนี้ เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้แก่ประชาชนในแต่ละภูมิภาค หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการจัดมหกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สิน เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศสามารถเข้าถึงกลไกการไกล่เกลี่ย และการปรับโครงสร้างหนี้ได้อย่างทั่วถึง โดยมีกิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่ 

 

ชื่อกิจกรรม

 

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

ผู้ได้รับประโยชน์

 

มูลค่า

1. มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน 

- จัด 78 ครั้งทั่วประเทศ

- ไกล่เกลี่ยหนี้ กยศ./บัตรเครดิต/สินเชื่อส่วนบุคคล/สินเชื่อรถยนต์

- ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาหนี้สิน

 

- กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) 

- กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)

 

94,328 คน

 

23,529.40 ล้านบาท

2. มหกรรมแก้ไขหนี้สินครู 

- จัด 6 ครั้ง

- ไกล่เกลี่ยหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินแก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

 

- กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) 

- ยธ.

- ธปท

- ..

- สหกรณ์ออมทรัพย์

 

2,093 คน

 

1,614.69 ล้านบาท

3. มหกรรมรวมใจแก้หนี้

- จัดสัญจร 5 ครั้ง เปิดลงทะเบียนแก้ไขหนี้สินในระบบออนไลน์

- ไกล่เกลี่ยหนี้สินบัตรเครดิต/สินเชื่อส่วนบุคคล เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จำนำทะเบียน ที่อยู่อาศัย

 

- ธปท

- กระทรวงการคลัง (กค.)

 

- ออนไลน์ : ลงทะเบียน 188,000 คน

- สัญจร : บริการแก้ไขปัญหา 34,000 รายการ

 

24,000 ล้านบาท (เฉพาะกิจกรรมสัญจรใน 5 จังหวัด)

 

                  1.2 การปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่สำคัญ เพื่อสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เอื้อให้ลูกหนี้สามารถเข้าถึงกลไกการไกล่เกลี่ยหนี้สิน และกำกับให้ธุรกิจสินเชื่อให้ดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบยิ่งขึ้น คณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินฯ ได้ขับเคลื่อนกฎหมาย กฎ และระเบียบที่สำคัญ 13 ฉบับ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ (1) การกำกับธุรกิจดูแลที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อ (5 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 38) (2) การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการแก้ไขปัญหาหนี้สินและลดภาระที่จะเกิดขึ้นต่อกระบวนการยุติธรรม (5 ฉบับ คิดเป็น ร้อยละ 38) และ (3) การบรรเทาปัญหาสำหรับประชาชนในภาวะวิกฤต (3 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 23) 

                  มีรายชื่อกฎหมายสำคัญที่ขับเคลื่อน ดังนี้ 

                          (1) การกำกับดูแลธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อ : เน้นการกำกับดูแลสินเชื่อที่ยังไม่มีการกำกับดูแล โดยให้ความสำคัญกับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ การให้สินเชื่อของสหกรณ์ออมทรัพย์ และการทวงถามหนี้ให้เป็นธรรมยิ่งขึ้น ได้แก่ 

                                  (1.1) ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้การประกอบธุรกิจทางการเงินบางประเภทอยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 พ.ศ. .... ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566 

                                  (1.2) ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2565 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2565 

                                  (1.3) ร่างกฎกระทรวงการบริหารจัดการและกำกับดูแลทางการเงินสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนียน พ.ศ. .... 

                                  (1.4) ประกาศคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ เรื่อง การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ในการทวงถามหนี้ ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2564 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2564 

                                  (1.5) หนังสือธนาคารแห่งประเทศไทยที่ ธปท.ฝคง.ว. 951/2564 เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการด้านการให้สินเชื่ออย่างเป็นธรรม ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2564 

                          (2) การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการแก้ไขปัญหาหนี้สินและลดภาระที่จะเกิดขึ้นต่อกระบวนการยุติธรรม : เน้นการปรับปรุงกติกา เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงกลไกการไกล่เกลี่ยและการปรับโครงสร้างหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งลดภาระที่จะเกิดขึ้นต่อ/จากการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ได้แก่ 

                                  (2.1) พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 

                                  (2.2) ร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างกฎหมายดังกล่าว เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 

                                  (2.3) ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 พ.ศ. .... โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 

                                  (2.4) ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เกี่ยวกับค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี 

                                  (2.5) ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยที่ สกส2. 14/2564 เรื่อง แนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจอย่างยั่งยืน ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2564 

                          (3) การบรรเทาปัญหาสำหรับประชาชนในภาวะวิกฤต : เน้นการบรรเทาปัญหาของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้แก่ 

                                  (3.1) ร่างพระราชกำหนดการบรรเทาผลกระทบของประชาชนจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. .... 

                                  (3.2) ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด สำหรับกรณีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ลงวันที่ 11 มกราคม 2565 จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2565 – 31 ธันวาคม 2569 

                                  (3.3) ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ 5 แห่งประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 (เรื่อง สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้กำกับ) (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 9 กันยายน 2564 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 

                  1.3 การเพิ่มเติมแหล่งสินเชื่อที่เป็นธรรมให้กับประชาชน คณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินฯ ได้เร่งจัดหาแหล่งสินเชื่อดอกเบี้ยที่เหมาะสม เพื่อเสริมสภาพคล่องและลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบ โดยมีผลการดำเนินการที่สำคัญ ได้แก่ 

                          (1) เพิ่มเติมช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อผ่าน บริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด โดยธนาคารออมสิน ร่วมกับบริษัท ทิพย เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด และบริษัทมหาชน บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อบรรเทาปัญหาหนี้สิน ลดความเหลื่อมล้ำทางการเงิน รวมทั้งเป็นช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนดอกเบี้ยที่ถูกลง โดยให้สามารถนำที่ดินที่เป็นหลักประกันการกู้เงินในแบบจำนองหรือขายฝากเพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย 

                          (2) ค้ำประกันสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับสินเชื่อและ ครบกำหนดเวลาการชำระคืนเพื่อให้ได้รับสินเชื่อจากสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมรายย่อย (บสย.) จะดำเนินการค้ำประกันสินเชื่อให้ผู้ประกอบการในวงเงิน 90,000 ล้านบาท ระยะเวลาค้ำประกันสูงสุดไม่เกิน 8 ปี 

                          (3) ลดดอกเบี้ยของสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (PICO Finance) โดยกระทรวงการคลังได้ลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับหนี้สินที่มีหลักประกัน ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน ร้อยละ 33 

          2. แนวทางการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สินในระยะต่อไป 

          การแก้ไขปัญหาหนี้สินเป็นประเด็นสำคัญที่จำเป็นต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปัญหาหนี้สินของประชาชนเป็นปัญหาที่จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและกำลังซื้อ ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระยะยาวมีความยั่งยืน จำเป็นต้องมีการกำหนดหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญรับผิดชอบอย่างเป็นระบบที่ชัดเจน ดังนั้น คณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินฯ เห็นควรว่าการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินในระยะต่อไปควรดำเนินการ ดังนี้

 

ประเด็น

 

มอบหมายหน่วยงานรับผิดชอบ

1. การช่วยเหลือลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เน้นการเปลี่ยนผ่านภายหลังพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) .. 2566 มีผลบังคับใช้

        1.1 จัดทำแผนการแก้ไขปัญหาหนี้สินของลกูกหนี้แต่ละกลุ่ม

        1.2 สื่อสาร สร้างความรู้ความเข้าใจในประเด็นสำคัญจากการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย

        1.3 กำหนดมาตรการจูงใจ (Incentives) สำหรับลูกหนี้ กยศ. ที่มีประวัติการชำระหนี้ดี เพื่อให้ยังคงชำระหนี้ตามกำหนดเวลา

 

- กยศ.

2. การไกล่เกลี่ยและการปรับโครงสร้างหนี้ เน้นการช่วยเหลือประชาชนให้สามารถเข้าถึงกลไกการไกล่เกลี่ยและปรับโครงสร้างหนี้ในวงกว้าง

        2.1 เร่งสื่อสารช่องทางการไกล่เกลี่ยและปรับโครงสร้างหนี้ โดยอาศัยกลไกภายใต้ ยธ.

 

- ยธ.

        2.2 ใช้กลไกในระดับพื้นที่เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้และการไกล่เกลี่ยหนี้ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้ วิธีการ และประโยชน์ รวมทั้งช่องทางที่ประชาชนสามารถขอความช่วยเหลือได้

 

- ธปท.

- สศค.

- กระทรวงมหาดไทย (มท.)

        2.3 ส่งเสริมการใช้กลไกในระดับพื้นที่ อาทิ ศูนย์ดำรงธรรมและอำเภอเป็นจุดให้คำแนะนำและประสานส่งต่อลูกหนี้ที่ประสบปัญหาหนี้สินให้เข้าถึงกลไกการปรับโครงสร้างหนี้

 

- มท.

3. การปรับปรุงอัตราดอกเบี้ยและการกำกับดูแลสถาบันการเงิน เน้นการสนับสนุนให้สหกรณ์เป็นกลไกช่วยเหลือการเข้าถึงบริการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพและมีความรับผิดชอบ

        3.1 กำหนดแนวทางเพื่อกำกับดูแลให้สหกรณ์มีความโปร่งใสและมีความรับผิดชอบ ดังนี้

                1) ปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการขยายผลการนำแนวทางสหกรณ์ต้นแบบไปใช้กับสหกรณ์อื่นๆ กำหนดอัตราจัดสรรเงินปันผลของสหกรณ์ให้เหมาะสมกับบริบท และการนำข้อมูลสมาชิกของสหกรณ์เข้าสู่ระบบฐานข้อมูลบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด

                2) กำหนดแนวทางและมาตรการในการกำกับสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนียนผ่านกลไกการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษากำกับการดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์ตามมาตรา 89/4 ของพระราชบัญญัติสหกรณ์ .. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

 

- กรมส่งเสริมสหกรณ์

        3.2 ปรับปรุงแนวทางการคำนวณดอกเบี้ยช่วงพักชำระหนี้ที่เป็นธรรมและไม่สร้างภาระแก่ประชาชนผู้ประสบปัญหาเกินสมควร

 

- ธปท.

4. การเช่าซื้อรถยนต์ เน้นการขยายขอบเขตความคุ้มครองผู้เช่าซื้อรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และการเพิ่มทางเลือกอื่นๆ เพื่อให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมโดยมีหลักประกันที่ชัดเจน

        4.1 วางแนวทางการปรับกระบวนการทำงานเพื่อรองรับร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้การประกอบธุรกิจทางการเงินบางประเภทอยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน .. 2551 .. .... มีผลบังคับใช้

 

- ธปท.

- กค.

- สคบ.

        4.2 ร่วมกันกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาสำหรับผู้เช่าซื้อรถยนต์ที่ใช้รถยนต์เพื่อการประกอบธุรกิจ

 

- สคบ.

- กค.

- กรมคุ้มครองสิทธิฯ

        4.3 ศึกษาความเป็นไปได้ถึงแนวทางการออกแบบวิธีการผ่อนรถยนต์ที่มีอัตราดอกเบี้ยถูกกว่าสินเชื่อเช่าซื้อ เพื่อให้เกิดการแข่งขันในตลาดเช่าซื้อรถยนต์

 

- ธปท.

- สศค.

- ยธ.

        4.4 เร่งขับเคลื่อนการจดทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจตามพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ .. 2558 และพิจารณาทรัพย์สินอื่นๆ สำหรับหลักประกันทางธุรกิจในระยะต่อไป

 

- สำนักงาน ...

- ธปท.

- สศค.

- กระทรวงคมนาคม

- กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

5. การแก้ไขหนี้สินข้าราชการ เน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการ การสร้างระบบสินเชื่อสวัสดิการที่เป็นประโยชน์แก่ข้าราชการ และขยายกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้ครอบคลุมข้าราชการในวงกว้าง

        5.1 ควรปรับปรุงเกณฑ์การให้สินเชื่อที่เคารพสิทธิและกำหนดให้ข้าราชการที่เป็นลูกหนี้ต้องมีเงินเดือนคงเหลือสุทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 30

 

- ธปท.

- กรมส่งเสริมสหกรณ์

        5.2 กำหนดแนวทางปรับปรุงลำดับการตัดชำระหนี้สำหรับสินเชื่อสวัสดิการหักเงินเดือนให้เป็นธรรมยิ่งขึ้น

 

- ธปท.

- กค.

- กรมส่งเสริมสหกรณ์

        5.3 กำกับดูแลธนาคารกรุงไทยให้ปรับปรุงแนวทางในการจัดเก็บหนี้สินโดยควรถูกนำมาคำนวณกับเจ้าหนี้รายอื่นๆ ในยอดร้อยละ 70 ของรายได้สุทธิ

 

- กค.

        5.4 ทบทวนหลักเกณฑ์เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกสามารถกู้ยืมเงินข้ามจังหวัด เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันระหว่างสหกรณ์ออมทรัพย์ในการหาสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรมที่สุด รวมทั้งลดเงื่อนไขที่ไม่จำเป็นในการเข้าถึงสินเชื่อ

 

- กรมส่งเสริมสหกรณ์

        5.5 เร่งเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้สหกรณ์และสถาบันการเงินเกี่ยวกับการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible and Fair Lending) สอดคล้องกับสินเชื่อที่เหมาะสมกับศักยภาพเงินเดือนของข้าราชการ

 

- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

        5.6 เร่งนำแนวทางการใช้กลไกสหกรณ์ต้นแบบเพื่อขยายผลให้ครอบคลุมสหกรณ์อื่นๆ ทั่วทั้งประเทศและจัดทำแผนการแก้ไขปัญหาหนี้สินของข้าราชการ ครูที่ถูกฟ้องดำเนินคดี

 

- ศธ.

        5.7 เร่งกำกับให้สำนักงานเขตการศึกษา ซึ่งยังไม่ได้ปฏิบัติตามตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการหักเงินเดือนและบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เพื่อชำระหนี้เงินกู้ให้แก่สวัสดิการภายในส่วนราชการและสหกรณ์ .. 2551 ปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบดังกล่าว เพื่อให้ข้าราชการครูมีรายได้คงเหลือสุทธิเพียงพอต่อการดำรงชีพ

 

- ศธ.

        5.8 กำหนดให้ทักษะทางการเงินเป็นทักษะพื้นฐานที่ข้าราชการพลเรือนสามัญต้องได้รับการพัฒนา

 

- สำนักงาน ..

6. การช่วยเหลือประชาชนให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรม เน้นการขยายขอบเขตและมาตรการ เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย

        6.1 พิจารณารูปแบบการจัดทำข้อมูลเครดิต (Credit Scoring) หรือข้อมูลทางเลือกอื่นๆ ที่สะท้อนพฤติกรรมทางการเงิน

 

- ธปท.

- สศค.

        6.2 จัดทำแผนให้มีแหล่งทุนเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้ที่มีหนี้เสีย (Non-performing Loan : NPL) ที่ยังมีศักยภาพที่จะดำเนินธุรกิจได้

 

- ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย

7. การแก้ไขข้อกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เน้นการสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการแก้ไขปัญหาหนี้สิน และลดภาระและต้นทุนในการดำเนินคดีที่จะเกิดขึ้นต่อกระบวนการยุติธรรม

        7.1 เร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางธุรกิจและการเงินเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาหนี้สินโดยเร็ว

 

- สำนักงานศาลยุติธรรม

        7.2 พิจารณาวางแนวทางการบังคับใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาไม่เป็นธรรม .. 2540 ในกรณีเรื่องความรับผิดชอบของผู้ค้ำประกัน

 

- ยธ.

- สคบ.

        7.3 ควรพิจารณาการกำหนดค่าธรรมเนียมการฟ้องคดีในชั้นศาลและชั้นบังคับคดี ที่จะจูงใจให้เกิดการไกล่เกลี่ยแทนการดำเนินคดี

 

- สำนักงานศาลยุติธรรม

- กรมบังคับคดี

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 18 กรกฎาคม 2566

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396

 

 

A7620

Click Donate Support Web  

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

EXIM One 720x90 C JMTL 720x100

kasat 720x100TOA 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100sme 720x100ธกส 720x100

PTG 720x100ais 720x100 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!