WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

ขยายระยะเวลาในการออกกฎหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา 22 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายพ.ศ. 2562 (พระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2543)

Gov 18

ขยายระยะเวลาในการออกกฎหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา 22 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายพ.ศ. 2562 (พระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2543)

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาในการออกกฎ ซึ่งออกตามความในมาตรา 5 ประกอบมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2543 ตามที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเสนอ 

          ทั้งนี้ การขอขยายระยะเวลาในการออกกฎตามที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเสนอ เป็นการขอขยายระยะเวลาในการออกกฎ ซึ่งออกตามความในมาตรา 5 ประกอบมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2543 จำนวน 6 ฉบับ คือ กฎกระทรวงกำหนดประเภทของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือองค์การเอกชนที่ต้องรายงานสถิติ ข้อมูลต่อส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา 40 [กฎหมายลำดับรองที่จะต้องออกตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2543 มีจำนวนทั้งหมด 6 ฉบับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมได้ดำเนินการออกกฎหมายลำดับรองมีผลใช้บังคับแล้ว จำนวน 4 ฉบับ โดยกฎหมายลำดับรองอีก 2 ฉบับ ได้แก่ 1) ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดกิจการอื่น ซึ่งออกตามความในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2543 เป็นกรณีที่กฎหมายเปิดช่องให้กำหนดกิจการอื่นเพิ่มเติมได้ในภายหลัง (ไม่เข้าข่ายมาตรา 22 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562) และ 2) กฎกระทรวงที่เสนอขอขยายระยะเวลาในครั้งนี้] 

          การขอขยายระยะเวลาการออกกฎดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามมาตรา 22 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติหลักกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 ซึ่งบัญญัติให้กฎหมายที่กำหนดให้ต้องมีการออกกฎ หรือกำหนดให้รัฐต้องดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อที่ประชาชนจะสามารถปฏิบัติตามกฎหมาย หรือได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายนั้นได้ หากมิได้มีการดำเนินการออกกฎดังกล่าวหรือยังไม่ได้ดำเนินการนั้นภายในระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่กฎหมายนั้นมีผลใช้บังคับและบทบัญญัติในเรื่องนั้นก่อภาระหรือเป็นผลร้ายต่อประชาชน ให้บทบัญญัติดังกล่าวเป็นอันสิ้นผลบังคับ แต่ในกรณีที่บทบัญญัติในเรื่องนั้นให้สิทธิประโยชน์แก่ประชาชน ให้บทบัญญัติดังกล่าวมีผลใช้บังคับได้ โดยไม่ต้องมีกฎหรือดำเนินการดังกล่าว โดยระยะเวลา 2 ปีดังกล่าวคณะรัฐมนตรีจะมีมติขยายออกไปอีกก็ได้แต่ไม่เกิน 1 ปี และต้องมีมติก่อนที่จะครบกำหนดเวลา 2 ปีดังกล่าว ทั้งนี้ สำหรับกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับ ให้นับแต่เมื่อพ้นกำหนด 2 ปี นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ มีผลใช้บังคับ (นับแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2564) ซึ่งพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2543 เป็นกฎหมายที่มีผลใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทําร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายฯ ใช้บังคับ (ก่อนวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562) ดังนั้น การออกกฎหมายลำดับรองจำนวน 1 ฉบับดังกล่าว สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 แต่เนื่องจากการดำเนินการออกกฎดังกล่าวต้องใช้เวลาในการทบทวน ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ รวมทั้งจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียและผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอย่างรอบด้าน สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจึงมีความจำเป็นต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอขยายระยะเวลาในการออกกฎ ซึ่งออกตามความในมาตรา 5 ประกอบมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2543 จำนวน 1 ฉบับ ออกไปอีก 1 ปี ตั้งวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่า คณะรัฐมนตรีสามารถพิจารณาให้ความเห็นชอบการขอขยายระยะเวลาดังกล่าวได้ตามที่เห็นสมควร ทั้งนี้ แม้ขณะนี้ยังไม่มีการออกกฎกระทรวงดังกล่าว สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมก็ได้รับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี โดยได้นำข้อมูลต่างๆ มาจัดทำสถิติข้อมูลผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและแผนปฏิบัติการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งเป็นการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของการออกกฎกระทรวงในเรื่องนี้แล้ว 

          สาระสำคัญของเรื่อง

          ขอขยายระยะเวลาในการออกกฎ ซึ่งออกตามความในมาตรา 5 ประกอบมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2543 ออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรี) 24 ตุลาคม 2566

สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396

 

 

A10787

Click Donate Support Web 

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

MTL 720x100

kasat 720x100TOA 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

iconmotor

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!