WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

แนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ

Gov 22

แนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ อนุมัติ และรับทราบตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอดังนี้

          1. เห็นชอบมาตรการ จำนวน 3 มาตรการ1 ดังนี้

              1.1 มาตรการช่วยเหลือพักหนี้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม [Small and Medium Enterprises (SMEs)] ที่ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) (มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEsฯ) 

              1.2 มาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบ (มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบฯ) 

              1.3 มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด 19 (มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยฯ) ตามโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด 19 (โครงการสินเชื่อฯ) และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

          2. อนุมัติวงเงินงบประมาณ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี จำนวน 2 มาตรการ (ตามข้อ 1.1 และ 1.2) รวมทั้งสิ้น 4,900 ล้านบาท และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ดังนี้

 

มาตรการ

หน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการ

วงเงินงบประมาณ

(ล้านบาท)

แหล่งเงิน

(1) มาตรการ

ช่วยเหลือ

ผู้ประกอบการ

SMEs

สถาบันการเงินเฉพาะกิจ 7 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (...) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)

400

ใช้งบประมาณตามมาตรา 282 ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ .. 2561 โดยให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่ได้รับมอบหมายทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ (สงป.) ต่อไป

(2) มาตรการ

ช่วยเหลือลูกหนี้

นอกระบบฯ

... และธนาคารออมสิน

4,500

รวม

4,900

 

 

          3. รับทราบมาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้ ดังนี้

              3.1 มาตรการแก้ไขหนี้ในระบบ

                    (1) กลุ่มที่มีรายได้ประจำ แต่มีภาระหนี้จำนวนมากจนเกินศักยภาพในการชำระคืนหนี้ เช่น ข้าราชการ ครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำรวจ ทหาร เป็นต้น 

                    (2) กลุ่มที่มีรายได้ไม่แน่นอนทำให้การชำระคืนหนี้ไม่ต่อเนื่อง

                    (3) กลุ่มที่เป็นหนี้เสียคงค้างกับสถาบันการเงินมาเป็นระยะเวลานาน

              3.2 มาตรการแก้ไขหนี้นอกระบบ ประกอบด้วย (1) มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบที่ดำเนินการโดยสถาบันการเงินเฉพาะกิจ และ (2) มาตรการสนับสนุนให้เจ้าหนี้นอกระบบขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์)

              3.3 การปรับโครงสร้างระบบกรให้สินเชื่อและการค้ำประกันสินเชื่อ

          สาระสำคัญ

          กค. เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ จำนวน 3 แนวทาง โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

          1. แนวทางการแก้ไขหนี้ในระบบ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม รวม 9 มาตรการ/โครงการ ดังนี้

              (1) กลุ่มลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด 19 ทำให้ไม่สามารถชำระคืนหนี้ได้

 

มาตรการ/โครงการ

 

สาระสำคัญ

 

(1.1) มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยฯ ตามโครงการสินเชื่อฯ (เสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ)

 

 

หัวข้อ

รายละเอียด

เรื่องเดิม

คณะรัฐมนตรีมีมติ (24 มีนาคม 2563) เห็นชอบโครงการสินเชื่อฯ ภายใต้มาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากโรคโควิด 19 ต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม ระยะที่ 2 และกำหนดให้ธนาคารออมสิน และ ... ได้รับงบประมาณชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากลูกหนี้สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ [Non - Performing Loans (NPLs)]3 รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 20,000 ล้านบาท (แห่งละไม่เกิน 10,000 ล้านบาท) ต่อมามีลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด 19 เช่น ลูกหนี้ที่มีประวัติการชำระหนี้ดีแต่ขาดสภาพคล่อง และลูกหนี้ที่เป็นหนี้ครั้งแรกเพราะต้องการเงินทุนไปหมุนเวียน แต่ลูกหนี้ดังกล่าวไม่สามารถชำระคืนหนี้ได้จนกลายเป็น NPLs ตามข้อมูลของบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด [National Credit Bureau (NCB)] (เครดิตบูโรฯ) ซึ่งหากไม่ได้รับการช่วยเหลืออาจส่งผลให้ลูกหนี้มีประวัติเป็นลูกหนี้ NPLs อยู่ในเครดิตบูโรฯ นานถึง 8 ปี และไม่สามารถขอสินเชื่อเพิ่มเติมได้หรือมีปัญหาการขอสินเชื่อต่อไป

วิธีดำเนินการ

ให้ธนาคารออมสิน และ ... ติดตามทวงถามให้ชำระหนี้ตามสมควรแก่กรณี [ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 186 (.. 2534) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้] โดยยังไม่ตัดหนี้สูญออกจากบัญชีและให้นำงบประมาณที่ได้รับชดเชยความเสียหายตามโครงการสินเชื่อฯ ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวมาให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้เพื่อไม่ให้เป็น NPLs หรือหมดสิ้นภาระหนี้ที่เกิดจากโครงการสินเชื่อดังกล่าว

กลุ่มเป้าหมาย

ลูกหนี้โครงการสินเชื่อฯ

 

 

(1.2) มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs (เสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบและขอรับจัดสรรงบประมาณ)

 

 

หัวข้อ

รายละเอียด

วัตถุประสงค์

เพื่อลดภาระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ SMEs ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจจำนวน 7 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ... ธอส. ธอท. ธพว. ธสน. และ บสย. ที่ได้รับผลกระทบจากโรควิด 19 และลูกหนี้ NPLs โดยลดภาระการผ่อนชำระหนี้ให้สอดคล้องกับศักยภาพและความสามารถในการชำระหนี้

กลุ่มเป้าหมาย

ลูกหนี้ SMEs บุคคลธรรมดา และนิติบุคคลของสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10 ล้านบาท และเป็น NPLs วันที่ 31 ธันวาคม 2566

ระยะเวลาโครงการ

1 ปี 6 เดือน (18 เดือน) ตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568

วิธีดำเนินการ

สถาบันการเงินเฉพาะกิจปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้ SMEs โดยกำหนดเงื่อนไขในการช่วยลดภาระการจ่ายชำระหนี้ของลูกหนี้มากกว่าการขยายระยะเวลาการชำระหนี้เพียงอย่างเดียว (Restructuring) (ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ สกส2. 14/2564 เรื่อง แนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจอย่างยั่งยืน) และหากลูกหนี้ SMEs สามารถปฏิบัติ ตามเงื่อนไขการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ดังกล่าวได้อย่างน้อย 3 เดือน ลูกหนี้จะได้รับการพักชำระต้นเงินไม่เกิน 1 ปี ทั้งนี้ รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้แทนลูกหนี้ในอัตราร้อยละ 1 ต่อปี โดยชดเชยให้กับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี

งบประมาณ

ประมาณการวงเงินชดเชยดอกเบี้ยไม่เกิน 400 ล้านบาท ทั้งนี้ สถาบันการเงินเฉพาะกิจจะทำความตกลงกับ สงป. เพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณเป็นรายปีตามความเหมาะสมและความจำเป็นต่อไป (ของบประมาณในครั้งนี้)

 

 

              (2) กลุ่มที่มีรายได้ประจำ แต่มีภาระหนี้จำนวนมากจนเกินศักยภาพในการชำระคืนหนี้ เช่น ข้าราชการ ครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำรวจ ทหาร เป็นต้น

 

มาตรการ/โครงการ

 

สาระสำคัญ

 

(2.1) โครงการสินเชื่อสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อแก้ไขหนี้บุคลากรภาครัฐ (เสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบ)

 

 

หัวข้อ

รายละเอียด

วัตถุประสงค์

เพื่อรีไฟแนนซ์หนี้รายย่อยจากธนาคารออมสินไปรวมหนี้เป็นหนี้สหกรณ์

วิธีดำเนินการ

ธนาคารออมสินจะสนับสนุนสภาพคล่องให้แก่สหกรณ์เพื่อเสริมสภาพคล่องและนำไปปล่อยสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยพิเศษกับลูกหนี้ ระยะเวลากู้ไม่เกิน 10 ปี ปลอดชำระเงินต้น 2 ปี โดยคิดอัตราดอกเบี้ย ดังนี้

ปีที่

อัตราดอกเบี้ย

1

MLR - ร้อยละ 4.4 ต่อปี

2

MLR - ร้อยละ 4 ต่อปี

3 - 5

MLR - ร้อยละ 3.5 ต่อปี

6 - 10

MLR - ร้อยละ 3.25 ต่อปี

 

โดยสหกรณ์ออมทรัพย์ของส่วนราชการรายใดที่สนใจให้ความช่วยเหลือลูกหนี้สามารถติดต่อธนาคารออมสินเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวได้

 

(2.2) โครงการสินเชื่อสวัสดิการข้าราชการและบุคลากรภาครัฐอัตราดอกเบี้ยพิเศษ (เสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบ)

 

ธนาคารออมสินกำหนดให้หน่วยงานภาครัฐดำรงเงินฝากกับธนาคารออมสินตามเงื่อนไขที่กำหนดและให้ข้าราชการและบุคลากรภาครัฐที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการเปิดบัญชีเงินเดือนกับธนาคารออมสิน โดยข้าราชการและบุคลากรภาครัฐสามารถขอสินเชื่อสวัสดิการอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ได้แก่

- สินเชื่อเคหะสำหรับซื้อหรือต่อเติมซ่อมแซมที่อยู่อาศัย

- สินเชื่อสวัสดิการสำหรับการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคหรือชำระหนี้สินเชื่อรายย่อยประเภทอื่น

- สินเชื่ออเนกประสงค์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายและเสริมสภาพคล่องในยามฉุกเฉิน

(2.3) การช่วยเหลือให้มีรายได้คงเหลือเพียงพอดำรงชีพ (เสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบ)

 

ผลักดันให้ส่วนราชการกำหนดหลักเกณฑ์การตัดเงินเดือนเพื่อชำระหนี้ของข้าราชการในสังกัดโดยต้องมีเงินเดือนคงเหลือในบัญชีอย่างน้อยร้อยละ 30 เพื่อให้เพียงพอต่อการดำรงชีพ

 

              (3) กลุ่มที่มีรายได้ไม่แน่นอนทำให้การชำระคืนหนี้ไม่ต่อเนื่อง

 

มาตรการ/โครงการ

 

สาระสำคัญ

(3.1) มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เกษตรกร (เสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบ)

 

คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เห็นชอบมาตรการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้เกษตรกรที่มีต้นเงิน (Principle) รวมเป็นหนี้คงเหลือทุกสัญญารวมกัน วันที่ 30 กันยายน 2566 ไม่เกิน 3 แสนบาท ระยะเวลาพักชำระหนี้ 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 - 30 กันยายน 2567 โดยปัจจุบันมีลูกหนี้เกษตรกรแสดงความประสงค์เข้าร่วมมาตรการดังกล่าวจำนวน 1.59 ล้านราย

(3.2) มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เช่าซื้อและลูกหนี้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ (เสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบ)

 

กค. ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดทำร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้การประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์อยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน .. 2551 .. .... โดยให้ ธปท. มีอำนาจในการกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าว เช่น ให้ผู้ประกอบธุรกิจประกาศข้อมูลในเรื่องอัตราดอกเบี้ย อัตราส่วนลด และค่าบริการต่างๆ แจ้งและแสดงวิธีการและรายละเอียดในการคำนวณ อัตราค่าบริการรายปี จัดทำบัญชีเพื่อแสดงผลการดำเนินงานและฐานะการเงินตามมาตรฐานการบัญชีที่กำหนดโดยสถาบันวิชาชีพ กำหนดเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นต้น ทั้งนี้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการตามกระบวนการออกกฎหมายเพื่อบังคับใช้ต่อไป

(3.3) มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) (เสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบ)

 

กยศ. ได้ดำเนินการข่วยเหลือลูกหนี้ ได้แก่

- ปรับโครงสร้างหนี้หรือแปลงหนี้ใหม่สำหรับหนี้ที่มีคำพิพากษาแล้ว

- กำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไม่เกินร้อยละ 2 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยเงินเพิ่ม (เบี้ยปรับ) ร้อยละ 1 ต่อปี

- กำหนดลำดับการหักเงินที่รับชำระหนี้ เป็นเงินต้น - ดอกเบี้ย - เบี้ยปรับขยายขอบเขตของเงินกู้ยืม กยศ. โดยเปิดโอกาสให้กู้ยืมเงินสำหรับการพัฒนาทักษะ (Upskill) หรือการปรับทักษะ (Reskill) รวมทั้งการพิจารณาการใช้เงิน กยศ. เพื่อให้ทุนการศึกษาได้

- กำหนดงวดการชำระคืนที่ยืดหยุ่นมากขึ้น โดยสามารถชำระหนี้แบบรายเดือน รายไตรมาสหรือรายปีได้

ทั้งนี้ ปัจจุบัน กยศ. อยู่ระหว่างคำนวณเงินผ่อนชำระของลูกหนี้ กยศ. ตามหลักเกณฑ์ใหม่ โดยหากลูกหนี้ผ่อนชำระหนี้มามากกว่าจำนวนที่คำนวณใหม่แล้วถือว่าสามารถปิดบัญชีได้

 

              (4) กลุ่มที่เป็นหนี้เสียคงค้างกับสถาบันการเงินมาเป็นระยะเวลานาน

 

มาตรการ/โครงการ

 

สาระสำคัญ

มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้โดยบริษัทร่วมทุนระหว่างสถาบันการเงินเฉพาะกิจและบริษัทบริหารสินทรัพย์ (บบส.) (เสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบ)

 

ธปท. ได้หารือร่วมกับ กค. และสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อส่งเสริมการร่วมลงทุนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจและ บบส. ในการจัดตั้ง บบส. ในรูปแบบกิจการร่วมทุน [Joint Venture Asset Management Company (JV AMC)] เพื่อให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจสามารถร่วมลงทุนจัดตั้ง บบส. ได้ และโอนหนี้บางส่วนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจไปยัง JV AMC เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการช่วยเหลือลูกหนี้ โดยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้หรือตัดหนี้บางส่วนให้กับลูกหนี้ โดยคาดว่าจะสามารถออกประกาศได้ภายในเดือนธันวาคม 2566 ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวและเพิ่มความยืดหยุ่นในการแก้ไขปัญหาให้กับลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจและมี บบส. ที่เชี่ยวชาญเรื่องการบริหารจัดการหนี้โดยเฉพาะมาช่วยแก้ไขปัญหาให้กับลูกหนี้

 

          2. แนวทางการแก้ไขหนี้นอกระบบ รวม 3 มาตรการ ดังนี้

 

มาตรการ

 

สาระสำคัญ

 

(1) มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบฯ (เสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบและขอรับจัดสรรงบประมาณ)

 

 

หัวข้อ

รายละเอียด

วัตถุประสงค์

เพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบที่ผ่านกระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ในโครงการแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาล

กลุ่มเป้าหมาย

เป็นผู้ลงทะเบียนในโครงการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบของรัฐบาล โดยมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้

- ผู้มีรายได้ประจำหรือผู้ผระกอบอาชีพอิสระ (ขอสินเชื่อผ่านธนาคารออมสิน)

- เกษตรกรหรือบุคคลในครัวเรือนเกษตรกร (ขอสินเชื่อผ่าน ...)

วิธีดำเนินการ

ธนาคารออมสิน และ ... สนับสนุนสินเชื่อวงเงินรวม 15,000 ล้านบาท (แห่งละ 7,500 ล้านบาท) วงเงินสินเชื่อต่อรายไม่เกินรายละ 20,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) ร้อยละ 1 ต่อเดือน ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 6 งวดแรก (ชำระดอกเบี้ยปกติ) หรือเป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ระยะเวลาชำระคืนเงินงวดสูงสุดไม่เกิน 3 ปี

ระยะเวลา

การขอสินเชื่อ

ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบถึงวันที่ 30 กันยายน 2567 หรือจนกว่าจะครบวงเงินตามมาตรการ หรืออย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน

งบประมาณ

รัฐบาลชดเชยความเสียหายที่เกิดจาก NPLs ร้อยละ 100 สำหรับ NPLs จำนวนไม่เกินร้อยละ 30 ของวงเงินสินเชื่อที่อนุมัติทั้งหมด รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 4,500 ล้านบาท (15,000 ล้านบาท x ร้อยละ 30 x ร้อยละ 100) (แห่งละ 2,250 ล้านบาท) ทั้งนี้ ธนาคารออมสิน และ ... จะทำความตกลงกับ สงป. เพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณเป็นรายปีตามความเหมาะสมและความจำเป็นต่อไป (ของบประมาณในครั้งนี้)

 

(2) มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบที่ดำเนินการโดยสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (เสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบ)

 

ประกอบด้วย 4 โครงการ ดังนี้

(2.1) โครงการสินเชื่อธนาคารประชาชน โดยธนาคารออมสินสนับสนุนสินเชื่อเพื่อแก้ไขหนี้นอกระบบที่เกิดจากการประกอบอาชีพ โดยผู้มีสิทธิยื่นกู้ต้องเป็นผู้ที่ประกอบอาชีพ มีรายได้ อายุ 20 ปีขึ้นไป และเมื่อรวมระยะเวลาชำระคืนเงินกู้แล้วไม่เกิน 65 ปี วงเงินสินเชื่อรายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Fate) ร้อยละ 0.75 ต่อเตือน ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี หรือ 60 งวด พร้อมผ่อนปรนเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อ และสามารถใช้บุคคลหรือหลักทรัพย์เป็นหลักประกันได้

(2.2) สินเชื่อเพื่อชำระหนี้สินนอกระบบ โดย ... สนับสนุนสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือให้ลูกหนี้นอกระบบ วงเงินสินเชื่อรายละไม่เกิน 200,000 บาท กรณีสงวนรักษาที่ดินวงเงินสินเชื่อรายละไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น [Minimum Retail Rate (MRR)] (ปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 6.975 ต่อปี) ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 12 ปี

(2.3) สินเชื่อกองทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน โดย ... สนับสนุนสินเชื่อเพื่อสงวนรักษาที่ดินจากการจำนอง ขายฝาก หรือใช้ที่ดินเป็นประกัน โดยให้วงเงินสูงสุด 2.5 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี หากชำระหนี้ดีอย่างต่อเนื่องในแต่ละปีอัตราดอกเบี้ยจะลดเหลือร้อยละ 4 ร้อยละ 3 และร้อยละ 2 ต่อปี ตามลำดับ ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 20 ปี

(2.4) บริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด เกิดจากการร่วมทุนของธนาคารออมสิน เพื่อให้บริการขายฝากหรือให้สินเชื่อจดจำนองที่ดินอย่างเป็นธรรม โดยมีอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ร้อยละ 7.5 ต่อปี และปลอดชำระเงินต้น 12 เดือน

(3) มาตรการสนับสนุนให้เจ้าหนี้นอกระบบขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์)4 (เสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบ)

 

ผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าหนี้นอกระบบสามารถยื่นขอใบอนุญาตสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์กับ กค. เพื่อประกอบธุรกิจตามกฎหมาย โดยเงื่อนไขสำคัญเบื้องต้นสำหรับการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ คือ มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท สามารถปล่อยสินเชื่อให้ลูกหนี้รายละไม่เกิน 50,000 บาท และเรียกเก็บดอกเบี้ยแบบมีหลักประกันได้ไม่เกินร้อยละ 33 ต่อปี และแบบไม่มีหลักประกันได้ไม่เกินอัตราร้อยละ 36 ต่อปี แบบลดต้น ลดดอก และสำหรับการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกพลัส คือ มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สามารถปล่อยสินเชื่อให้ลูกหนี้รายละไม่เกิน 100,000 บาท โดยสินเชื่อในส่วนที่เกิน 50,000 บาทขึ้นไป เก็บอัตราดอกเบี้ยสูงสุดได้ไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปี แบบลดต้นลดดอก ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ที่เปิดให้บริการในจังหวัดใดสามารถให้บริการปล่อยสินเชื่อได้ภายในจังหวัดที่ได้รับใบอนุญาตเท่านั้น

 

          3. การปรับโครงสร้างระบบการให้สินเชื่อและการค้ำประกันสินเชื่อ รวม 4 เรื่อง ดังนี้

 

มาตรการ

 

สาระสำคัญ

(1) การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) (เสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบ)

 

ธปท. ร่วมกับ กค. อยู่ระหว่างออกหลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม เช่น กำหนดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อให้สอดคล้องกับความเสี่ยงของลูกค้าและลักษณะของสินเชื่อ (Risk-based pricing) ต้องไม่นำดอกเบี้ย ค่าบริการ เบี้ยปรับ และค่าใช้จ่ายมารวมกับจำนวนหนี้ที่ค้างชำระเพื่อคิดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับอีก และพิจารณาเงินเหลือสุทธิของลูกค้าให้เพียงพอต่อการดำรงชีพภายหลังจากการหักภาระผ่อนชำระหนี้ทั้งหมดแล้ว และต้องปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้และภาระหนี้ทั้งหมดของลูกหนี้ รวมทั้งปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี เป็นต้น

(2) การยกระดับการค้ำประกันสินเชื่อ (เสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบ)

 

กค. ร่วมกับ ธปท. อยู่ระหว่างเสนอแนวทางการยกระดับการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ รวมถึงสามารถส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายและผลักดันทิศทางเชิงกลยุทธ์ (Strategic Direction) ของประเทศได้ต่อไป

(3) การขยายขอบเขตข้อมูลเครดิตบูโรฯ (เสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบ)

 

คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตอยู่ระหว่างพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต .. 2545 โดยมีวัตถุประสงค์ขยายขอบเขตข้อมูลเครดิตบูโรฯ ที่สามารถจัดเก็บได้ เช่น ประวัติชำระค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำ - ค่าไฟ ข้อมูลรายได้ เป็นต้น เพื่อให้สะท้อนความตั้งใจที่จะชำระสินเชื่อ และความสามารถในการชำระสินเชื่อจริงของผู้ใช้ข้อมูลซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปล่อยกู้ และประชาชนมีโอกาสเข้าถึงสินชื่อได้อย่างเป็นธรรมมากขึ้น

(4) ข้อมูลเครดิตบูโรฯ และหลักการบุริมสิทธิ5 ของสหกรณ์ (เสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบ)

 

เนื่องจากสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนประกอบธุรกิจหลักในการให้สินเชื่อเช่นเดียวกับสถาบันการเงิน แต่สภาพแวดล้อมในการประกอบธุรกิจของสหกรณ์มีความได้เปรียบกว่าสถาบันการเงิน เนื่องจากมาตรา 42/1 แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ .. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดให้สามารถหักเงินเดือนหรือค่าจ้างเพื่อชำระหนี้แก่สหกรณ์เป็นลำดับแรก อีกทั้งสหกรณ์บางแห่งให้สินเชื่อโดยไมได้พิจารณารายได้คงเหลือเพื่อดำรงชีพทำให้ลูกหนี้สหกรณ์ถูกหักเงินเดือนจนเหลือรายได้เพื่อดำรงชีพไม่เพียงพอและไม่สามารถชำระหนี้กับสถาบันการเงินได้ ประกอบกับปัจจุบันสหกรณ์ส่วนใหญ่ยังไม่มีการรายงานข้อมูลเครดิตบูโรฯ ทำให้สถาบันการเงินให้สินเชื่อโดยไม่ทราบภาระหนี้ที่แท้จริงของลูกหนี้ ซึ่งเป็นต้นเหตุให้ลูกหนี้มีภาระหนี้เกินความสามารถในการผ่อนชำระกลายเป็นปัญหาหนี้เรื้อรัง และสร้างความเสี่ยงต่อระบบการเงินและเป็นภาระทางเศรษฐกิจในที่สุด ดังนั้น สหกรณ์ที่ประกอบธุรกิจหลักในการให้สินเชื่อควรนำส่งข้อมูลเครดิตบูโรฯ ให้แก่บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ รวมทั้งควรมีการจัดการบุริมสิทธิในการตัดเงินเดือนหรือค่าจ้างเพื่อชำระหนี้ที่เป็นธรรมกับทุกฝ่ายและเหมาะสมกับต้นทุนทางการเงินของผู้ให้สินเชื่อแต่ละราย

 

_______________________

1 มาตรการตามข้อ 1.1 และ 1.3 เป็นมาตรการที่คณะทำงานเพื่อกำหนดมาตรการในการพักหนี้เกษตรกรและผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 (คณะทำงานฯ) ในคราวการประชุมครั้งที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 และการประชุมครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 [รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์) เป็นประธาน] ได้มีมติเห็นชอบให้นำเสนอคณะรัฐมนตรี

2 ข้อมูล ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2566 ภาระที่รัฐต้องรับชดเชยตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 มียอดคงค้าง จำนวน 1,014,173.95 ล้านบาท ดังนั้น หากมีการอนุมัติมาตรการในครั้งนี้จะส่งผลให้ยอดคงค้างเพิ่มขึ้นเป็น 1,019,073.95 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 31.99 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน ซึ่งยังคงไม่เกินอัตราร้อยละ 32 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เรื่อง กำหนดอัตราชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ของหน่วยงานของรัฐในการดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 28 

3 รัฐชดเชย NPLs ร้อยละ 100 ไม่เกินร้อยละ 50 ของวงเงินสินเชื่อทั้งหมด 40,000 ล้านบาท โดยลูกหนี้ขอสินเชื่อได้รายละไม่เกิน 10,000 บาท

4 สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ คือ ธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับของ กค. ที่เปิดให้ประชาชนสามารถดำเนินธุรกิจสินเชื่ออย่างถูกกฎหมายในพื้นที่ที่ผู้ให้กู้กับผู้กู้มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน โดยบริษัทที่ผ่านการอนุญาตจาก กค. จะถือว่าเป็นสถาบันทางการเงินที่สามารถดำเนินธุรกิจสินเชื่อได้อย่างถูกกฎหมาย

5 บุริมสิทธิ คือ สิทธิของเจ้าหนี้ที่มีเหนือทรัพย์สินของลูกหนี้ในการที่จะได้รับชำระหนี้อันค้างชำระแก่ตนจากทรัพย์สินนั้นก่อนเจ้าหนี้อื่นตามที่กฎหมายกำหนด

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรี) 19 ธันวาคม 2566

 

 

12590

Click Donate Support Web 

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

MTL 720x100

kbank 720x100 66

SME 720x100 66QIC 720x100

วิริยะ 720x100AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

ais 720x100

iconmotor

gen 720x100

TOA 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!