ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยความร่วมมือด้านวิชาการ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 06 February 2024 23:23
- Hits: 9769
ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยความร่วมมือด้านวิชาการ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่าง อว. แห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยความร่วมมือด้านวิชาการ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ร่างบันทึกความเข้าใจฯ) ทั้งนี้ ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องปรับปรุงถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ขอให้ อว. ดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ
(จะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ระหว่างวันที่ 7-8 กุมภาพันธ์ 2567)
สาระสำคัญของเรื่อง
อว. รายงานว่า
1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ได้มีการหารือความร่วมมือด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 ณ กัมพูชา เพื่อพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมระหว่างไทย-กัมพูชา เช่น การแลกเปลี่ยนนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ การฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะสำหรับบุคลากรวัยทำงานในด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีอุตสาหกรรมขยะ และโลจิสติกส์ การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกันในการยกร่างบันทึกความเข้าใจฯ
2. ร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
หัวข้อ |
รายละเอียด |
|
(1) วัตถุประสงค์ |
เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาความร่วมมือในสาขาวิชาการ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีระหว่างสองประเทศ ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นบนพื้นฐานของความเสมอภาค ผลประโยชน์ร่วมกันและความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างไทย-กัมพูชา โดยเป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับที่มีอยู่ของแต่ละประเทศ |
|
(2) สาขาความร่วมมือ |
ประกอบด้วย 1) วิทยาศาสตร์ชีวภาพ และเทคโนโลยีชีวภาพ 2) หุ่นยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีดิจิทัลและเศรษฐกิจดิจิทัล 3) ความมั่นคงทางอาหาร น้ำ และพลังงาน 4) ภูมิสารสนเทศและเทคโนโลยีอวกาศ 5) ชีววิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์การแพทย์ 6) วัสดุศาสตร์และนาโนเทคโนโลยี 7) นโยบายด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสาธารณชนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 8) การส่งเสริมผู้ประกอบการใหม่ การบ่มเพาะผู้ประกอบการ และอุทยานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม 9) มาตรวิทยา 10) การจัดการโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทาน 11) การแปรรูปอาหารและบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม 12) สาขาอื่นๆ ที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าจะดำเนินความร่วมมือ |
|
(3) กิจกรรมความร่วมมือ |
ประกอบด้วย 1) โครงการการวิจัยและพัฒนาร่วม 2) การแลกเปลี่ยนนักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญ และนักวิจัย 3) การจัดและการเข้าร่วมการประชุมทางวิทยาศาสตร์ การสัมมนา การประชุมทางวิชาการ การฝึกอบรม การประชุมเชิงปฏิบัติการ นิทรรศการโครงการ/หลักสูตรเสริมสร้างขีดความสามารถที่จัดร่วมกัน 4) การแลกเปลี่ยนข้อมูลและเอกสารทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 5) การถ่ายทอดเทคโนโลยี 6) ความร่วมมือด้านวิชาการ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในรูปแบบอื่นๆ ที่เห็นพ้องร่วมกัน |
|
(4) หน่วยงานหลักในการดำเนินการ |
- ฝ่ายไทย คือ อว. โดย สำนักงานปลัด อว. - ฝ่ายกัมพูชา คือ กระทรวงอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมโดยกรมวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม |
|
(5) คณะกรรมการร่วมเพื่อดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจฯ |
ทั้งสองฝ่ายร่วมกันจัดตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจฯ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนที่ได้รับการแต่งตั้งโดย อว. และกระทรวงอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งกัมพูชา โดยมีภารกิจของคณะกรรมการร่วม เช่น 1) อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติตามแผนงานและโครงการร่วม 2) แลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ได้รับจากการดำเนินความร่วมมือและการพิจารณาข้อเสนอโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาต่อไป 3) จัดการประชุมคณะกรรมการร่วมปีละหนึ่งครั้ง โดยจะผลัดกันจัดในไทยและกัมพูชา หรือนอกจากจะมีการตกลงกันให้ปฏิบัติแตกต่างไปจากนี้ |
|
(6) การจัดทำข้อตกลงย่อย |
ทั้งสองฝ่ายสามารถจัดทำข้อตกลงย่อยสำหรับความร่วมมือด้านวิชาการ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในสาขาเฉพาะที่สนใจร่วมกันได้ |
|
(7) สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา |
1) ทั้งสองฝ่ายจะทำให้เชื่อมั่นได้ว่าสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาใดๆ ที่อาจเกิดจากการดำเนินกิจกรรมความร่วมมือของบันทึกความเข้าใจฯ จะได้รับการปกป้องโดยกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องในแต่ละประเทศของตนและความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่สามารถนำมาบังคับใช้ได้ 2) ทั้งสองฝ่ายจะทำให้เชื่อมั่นได้ว่าการแบ่งปันสิทธิความเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาใดๆ อันเป็นผลจากการดำเนินกิจกรรมความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสถาบันที่เข้าร่วมภายใต้บันทึกความเข้าใจฯ จะพิจารณาแบ่งปันสิทธิตามการมีส่วนร่วมและผลประโยชน์ของสถาบันที่เข้าร่วมแต่ละแห่งเป็นรายกรณีโดยความเห็นชอบของทั้งสองฝ่ายผ่านการจัดทำความตกลงแยกเป็นลายลักษณ์อักษร 3) การนำผลงานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และข้อมูลอื่นใดที่ได้รับจากกิจกรรมความร่วมมือภายใต้บันทึกความเข้าใจฯ ไปเผยแพร่ จัดพิมพ์หรือใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ จะต้องได้รับความยินยอมจากทั้งสองฝ่าย |
|
(8) การตกลงร่วมกันในเงื่อนไข ข้อกำหนดและค่าใช้จ่ายภายใต้บันทึกความเข้าใจฯ |
ทั้งสองฝ่ายจะตกลงร่วมกันในเงื่อนไขและข้อกำหนดซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น จากการดำเนินแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรมภายใต้บันทึกความเข้าใจฯ |
|
(9) วันที่มีผลใช้บังคับ |
วันที่ได้รับการลงนามโดยทั้งสองฝ่าย |
|
(10) ระยะเวลาที่มีผลใช้บังคับและการสิ้นสุด |
1) มีผลใช้เป็นระยะเวลาห้าปีและจะได้รับการต่ออายุโดยอัตโนมัติเป็นเวลาอีกห้าปี เว้นเสียแต่จะสิ้นสุดลงโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแจ้งยกเลิกเป็นลายลักษณ์อักษรให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบผ่านช่องทางการทูตไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันก่อนวันหมดอายุ 2) การสิ้นสุดของบันทึกความเข้าใจฯ จะไม่มีผลกระทบต่อโครงการหรือแผนงานภายใต้บันทึกความเข้าใจฯ ที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ในห้วงเวลาที่บันทึกความเข้าใจฯ สิ้นสุดลง |
|
(11) การแก้ไขข้อความและสารัตถะ |
ต้องได้รับการตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรร่วมกันของทั้งสองฝ่าย |
|
(12) ผลผูกพันทางกฎหมาย |
ไม่มีเจตนาในการสร้างข้อผูกพันทางกฎหมายต่อทั้งสองฝ่ายและไม่ถือเป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ |
_________________
* อว. แจ้งว่า ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจากการดำเนินแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรมภายใต้บันทึกความเข้าใจฯ จะใช้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี ซึ่ง อว. มีงบประมาณภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพและขับเคลื่อนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศระดับทวิภาคีและพหุภาคีรองรับเพื่อการนี้แล้ว
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรี) 6 กุมภาพันธ์ 2567
2189