WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

 

 

MTI 720x100

 

ความก้าวหน้าในการดำเนินการของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายใต้กระบวนการประเมินติดตามการปฏิบัติตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003

Gov 22

ความก้าวหน้าในการดำเนินการของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายใต้กระบวนการประเมินติดตามการปฏิบัติตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ ดังนี้

          1. รับทราบความก้าวหน้าในการดำเนินการของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายใต้กระบวนการประเมินติดตามการปฏิบัติตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อด้านการทุจริต ค.ศ. 2003 (United Nations Convention against Corruption: UNCAC) รวมทั้งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะที่ประเทศไทยได้รับในการประเมินติดตามการปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ ทั้ง 4 หมวด

          2. มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีสำนักงาน ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานอัยการสูงสุด นำข้อสังเกตและข้อเสนอแนะไปพิจารณาดำเนินการตามอำนาจ หน้าที่และความรับผิดชอบของหน่วยงานต่อไป ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบต่อไป 

          สาระสำคัญของเรื่อง

          คณะกรรมการ ป.ป.ช. รายงานว่า

          1. คณะกรรมการ ป.ป.ช. ร่วมกับสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดฯ และรัฐผู้ประเมินได้จัดทำรายงานการประเมินติดตามการปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ รอบที่ 2 ฉบับสมบูรณ์เสร็จเรียบร้อยซึ่งถือได้ว่าไทยได้ปฏิบัติภารกิจภายใต้กระบวนการประเมินติดตามการปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ ในฐานะผู้ถูกประเมินโดยครบถ้วนสมบูรณ์แล้วทั้ง 2 รอบ ได้แก่ (1) การประเมินติดตามฯ รอบที่ 1 (หมวดที่ 3 การกำหนดให้เป็นความผิดอาญาและการบังคับใช้กฎหมาย และหมวดที่ 4 ความร่วมมือระหว่างประเทศ) และ (2) การประเมินติดตามฯ รอบที่ 2 (หมวดที่ 2 มาตรการป้องกันการทุจริตและหมวดที่ 5 การติดตามทรัพย์สินคืน) ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ได้จัดพิมพ์เอกสารผลผลิตของกลไกการประเมินติดตามฯ ในรูปแบบ “เอกสารชุดอนุสัญญาฯ (UNCAC Boxset)” และเผยแพร่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางเว็บไซต์ http://www.nacc.go.th/tacc/ โดยเอกสารชุดดังกล่าวประกอบด้วยอนุสัญญาฯ ฉบับภาษาอังกฤษ พร้อมคำแปลภาษาไทยและรายงานการประเมินติดตามการปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ รอบที่ 1 และรอบที่ 2 

          2. คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 122/2565 เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ได้มีมติรับทราบความคืบหน้าในการดำเนินการประเมินติดตามการปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ และเห็นชอบให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบความก้าวหน้าของกฎหมายต่อต้านการทุจริตของไทย อันเป็นผลจากการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศในการประเมินติดตามการปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ รวมทั้งพิจารณามอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการประเมินติดตามการปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ ไปพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายในความรับผิดชอบของหน่วยงานให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลต่อไปสรุปได้ ดังนี้

              2.1 ผลการประเมินติดตามการปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ สรุปได้ ดังนี้

                    (1) กฎหมายและการดำเนินการของไทยในภาพรวมมีความสอดคล้องกับ อนุสัญญาฯ เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ไทยได้รับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะเพื่อประโยชน์ในการยกระดับการอนุวัติการอนุสัญญาฯ ของไทยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นความซ้ำซ้อนของอำนาจหน้าที่ในความรับผิดชอบขององค์กรซึ่งกำหนดและกำกับนโยบายเพื่อป้องกันการทุจริตของไทย โดยสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดฯ มีความเห็นว่า นโยบายการป้องกันการทุจริตของประเทศควรริเริ่มและพัฒนามาจากการถอดบทเรียนจากการปราบปรามการทุจริตระดับชาติเพื่อให้การป้องกันและการปราบปรามการทุจริตมีความสอดคล้องเหมาะสมและส่งเสริมซึ่งกันและกัน ดังนั้น การจัดตั้งหน่วยงานต่อต้านการทุจริตหลายหน่วยงานอาจก่อให้เกิดอำนาจและหน้าที่ที่ซ้ำซ้อนกัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเป็นอิสระของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์กรอิสระระดับชาติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่มีความรับผิดชอบทั้งด้านป้องกันและด้านปราบปรามการทุจริต และมีอำนาจหน้าที่ดำเนินภารกิจดังกล่าวโดยปราศจากอิทธิพลและการแทรกแซงใดๆ อันเป็นไปตามหลักสากลและได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ

                    (2) การประเมินติดตามฯ เป็นการผลักดันให้มีการตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ซึ่งมีความสอดคล้องรองรับตามพันธกรณีและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น การกำหนดฐานความผิดการให้และรับสินบนของเจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศและเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ การกำหนดหลักการริบทรัพย์สินตามหลักมูลค่า การกำหนดความรับผิดของนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการให้สินบน การกำหนดให้อายุความสะดุดหยุดอยู่หากมีการหลบหนี ความผิดฐานขัดขวางกระบวนการยุติธรรม การรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ

                    (3) ไทยยังคงมีประเด็นตามข้อบทบังคับแห่งอนุสัญญาฯ ที่ยังต้องดำเนินการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายให้เทียบเท่ามาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้น เช่น การสืบสวนสอบสวนโดยวิธีพิเศษ การกำหนดบทลงโทษสำหรับนิติบุคคลให้มีประสิทธิภาพ ได้สัดส่วน และมีผลในการยับยั้งการกระทำความผิด การห้ามมิให้นำค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินสินบนมาลดหย่อนภาษี โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายต่อต้านการทุจริต 2 ประเด็น ดังนี้

                         (3.1) การสืบสวนสอบสวนโดยวิธีพิเศษ (Special Investigative Techniques) คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เห็นชอบในหลักการให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2561 โดยกำหนดหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ครอบคลุมถึงการสืบสวนสอบสวนโดยวิธีพิเศษ ตามข้อบทที่ 50 แห่งอนุสัญญาฯ ซึ่งเป็นข้อบทบังคับ เช่น การเข้าถึงเอกสารหรือข้อมูลข่าวสารอื่นซึ่งส่งทางไปรษณีย์ โทรเลข โทรศัพท์ โทรสาร คอมพิวเตอร์ เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ในการสื่อสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อทางเทคโนโลยีสารสนเทศ การปฏิบัติการอำพราง และการใช้เครื่องมือสื่อสารหรือเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ในการสะกดรอย เพื่อให้เข้าถึงและได้มาซึ่งพยานหลักฐานอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบและไต่สวนคดีทุจริตอันเป็นอาชญากรรมร้ายแรง

                         (3.2) มาตรการชะลอการไต่สวนนิติบุคคล1 (Non-Trial Resolutions) คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เห็นชอบให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการศึกษาวิเคราะห์มาตรการชะลอการดำเนินคดีอาญาในชั้นไต่สวนสำหรับนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2561 เพื่อนำหลักการชะลอการไต่สวนนิติบุคคลมาใช้บังคับ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บังคับใช้กฎหมายในการดำเนินกระบวนยุติธรรมทางอาญา โดยเพิ่มกลไกการชะลอการดำเนินคดีกับนิติบุคคล ซึ่งเป็นการยกระดับในเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยส่งเสริมให้นิติบุคคลเข้ามาให้ถ้อยคำหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเพื่อให้การปราบปรามการทุจริตเป็นไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นการเยียวยาความเสียหายแก่ภาครัฐหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำความผิด การสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจเอกชนในด้านการลงทุนให้เป็นไปด้วยความเข้มแข็ง ยั่งยืน และคงไว้ซึ่งเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้ไทยมีการดำเนินการเทียบเท่ามาตรฐานสากลสอดคล้องตามอนุสัญญาฯ รวมถึงหลักการตามอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศในการทำธุรกรรมทางธุรกิจระหว่างประเทศขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา

              2.2 ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะที่ไทยได้รับจากการประเมินติดตามการปฏิบัติตาม อนุสัญญาฯ ทั้ง 4 หมวด มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ในการยกระดับการอนุวัติการอนุสัญญาฯ โดยจะส่งผลให้กฎหมายไทยมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล รวมทั้งเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นในการต่อต้านการทุจริต ซึ่งเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ ทั้งนี้ การอนุวัติการดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริตในระดับประเทศจึงมีความจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะหน่วยงานในกำกับของราชการฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ สรุปได้ ดังนี้

 

ข้อบทที่เกี่ยวข้อง

 

ข้อสังเกต/ข้อเสนอแนะ เช่น

 

แนวทางการดำเนินการ

 

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

หมวดที่ 2 มาตรการป้องกันการทุจริต

ข้อบทที่

ย่อหน้า 1

 

คงไว้ซึ่งการติดตามความมีประสิทธิภาพและผลกระทบที่ได้รับจากการปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต รวมถึงปรับใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการประสานงานและลดความซ้ำซ้อนและความซับซ้อนในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติในระดับต่างๆ ของรัฐบาล

 

กระบวนการดำเนินการ : ดำเนินการติดตามประสิทธิภาพและผลที่ได้รับจากการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติฯ

กระบวนการนิติบัญญัติ: ปฏิรูปหน่วยงานฝ่ายบริหารที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริต

 

- สำนักงาน ป..

- รัฐสภา

ข้อบทที่ 7 ย่อหน้า 1 ()

 

พยายามระบุตำแหน่งราชการที่มีความเสี่ยงเป็นพิเศษต่อการทุจริตและกำหนดกระบวนการในการคัดเลือกฝึกอบรม และหมุนเวียนบุคคลในตำแหน่งดังกล่าวตามความเหมาะสม

 

กระบวนการดำเนินการ :

- กำหนดรายชื่อตำแหน่งราชการ

ที่มีความเสี่ยงพิเศษต่อการทุจริต

- กำหนดกระบวนการคัดเลือก ฝึกอบรมและหมุนเวียนบุคคลในตำแหน่งดังกล่าว

 

- สำนักงาน ..

- สำนักงาน ..

ข้อบทที่ 12 ย่อหน้า 2

 

คงไว้ซึ่งการเสริมสร้างมาตรการป้องกันการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับภาคเอกชนผ่านการบังคับใช้กฎหมาย ข้อบังคับ รวมถึงมาตรฐานการบัญชีและการสอบบัญชีโดยการส่งเสริมข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณธรรมในภาคธุรกิจหรือแนวปฏิบัติทางพาณิชย์ที่ดีการยกระดับความโปร่งใสในภาคเอกชน และการป้องกันการใช้กระบวนการควบคุมกิจกรรมทางพาณิชย์โดยมิชอบ

 

กระบวนการดำเนินการ :

- บังคับใช้กฎหมายต่อต้านการทุจริตในภาคเอกชน

- ดำเนินมาตรการส่งเสริมมาตรฐานการบัญชี

- ดำเนินมาตรการส่งเสริมคุณธรรมในภาคธุรกิจ

- ดำเนินมาตรการส่งเสริมแนวปฏิบัติทางพาณิชย์ที่ดีและการป้องกันการใช้กระบวนการควบคุมกิจกรรมทางพาณิชย์โดยมิชอบ

- ดำเนินมาตรการยกระดับ

ความโปร่งใสในภาคเอกชน

 

- กระทรวงพาณิชย์

- สำนักงาน

คณะกรรมการ

ส่งเสริมการลงทุน

(สกท.)

- สำนักงาน ...

- สำนักงาน

คณะกรรมการ

กำกับหลักทรัพย์

และตลาดหลักทรัพย์

- ธนาคาร

แห่งประเทศไทย

(ธปท.)

หมวดที่ 3 การกำหนดให้เป็นความผิดทางอาญา และการบังคับใช้กฎหมาย

ข้อบทที่ 15 ()

 

แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเพื่อทำให้มั่นใจว่าการให้สินบนทางอ้อมจะต้องได้รับโทษเช่นเดียวกับการกระทำความผิดโดยตรง เพื่อให้ครอบคลุมถึงการให้คำมั่น เสนอหรือให้ประโยชน์อันมิควรได้แก่บุคคลที่สาม รวมถึงตัดองค์ประกอบเพิ่มเติมอันมิชอบด้วยหน้าที่ในการกระทำการ ไม่กระทำการหรือประวิงการกระทำใด

 

กระบวนการนิติบัญญัติ : - กำหนดความผิดฐานให้สินบนทางอ้อม

ตัดองค์ประกอบมิชอบด้วยหน้าที่ในความผิดฐานให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐ

 

สำนักงาน ...

- รัฐสภา

ข้อบทที่ 23 

ย่อหน้าย่อย 2 (), (), ()

 

บังคับใช้ความผิดฐานฟอกเงินกับความผิดฐานทุจริตทั้งหมดร่วมถึงจัดทำสำเนาของกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินให้แก่เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ

 

กระบวนการนิติบัญญัติ : กำหนดให้การกระทำทุจริตทั้งหมดเป็นความผิดมูลฐานสำหรับความผิดฐานฟอกเงิน

- กระบวนการดำเนินการ : จัดส่งสำเนาพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน .. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้แก่ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ

 

สำนักงาน ป..สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

(สำนักงาน ปปง.) รัฐสภา

ข้อบทที่ 27 ย่อหน้า 3

 

ไทยอาจมุ่งประสงค์ที่จะกำหนดให้การตระเตรียมการกระทำความผิดฐานทุจริตเป็นความผิดทางอาญา

 

กระบวนการนิติบัญญัติ : กำหนดความผิดฐาน ตระเตรียมการกระทำทุจริต

 

สำนักงาน ...

ข้อบทที่ 30 ย่อหน้า 1

 

ประเมินว่าการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายไทยจะนำไปสู่การมีบทลงโทษที่ได้สัดส่วนมากขึ้น หรือไม่

 

กระบวนการดำเนินการ :

ประเมิน/ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับความได้สัดส่วนของการกำหนดโทษประหารชีวิต

กระบวนการนิติ : บัญญัติ ยกเลิกโทษประหารชีวิตในฐานความผิดที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต

 

- กระทรวงยุติธรรม

- สำนักงาน ...

- รัฐสภา

หมวดที่ 4 ความร่วมมือระหว่างประเทศ

ข้อบทที่ 44 ย่อหน้า 2

 

ไทยอาจมุ่งประสงค์ที่จะอนุญาตให้มีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนสำหรับฐานความผิดที่ไม่สามารถลงโทษได้ภายใต้กฎหมายภายในของไทย

 

กระบวนการนิติบัญญัติ :

กำหนดให้รัฐบาลไทยมีอำนาจส่งผู้ร้ายข้ามแดนฯ

 

- สำนักงานอัยการ

สูงสุด (อส.)

- รัฐสภา

ข้อบทที่ 46 ย่อหน้า 4

 

ไทยอาจมุ่งประสงค์ที่จะส่งข้อมูลได้เองในบริบทความช่วยเหลือซึ่งกันและกันทางกฎหมาย

 

กระบวนการนิติบัญญัติ :

กำหนดให้ไทยมีอำนาจส่งข้อมูลทางคดีให้แก่ต่างประเทศผ่านช่องทางความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญาได้โดยไม่ต้องมีคำขอ

 

- สำนักงาน ...

- อส.

- รัฐสภา

ข้อบทที่ 50

 

เพื่อให้เกิดความแน่ชัดของกฎหมายทบทวนกฎหมายเพื่ออนุญาตอย่างชัดแจ้งให้ใช้การสืบสวนสอบสวนด้วยวิธีพิเศษในคดีทุจริต และกำหนดให้สามารถรับฟังพยานหลักฐานที่ได้จากการดำเนินการดังกล่าวไทยอาจมุ่งประสงค์ที่จะใช้การสืบสวนสอบสวนด้วยวิธีพิเศษระหว่างประเทศในการปฏิรูปกฎหมายดังกล่าว

 

กระบวนการนิติบัญญัติ :

กำหนดให้คณะกรรมการ ... มีอำนาจสืบสวนสอบสวนโดยวิธีพิเศษ

 

- สำนักงาน ...

- รัฐสภา

หมวดที่ 5 การติดตามทรัพย์สินคืน

ข้อบทที่ 51

 

- ทำให้แน่ใจว่าไม่มีอุปสรรคสำหรับไทยในการให้ความช่วยเหลือระหว่างประเทศอันเนื่องมาจากการใช้เงื่อนไขเรื่องหลักความผิดสองรัฐโดยเคร่งครัดซึ่งรวมถึงมาตรการที่ไม่บังคับ (non-coercive measures)

- ทำให้แน่ใจว่าการให้อำนาจอย่างกว้างแก่นายกรัฐมนตรีในการตัดสินใจเกี่ยวกับคำร้องขอความร่วมมือระหว่างประเทศจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพของผู้ประสานงานกลางในการพิจารณาเรื่องดังกล่าว

 

กระบวนการนิติบัญญัติ :

- กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไข เรื่องหลักความผิดสองรัฐและมาตรการที่ไม่บังคับ

- กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการใช้ดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรีในการมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงคำวินิจฉัยของอัยการสูงสุด (มาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา.. 2535)

 

อส.

ข้อบทที่ 52 ย่อหน้า 4

 

กำหนดให้สถาบันการเงินเก็บข้อมูลอย่างเพียงพอจากธนาคารตัวแทนเพื่อใช้ในการประเมินความเสี่ยงในประเด็นความเหมาะสมของการควบคุมการฟอกเงินของธนาคารตัวแทน

 

กระบวนการดำเนินการ :

กำหนดให้สถาบันการเงินเก็บข้อมูลฯ

 

- สำนักงาน ปปง.

- ธปท.

ข้อบทที่ 54 ย่อหน้า 1 ()

 

กำหนดมาตรการสำหรับการบังคับตามคำสั่งริบทรัพย์ของศาลต่างประเทศโดยตรง

 

กระบวนการนิติบัญญัติ

แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติมาตรา 32-34 แห่งพระราชบัญญัติ

ความร่วมมือฯ ให้อัยการสูงสุดมีอำนาจรับและดำเนินการเพื่อบังคับตามคำสั่งริบทรัพย์ของศาลต่างประเทศโดยตรง

 

- อส

- รัฐสภา

_____________

1เป็นวิธีการเพื่อให้ผู้กระทำความผิดเข้ามามีส่วนร่วมในการไต่สวน เช่น ให้ถ้อยคำ แจ้งเบาะแส หรือข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญในการวินิจฉัยชี้มูลการกระทำผิดและยินยอมชำระเงินค่าปรับ ค่าเสียหาย หรือค่าใช้จ่ายตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจชะลอการไต่สวนนิติบุคคลได้ โดยมิต้องนับระยะเวลาระหว่างที่มีการชะลอการไต่สวนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรี) 6 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

2198

Click Donate Support Web 

AXA 720 x100

Banner GPF720x100 PX

MTL 720x100

kbank 720x100 66

วิริยะ 720x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

ais 720x100

QIC 720x100

gen 720x100

CKPower 720x100

TOA 720x100

SME 720x100 66

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!