WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

มติคณะรัฐมนตรี แต่งตั้ง 20 กุมภาพันธ์ 2567

Gov 41

มติคณะรัฐมนตรี แต่งตั้ง 20 กุมภาพันธ์ 2567

 

คณะกรรมการต่างๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม)

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอแต่งตั้งคณะกรรมการต่างๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี จำนวน 5 คณะ ดังนี้

          1. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ (คปป.)

          2. คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาระดับประเทศ (ฝ่ายไทย)

          3. คณะกรรมการร่วม (Joint Committee) ฝ่ายไทย

          4. คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการน้ำแห่งชาติ

          5. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอุทยานธรณี

          ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป 

          สาระสำคัญของเรื่อง

          ทส. รายงานว่า ได้พิจารณาคณะกรรมการต่างๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีของคณะรัฐมนตรีชุดเดิม (รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) เห็นว่า คณะกรรมการฯ จำนวน 5 คณะ ยังมีภารกิจที่สำคัญและจำเป็นที่จะต้องคงอยู่ต่อไป เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการดำเนินภารกิจที่สำคัญ โดยรายละเอียดองค์ประกอบ หน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการฯ จำนวน 5 คณะ มีดังนี้ 

          1. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ (คปป.) 

          องค์ประกอบที่เสนอแต่งตั้งใหม่ 

          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้รับมอบหมาย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ได้รับมอบหมาย และปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ อัยการสูงสุด เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อธิบดีกรมที่ดิน อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน อธิบดีกรมศุลกากร อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อธิบดีกรมทางหลวง อธิบดีกรมทางหลวงชนบท อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และผู้ทรงคุณวุฒิ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจำนวน 5 คน โดยมีรองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านทรัพยากรธรรมชาติ) เป็นกรรมการและเลขานุการ อธิบดีกรมป่าไม้ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ 

          หน้าที่และอำนาจ (คงเดิม)

          1) เสนอนโยบายหรือแผนงาน มาตรการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรที่ดินป่าไม้ เสนอนโยบายการยกเลิก แก้ไขเพิ่มเติม หรือปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยป่าไม้หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องต่อคณะรัฐมนตรี

          2) กำหนดมาตรการต่างๆ ในการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้และที่ดินป่าไม้ และการวางกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

          3) ให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้และที่ดินป่าไม้ การอำนวยการ สั่งการ ควบคุม กำกับ ติดตาม ดูแล และตรวจสอบการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐ ให้เป็นไปตามนโยบายหรือแผนงาน มาตรการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ และที่ดินป่าไม้ที่คณะกรรมการฯ กำหนด

          4) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าระดับจังหวัด (คปป. จังหวัด) และคณะอนุกรรมการอื่นๆ กับคณะทำงานให้ปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการ ฯ มอบหมาย

          5) รวบรวมข้อมูล เอกสารหลักฐาน และข้อเท็จจริงต่างๆ จากบุคคลใดๆ และหน่วยงานของรัฐในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทำลายทรัพยากรป่าไม้และที่ดินป่าไม้ เรียกให้หน่วยงานของรัฐส่งข้อมูลเอกสารหลักฐานและข้อเท็จจริง หรือให้ส่งผู้แทนมาชี้แจงหรือให้ถ้อยคำประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานที่คณะกรรมการแต่งตั้งเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี

          6) พิจารณาขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปฏิบัติงาน

          7) รายงานผลการปฏิบัติงาน ปัญหาอุปสรรค และสถานการณ์บุกรุกตัดไม้ทำลายป่าต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี

          8) ดำเนินการอื่นใดตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย

          2. คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ระดับประเทศ (ฝ่ายไทย)

          องค์ประกอบที่เสนอแต่งตั้งใหม่ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานกรรมการ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อธิบดีกรมป่าไม้ หรือผู้แทน เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ หรือผู้แทน อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก หรือผู้แทน อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย หรือผู้แทน ผู้แทนกระทรวงกลาโหม ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้แทนสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี หรือผู้แทน ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด หรือผู้แทน ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ หรือผู้แทน ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ หรือผู้แทน ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว หรือผู้แทน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ หรือผู้แทน ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี หรือผู้แทน ผู้แทนกองทัพบก ผู้แทนกรมกิจการชายแดนทหาร ผู้แทนกองทัพภาคที่ 1 ผู้แทนกองทัพภาคที่ 2 ผู้แทนกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ผู้แทนกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้แทนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และผู้แทนกรมศุลกากร โดยมีผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นเลขานุการ ผู้อำนวยการส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และผู้อำนวยการกองเอเชียตะวันออก 2 กรมเอเชียตะวันออก เป็นผู้ช่วยเลขานุการ 

          หน้าที่และอำนาจ (คงเดิม)

          1) กำหนดนโยบายและแนวทางในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยนโยบายและแนวทางจะต้องไม่มีนัยเกี่ยวกับเขตแดนระหว่างสองประเทศ

          2) ประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูงบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา เพื่อให้การดำเนินความร่วมมือดังกล่าวเป็นไปอย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพ

          3) ประชุมคณะกรรมการฯ ระดับประเทศร่วมกับฝ่ายกัมพูชาปีละ 1 - 2 ครั้ง หรือขึ้นอยู่กับสถานการณ์

          4) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯ ระดับจังหวัด เพื่อรับกรอบการปฏิบัติงานของคณะกรรมการฯ ระดับประเทศ มาปรับใช้ในการปฏิบัติและลาดตระเวนให้เหมาะสมกับพื้นที่ในความรับผิดชอบ รวมทั้งเป็นช่องทางติดต่อประสานงานในพื้นที่ชายแดนระหว่างกัน

          5) ดำเนินโครงการตามแนวทางการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูงบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา

          6) ติดตามผลและประเมินความคืบหน้าของการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูงบริเวณชายแดน ไทย - กัมพูชา เพื่อรายงานให้รัฐบาลทราบเป็นระยะๆ

          7) แต่งตั้ง แก้ไข เพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ ตามความเหมาะสม

          8) แต่งตั้งที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม

          3. คณะกรรมการร่วม (Joint Committee) ฝ่ายไทย

          องค์ประกอบที่เสนอแต่งตั้งใหม่ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ได้รับมอบหมาย เป็นประธานกรรมการร่วม กรรมการร่วมประกอบด้วย อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน หรือผู้แทน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม หรือผู้แทน อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ หรือผู้แทน เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือผู้แทน อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก หรือผู้แทน และประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน โดยมีอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม หรือผู้แทน และผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก เป็นกรรมการและเลขานุการร่วม และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก เป็นผู้ช่วยเลขานุการ 

          หน้าที่และอำนาจที่เสนอในครั้งนี้

          1) รับรองแผนงานโครงการที่จะพัฒนาเป็นโครงการ JCM สำหรับโครงการที่จะดำเนินงานในอนาคต

          2) พัฒนาหลักเกณฑ์ และแนวทางที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานกลไกเครดิตร่วม (JCM) สำหรับโครงการที่คงค้างอยู่ในระบบ

          3) ให้ความเห็นชอบต่อระเบียบวิธีการลดก๊าซเรือนกระจก (Methodologies) สำหรับโครงการที่คงค้างอยู่ในระบบ

          4) แต่งตั้งผู้ตรวจประเมินโครงการ (Third party entity) สำหรับทําหน้าที่ตรวจสอบความใช้ได้ของโครงการ (Validation) และทวนสอบปริมาณการลดก๊าซเรือนกระจก (Verification) สำหรับโครงการที่คงค้างอยู่ในระบบ 

          5) พิจารณาการแบ่งสัดส่วนคาร์บอนเครดิตและขึ้นทะเบียนโครงการที่คงค้างอยู่ในระบบที่ผ่านการตรวจสอบความใช้ได้ของโครงการ (Validation) โดยผู้ตรวจประเมินโครงการและได้รับอนุญาตให้ใช้คาร์บอนเครดิต เพื่อวัตถุประสงค์ระหว่างประเทศแล้วเป็นโครงการ JCM

          6) รับรองคาร์บอนเครดิตที่เกิดขึ้นจากโครงการที่คงค้างอยู่ในระบบที่ผ่านการตรวจสอบการอนุญาตให้ใช้คาร์บอนเครดิตเพื่อวัตถุประสงค์ระหว่างประเทศแล้ว

          7) ปฏิบัติภารกิจอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการร่วม (Joint Committee) เห็นสมควร

          4. คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการถ้ำแห่งชาติ

          องค์ประกอบที่เสนอแต่งตั้งใหม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล อธิบดีกรมศิลปากร อธิบดีกรมการศาสนา เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อธิบดีกรมการท่องเที่ยว อธิบดีกรมป่าไม้ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ และผู้ทรงคุณวุฒิ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง จำนวน 9 คน โดยมีอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เป็นกรรมการและเลขานุการ รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ที่ได้รับมอบหมาย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ได้รับมอบหมาย และรองอธิบดีกรมป่าไม้ ที่ได้รับมอบหมาย เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ 

          หน้าที่และอำนาจ (คงเดิม)

          1) กำหนดนโยบาย หลักเกณฑ์ แนวทางในการใช้ประโยชน์การบริหารจัดการถ้ำ

          2) ดำเนินการเพื่อให้มีการศึกษา สำรวจ วิจัย จัดทำข้อมูล และประเมินศักยภาพถ้ำเพื่อการพัฒนา และการใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ

          3) กำหนดแนวทางในการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของท้องถิ่น และบูรณาการการบริหารจัดการท่องเที่ยวถ้ำโดยมีความเชื่อมโยงกับการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนท้องถิ่น

          4) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ และ/หรือ คณะทำงานได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม

          5) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย

          5. คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอุทยานธรณี

          องค์ประกอบที่เสนอแต่งตั้งใหม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อธิบดีกรมป่าไม้ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือผู้แทน อธิบดีกรมการท่องเที่ยว หรือผู้แทน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม หรือผู้แทน อธิบดีกรมศิลปากร หรือผู้แทน ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือผู้แทน นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน ผู้อำนวยการสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน และผู้ทรงคุณวุฒิ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง จำนวน 6 คน โดยมีรองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ที่ได้รับมอบหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ ผู้อำนวยการกองธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี ผู้อำนวยการกองอนุรักษ์และจัดการทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรธรณี และนักวิเทศสัมพันธ์ สำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ 

          หน้าที่และอำนาจที่เสนอในครั้งนี้

          1) เสนอแนะนโยบายเกี่ยวกับการอนุรักษ์มรดกธรณีและอุทยานธรณีต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ และแจ้งหน่วยงานของรัฐนำไปสู่การปฏิบัติ

          2) กำหนดแผนงาน มาตรการ หลักเกณฑ์ และกลไกการดำเนินงานอนุรักษ์มรดกธรณีและอุทยานธรณี โดยเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนเพื่อให้เกิดความยั่งยืนของการอนุรักษ์มรดกธรณีและการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นพร้อมทั้งส่งเสริมสนับสนุนการจัดตั้งอุทยานธรณี และเครือข่ายของอุทยานธรณีประเทศไทยรวมถึงการดำเนินกิจกรรมกับเครือข่ายอุทยานธรณีโลกระดับต่างๆ

          3) รับรองแหล่งมรดกธรณีของประเทศไทย และอุทยานธรณีประเทศไทย ตลอดจนให้ความเห็นชอบและรับรองในการปรับเปลี่ยนและแก้ไขรายละเอียดต่างๆ ของอุทยานธรณีประเทศไทย

          4) เสนออุทยานธรณีประเทศไทยที่มีความพร้อม โดยความเห็นชอบจากกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบในการสมัครเข้ารับรองเป็นอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก

          5) ติตต่อประสานงานกับยูเนสโกเกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมภายใต้กรอบงานอุทยานธรณีโลก

          6) ประสานงานและติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบาย แผนงาน มาตรการและกลไก

          7) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ และ/หรือ คณะทำงานได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม

          8) ปฏิบัติหน้าที่อื่นใด ปฏิบัติการอื่นใด ตามที่นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย

 

การขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของเลขาธิการ ก.พ.ร. ครั้งที่ 1 (สำนักนายกรัฐมนตรี)

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายปานปรีย์ พหิทธานุกร) กำกับการบริหารราชการ สั่ง และปฏิบัติราชการสำนักงาน ก.พ.ร. เสนอการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการ ก.พ.ร. สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะดำรงตำแหน่งดังกล่าวครบ 4 ปี ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 ต่อไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 ถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568

 

การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (สำนักงาน กปร.)

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักงาน กปร. ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 2 ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ดังนี้

          1. นายศุภรัชต์ อินทราวุธ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนา (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน กปร. ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการ กปร. สำนักงาน กปร

          2. นายวิกรม คัยนันทน์ ที่ปรึกษาด้านการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน กปร. ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการ กปร. สำนักงาน กปร. 

          ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

 

การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้)

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) กำกับการบริหารราชการ สั่ง และปฏิบัติราชการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เสนอแต่งตั้งและรับโอนข้าราชการ พลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการ ศอ.บต. เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน 2 ราย ดังนี้

          1. แต่งตั้ง นายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ให้ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการ ศอ.บต.

          2. รับโอน นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการ ศอ.บต. โดยผู้มีอำนาจสั่งบรรจุทั้งสองฝ่ายได้ตกลงยินยอมในการโอนแล้ว

          ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

 

การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงยุติธรรม)

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 4 ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ดังนี้ 

          1. นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

          2. นางสาวศิริประกาย วรปรีชา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็ก และเยาวชน ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

          3. นายโกมล พรมเพ็ง รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

          4. นางธารินี แสงสว่าง รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง 

          ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

 

การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงสาธารณสุข)

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ดังนี้

          1. นายภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

          2. นายศักดา อัลภาชน์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

          3. นายโสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

          4. นายวีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

          5. นายสราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

          6. นายมณเฑียร คณาสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

          ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

 

การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงอุตสาหกรรม)

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอแต่งตั้ง นายเศรษฐรัชต์ เลือดสกุล รองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

 

การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รวม 10 คน แทนประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์ และขอลาออก ดังนี้

          1. นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ประธานกรรมการ 

          2. รองศาสตราจารย์กุลยศ อุดมวงศ์เสรี กรรมการ 

          3. พลโท เจียรนัย วงศ์สอาด กรรมการ 

          4. รองศาสตราจารย์ฐากูร ศิริยุทธ์วัฒนา กรรมการ 

          5. นางสาวนิรมาณ ไหลสาธิต กรรมการ 

          6. นายปกรณ์ อาภาพันธุ์ กรรมการ 

          7. นายพรพจน์ เพ็ญพาส กรรมการ 

          8. ศาสตราจารย์พิสุทธิ์ เพียรมนกุล กรรมการ 

          9. นายวรากร พรหโมบล กรรมการ (ผู้แทนกระทรวงพลังงาน) 

          10. นายอัครุตม์ สนธยานนท์ กรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) 

          ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป 

 

การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงมหาดไทย) 

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 10 ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ดังนี้ 

          1. นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

          2. นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

          3. นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง (นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

          4. นายวัชรเดช เกียรติชานน ที่ปรึกษาด้านการปกครอง (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

          5. นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน

          6. นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมที่ดิน

          7. นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปลัดกระทรวง

          8. นายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวง

          9. นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน สำนักงานปลัดกระทรวง

          10. นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย สำนักงานปลัดกระทรวง

          ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

 

การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงแรงงาน)

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงแรงงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จํานวน 5 ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ดังนี้

          1. เรือเอก สาโรจน์ คมคาย ที่ปรึกษากฎหมาย (นิติกรทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

          2. นายสมพจน์ กวางแก้ว รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

          3. นางสาวบุณยวีร์ ไขว้พันธุ์ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

          4. นายสันติ นันตสุวรรณ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

          5. นางมารศรี ใจรังษี รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

          ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

 

การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ 

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ รวม 9 คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี ดังนี้

          1. นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ประธานกรรมการ 

          2. นางสาวรัชนีพร ธิติทรัพย์ กรรมการ 

          3. พลตำรวจโท ปิยะ ต๊ะวิชัย กรรมการ 

          4. นางสาวกมลพัฒน์ ปุงบางกะดี่ กรรมการ 

          5. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ กรรมการ 

          6. นายธนพล โตโพธิ์ไทย กรรมการ 

          7. นายจิรพล สังข์โพธิ์ กรรมการ 

          8. นายภูมินทร์ บุตรอินทร์ กรรมการ 

          9. นางสาวพิมพ์เพ็ญ ลัดพลี กรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) 

          ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป

 

การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม)

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอรับโอน นายประเสริฐ ศิรินภาพร รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป โดยผู้มีอำนาจสั่งบรรจุทั้งสองฝ่ายได้ตกลงยินยอมในการโอนแล้ว

 

ขอความเห็นชอบแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา 

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี ดังนี้

          1. ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ (ด้านการแพทย์)

          2. นางชฎาพร รักษาทรัพย์ (ด้านสังคมสงเคราะห์)

          3. รองศาสตราจารย์อนุสรณ์ อุณโณ (ด้านการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน)

          4. นางสาวฐปณีย์ เอียดศรีไชย

          5. นายชนะพล มหาวงษ์

          ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรี) 20 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

2700

Click Donate Support Web 

SME 720x100 66

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

EXIM One 720x90 C J

MTL 720x100

QIC 720x100

AXA 720 x100aia 720 x100

BKI 720 x 100

kbank 720x100 66

SME 720x100 66

ธกส 720x100PTG 720x100

ใจฟู720x100px

gen 720x100

TOA 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!