การขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 27 February 2024 22:33
- Hits: 9671
การขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหม (กห.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (ASEAN Defence Ministers' Meeting Retreat: ADMM Retreat) (การประชุม ADMM Retreat) จํานวน 1 ฉบับ คือ ร่างแถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนว่าด้วยผลสำเร็จของการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนภายใต้การดำเนินงานตามแผนงานประชาคมการเมืองและความมั่นคง ค.ศ. 2025 (ร่างแถลงการณ์ร่วมฯ) โดยหากมีความจำเป็นต้องแก้ไขร่างเอกสารในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ขอให้ กห. ดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก
2. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างเอกสารผลลัพธ์ดังกล่าว
[จะมีการรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในการประชุม ADMM Retreat ระหว่างวันที่ 4-6 มีนาคม 2567 ณ เมืองหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)]
สาระสำคัญของเรื่อง
กห. รายงานว่า
1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงป้องกันประเทศ สปป.ลาว ได้มีหนังสือเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ณ สปป.ลาว ซึ่งในห้วงการประชุมดังกล่าวจะมีรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์เชิงนโยบายร่วมกันของประเทศสมาชิกอาเซียน โดยมีประเด็นที่สำคัญ ดังนี้
1.1 วิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน 2025 แน่วแน่ในการจัดตั้งอาเซียนที่ยึดมั่นในกฎกติกาทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน และมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และมี “หนึ่งวิสัยทัศน์ หนึ่งอัตลักษณ์ หนึ่งประชาคม” เพื่อพัฒนาศักยภาพในการตอบสนองต่อความท้าทายอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างให้เป็นประชาคมที่มองออกไปนอกภูมิภาคในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก โดยยังรักษาความเป็นแกนกลางของอาเซียนไว้ (ซึ่งวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนด้านการเมืองและความมั่นคง ณ ปัจจุบัน ใกล้จะสิ้นสุดลงในปี 2568 และอยู่ระหว่างการจัดทำวิสัยทัศน์อาเซียน 2045 ซึ่งคาดว่าจะมีการรับรองในปี 2568)
1.2 ความร่วมมือ ประเทศสมาชิกอาเซียนจะเสริมสร้างความร่วมมือภายใต้การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ส่งเสริมความเป็นแกนกลางของอาเซียนผ่านกลไกการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา ส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนและการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับมิตรประเทศของอาเซียนและคู่เจรจา
1.3 การขับเคลื่อน เรียกร้องของประเทศสมาชิกอาเซียนให้เอาชนะความท้าทายร่วมกันและความเป็นหนึ่งของอาเซียน สะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาและเจตนารมณ์ร่วม ที่จะอาศัยอยู่ในภูมิภาคที่มีสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพที่ยืนยง มีการส่งเสริมและดำรงความเป็นสามัคคีและความร่วมมือด้านความมั่นคงร่วมกัน เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของแผนงานประชาคมการเมืองและความมั่นคง 2025*
1.4 มุ่งมั่นที่จะดำเนินการ ดังนี้
(1) รักษาบทบาทของการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน (ADMM) และ การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา (ADMM-Plus) ในฐานะที่เป็นกลไกความร่วมมือด้านความมั่นคงระดับสูงสุดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสำหรับประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่เจรจา และรับทราบถึงความสนใจของมิตรประเทศอาเซียนและคู่เจรจาในการมีส่วนร่วมในความมั่นคงและเสถียรภาพของภูมิภาค
(2) เสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการป้องกันประเทศและการทหาร ผ่านทางกลไกที่มีอยู่เพื่อพัฒนาศักยภาพ สร้างความเข้มแข็ง ยกระดับการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิก และปฏิบัติตามแผนงานประชาคมการเมืองและความมั่นคง 2025 อย่างเต็มที่
(3) มีส่วนร่วมในการพัฒนาแผนยุทธศาสตร์สำหรับประชาคมการเมืองและความมั่นคงภายใต้วิสัยทัศน์อาเซียน 2045 เพื่อให้สาขาด้านความมั่นคงสามารถรับมือกับประเด็นด้านความมั่นคงที่อุบัติใหม่และในอนาคตได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งมีประสิทธิภาพ และเสริมสร้างความเป็นแกนกลางอาเซียน
(4) หวังที่จะให้การจัดทำวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน 2045 จะสามารถยกระดับบทบาทของสาขาด้านความมั่นคงในการเสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงให้เกิดขึ้นในภูมิภาค
2. ประโยชน์และผลกระทบ
ร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุม ADMM Retreat เป็นการแสดงเจตนารมณ์เชิงนโยบายร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน โดยผลสำเร็จของการดำเนินงานด้านการป้องกันประเทศภายใต้กรอบ ADMM และ ADMM-Plus เป็นการขับเคลื่อนความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมภายใต้ประชาคมการเมืองและความมั่นคง บนพื้นฐานความเป็นแกนกลางอาเซียนในด้านความมั่นคงในภูมิภาคที่จะช่วยรักษาดุลยภาพทางภูมิรัฐศาสตร์ เสริมสร้างการมีปฏิสัมพันธ์และความไว้เนื้อเชื่อใจกันกับประเทศนอกภูมิภาคอย่างสร้างสรรค์ เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงของภูมิภาคให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน
3. กห. แจ้งว่า ร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ไม่มีรูปแบบ ถ้อยคำ หรือบริบท ที่มุ่งจะก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งไม่มีการลงนามในเอกสารดังกล่าว ดังนั้น จึงไม่มีประเด็นต้องพิจารณาเกี่ยวกับมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
4. กระทรวงการต่างประเทศ (กรมอาเซียน) พิจารณาแล้วเห็นว่า
4.1 ไม่มีข้อขัดข้องต่อสารัตถะและถ้อยคำโดยรวมของร่างแถลงการณ์ร่วมฯ หาก กห. เห็นว่ามีความเหมาะสม สอดคล้องกับนโยบาย และผลประโยชน์ของไทย สามารถปฏิบัติได้ภายใต้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตลอดจนเป็นไปตามพันธกรณีของไทยภายใต้ความตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งได้จัดสรรงบประมาณเพื่อการนี้ไว้แล้ว
4.2 ในกรณีที่ร่างเอกสารดังกล่าว ไม่ใช่ร่างสุดท้าย (final agreed text) หากมีการปรับแก้ ขอให้ กห. พิจารณาให้ร่างสุดท้ายของร่างเอกสารฯ เป็นไปตามแนวทางข้างต้นด้วย
4.3 ร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ไม่เป็นหนังสือสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศและไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือที่เกี่ยวกับองค์การระหว่างประเทศ ที่มีผลผูกพันรัฐบาลไทย กห. ในฐานะส่วนราชการเจ้าของเรื่อง จึงควรพิจารณาเสนอร่างเอกสารดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 4 (7) ของพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2558
__________________
*แผนงานประชาคมการเมืองและความมั่นคง 2025 มีองค์ประกอบ 4 ประการ ได้แก่ (1) การเป็น ประชาคมที่อยู่บนพื้นฐานของกฎเกณฑ์ (rules-based) มุ่งเน้นให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง (people-centred) (2) การเป็นประชาคมที่สามารถตอบสนองต่อปัญหาความมั่นคงทั้งในรูปแบบเดิมและรูปแบบใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยึดหลักการของความมั่นคงที่ครอบคลุมในทุกมิติ (comprehensive security) (3) การรักษาความเป็นแกนกลางของอาเซียน ในสถาปัตยกรรมของภูมิภาค และ (4) การมีสถาบันและกลไกอาเซียนรวมถึงสำนักเลขาธิการอาเซียนที่เข้มแข็งและ มีประสิทธิภาพมากขึ้น
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรี) 27 กุมภาพันธ์ 2567
2946