WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

 

 

MTI 720x100

 

ร่างบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding) ด้านความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์และบริษัทไชน่า ปิโตรเคมิคอล คอร์ปอเรชั่น

Gov 46

ร่างบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding) ด้านความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์และบริษัทไชน่า ปิโตรเคมิคอล คอร์ปอเรชั่น

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding) ด้านความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์และบริษัทไชน่า ปิโตรเคมิคอล คอร์ปอเรชั่น รวมทั้งอนุมัติให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding) ด้านความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์และบริษัทไชน่า ปิโตรเคมิคอล คอร์ปอเรชั่นตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เสนอ 

          สาระสำคัญ

          1. กระทรวงพาณิชย์มีภารกิจด้านต่างประเทศในการส่งเสริมและเร่งรัดการส่งออก โดยมุ่งเน้นการขยายตลาดสินค้าและบริการ การให้บริการข้อมูลการค้าและเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในตลาดโลก รวมถึงการพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าและธุรกิจบริการ ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์จึงให้ความสำคัญต่อการสร้างพันธมิตรและหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจทั้งระดับภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการขยายโอกาสทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ที่มีความพร้อมในการออกสู่ตลาดต่างประเทศ

          2. จีนเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายสำคัญในการรุกตลาดต่างประเทศของไทย เนื่องจากจีนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก (มีประชากร 1,412 ล้านคน) เป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 และผู้นำเข้าอันดับ 2 ของโลก ทำให้จีนมีบทบาทสำคัญด้านเศรษฐกิจและการค้าของโลก

          3. การค้าระหว่างไทย - จีน ปี 2566 จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย มีมูลค่าการค้า รวม 104,964.90 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3.65 ล้านล้านบาท ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 0.22 สรุป ดังนี้

              1) จีนเป็นตลาดส่งออกอันดับ 2 ของไทย โดยในปี 2566 มีมูลค่าส่งออกไปจีน 34,164 ล้านเหรียญสหรัฐ (1,176,889 ล้านบาท) ขยายตัวลดลงร้อยละ 0.77 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สินค้าส่งออกหลัก 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง แห้ง 2) ผลิตภัณฑ์ยาง 3) เม็ดพลาสติก 4) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 5) เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายการส่งออกไปจีนในปี 2567 ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 34.505 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1,188,657 ล้านบาท)

              2) จีนเป็นแหล่งนำเข้าอันดับ 1 ของไทย โดยมีมูลค่านำเข้าจากจีน 70,800.40 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 2.47 ล้านล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อน ร้อยละ 0.05 ทั้งนี้ สินค้านำเข้าหลัก 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ 2) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 3) เคมีภัณฑ์ 4) เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน 5) เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ

          4. กระทรวงพาณิชย์จึงได้หารือกับบริษัทไชน่า ปิโตรเคมิคอล คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานรายใหญ่ภายใต้รัฐบาลจีน เพื่อริเริ่มการจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างกัน อันเป็นผลสืบเนื่องจากการพบหารือระหว่างผู้บริหารระดับสูงของทั้งสองฝ่ายเมื่อครั้งการยือนนครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 4 - 6 พฤศจิกายน 2566 โดย ร่างบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding) ด้านความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์และบริษัทไชน่า ปิโตรเคมิคอล คอร์ปอเรชั่น มีสาระสำคัญของขอบเขตความร่วมมือ ดังนี้

              1) การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านโอกาสทางการค้าและการลงทุนในประเทศไทยและจีนรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าสู่ตลาดของผลิตภัณฑ์หรือการขยายธุรกิจของบริษัทบริษัทไชน่า ปิโตรเคมิคอล คอร์ปอเรชั่น ในประเทศไทย

              2) การส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าไทยในสถานีบริการน้ำมันบริษัทไชน่า ปิโตรเคมิคอล คอร์ปอเรชั่น

              3) การสนับสนุนการจัดกิจกรรมส่งเสริมธุรกิจต่างๆ เช่น การสัมมนา การประชุม การจับคู่ธุรกิจ งานแสดงสินค้า การจัดคณะผู้แทนการค้า ฯลฯ รวมทั้งแสวงหา ส่งเสริมและพัฒนาโอกาสในการสร้างความร่วมมือระหว่างกัน

              4) แสวงหา ส่งเสริม และพัฒนาโอกาสในการสร้างความร่วมมือเกี่ยวกับกลุ่มสินค้าปิโตรเคมี สินค้าเกษตรและประมง สินค้าอุปโภคบริโภค ฯลฯ

          ประโยชน์และผลกระทบ

          การจัดทำบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding) ด้านความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์และบริษัทไชน่า ปิโตรเคมิคอล คอร์ปอเรชั่น มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มช่องทางกระจายสินค้าไทยในจีน ผ่านสถานีบริการน้ำมัน 30,000 สาขาภายใต้การบริหารของบริษัท ไชน่า ปิโตรเคมิคอล คอร์ปอเรชั่น ทั้งนี้ ประโยชน์ที่ประเทศไทยและ/หรือภาคอุตสาหกรรมของไทย จะได้รับจากการดำเนินการในเรื่องนี้ คาดว่าการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้ากับบริษัทไชน่า ปิโตรเคมิคอล คอร์ปอเรชั่น จะสามารถจัดให้มีสินค้าไทยในเบื้องต้นจำนวนรายการสินค้าไม่ต่ำกว่า 50 รายการ (SKUs) ในกลุ่มสินค้าเช่น ข้าวหอมมะลิ อาหารแปรรูป ผลไม้แปรรูป ขนมขบเคี้ยว และผลิตภัณฑ์ยางพารา (จากปัจจุบันซึ่งมีอยู่ในสถานีแล้วเพียงจำนวน 3 รายการ (SKUs) เข้าไปจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ Easy Joy ของบริษัทฯ ซึ่งมีอยู่ในสถานีบริการน้ำมัน 30,000 สาขาทั่วประเทศจีน คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี ตามอายุของร่างบันทึกความเข้าใจฯ นอกจากนี้ ยังมีวัตถุประสงค์ ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้หรือความเชี่ยวชาญของต่างฝ่าย และการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน อันจะมีส่วนช่วยยกระดับและพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทยได้โดยปริยาย อีกทั้งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการผลักดันสินค้าของผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตอาหาร สินค้าเกษตรและประมง รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค ให้สามารถขยายสู่ตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น ตลอดจนสอดรับกับนโยบายการเร่งส่งเสริมการสร้างพันธมิตรและหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ และขยายขอบเขตการทำงานระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยต่อยอดจากผลการพบหารือระหว่างผู้บริหารระดับสูงของทั้งสองฝ่ายอย่างเป็นรูปธรรม

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรี) 26 มีนาคม 2567

 

 

3923

Click Donate Support Web 

AXA 720 x100

Banner GPF720x100 PX

MTL 720x100

kbank 720x100 66

วิริยะ 720x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

ais 720x100

QIC 720x100

gen 720x100

CKPower 720x100

TOA 720x100

SME 720x100 66

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!