การเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS ของประเทศไทย
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 29 May 2024 22:50
- Hits: 9305
การเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS ของประเทศไทย
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างหนังสือแสดงความประสงค์ของประเทศไทยในการเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS และหากมีความจำเป็นต้องแก้ไขร่างหนังสือแสดงความประสงค์ดังกล่าวในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญหรือขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ขอให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาดำเนินการได้โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีก รวมทั้งขออนุมัติให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ลงนามในหนังสือแสดงความประสงค์ฯ และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานประสานหลักในการขับเคลื่อนการดำเนินงานการเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS ของประเทศไทยตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ
สาระสำคัญ
กลุ่ม BRICS ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2549 โดยเป็นการรวมตัวของกลุ่มประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ขนาดใหญ่ ปัจจุบันมีสมาชิก 10 ประเทศ ได้แก่ สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล สหพันธรัฐรัสเซีย สาธารณรัฐอินเดีย สาธารณรัฐประชาชนจีน (สมาชิกแรกเริ่ม 4 ประเทศ ภายใต้ชื่อกลุ่ม BRIC) สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ (เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2553 ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นกลุ่ม BRICS) สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (5 ประเทศหลัง เข้าเป็นสมาชิกใหม่เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2567) มีประชากรรวมกันทั้งหมดประมาณร้อยละ 39 ของโลก และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติรวมกันประมาณร้อยละ 28.4 ของโลก ทั้งนี้ ในปี 2567 สหพันธรัฐรัสเซียเป็นประธานกลุ่ม ภายใต้หัวข้อหลัก “Strengthening multilateralism for fair global development and security”
ประโยชน์และผลกระทบ เช่น 1. การเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS จะช่วยยกระดับบทบาทของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศโดยเป็นการกระชับความร่วมมือกับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่มีศักยภาพจะก้าวขึ้นมามีบทบาททางเศรษฐกิจและการเมืองในอนาคต โดยเฉพาะด้านการค้า การลงทุน การเงิน ความมั่นคงด้านอาหารและความมั่นคงด้านพลังงาน ทั้งยังช่วยเพิ่มบทบาทของประเทศไทยในการกำหนดทิศทางนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในการปฏิรูประบบเศรษฐกิจการเงินระหว่างประเทศ การส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนา และการส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยง นอกจากนี้ การเข้าเป็นสมาชิก BRICS ยังช่วยเพิ่มโอกาสให้ประเทศไทยได้ร่วมสร้างระเบียบโลกใหม่ ที่กลุ่มประเทศตลาดใหม่และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนามีบทบาทสำคัญ มีความครอบคลุม และไม่มุ่งต่อต้านกลุ่มใด
2. ความร่วมมือในกลุ่ม BRICS แบ่งเป็น 3 เสา ได้แก่ (1) เสาด้านการเมืองและความมั่นคง (2) เสาด้านเศรษฐกิจและการเงิน และ (3) เสาด้านมนุษยธรรมและวัฒนธรรม โดยนอกจากจะมีการประชุมระดับผู้นำของ BRICS แล้ว แต่ละเสายังมีการจัดประชุมในระดับต่างๆ เช่น คณะทำงาน เจ้าหน้าที่อาวุโส ระดับรัฐมนตรี รวมกันประมาณ 200 การประชุมต่อปี และเกี่ยวข้องกับหน่วยราชการต่างๆ ในลักษณะคล้ายกรอบอาเซียน ดังนั้น หากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของประเทศไทยมีความพร้อม การเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS จะเป็นโอกาสให้ประเทศไทยได้มีส่วนร่วมในการหารือกับประเทศสมาชิก ประเทศหุ้นส่วนและประเทศอื่นๆ ที่เข้าร่วมในกลไกของกลุ่ม BRICS เพื่อขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น ความมั่นคง การต่อต้านการก่อการร้าย ยุติธรรม การศึกษา วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม สาธารณสุข การคลัง การค้าและเศรษฐกิจ การจัดการภาษี การคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน การท่องเหี่ยว การส่งเสริมบทบาทของยาวขนและสตรี การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นต้น
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรี) 28 พฤษภาคม 2567
51001