WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

 

 

MTI 720x100

 

การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์ - เลสเตว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราประเภทท่องเที่ยวสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา

Gov มาริษ เสงี่ยมพงษ์

การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์ - เลสเตว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราประเภทท่องเที่ยวสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้

          1. ร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์ - เลสเต (ติมอร์) ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราประเภทท่องเที่ยวสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา (ความตกลงฯ) ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ ขอให้ กต. สามารถดำเนินการได้ โดยนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว

          2. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมอบหมายเป็นผู้ลงนามความตกลงฯ ทั้งนี้ ในกรณีมอบหมายผู้แทน เห็นชอบให้ กต. จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนามที่ได้รับมอบหมาย

          3. ให้ กต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการมีผลใช้บังคับของความ ตกลงฯ

(จะมีการลงนามความตกลงฯ ระหว่างการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความมั่นคงของติมอร์ ในวันที่ 21 มิถุนายน 2567)

          สาระสำคัญของเรื่อง

          กต. รายงานว่า

          1. ติมอร์มีความประสงค์จะจัดทำความตกลงฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างประชาชนของไทยและติมอร์เพื่อการท่องเที่ยว รวมทั้งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำหรับการเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์1 ติมอร์จึงได้เสนอขอจัดทำความตกลงฯ พร้อมกับนำเสนอร่างความตกลงฯ เพื่อขอให้ฝ่ายไทยพิจารณา ซึ่งต่อมาทั้งสองฝ่ายเห็นชอบ/ไม่ขัดข้องต่อร่างความตกลงฯ และพร้อมลงนามในร่างความตกลงดังกล่าว

          2. ร่างความตกลงฯ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

 

หัวข้อ

 

รายละเอียด

ข้อตกลง

 

(1) ความตกลงฉบับนี้มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกให้บุคคลสัญชาติไทยและบุคคลสัญชาติติมอร์เดินทางเข้าดินแดนของภาคีอีกฝ่ายหนึ่งด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยว โดยไม่ต้องมีการขอรับการตรวจลงตรา เป็นระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน

(2) บุคคลสัญชาติติมอร์ผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาเพื่อเดินทางเข้ามาพำนักในไทยด้วยวัตถุประสงค์การท่องเที่ยว ตามระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน จะต้องไม่ทำงานใดๆ ไม่ว่าการทำงานนั้นจะเป็นการดำเนินกิจการของตนเอง หรือกิจการงานส่วนตัวอื่นใดในไทย

(3) บุคคลสัญชาติไทยผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาเพื่อเดินทางเข้าและพำนักในติมอร์ด้วยวัตถุประสงค์การท่องเที่ยว ตามระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน จะต้องไม่ทำงานใดๆ ไม่ว่าการทำงานนั้นจะเป็นการดำเนินกิจการของตนเอง หรือกิจการงานส่วนตัวอื่นใดในติมอร์ 

(4) คู่ภาคีของแต่ละฝ่ายสามารถสงวนสิทธิในการปฏิเสธการเข้าเมือง การลดระยะเวลาพำนักหรือยกเลิกการพำนักของบุคคลที่ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราภายใต้ความตกลงนี้บนพื้นฐานของความมั่นคงของชาติ การสาธารณสุข ความสงบเรียบร้อยของสาธารณะ หรือการเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา

(5) ประเด็นที่ไม่ได้ระบุในความตกลงนี้ให้ดำเนินการภายใต้กฎหมายภายในของติมอร์และกฎหมายภายในของไทย

การดำเนินการเกี่ยวกับหนังสือเดินทาง

 

(1) คู่ภาคีต้องจัดส่งตัวอย่างหนังสือเดินทางธรรมดาของตนผ่านช่องทางการทูตภายใน 30 วันหลังการลงนามความตกลงฉบับนี้

(2) กรณีที่มีการนำหนังสือเดินทางธรรมดารูปแบบใหม่มาใช้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบหนังสือเดินทางที่ใช้อยู่ คู่ภาคีต้องแจ้งอีกฝ่ายหนึ่งทราบเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางการทูตเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ และนำส่งตัวอย่างหนังสือเดินทางรูปแบบใหม่อย่างน้อย 30 วัน ก่อนการเริ่มนำหนังสือเดินทางรูปแบบใหม่มาใช้อย่างเป็นทางการ

(3) ระยะเวลาอายุการใช้งานของหนังสือเดินทางของบุคคลสัญชาติของคู่ภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องมีอายุอย่างน้อย 6 เดือนก่อนที่จะเดินทางเข้าสู่ดินแดนของคู่ภาคีอีกฝ่าย

ผลบังคับใช้

 

มีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 วันนับจากวันที่ได้รับการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งสุดท้ายโดยคู่ภาคีว่าได้ปฏิบัติตามขั้นตอนภายในที่จำเป็นของตนเพื่อให้ความตกลงฉบับนี้มีผลบังคับใช้จนกว่าจะถูกบอกเลิกโดยคู่ภาคีอีกฝ่ายหนึ่ง

การแก้ไข/ระงับการปฏิบัติ/บอกเลิกความตกลง

 

(1) สามารถแก้ไขหรือทบทวนและเพิ่มเติมความตกลงนี้เมื่อใดก็ได้ โดยความยินยอมร่วมกันเป็นลายลักษณ์อักษรของคู่ภาคี

(2) ภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจระงับการปฏิบัติตามความตกลงฉบับนี้ทั้งหมดหรือบางส่วนด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ การรักษาความสงบเรียบร้อยของสาธารณะ หรือสาธารณสุข โดยการระงับและการเพิกถอนการระงับดังกล่าวจะต้องทำโดยการบอกกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรต่อภาคีอีกฝ่ายหนึ่งผ่านช่องทางการทูตอย่างน้อย 30 วันล่วงหน้า

(3) คู่ภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถบอกเลิกการใช้บังคับความตกลงฉบับนี้ โดยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า 90 วัน ไปยังภาคีอีกฝ่ายหนึ่ง

การระงับข้อพิพาท

 

ข้อพิพาทใดๆ ที่เกิดจากการอนุวัติหรือการปฏิบัติตามความตกลงนี้ จะได้รับการระงับโดยการเจรจาและปรึกษาหารือระหว่างคู่ภาคี

 

          3. ประโยชน์ที่ได้รับ: ความตกลงฯ จะเป็นประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยจะมีผลเชิงบวกต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย - ติมอร์ ในภาพรวมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ตลอดจนความสัมพันธ์ระดับประชาชน

         4. กต. แจ้งว่า ร่างความตกลงฯ มีถ้อยคำและบริบทที่มุ่งจะก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ ดังนั้น ร่างความตกลงฯ จึงเป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งจะต้องขอความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีก่อนการลงนามและดำเนินการให้มีผลผูกพัน แต่ไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา

_________________

หมายเหตุ: 1 แผนงานสำหรับการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์ (Roadmap for Timor - Leste's Full Membership in ASEAN) ระบุให้ติมอร์จัดทำความตกลงทวิภาคีกับประเทศสมาชิกอาเซียนในการยกเว้นการตรวจลงตราให้แก่พลเมืองอาเซียนตามแนวทางที่ระบุไว้ในกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตรา (ASEAN Framework Agreement on Visa Exemption)

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ (รองนายกรัฐมนตรี) 18 มิถุนายน 2567

 

 

6557

Click Donate Support Web 

SME720x100 2024

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

EXIM One 720x90 C JMTL 720x100

QIC 720x100

TOA 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

kbank 720x100 66

ธกส 720x100PTG 720x100

ใจฟู720x100px

AXA 720 x100 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!