การทบทวนแนวปฏิบัติการดำเนินการภายในของไทยในการพิจารณาให้ความเห็นชอบเอกสารในกรอบอาเซียน
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 17 July 2024 01:10
- Hits: 9199
การทบทวนแนวปฏิบัติการดำเนินการภายในของไทยในการพิจารณาให้ความเห็นชอบเอกสารในกรอบอาเซียน
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวปฏิบัติการให้ความเห็นชอบเอกสารในกรอบอาเซียน 2 ประเภท ได้แก่ (1) เอกสารระหว่างอาเซียนกับภาคีภายนอกที่เลขาธิการอาเซียนเป็นผู้ลงนามในนามอาเซียนในฐานะองค์การระหว่างประเทศระดับรัฐบาล (2) แผนงาน (Work Plan) และแผนดำเนินการ (Plan of Action) ระหว่างอาเซียนกับภาคีภายนอกที่ไทยต้องร่วมรับรอง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ
โดยหากเอกสารทั้ง 2 ประเภทดังกล่าวเข้าข่ายตามเงื่อนไข 5 ประการตามที่ กต. กำหนด ให้ กต. หารือส่วนราชการเจ้าของเรื่องที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบของไทย โดยไม่ต้องนำเอกสารดังกล่าวเสนอต่อคณะรัฐมนตรีตามมาตรา 4 (7) ของพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
เรื่องเดิม
1. คณะรัฐมนตรีมีมติ (1 ตุลาคม 2545) เห็นชอบการทำความตกลงกับต่างประเทศ การทำอนุสัญญา และสนธิสัญญาต่างๆ ที่กำหนดให้ในกรณีที่กระทรวง ทบวงกรม จะจัดทำความตกลงกับต่างประเทศ ให้หน่วยงานดังกล่าวขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนดำเนินการลงนามความตกลงทุกๆ ครั้ง โดยระบุบุคคลที่จะเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย ตามที่ กต. เสนอ
2. คณะรัฐมนตรีมีมติ (30 มิถุนายน 2558) เห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอเกี่ยวกับ การดำเนินการจัดทำหนังสือสัญญาหรือเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือเกี่ยวกับองค์การระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันรัฐบาลไทย ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างหนังสือสัญญาก่อนการดำเนินการลงนามทุกครั้ง ในกรณีที่มีความจำเป็นจะต้องปรับปรุงถ้อยคำหรือสาระสำคัญของหนังสือสัญญาที่คณะรัฐมนตรีได้เคยอนุมัติหรือเห็นชอบไปแล้วหากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ ให้สามารถดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลังพร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
3. คณะรัฐมนตรีมีมติ (30 มกราคม 2567) เห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เพื่อให้การจัดทำความตกลงระหว่างประเทศทุกประเภท ทั้งในระดับรัฐบาลและระดับหน่วยงานเป็นไปอย่างเหมาะสม ถูกต้องตาม แนวปฏิบัติเกี่ยวกับพิธีการและประเพณีปฏิบัติทางการทูต ในแต่ละกรณี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำหนดหัวหน้า คณะผู้แทน ผู้ลงนาม และสักขีพยาน จึงขอให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่ประสงค์จะทำความตกลงระหว่างประเทศทุกประเภทดังกล่าว หารือกับ กต. ให้ถูกต้อง ชัดเจน ก่อนดำเนินการใดๆ รวมทั้งให้ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย
สาระสำคัญของเรื่อง
1. ปัจจุบันมีเอกสารในกรอบอาเซียนที่ กต. และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจะต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีตามนัยมาตรา 4 (7) ของพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 ทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่
1.1 ความตกลงที่ไทยลงนามในฐานะคู่ภาคี ซึ่งถือเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เช่น ความตกลงจัดตั้งเขตการค้าเสรีระหว่างอาเซียนกับประเทศต่างๆ อนุสัญญาอาเซียนว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้ายและความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศที่ครอบคลุมอาเซียน - สหภาพยุโรป
1.2 เอกสารระหว่างอาเซียนกับภาคีภายนอกที่เลขาธิการอาเซียนเป็นผู้ลงนามในนามอาเซียนในฐานะองค์การระหว่างประเทศระดับรัฐบาล โดยเอกสารประเภทนี้มักมีเนื้อหาเกี่ยวกับการวางกรอบความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับภาคีภายนอก หรือการให้งบประมาณจากภาคีภายนอกเพื่อดำเนินโครงการความร่วมมือกับอาเซียนตามกรอบแผนงานที่มีระหว่างกันอยู่แล้ว โดยไม่ก่อพันธกรณีต่อประเทศสมาชิกอาเซียน เช่น ความตกลงให้การสนับสนุนทางการเงิน (Financing Agreement) และบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding)
1.3 เอกสารที่ไทยต้องร่วมรับรอง (adopt) ซึ่งเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองเพื่อระบุแนวทางความร่วมมือในอาเซียน หรือระหว่างอาเซียนกับภาคีภายนอกของอาเซียน เช่น แถลงการณ์ (Statement) หรือปฏิญญา (Declaration) ระดับผู้นำและรัฐมนตรี และแผนงาน (Work Plan) หรือแผนดำเนินการ (Plan of Action) ซึ่งมีกระบวนการจัดทำเอกสารในกรอบอาเซียน
2. เรื่องนี้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ขอเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแนวปฏิบัติเกี่ยวกับเอกสารในกรอบอาเซียน 2 ประเภท ได้แก่ (1) เอกสารระหว่างอาเชียนกับภาคีภายนอกที่เลขาธิการอาเซียนเป็นผู้ลงนามในนามอาเชียนในฐานะองค์การระหว่างประเทศระดับรัฐบาล (2) แผนงาน (Work Plan) และ แผนดำเนินการ (Plan of Action) ระหว่างอาเซียนกับภาคีภายนอกที่ไทยต้องร่วมรับรอง โดยหากเอกสารทั้ง 2 ประเภทดังกล่าวเข้าเงื่อนไข 5 ข้อ ตามที่ กต. กำหนด เช่น (1) เอกสารดังกล่าวต้องไม่เข้าลักษณะเป็นหนังสืสัญญาตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และ (2) ไทยไม่ได้ร่วมลงนามในฐานะคู่ภาคี ฯลฯ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องหารือกับ กต. (กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย) เพื่อให้ความเห็นชอบโดยไม่ต้องนำเอกสารดังกล่าวเสนอต่อคณะรัฐมนตรีตามมาตรา 4 (7) ของพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
3. ประโยชน์ที่จะได้รับ: การทบทวนและกำหนดแนวปฏิบัติใหม่ในการดำเนินการภายในของไทยเพื่อให้ความเห็นชอบเอกสารในกรอบอาเซียนจะเป็นการลดขั้นตอนการดำเนินการและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการภายในของไทยให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นซึ่งจะช่วยให้โครงการความร่วมมือต่างๆ ในกรอบอาเซียนสามารถเริ่มดำเนินการได้ตามกำหนดเวลาและส่งเสริมบทบาทที่สร้างสรรค์ของไทยในอาเซียนต่อไป
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรี) 16 กรกฎาคม 2567
7515