ร่างกรอบความร่วมมือด้านศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง และการกักกันภายใต้แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย – มาเลเซีย – ไทย (IMT - GT)
- Details
 - Category: มติ ครม.
 - Published: Tuesday, 27 August 2024 23:26
 - Hits: 8427
 

ร่างกรอบความร่วมมือด้านศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง และการกักกันภายใต้แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย – มาเลเซีย – ไทย (IMT - GT)
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดทำร่างกรอบความร่วมมือด้านศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง และการกักกัน ภายใต้แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย – มาเลเซีย – ไทย (IMT - GT) (ร่างกรอบความร่วมมือฯ) ที่จะมีการลงนามในการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 30 ภายใต้แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย – มาเลเซีย – ไทย (IMT - GT) และขอความเห็นชอบให้กรมศุลกากร กค. สามารถปรับปรุงถ้อยคำในเอกสารดังกล่าวได้ ในกรณีที่มิใช่การเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบอีกครั้ง และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเข้าร่วมลงนามในร่างกรอบความร่วมมือฯ ในการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 30 ภายใต้แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย – มาเลเซีย – ไทย (IMT - GT) ตามที่ กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
กค. รายงานว่า
1. ร่างกรอบความร่วมมือฯ เป็นความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาล 3 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย มาเลเซีย และราชอาณาจักรไทย เพื่อส่งเสริมให้มีการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้ง 3 ประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการริเริ่มการดำเนินการด้านการค้าในระดับอนุภูมิภาคและการอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งให้ดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน เสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการศุลกากรการตรวจคนเข้าเมือง และการกักกัน ซึ่งจะช่วยให้การเคลื่อนย้ายทรัพยากรระหว่างประเทศคู่สัญญา การปฏิบัติพิธีการด้านการศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง และการกักกันง่ายขึ้น ทำให้กฎระเบียบข้อบังคับ และกระบวนการต่างๆ มีความโปร่งใสมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงการจัดการห่วงโซ่อุปทานเพื่อลดต้นทุนในการทำธุรกรรม เพิ่มความปลอดภัยทางการค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
2. ร่างกรอบความร่วมมือฯ มีสาระสำคัญสรุปได้ เช่น
| 
 ประเด็น  | 
 สาระสำคัญ  | 
|
| 
 ส่วนที่ 1 บทบัญญัติทั่วไป  | 
||
| 
 ขอบเขตการใช้บังคับ  | 
 - รับรองความสามารถและทรัพยากรของประเทศตนในการดำเนินมาตรการด้านการศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง และการกักกัน - กรอบความร่วมมือไม่ก่อให้เกิดสิทธิหรือพันธกรณีใดๆ และไม่ถือเป็นสนธิสัญญาภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ  | 
|
| 
 ส่วนที่ 2 สิ่งอำนวยความสะดวกและพิธีการในการข้ามพรมแดน  | 
||
| 
 ความพร้อมของการบริการ สิ่งอำนวยความสะดวก และบุคลากร  | 
 จัดเตรียมการบริการสิ่งอำนวยความสะดวก และบุคลากร ณ จุดเข้า - ออก ที่กำหนด เพื่ออำนวยความสะดวกเพื่อให้กระบวนการข้ามพรมแดนเป็นไปโดยราบรื่น  | 
|
| 
 การบริหารจัดการชายแดนร่วมกัน  | 
 - อำนวยความสะดวกและให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ และควบคุมบุคคล สินค้า และพาหนะ - ให้บริการการเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนนอกเวลาทำการเพื่อลดเวลาการรอคอย ณ พรมแดน โดยมีค่าธรรมเนียมที่สมเหตุสมผล - ในระยะยาวจะใช้เอกสารและฐานข้อมูลการนำเข้า การส่งออก และการผ่านแดนในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์  | 
|
| 
 การแลกเปลี่ยนข้อมูล  | 
 แลกเปลี่ยนข้อมูล โดยสอดคล้องกับกฎหมาย ข้อบังคับ และกระบวนการภายในประเทศของตน  | 
|
| 
 การประเมินและการจัดการความเสี่ยง  | 
 - ยกระดับการควบคุมด้านการศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง และการกักกัน ณ จุดเข้า - ออกที่กำหนด ให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติ และแนวทางการประเมินความเสี่ยงที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล - ส่งเสริมการรับรองผู้ประกอบการที่มีความเสี่ยงต่ำและให้สิทธิประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกที่สอดคล้องกับการประเมิน และการตรวจสอบความเสี่ยง  | 
|
| 
 ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  | 
 เพื่อให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการควบคุมและการอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนของสินค้าและบุคคลตามกฎหมาย กฎระเบียบ และกระบวนการภายในประเทศ  | 
|
| 
 ส่วนที่ 3 การเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนของบุคคล  | 
||
| 
 เอกสารการเดินทาง การตรวจลงตรา และการอำนวยความสะดวก ด้านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง  | 
 - รับรองว่าบุคคลใดที่เดินทางข้ามพรมแดนได้ถือเอกสารการเดินทางที่มีอายุใช้ได้ประเภทใดประเภทหนึ่ง ดังต่อไปนี้ : (1) หนังสือเดินทางที่ออกตามมาตรฐานหนังสือเดินทางขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) (2) เอกสารการเดินทางสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่องค์การสหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ ที่ได้รับอนุญาต (3) เอกสารการเดินทางประเภทอื่นๆ ที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง - บุคคลใดที่เดินทางข้ามพรมแดนจะต้องได้รับการตรวจลงตรา ตามที่กลุ่มประเทศคู่สัญญากำหนดเว้นแต่ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราตามความตกลงทวิภาคีหรือความตกลงระดับภูมิภาค - หาแนวทางในการจัดการอำนวยความสะดวกด้านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองที่เหมาะสม  | 
|
| 
 การตรวจสุขภาพ ผู้เดินทางข้ามแดน  | 
 บังคับใช้กฎหมายและข้อกำหนดของแต่ละประเทศที่เป็นไปตามข้อแนะนำของกฎอนามัยระหว่างประเทศภายใต้องค์การอนามัยโลก  | 
|
| 
 การควบคุมทางศุลกากร สำหรับหีบห่อสัมภาระ และของใช้ส่วนตัว  | 
 ดำเนินการควบคุมทางศุลกากรให้เป็นไปตามความตกลงระดับสากลและระดับภูมิภาคที่ประเทศตนเป็นภาคีและผูกพันตามเกณฑ์มาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และแนวปฏิบัติเพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายบุคคล  | 
|
| 
 การตรวจสอบด้านสุขอนามัย และสุขอนามัยพืช สำหรับของใช้ส่วนตัว  | 
 ของใช้ส่วนตัวของผู้ที่เดินทางข้ามแดนจะต้องถูกดำเนินการ ตามมาตรการสุขอนามัยและการบริหารความเสี่ยงและสุขอนามัยพืช  | 
|
| 
 ส่วนที่ 4 การเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนของสินค้า  | 
||
| 
 พิธีการศุลกากร  | 
 อำนวยความสะดวกและรับรองความปลอดภัยของการค้าข้ามพรมแดนภายในขอบเขตที่เป็นไปใต้ผ่านการปรับปรุงและเป็นไปในแนวทางเดียวกันของพิธีการนำเข้า ส่งออก และผ่านแดน ภายใต้ความตกลงระดับภูมิภาคเป็นไปตามมาตรฐานสากลและแนวปฏิบัติที่มีอยู่  | 
|
| 
 ข้อกำหนดด้านเทคนิค มาตรฐาน และมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช  | 
 - นำมาตรฐาน คู่มือแนวทางปฏิบัติ และข้อแนะนำเกี่ยวกับมาตรการทางเทคนิคต่อการค้า และมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชในระดับสากลมาปรับใช้ประกอบการดำเนินการตรวจสอบสินค้าตามกฎหมายและข้อกำหนดภายในประเทศ - สนับสนุนและส่งเสริมความร่วมมือด้านเทคนิคในด้านมาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิคและมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช เช่น แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับข้อกำหนดด้านการนำเข้า และส่งออกสินค้า รวมถึงข้อกำหนดด้านการตรวจสอบ และกระบวนการอนุมัติ และแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการอุบัติของโรคระบาดสัตว์ ศัตรูพืชกักกัน และประเด็นความปลอดภัยอาหารที่ส่งผลกระทบต่อการค้าของกลุ่มประเทศคู่สัญญา  | 
|
| 
 การขนส่งสินค้าผ่านแดน  | 
 - ดำเนินการตามกระบวนการด้านการศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง และการกักกันที่ทำให้พิธีการและการควบคุมสินค้าผ่านแดน มีความคล่องตัวและเรียบง่ายที่สุด ตามกฎหมายภายในประเทศ ข้อบังคับ และกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวย ความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดน  | 
|
| 
 ส่วนที่ 5 การจัดการเกี่ยวกับการดำเนินการ  | 
||
| 
 ความโปร่งใสของกฎหมาย กฎ และข้อบังคับ  | 
 - จัดให้มีข้อมูลเป็นภาษาทางการของกลุ่มประเทศคู่สัญญาและภาษาอังกฤษที่ครอบคลุมถึงกฎหมาย กฎระเบียบ กระบวนการภายในประเทศ ตลอดจนข้อมูลด้านเทคนิค รวมถึงค่าธรรมเนียม และค่าภาระติดพันที่เกี่ยวกับการขนส่งสินค้า และการเคลื่อนย้ายบุคคลข้ามพรมแดน - ให้คำอธิบายเกี่ยวกับกฎ กฎระเบียบ และกระบวนการที่มีผลใช้บังคับเท่าที่บทบัญญัติแห่งกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในการตอบข้อสอบถามสำหรับผู้ที่สนใจโดยปราศจากค่าใช้จ่าย หรือมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดเทียบเท่ากับต้นทุนการให้บริการที่จัดให้ ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม  | 
|
| 
 การระงับข้อพิพาท  | 
 ข้อพิพาทใดๆ ที่เกิดจากการดำเนินการและการตีความบทบัญญัติของกรอบความร่วมมือฉบับนี้จะถูกแก้ไขผ่านการหารือระหว่าง และภายในกลุ่มประเทศคู่สัญญาผ่านทางคณะทำงานย่อย ด้านการศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง และการกักกัน โดยปราศจากบุคคลที่สามหรือคณะกรรมการระหว่างประเทศใดๆ  | 
|
| 
 ส่วนที่ 6 บทบัญญัติสุดท้าย  | 
||
| 
 การมีผลใช้บังคับ ระยะเวลาการมีผลใช้บังคับ และการสิ้นผล  | 
 - กรอบความร่วมมือฉบับนี้มีผลใช้บังคับในวันที่ลงนามและยังคงมีผลใช้บังคับจนกว่าประเทศคู่สัญญาประเทศใดประเทศหนึ่งแจ้งขอยุติความเป็นคู่สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร - ประเทศคู่สัญญาประเทศใดประเทศหนึ่งอาจขอยุติความเป็นคู่สัญญาจากกรอบความร่วมมือฉบับนี้ โดยการแจ้งความประสงค์ เป็นลายลักษณ์อักษรไปยังประเทศคู่สัญญาอื่นๆ ผ่านช่องทางการทูต โดยจะต้องมีระยะเวลาอย่างน้อยหกเดือนก่อนวันสิ้นผล - การสิ้นผลของกรอบความร่วมมือฉบับนี้ ไม่กระทบต่อ การดำเนินการและระยะเวลาของกิจกรรมแผนโปรแกรม และโครงการใดๆ ที่กำลังดำเนินอยู่ภายใต้กรอบความร่วมมือฉบับนี้ ซึ่งได้รับการตัดสินใจร่วมกันในวันที่หรือก่อนวันที่กรอบความร่วมมือ ฉบับนี้สิ้นผลลง เว้นแต่กลุ่มประเทศคู่สัญญาจะตกลงเป็นอย่างอื่น  | 
|
| 
 การทบทวนและการแก้ไข  | 
 - กรอบความร่วมมือฉบับนี้อาจถูกทบทวนโดยกลุ่มประเทศคู่สัญญา เมื่อมีความจำเป็น เพื่อให้รับรองถึงความสัมพันธ์ระหว่างกันและการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ - ประเทศคู่สัญญาอาจร้องขอเป็นลายลักษณ์อักษรให้มีการแก้ไข ส่วนใดส่วนหนึ่งของกรอบความร่วมมือฉบับนี้ โดยการแก้ไขดังกล่าว จะต้องได้รับความเห็นชอบร่วมกันเป็นลายลักษณ์อักษร โดยกลุ่มประเทศคู่สัญญา และจะถือเป็นส่วนหนึ่งของกรอบ ความร่วมมือฉบับนี้ การแก้ไขดังกล่าว จะมีผลใช้บังคับในวันที่ ได้เห็นชอบกันไว้เป็นลายลักษณ์อักษรโดยกลุ่มประเทศสัญญา  | 
|
3. ประโยชน์และผลกระทบ
3.1 ส่งเสริมบทบาทของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์จากการพัฒนาความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาคภายใต้แผนงานการพัฒนา เขตเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนีเซีย - มาเลเซีย - ไทย (IMT - GT) ในการดึงดูดความสนใจ ของภาคเอกชนและนักลงทุนให้เข้ามาดำเนินการหรือลงทุนในพื้นที่ของประเทศไทย
3.2 การเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนของสินค้าและบุคคล ภายในกลุ่มประเทศคู่สัญญาจะเรียบง่ายขึ้น ลดขั้นตอนและความยุ่งยากในการปฏิบัติพิธีการ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3.3 เกิดความเข้มแข็งในการรักษาความมั่นคงและความปลอดภัย ของห่วงโซ่อุปทานในการเคลื่อนย้ายสินค้าและบุคคลในระดับอนุภูมิภาค
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ภูมิธรรม เวชยชัย (รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี) 27 สิงหาคม 2567
8787





















					
					
					
					
					
					
					
					
					
					
					
					















































