ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 27 August 2024 23:33
- Hits: 7803
ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 3,500,000,000.00 บาท ให้แก่กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (กองทุนฯ) สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสรรสวัสดิการให้แก่ผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามโครงการฯ ปี 2565 อย่างต่อเนื่องในปึงบประมาณ พ.ศ. 2567 ต่อไป ตามที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
1. เหตุผลความจำเป็น
กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (กองทุนฯ) มีการจัดสรรสวัสดิการแก่ผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการฯ) ปี 2565 จำนวน 14.98 ล้านคน ตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 เป็นต้นมา ซึ่งมีสวัสดิการประกอบด้วย
1) การจัดประชารัฐสวัสดิการใหม่สำหรับผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามโครงการฯ ปี 2565 ประกอบด้วย (1) วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และร้านอื่นๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน (2) วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด จำนวน 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (3) วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 750 บาทต่อคนต่อเดือน (4) มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า อุดหนุนค่าไฟฟ้าจำนวน 335 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกินวงเงินที่กำหนดผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ (ผู้มีสิทธิฯ) จะเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด และ (5) มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา อุดหนุนค่าน้ำประปา จำนวน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีสิทธิฯ ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท ด้วยตนเอง แต่หากผู้มีสิทธิฯ มีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท ผู้มีสิทธิฯ จะเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาทั้งหมด ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566
2) การเพิ่มสวัสดิการเบี้ยความพิการ จากจำนวน 800 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นจำนวน 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน ในเบื้องต้นเฉพาะคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โดยให้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป ตามติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2563
2. ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 กองทุนฯ มียอดเงินคงเหลือ 3,264,688,361.19 บาท โดยในปึงประมาณ พ.ศ. 2567 กองทุนฯ ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 50,015,273,900 บาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อจัดสรรสวัสดิการแห่งรัฐให้แก่ผู้มีสิทธิฯ จำนวน 49,908,225,100 บาท
3. ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา การใช้จ่ายงบประมาณของกองทุนฯ สำหรับการจัดสรรสวัสดิการตามนัยข้อ 1 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (1 ตุลาคม 2566 - 31 กรกฎาคม 2567) เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 46,681,222,340.42 บาท ทั้งนี้ ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2567 บัญชี “กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม 1” สำหรับใช้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดประชารัฐสวัสดิการที่เป็นความช่วยเหลือในการดำรงชีพแก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยตามโครงการฯ ปี 2565 มีสถานะคงเหลือ 6,355,940,753.48 บาท (ข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง) โดยมีประมาณการค่าใช้จ่ายในช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน 2567 เดือนละ 4,925,000,000 บาท จึงมีความจำเป็นต้องขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 3,500,000,000.00 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อจัดสรรสวัสดิการแห่งรัฐให้แก่ผู้มีสิทธิฯ ต่อไป
4. คณะกรรมการฯ ได้มีมติในคราวการประชุม ครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 เห็นชอบประมาณการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 3,500,000,000.00 บาท สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสรรสวัสดิการแก่ผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามโครงการฯ ปี 2565 ตามเหตุผลความจำเป็นข้างต้น ซึ่งเป็นการให้ความช่วยเหลือในการบรรเทาภาระค่าครองชีพแก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยตามโครงการฯ ปี 2565 อย่างต่อเนื่องในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
5. ประโยชน์และผลกระทบ เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพและค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้แก่ผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามโครงการฯ ปี 2565 รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการซึ่งเป็นผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามโครงการฯ ปี 2565 อย่างต่อเนื่องในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 รวมถึงเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 และ 28 กุมภาพันธ์ 2566
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ภูมิธรรม เวชยชัย (รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี) 27 สิงหาคม 2567
8790