ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 3,017.39 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและภัยพิบัติ (จำนวน 39 จังหวัด) ของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 03 September 2024 23:26
- Hits: 7468
ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 3,017.39 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและภัยพิบัติ (จำนวน 39 จังหวัด) ของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 3,017.39 ล้านบาท ประกอบด้วย กรมทางหลวง จำนวน 1,849.55 ล้านบาท และกรมทางหลวงชนขบทจำนวน 1,167.84 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทภัยและภัยพิบัติ (จำนวน 39 จังหวัด) ตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ
สาระสำคัญ
กระทรวงคมนาคมได้รับรายงานจากกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นวงเงิน 3,017.39 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและภัยพิบัติ (จำนวน 39 จังหวัด) สรุปได้ ดังนี้
1. ตามที่ได้เกิดอุทกภัยและภัยพิบัติจากอิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่านทั่วประเทศไทย ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2566 - มกราคม 2567 ทำให้ทางหลวงแผ่นดินและทางหลวงชนบทได้รับความเสียหายสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนผู้ใช้เส้นทาง ส่งผลกระทบต่อการคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์ ซึ่งกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย และซ่อมแซมเส้นทางเพื่อให้การจราจรผ่านได้ในระยะเร่งด่วนแล้ว
2. กรมทางหลวง เสนอขอรับการจัดสรรบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 207 รายการ วงเงิน 3,813.75 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและภัยพิบัติ จำนวน 26 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 7 จังหวัด (เชียงราย เขียงใหม่ น่าน พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แม่ฮ่องสองสอน สุโขทัย) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 จังหวัด (ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครรราชสีมา มหาสารคาม มุกดาหาร สกลนคร สุรินทร์ อุดรธานี อุบลราชธานี) ภาคตะวันตก 1 จังหวัด (ตาก) ภาคตะวันออก 1 จังหวัด (ปราจีนบุรี) และภาคใต้ 7 จังหวัด (นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ยะลา สงขลา สตูล สุราษฎร์ธานี) โดยมีความเสียหายที่จะต้องใช้งบประมาณในการบูรณะ/ซ่อมแซ่มให้กลับคืบคืนสู่สภาพเดิมและปรับปรุงระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. กรมทางหลวงชนบท เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 101 รายการ วงเงิน 1,667.25 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและภัยพิบัติ จำนวน 30 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 10 จังหวัด (ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน แพร่ น่าน) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัด (ชัยภูมิ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด เลย ยโสธร อุดรธานี หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ นครพนม) ภาคกลาง 7 จังหวัด (ระยอง จันทบุรี สุโขทัย กำแพงเพชร อุทัยธานี ปราจีนบุรี กาญจนบุรี) และภาคใต้ 4 จังหวัด (ระนอง นราธิวาส ยะลา ปัตตานี) โดยมีความเสียหายที่จะต้องใช้งประมาณในการบูรณะ/ซ่อมแซ่มให้กลับคืนสู่สภาพเดิม และปรับปรุงระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. กระทรวงคมนาคมได้มีหนังสือเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 308 รายการ วงเงิน 5,481.00 ล้านบาท (กรมทางหลวง จำนวน 207 รายการ วงเงิน 3,813.75 ล้านบาท และกรมทางหลวงชนบท จำนวน 101 รายการ วงเงิน 1,667.25 ล้านบาท) เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและภัยพิบัติ (จำนวน 41 จังหวัด) ให้สำนักงบประมาณพิจารณาดำเนินการต่อไป
5. สำนักงบประมาณได้แจ้งผลการพิจารณาเรื่องตามข้อ 4 โดยสำนักงบประมาณได้นำเรื่องกราบเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นชอบให้กระทรวงคมนาคมใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในวงเงินทั้งสิ้น 3,017.39 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและภัยพิบัติในพื้นที่ 39 จังหวัด ประกอบด้วย กรมทางหลวง จำนวน 137 รายการ วงเงิน 1,849.55 ล้านบาท และ กรมทางหลวงชนบท จำนวน 80 รายการ วงเงิน 1,167.84 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายในงบลงทุน ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ทั้งนี้ เนื่องจากวงเงินที่เห็นควรอนุมัติเกินกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท ขอให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการนำเรื่องดังกล่าวเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี โดยเสนอผ่านรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล หรือผู้ที่คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้กำกับแผนงานบูรณาการกรณีเป็นการดำเนินการภายใต้แผนงานบูรณาการ แล้วแต่กรณี ตามนัยระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2562 ข้อ 9 (3) และเมื่อได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ขอให้กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนจ่ายงบประมาณพร้อมทั้งแบบรูปรายการและประมาณการก่อสร้างเพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
6. กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ขอเสนอขอรับรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 217 รายการ วงเงิน 3,017.39 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและภัยพิบัติ จำนวน 39 จังหวัด ซึ่งได้จัดทำรายละเอียดข้อมูลที่หน่วยงานของรัฐต้องเสนอพร้อมกับกับการขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินและการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทแล้ว
ประโยชน์และผลกระทบ
เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและภัยพิบัติให้กลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็ว ทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการเส้นทางคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ ได้รับความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทาง
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ภูมิธรรม เวชยชัย (รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี) 3 กันยายน 2567
9098