ขออนุมัติขยายระยะเวลาดําเนินโครงการชลประทานขนาดใหญ่ จํานวน 2 โครงการ [โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ (ระยะที่ 1) และโครงการอ่างเก็บน้ำ ลําสะพุงอันเนื่องมาจากพระราชดําริ จังหวัดชัยภูมิ]
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 09 October 2024 12:11
- Hits: 1760
ขออนุมัติขยายระยะเวลาดําเนินโครงการชลประทานขนาดใหญ่ จํานวน 2 โครงการ [โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ (ระยะที่ 1) และโครงการอ่างเก็บน้ำ ลําสะพุงอันเนื่องมาจากพระราชดําริ จังหวัดชัยภูมิ]
คณะรัฐมนตรีอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการชลประทานขนาดใหญ่ จำนวน 2 โครงการ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ ดังนี้
โครงการ |
เดิม |
เป็น |
โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ (ระยะที่ 1) (โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองชัยภูมิฯ) |
6 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 – 2567) |
9 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 – 2570) |
ภายใต้กรอบวงเงินโครงการที่ได้รับอนุมัติไว้เดิม จำนวน 3,440 ล้านบาท |
||
โครงการอ่างเก็บน้ำลำสะพุงอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดชัยภูมิ (โครงการอ่างเก็บน้ำลำสะพุงฯ) |
6 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 – 2567) |
8 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 – 2569) |
ภายใต้กรอบวงเงินโคงการที่ได้รับอนุมัติไว้เดิม จำนวน 3,100 ล้านบาท |
สาระสำคัญ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นําเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติขยายระยะเวลาดําเนินโครงการชลประทานขนาดใหญ่ จํานวน 2 โครงการ ได้แก่ (1) โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ (ระยะที่ 1) จากเดิม 6 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 - 2567) เป็น 9 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 - 2570) ภายใต้กรอบวงเงินโครงการที่ได้รับอนุมัติไว้เดิม จํานวน 3,440 ล้านบาท และ (2) โครงการอ่างเก็บน้ำลําสะพุงอันเนื่องมาจากพระราชดําริ จังหวัดชัยภูมิ จากเดิม 6 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 - 2567) เป็น 8 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 - 2569) ภายใต้กรอบวงเงินโครงการที่ได้รับอนุมัติไว้เดิม จํานวน 3,100 ล้านบาท (ขอขยายระยะเวลาดําเนินโครงการเป็นครั้งแรกทั้ง 2 โครงการ) เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (Covid - 19) ซึ่งรัฐบาลได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อจํากัดการเคลื่อนย้ายการเดินทางของบุคคลและสกัดกั้นการระบาดให้อยู่ในวงจํากัด ส่งผลให้ผู้รับจ้างประสบปัญหาขาดแคลนวัสดุก่อสร้าง เครื่องจักร – เครื่องมือไม่เพียงพอ และไม่สามารถเคลื่อนย้ายแรงงานเข้าสถานที่ก่อสร้างได้
กระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย สํานักงบประมาณ สํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสํานักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ พิจารณาแล้วเห็นสมควรที่คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยมีความเห็นเพิ่มเติมว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทานควรมีแผนการติดตามตรวจสอบและเร่งรัดการดําเนินโครงการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการโดยเร็วตามแผนปฏิบัติการที่กําหนดและระยะเวลาที่ขอขยายไว้โดยคํานึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการ การใช้จ่ายงบประมาณอย่างโปร่งใสและเกิดประสิทธิภาพ รวมทั้งประโยชน์และความคุ้มค่าที่ประชาชนจะได้รับเป็นสําคัญ นอกจากนี้ สํานักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติยังเห็นควรให้เสนอโครงการดังกล่าวต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติรับทราบก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี เนื่องจากทั้ง 2 โครงการดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงระยะเวลาดําเนินการที่ต่างจากที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติได้เคยมีมติ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เสนอเรื่องดังกล่าวต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติในคราวประชุมครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 โดยที่ประชุมได้มีมติรับทราบการขอขยายระยะเวลาของทั้ง 2 โครงการดังกล่าวแล้ว
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) 8 ตุลาคม 2567
10274