แถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน + 3 ครั้งที่ 27
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 30 October 2024 00:39
- Hits: 1458
แถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน + 3 ครั้งที่ 27
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการต่อแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน + 3 (Joint Statement of the 27th ASEAN + 3 Finance Ministers’ and Central Bank Governors’ Meeting) (การประชุม AFMGM + 3) ครั้งที่ 27 (แถลงการณ์ร่วมฯ) ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ทั้งนี้ หากคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว กค. จะได้ส่งหนังสือถึงประธานร่วม ในการประชุม AFMGM + 3 ครั้งที่ 27 เพื่อแจ้งรับรองแถลงการณ์ร่วมฯ ต่อไป
สาระสําคัญของเรื่อง
แถลงการณ์ร่วมฯ เป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน + 3 ในการเสริมสร้างความร่วมมือทางการเงิน ผ่านโครงสร้างความช่วยเหลือทางการเงินของภูมิภาค
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเงินสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) ในฐานะประธานร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และเศรษฐกิจสาธารณรัฐเกาหลีในการประชุม AFMGM + 3 ครั้งที่ 27 ได้มีหนังสือเชิญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศไทยเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวในวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 ณ เมืองทบิลิซี ประเทศจอร์เจีย โดยที่ประชุมได้พิจารณาให้การรับรองแถลงการณ์ร่วมฯ เพื่อเป็นเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมด้วยแล้ว โดยมีสาระสําคัญ เช่น
1) การพัฒนาและแนวโน้มเศรษฐกิจและการเงินของภูมิภาค
(1) เศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน + 3 ในปี 2566 เติบโตขึ้น ร้อยละ 4.3 (ในปี 2565 เติบโตขึ้นร้อยละ 3.2) โดยได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ในประเทศ และเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งในปี 2567 คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 4.5 ก่อนที่จะชะลอตัวลง เป็นร้อยละ 4.2 ในปี 2568
(2) ในส่วนของแนวโน้มระยะสั้นสําหรับอาเซียน + 3 อาจได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงต่างๆ เช่น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์โลกที่สูงขึ้น และการชะลอตัว ของการเติบโตของคู่ค้ารายใหญ่
(3) นโยบายการเงินของอาเซียน + 3 ควรคงความเข้มงวดไว้โดยคํานึงถึงความเสี่ยงด้านบวกของอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงมีอยู่ รวมถึงการปฏิรูปโครงสร้างการลงทุนด้านการเพิ่มผลผลิตและความยืดหยุ่นจะมีความสําคัญในการปลดล็อกศักยภาพการเติบโตและตอบสนองต่อความท้าทายเชิงโครงสร้างที่รออยู่ข้างหน้า
2) การเสริมสร้างความร่วมมือทางการเงินของภูมิภาค อาทิ (1) ทิศทางการดําเนินการในอนาคตของโครงสร้างความช่วยเหลือทางการเงินของภูมิภาค (2) มาตรการ CMIM* (3) สํานักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน + 3 พัฒนากลยุทธ์ความช่วยเหลือทางวิชาการและกลยุทธ์การสื่อสาร เพื่อให้การดำเนินงานและการจัดการเชิงสถาบันสอดคล้องกับการดำเนินการตามทิศทางเชิงยุทธศาสตร์เพื่อมุ่งสู่ปี 2573 ได้ดียิ่งขึ้น (4) มาตรการริเริ่มพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย (5) การจัดหาเงินทุนเพื่อรองรับความเสี่ยงจากภัยพิบัติ
3) ข้อริเริ่มภายใต้กรอบความร่วมมือทางการเงินอาเซียน +3 อาทิ เสริมสร้างและขยายความร่วมมือทางการเงินของอาเซียน+3 รวมถึงความก้าวหน้าของการดำเนินการโดยคณะทำงาน เช่น รายงานร่วมระหว่างประธานธนาคารพัฒนาเอเชียและอาเซียน +3 เรื่องการฟื้นฟูวิธีการทางการเงินสำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนและทนทานในอาเซียน + 3 และการจัดคลินิกการเงินนวัตกรรมของอาเซียนเพื่อสิ่งแวดล้อมในหัวข้อ อาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและทนทานในอาเซียน รวมถึงกรอบการกำกับดูแลเทคโนโลยีทางด้านการเงิน [Financial Technology (Fintech)] ระดับภูมิภาค เพื่อเสริมสร้างการรวมการเงินผ่านการกระจายเทคโนโลยีทางด้านการเงินในภูมิภาค
–––––––––––––––––––––––––
* มาตรการ CMIM เป็นความร่วมมือของประเทศสมาชิกอาเซียน +3 ในการพัฒนากลไกความร่วมมือทางการเงินของภูมิภาคเพื่อช่วยเหลือประเทศสมาชิกในการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากปัญหาดุลการชำระเงินและการขาดสภาพคล่องของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศในระยะสั้น และเป็นส่วนเสริมความช่วยเหลือทางการเงินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund (IMF)
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) 29 ตุลาคม 2567
10765