การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 29 (COP 29) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงบากู สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 05 November 2024 23:53
- Hits: 1442
การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 29 (COP 29) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงบากู สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน
คณะรัฐมนตรีรับทราบองค์ประกอบคณะผู้แทนของประเทศไทยในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 29 (COP 29) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงบากู สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน และเห็นชอบต่อกรอบท่าทีเจรจาของไทยในการประชุมกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประจําปี พ.ศ. 2567-2568 ทั้งนี้ หากมีความจําเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขกรอบท่าทีเจรจาฯ ที่ไม่ใช่สาระสําคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดําเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ
สาระสําคัญ
1. ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันต่อกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พิธีสารเกียวโต และความตกลงปารีส เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2537 วันที่ 28 สิงหาคม 2545 และวันที่ 21 กันยายน 2559 ตามลําดับ และได้ดําเนินการตามพันธกรณีของกรอบอนุสัญญาฯ พิธีสารเกียวโต และความตกลงปารีส รวมถึงการเข้าร่วมการประชุมในฐานะรัฐภาคีมาโดยตลอด โดยมีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทําหน้าที่เป็นหน่วยประสานงานกลางของประเทศภายใต้กรอบ อนุสัญญาฯ
2. สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาฯ สมัยที่ 29 (COP 29) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการประชุมประจําปีของรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาฯ พิธีสารเกียวโต และความตกลงปารีส เพื่อหารือรายละเอียดความร่วมมือและกําหนดทิศทางการดําเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประชาคมโลก โดยสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน ในฐานะประเทศเจ้าภาพและประธานการประชุม COP 29 กําหนดวิสัยทัศน์ในการยกระดับความมุ่งมั่น และสนับสนุนการดําเนินงาน (Enhance Ambition, Enable Action) เพื่อเป็น 2 เสาหลักในการดําเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเสาหลักที่ 1 การยกระดับความมุ่งมั่น ครอบคลุมการจัดทํานโยบายและแผนงานที่ชัดเจนในการควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส การจัดทําเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกําหนด (Nationality Determined Contribution : NDC) การจัดทําแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (National Adaptation Plan : NAP) การจัดทํารายงานความโปร่งใสรายสองปี (Biennial Transparency Report : BTR) ที่แสดงถึงความทะเยอทะยาน และมีประสิทธิภาพและเสาหลักที่ 2 การสนับสนุนการดําเนินงานครอบคลุมกลไกการสนับสนุน (Means of Implementation) อาทิ การเงิน เทคโนโลยี และการเสริมสร้างศักยภาพ นอกจากนี้ สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานกําหนดเป้าหมายสําคัญที่ต้องการผลักดันในการประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วย การจัดทําเป้าหมายทางการเงินใหม่ (New Collective Quantified Goal on Climate Finance : NCQG) การยกระดับการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านการจัดทําเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกําหนดฉบับที่ 2 (NDC 3.0) ซึ่งมีกําหนดจัดส่งในปี ค.ศ. 2025 การจัดทําตัวชี้วัดภายใต้เป้าหมายการปรับตัวระดับโลก การดําเนินงานของกองทุนเพื่อความสูญเสียและความเสียหาย
3. องค์ประกอบคณะผู้แทนของประเทศไทยในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาฯ สมัยที่ 29 (COP 29) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 9-22 พฤศจิกายน 2567 ณ กรุงบากู สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
4. กรอบท่าทีเจรจาของไทยในการประชุมกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประจําปี พ.ศ. 2567- 2568 เป็นไปตามหลักการของกรอบอนุสัญญาฯ และความตกลงปารีส สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ นโยบายและแผนของประเทศด้านการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ และไม่ขัดกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อรัฐสภา
ประโยชน์และผลกระทบ
การเข้าร่วมการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 29 (COP 29) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงบากู สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน เป็นโอกาสที่ประเทศไทยจะได้แสดงบทบาทและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศในการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับนานาประเทศในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกและให้เกิดการขับเคลื่อนการดําเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลาง ทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2065
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) 5 พฤศจิกายน 2567
11127